เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 47 48 [49] 50 51 ... 60
  พิมพ์  
อ่าน: 141885 พระองค์เจ้าปฤษฎางค์-ชีวิตลับที่ทรงเผยไม่ตลอด
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 720  เมื่อ 21 ส.ค. 15, 09:30

พระองค์เจ้าปฤษฎางค์ท่านไม่เคยคิดว่าท่านประสบเคราะห์กรรมเพราะเหตุที่ถวายหนังสือความเห็นครั้งที่เป็นทูตในยุโรปอยู่นั้น แต่เป็นเพราะ home politic: family affair. สิ่งที่ท่านบ่นนั้น ผมยังถอดระหัสไม่ถูกว่าท่านกล่าวถึงใครบ้าง ขณะนั้นเป็นรัชกาลที่ ๖ แล้ว สถานะการณ์ของท่านยังไม่ดีขึ้น


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 721  เมื่อ 21 ส.ค. 15, 09:32

.


บันทึกการเข้า
สาคร
อสุรผัด
*
ตอบ: 18


ความคิดเห็นที่ 722  เมื่อ 21 ส.ค. 15, 13:22

พระองค์ท่านว่า ท่านอยู่วางงานมา 12 ปี โดยไม่ได้ทำงานฉลองพระเดชพระคุณชาติ แต่แล้วสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทววงศ์ฯ
ที่ทรงเคยยึดถือใน motto หรือสโลแกนที่ว่าเป็นภาษาบาลีว่า "อปมาโทโหติ" ผมเดาว่าน่าจะมาจากคำว่า อ + ประมาท คือไม่ประมาท หรือกันไว้ก่อน
หรือกันเหนียว ฯลฯ คือไม่ยอมเสี่ยงนั่นเอง ต้องเปลี่ยนพระทัยรับพระองค์เจ้าปฤษฎางค์เข้าทำงานในกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งๆที่ถูกประนามว่า
เป็น dangerous character อาจจะเพราะเคยตกปากรับคำไว้ว่าจะทรงอุปการะหลังกลับกรุงเทพ แล้วไม่กลับไปลังกา

แต่ก็ "สายเสียจนเกินแล้ว" เพราะพระองค์ท่านคงไม่สามารถกระทำกิจการอันใดมากไปกว่า "ขีดๆ เขียนๆ อยู่พอได้รับเงินเดือน เช่นคนบ้า ใบ้ บอด หนวก"
ท่านว่าท่านบอกเลยไป ยั้งไว้ไม่ทัน (ไม่เห็นลบทิ้ง) ว่าจะเล่าในเล่ม 2 แล้วเชียว มือไวไปหน่อยเลยได้เห็นโพรงกระรอกอยู่ลิบๆ ครับ

สกัดออกมาได้ประมาณนี้ครับ แต่ยังมีระหว่างบรรทัดอีกมากหลาย ขออย่าเพิ่งสิ้นโฮปไปก่อน ก็คงพอจะถอดรหัสได้ครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 723  เมื่อ 21 ส.ค. 15, 14:33

เห็นด้วยกับคุณสาครค่ะ   ขอบคุณที่เป็น "ลีเดอร์" ชักใบไปในทางที่ดิฉันเองก็ถอดความออกมาเช่นนั้น

ส่วนข้อความต้นๆ  home politic: family affair  ดิฉันตีความว่าท่านหมายถึงเรื่องภายในพระราชวงศ์  ตั้งแต่กลางรัชกาลที่ ๕ จนถึงต้นรัชกาลที่ ๖   ซึ่งท่านไม่รู้เพราะไปรับราชการอยู่ต่างประเทศ

จะว่าไปสมเด็จกรมพระยาเทวะวงศ์ฯ ท่านก็ทรงพระเมตตากับพระอนุวงศ์องค์นี้มากทีเดียว   ๑๒ ปีที่พระองค์เจ้าปฤษฎางค์ว่างเว้นไปจากราชการ  ย่อมจะทำให้ท่านเดินไม่ทันโปลิสีในโปลิติคัลเอแฟร์ใหม่ๆอยู่มาก     จะตั้งให้รับตำแหน่งใหญ่ข้ามลูกหม้อในกระทรวงไปก็กระไรอยู่     สมเด็จฯท่านก็คงจะประทานงานที่เหมาะกับความรู้ให้ คืองานด้านเอกสาร   มีเงินเดือนพอเลี้ยงชีพ  และเป็นประเภทงานที่ไม่กีดหน้าขวางตาใคร

แต่พระองค์เจ้าปฤษฎางค์ก็ทรงไม่วายมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน  ว่าทำตัวไม่เป็นมิตรกับท่าน หรือกล่าวร้ายท่านต่างๆ  หาว่าท่านยังโง้นยังงี้ว่าท่านเป็นตัวอันตรายอะไรไปโน่น

ดิฉันอยากจะเชื่อว่าเป็นพระอารมณ์มองโลกในแง่ร้ายของท่านมากกว่า  ความปราดเปรื่องทำให้ท่านไม่ลงให้เพื่อนร่วมงาน ที่มีตำแหน่งสูงกว่า  อาจจะแย้งกันเรื่องความรู้ ที่ท่านแน่พระทัยว่าท่านฉลาดปราดเปรื่องกว่าแน่นอน     
จนในที่สุด   ท่านคงจะเข้ากับคนอื่นๆเขาไม่ได้ ใครๆพากันหลีกเลี่ยง เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งกันมากกว่านี้    ท่านจึงคิดว่าเขาทำเพราะเห็นว่าท่านมีเดนยอรัส แกแรคเตอร์ (dangerous character)
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 724  เมื่อ 21 ส.ค. 15, 18:28

ผมยังทำความเข้าใจไม่ได้ว่า ในเมื่อท่านคิดว่าท่านเป็นคนไร้ฐานะ ไม่มีสิทธิ์มีเสียงที่จะพูด แล้วทำไมคนจึงเห็นว่าท่านเป็น ไอ้ตัวการ เจ้าปัญญาความคิด จะตัดลิมิตเกลม(limit claim) และโอกาสของผู้อื่นเสียหมด

limit claim นี้คืออะไร ผู้ใดจะอธิบายได้ไหมครับ


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 725  เมื่อ 21 ส.ค. 15, 18:36

สมเด็จผู้ล่วงลับไปเสียแล้ว ท่านหมายถึงพระองค์ใด ที่ไม่ยอมให้พวกองครักษ์จูงจมูก

แล้วเรื่องการเมืองในประเทศ และสัมพันธ์ภาพภายในครอบครัว(พระราชวงศ์) ใครดึงเอาท่านเข้าไปเกี่ยวข้องตรงไหน เพื่อขัดขวางความเจริญของท่านนั้นหรือ


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 726  เมื่อ 21 ส.ค. 15, 18:43

ท่านชอบว่าศัตรูของท่านว่าเป็นสตรีเจ้ามารยา ชอบอวดฉลาด ท่านหมายถึงใคร เจ้าพระยาสุรศักดิ์ที่ท่านกล่าวหาไว้ต่างๆนั้น ท่านก็ยอมไปพึ่งบารมีเสียแล้ว จะยังมีใครอีก


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 727  เมื่อ 21 ส.ค. 15, 18:56

ถ้า ริ โมสเนสส์ ท่านหมายถึง remoteness ก็แปลว่า ท่านบ่นกรมพระยาเทววงศ์ว่าทรงกระทำตัวห่างเหิน เมื่อท่านกลับมาจากลังกา ได้บอกว่าจะช่วย แต่กลับห่างเหินไม่ช่วยจริงๆจังๆในช่วงยามยากของท่าน มาตัดสินใจช่วยรับเข้าทำงานให้แปลหนังสือในกระทรวงต่างประเทศ ก็เป็นยามที่ใกล้ตะวันตกดินในชีวิตของท่านแล้ว งานก็เพียงทำไปวันๆแบบพอเลี้ยงชีพ ไม่ค่อยเป็นประโยชน์สักเท่าใด

ฟังดูท่านไม่สู้จะพอพระทัยนะครับ มิได้ซาบซึ้งอะไร


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 728  เมื่อ 21 ส.ค. 15, 18:57

ผมยังทำความเข้าใจไม่ได้ว่า ในเมื่อท่านคิดว่าท่านเป็นคนไร้ฐานะ ไม่มีสิทธิ์มีเสียงที่จะพูด แล้วทำไมคนจึงเห็นว่าท่านเป็น ไอ้ตัวการ เจ้าปัญญาความคิด จะตัดลิมิตเกลม(limit claim) และโอกาสของผู้อื่นเสียหมด

limit claim นี้คืออะไร ผู้ใดจะอธิบายได้ไหมครับ

คนที่เป็น delusional disorder  ก็ย่อมจะมีตรรกะที่ไม่เป็นไปตามตรรกะฉะนี้แก    
ท่านมุ่งจะระบายความคับข้องใจว่า คนอื่นๆกล่าวหาว่าท่านเป็นตัวการเจ้าปัญญา (น่าจะคล้ายๆกับคำว่า "หัวหมอ" ในยุคนี้)  ท่านเองก็เป็นคนไม่มีปากมีเสียง เพราะไม่อยู่ในฐานะที่จะเถียงได้  ก็จำยอมต้องทนให้เขาว่า
แต่ท่านไม่ได้คิดย้อนไปอีกทางว่า ในเมื่อท่านเองเป็นคนที่ไม่มีพาวเวอร์อะไรสักอย่างแม้แต่จะเถียง  ทำไมคนอื่นๆถึงคิดว่าท่านทำได้มากมาย  ถึงกับตัดสิทธิ์ตัดโอกาสของเขา

limit claim แปลว่าอะไรก็ไม่ทราบเหมือนกัน   ถ้าเป็น limited claim  ก็คือการเรียกร้องสิทธิ์ภายในขอบเขตจำกัดเท่าที่ทำได้  เช่นเจ้าของบ้านเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้เช่าบ้านได้ไม่เกินจำนวนเงินที่ตกลงกันไว้ในสัญญา
เดี๋ยวตามดร.จากอังกฤษมาตอบ  น่าจะได้คำตอบกว้างกว่านี้  เห็นบ่นใน FB ว่าในชั้นเรียนของท่านเหลือนศ.เรียนอยู่คนเดียว    คงพอจะแวบมาได้ค่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 729  เมื่อ 21 ส.ค. 15, 19:16

ถ้า ริ โมสเนสส์ ท่านหมายถึง remoteness ก็แปลว่า ท่านบ่นกรมพระยาเทววงศ์ว่าทรงกระทำตัวห่างเหิน เมื่อท่านกลับมาจากลังกา ได้บอกว่าจะช่วย แต่กลับห่างเหินไม่ช่วยจริงๆจังๆในช่วงยามยากของท่าน มาตัดสินใจช่วยรับเข้าทำงานให้แปลหนังสือในกระทรวงต่างประเทศ ก็เป็นยามที่ใกล้ตะวันตกดินในชีวิตของท่านแล้ว งานก็เพียงทำไปวันๆแบบพอเลี้ยงชีพ ไม่ค่อยเป็นประโยชน์สักเท่าใด

ฟังดูท่านไม่สู้จะพอพระทัยนะครับ มิได้ซาบซึ้งอะไร

คำนี้ ทำเอาเตลิดเปิดเปิงเข้าป่าไปไกล เกือบจะทันคุณตั้งที่ห้วยขาแข้งเสียแล้ว

1  คำนี้ อาจมาจาก remoteness อย่างคุณนวรัตนว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นก็หมายความอย่างคุณนวรัตนตีความมาข้างบนนี้

2  มีอีกคำหนึ่งคือ remorse   แต่ความจำท่านอาจเลือนลงไปบ้าง  เลยเติม ness เข้าไปแทนที่จะใช้ remorse ซึ่งเป็นคำนามครบถ้วนในตัว  ไม่ใช่คำกริยา  จึงไม่ต้องเติม ness ไว้ข้างท้าย

คำว่า remorse หมายถึงเสียดายว่าไม่น่าทำผิด   หรือสำนึกผิดในสิ่งที่ทำลงไป  ถ้าพระองค์เจ้าปฤษฎางค์ทรงใช้คำนี้  ก็ตีความได้ว่า สมเด็จกรมพระยาเทวะวงศ์ฯ ท่านทรงรู้สึกผิดที่เคยสัญญาไว้ว่าจะอุปการะพระองค์เจ้าปฤษฎางค์ แต่มิได้ทรงกระทำ  ทั้งๆสมเด็จทรงไปปฏิญาณไว้ต่อหน้าพระแก้วมรกตว่าจะเกื้อหนุนกันอย่างพี่น้องมิตรสนิท     ความรู้สึกผิดนี่แหละทำให้พระองค์ท่านหวนกลับมารับพระองค์เจ้าปฤษฎางค์เข้าทำงานที่กระทรวงต่างประเทศ  ทั้งๆมีคลื่นลม คือเสียงคัดค้านอยู่ไม่น้อย

แต่จะเป็น remoteness หรือ remorse  ดิฉันก็เห็นด้วยกับคุณนวรัตน ว่าน้ำเสียงพระองค์เจ้าปฤษฎางค์ไม่ค่อยจะซาบซึ้งกับการที่สมเด็จกรมพระยาฯ ท่านทรงรับเข้าทำงานในกระทรวงการต่างประเทศ
ถ้าคำนี้ พระองค์เจ้าปฤษฎางค์หมายถึง remorse 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 730  เมื่อ 21 ส.ค. 15, 19:20

ท่านชอบว่าศัตรูของท่านว่าเป็นสตรีเจ้ามารยา ชอบอวดฉลาด ท่านหมายถึงใคร เจ้าพระยาสุรศักดิ์ที่ท่านกล่าวหาไว้ต่างๆนั้น ท่านก็ยอมไปพึ่งบารมีเสียแล้ว จะยังมีใครอีก

คำนี้พยายามตีความใหม่ว่า ศัตรูของท่านเป็นชาย แต่เป็นคนโง่และเสแสร้งแกล้งทำเหมือนสตรีเจ้ามารยา    เป็นคนที่เชื่อว่าตัวเองรู้อะไรทุกอย่าง(สัพพัญญู)   
ถ้าเป็นคนในกระทรวงการต่างประเทศก็ต้องเป็นผู้อยู่ในตำแหน่งสูง  ฉลาดปราดเปรื่องไม่แพ้นักเรียนอังกฤษอย่างท่าน    ถ้าเป็นคนนอกกระทรวง ก็น่าคิดว่าเป็นนักปราชญ์หรือผู้รู้คนดังคนหนึ่งในสมัยรัชกาลที่ ๖
บันทึกการเข้า
ศรีสรรเพชญ์
พาลี
****
ตอบ: 205



ความคิดเห็นที่ 731  เมื่อ 21 ส.ค. 15, 20:23

ยังคงติดตามอย่างต่อเนื่องครับ ยิ่งอ่านก็ยิ่งเห็นภาพของพระองค์ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 732  เมื่อ 21 ส.ค. 15, 21:28

สมเด็จผู้ล่วงลับไปเสียแล้ว ท่านหมายถึงพระองค์ใด ที่ไม่ยอมให้พวกองครักษ์จูงจมูก

แล้วเรื่องการเมืองในประเทศ และสัมพันธ์ภาพภายในครอบครัว(พระราชวงศ์) ใครดึงเอาท่านเข้าไปเกี่ยวข้องตรงไหน เพื่อขัดขวางความเจริญของท่านนั้นหรือ
การตีความทำได้ยากมาก  เพราะสำนวนภาษาของท่านกำกวม ตีความได้หลายแบบ   แม้แต่อ่านของคุณนวรัตนซึ่งตีความออกมาได้ชัดเจนเป็นเรื่องเป็นราว   ก็ไม่วายมองเห็นว่า มันมีทางตีความได้มากกว่า ๑ แบบอยู่นั่นเอง
อย่างข้างล่างนี้



อาจเป็นว่า
๑  สมเด็จผู้ล่วงลับ คือผู้ที่ไม่ยอมให้องครักษ์จูงจมูก
๒  สมเด็จผู้ล่วงลับ คือผู้ที่จูงจมูก(ตัว)จริง

ในที่นี้  สยามเทวราชเข้ามามีบทบาทด้วย   หมายถึงใครก็ยังต้องเดากันอีกหลายยก     โดยตัวศัพท์ หมายถึงพระสยามเทวาธิราช  แต่ชื่อในที่นี้น่าจะถูกเอ่ยในฐานะสัญลักษณ์ มากกว่าพูดถึงเทพจริงๆ     
ในสยามผู้ที่จะถูกยกย่องอย่างเทพเจ้าแห่งสยามก็มีได้พระองค์เดียว คือพระเจ้าแผ่นดิน    แต่ในที่นี้จะหมายถึงรัชกาลที่ ๕ หรือรัชกาลที่ ๖ ก็ยังไม่อาจสรุปได้อยู่ดี

สมเด็จที่ได้ล่วงลับไปเสียแล้ว  ตีความยากหนักเข้าไปอีก   เพราะสมเด็จอาจหมายถึงเจ้านายชั้นเจ้าฟ้า หรือพระองค์เจ้าทรงกรมชั้นสมเด็จ  ในสยามก็มีอยู่ไม่กี่พระองค์
ถ้าเป็นสามัญชน ก็มีแต่สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์

ที่คิดไปถึงสมเด็จเจ้าพระยา เพราะพระองค์เจ้าปฤษฎางค์ใช้คำว่า "ล่วงลับ" แทนคำว่า "สิ้นพระชนม์"   สมเด็จเจ้าพระยาท่านเป็นพวกบุนนาค จะเกี่ยวกับเรื่องคุณหญิงศรีที่เคยเป็นเหตุใหญ่โตในชีวิตท่านหรือไม่?
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 733  เมื่อ 22 ส.ค. 15, 07:22

เพื่อจำกัดขอบเขตของการตีความ ขอเอาท่อนต่อไปจากบทความตอนนี้ของท่านมาลงไว้เลย สมเด็จที่เรากำลังควานหาพระองค์ อาจจะเป็นสมเด็จกรมพระยาเทววงศ์เองก็ได้กระมัง

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ สิ้นพระชนม์ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๖
พระองค์เจ้าปฤษฎางค์เข้ารับราชการในกระทรวงต่างประเทศครั้งนั้น ในวันที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๖ ก่อนหน้าเพียงไม่ถึงเดือน

ความจริงแล้วก็น่าเห็นใจท่านมาก เพราะไม่นานต่อมาก็ตกงานอีก


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 734  เมื่อ 22 ส.ค. 15, 07:50

ดูเอาเถิดครับ การกลับเข้ารับราชการของท่าน ถึงแม้จะมิใช่ตำแหน่งหน้าที่สำคัญแต่ก็คงไม่ใช่ลูกจ้างรายเดือนที่จะเอาออกเสียเมื่อไหร่ก็ทำได้ง่ายๆ เจ้านายหลายพระองค์ก็ทรงช่วยดูแลอยู่ และพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าด้วยแล้ว ท่านยังอยู่กับเขาไม่ได้ หนักใจแทนญาติมิตรของท่านจริงๆ


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 47 48 [49] 50 51 ... 60
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.07 วินาที กับ 20 คำสั่ง