เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 44 45 [46] 47 48 ... 60
  พิมพ์  
อ่าน: 141846 พระองค์เจ้าปฤษฎางค์-ชีวิตลับที่ทรงเผยไม่ตลอด
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 675  เมื่อ 13 ส.ค. 15, 18:05

ไม่ทราบท่าน share จะเข้ามาอ่านกระทู้ของผมหรือเปล่า คือ ไม่ทราบว่าฉันทลักษณ์ของพระองค์เจ้าปฤษฎางค์ถูกต้อง หรือท่านด้นขึ้นเอง ความหมายผมก็แปลไม่ค่อยจะออก ท่านผู้รู้กรุณาถอดความด้วยเถิดครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 676  เมื่อ 13 ส.ค. 15, 18:48

ขอตอบระหว่างคุณ share ยังไม่เข้ามาค่ะ


โคลงเคลง ที่เป็นหัวเรื่อง   ทรงเขียนประชดเสียดสี ทำนองว่า นี่ไม่ใช่โคลงนะ แค่โคลงเคลง
ไตรวัชราวุธพิศม์     คงเป็นศัพท์ที่ท่านผูกขึ้นเอง หมายถึงพิษจากอาวุธสายฟ้า 3  อย่าง    เดาว่าหมายถึงโคลงสามบทนี้

โคลงบทแรกและบทที่สองเป็นโคลงสี่สุภาพ ที่เอกโทบางตัวผิด  แต่สัมผัสระหว่างบาท ถูก   
ถ้าอยากทราบว่าผิดตรงไหน  ท่านนวรัตนกรุณาถามมาอีกที

โคลงบทที่สามไม่ใช่โคลงสี่สุภาพ  แต่ก็ไม่ใช่โคลงดั้น   ไม่รู้โคลงอะไร   อาจเป็นได้ว่าเป็นโคลงสี่สุภาพที่เขียนผิดสัมผัส ส่วนเอกโทผิดอยู่แล้วหลายแห่ง

พระองค์เจ้าปฤษฎางค์ทรงเขียนผรุสวาทด่าทอใครคนหนึ่งที่มาวิจารณ์ท่านเมื่อได้อ่านหนังสือเล่มแรก     หาว่าเขียนโจมตีท่าน เล่มแรกก็พอแล้ว
ตอนท้ายโคลงบทที่ 3  ท่านผรุสวาทแรงมาก  ติดเรท 18+   กล่าวถึงองค์เองว่าได้ดีมีวิชาเพราะ "ล้นเกล้า" พระราชทานให้   ไม่ใช่ได้ดีเพราะเกาะเกี่ยวคนอื่น  แล้วเหน็บคนนั้นว่าได้ดีเพราะสตรี  เทียบได้กับตัวโลน
ส่วนตัวนี้เป็นตัวอะไร คุณหมอเพ็ญชมพูไม่ต้องบอกก็ได้ค่ะ
บันทึกการเข้า
ประกอบ
สุครีพ
******
ตอบ: 1342


ความคิดเห็นที่ 677  เมื่อ 13 ส.ค. 15, 22:24


ตอนท้ายโคลงบทที่ 3  ท่านผรุสวาทแรงมาก  ติดเรท 18+   กล่าวถึงองค์เองว่าได้ดีมีวิชาเพราะ "ล้นเกล้า" พระราชทานให้   ไม่ใช่ได้ดีเพราะเกาะเกี่ยวคนอื่น  แล้วเหน็บคนนั้นว่าได้ดีเพราะสตรี  เทียบได้กับตัวโลน
ส่วนตัวนี้เป็นตัวอะไร คุณหมอเพ็ญชมพูไม่ต้องบอกก็ได้ค่ะ


ไม่โดนห้าม จัดซะเลย ฮิฮิ เอ แต่ทำไมตัวโลนตัวนี้หน้าตาคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นในกระจก


บันทึกการเข้า

วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
Jalito
องคต
*****
ตอบ: 478


ความคิดเห็นที่ 678  เมื่อ 13 ส.ค. 15, 22:36

พระองค์ปฤษฎางค์ท่านเป็นพระราชวงศ์ ท่านรู้จักตัวพรรค์นี้ด้วยฤา??
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 679  เมื่อ 14 ส.ค. 15, 10:06

โรคภัยไข้เจ็บไม่เลือกชนชั้นวรรณะค่ะ


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 680  เมื่อ 14 ส.ค. 15, 10:13

พระองค์เจ้าปฤษฎางค์ท่านก็ไม่เลือกชนชั้นวรรณะเหมือนกันครับ รูดซิบปาก

(ไชโย คนเข้ากระทู้ครบหมื่นแล้ว)
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 681  เมื่อ 14 ส.ค. 15, 10:17

กลอนนี้ท่านเขียนในตอนปลายอายุ เมื่อสึกจากเพศบรรพชิตแล้ว    พระอารมณ์ที่แฝงอยู่ในโคลงสามบทนี้  กราดเกรี้ยวและปั่นป่วน ระแวงคนรอบด้านว่าโจมตีท่าน ถึงกับตอบโต้อย่างหยาบคายร้ายแรง
จริงๆแล้ว อาจจะไม่มีอะไรมากไปกว่าคำวิจารณ์แสดงความคิดเห็นก็เป็นได้

ทำให้เชื่อว่า อาการผิดปกติทางอารมณ์ที่แสดงออกมาในวัยกลางคน ยังติดตามมาเป็นเวรเป็นกรรมต่อท่านในวัยชรา
บันทึกการเข้า
Naris
องคต
*****
ตอบ: 421


ความคิดเห็นที่ 682  เมื่อ 14 ส.ค. 15, 11:26

ถ้าสมัยนั้นมีสื่อ Social แบบสมัยนี้ เรื่องคงเป็นประมาณว่าท่านพยายาม Post Facebook แก้ตัวเรื่องสมัยก่อน แล้วโดนถล่มจากบรรดากองแช่ง จนปริ๊ดแตก ออกมา Post โต้ตอบอย่างดุเดือดไม่ไว้ออนเนอร์ผู้ใดเลย
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 683  เมื่อ 14 ส.ค. 15, 11:31

^


บันทึกการเข้า
ประกอบ
สุครีพ
******
ตอบ: 1342


ความคิดเห็นที่ 684  เมื่อ 14 ส.ค. 15, 11:52

ถ้าสมัยนั้นมีสื่อ Social แบบสมัยนี้ เรื่องคงเป็นประมาณว่าท่านพยายาม Post Facebook แก้ตัวเรื่องสมัยก่อน แล้วโดนถล่มจากบรรดากองแช่ง จนปริ๊ดแตก ออกมา Post โต้ตอบอย่างดุเดือดไม่ไว้ออนเนอร์ผู้ใดเลย

จริงๆ ระดับพระองค์เจ้าปฤษฎางค์ เป็นเจ้า แถมจาก profile อยู่เมืองนอก  ติสก์แตกด้วย ถ้าเป็น facebook ปัจจุบันท่านน่าจะมีแฟนคลับไม่น้อย ดังนั้นต่อให้มีกองแช่งหรือมีกลุ่มไหนตามลากไส้ ก็จะมีสาวก ติ่ง แฟนคลับช่วยปกป้องอย่างสุดลิ่มทิ่มประตูเช่นกัน เราคนดูก็จะได้เสพดราม่าสองฝั่งทะเลาะกันอย่างมีอรรถรส  เพราะเห็นคนที่แปลกๆ แบบนี้หลายคน ป่วยคงไม่น้อยกว่าท่าน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าลัทธิจานบิน  หมอเวชศาสตร์การสงคราม 1 ใน 5 ของโลก  ด๊อกเตอร์นาซ่าดาวเรียงตัวทำให้โลกถล่ม หม่อมที่อวยฮิตเลอร์เป็นคนดี ขุ่นป้าบ้านสวนปิระมิด ฯลฯ  คนเหล่านี้แม้โดนลากไส้ขุดคุ้ยหรือโต้แย้งด้วยเหตุผลจนเถียงไม่ได้ แต่ก็ยังคงมีแฟนคลับที่เหนียวแน่นอยู่อย่างไม่น่าเป็นไปได้
บันทึกการเข้า

วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 685  เมื่อ 14 ส.ค. 15, 12:44

เผอิญยุคโน้น คนป่วยน่าจะมีจำนวนน้อยกว่าคนไม่ป่วย    ก็เลยไม่มีขบวนป่วยช่วยเชียร์
บั้นปลายของพระองค์เจ้าปฤษฎางค์น่าสงสารมาก    ท่านคงจะเดียวดายไม่น้อยเลย   อยู่องค์เดียวไม่มีครอบครัว  ไม่มีเพื่อน  ไม่มีญาติ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 686  เมื่อ 14 ส.ค. 15, 17:35

เขียนมาถึงตรงนี้ ผมมีความประหลาดใจอยู่อย่างหนึ่ง ที่เรื่องราวพระประวัติของพระองค์เจ้าปฤษฎางค์ดำเนินไปในกระทู้ดังกับได้มีการเตี้ยมกันไว้ก่อน คือ ผู้อ่าน(รวมทั้งผู้เขียน)จะยังไม่ได้รู้ข้อมูลลึกๆที่ท่านมิได้ทรงเผย เราก็เดาไม่ออกจนกระทั่งมันดำเนินมาถึงจุดๆหนึ่ง ก็บรรดาลให้มีบุคคลอย่างคุณศรีสรรเพชญ อุตส่าห์สมัครเข้ามาเป็นสมาชิกเพื่อนำพระราชหัตถเลขาฉบับสำคัญมาลง ซึ่งนอกจากจะเผยว่าใครคือเจ้าปานแล้ว  ยังบอกหมดถึงพฤติกรรมต่างๆที่ทำให้พระองค์เจ้าปฤษฎางค์ทรงอยู่เมืองไทยต่อไปไม่ได้ ต้องเสด็จหนีไปอยู่ต่างประเทศ

มานึกอยู่ว่า ถ้าพระราชหัตถเลขาฉบับนี้ถูกนำมาเปิดเผยเสียแต่ในตอนที่ผมถามว่า ใครคือเจ้าปาน เรื่องคงจะจืดลงทันที เหมือนดูหนังตื่นเต้นที่รู้ตอนจบเสียแล้วยังไงยังงั้น

อย่างไรก็ดี ตามธรรมเนียมของมหากาพย์ กระทู้เห็นจะจบเสียตรงนี้หาได้ไม่ ผมคงต้องเล่าเรื่องราวชีวิตของพระองค์เจ้าปฤษฎางค์ต่อ ตอนกลับมาคอยความตาย ณ กรุงเทพ หลังจากที่ทรงไปผนวชในลังกาและทรงทราบข่าวการเสด็จสรรคตของพระพุทธเจ้าหลวง จึงคิดเสด็จกลับมาเมืองไทยเพื่อถวายพระเพลิงพระบรมศพ ส่วนลึกๆจะทรงคิดอย่างไรไม่ทราบ

ครั้นมาถึงแล้ว ทรงเล่าแต่เพียงว่า โดนบังคับกลายๆให้สึกจากสมณเพศ โดยไม่แจ้งตามเคยว่าเป็นเรื่องอะไร แต่บางท่านคงทราบ เพราะคุณหมอเพ็ญชมพูเอามาเผยไว้แล้วดังนี้

ผมจะข้ามเรื่องไปจนถึงยามที่ท่านทรงกลับกรุงเทพมาถวายพระเพลิงพระบรมศพพระพุทธเจ้าหลวง แล้วก็เลยถูกบังคับให้สึกจากพระ เพราะได้กระทำอทินนาทานในผ้าเหลือง เป็นอนันตริยกรรม

เห็นท่าไม่ได้การ เกรงจะมีภัยทั้งข่าวก็ลือกันว่า เจ้าพระยายมราชคอยจะจับตัว

ส. ศิวรักษ์ ได้กล่าวถึงเบื้องหลังของเหตุการณ์ตอนนี้ในบทความเรื่อง "ค้นหาพระพุทธเจ้า" ในนิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับประจำเดือนกันยายน ๒๕๔๖ ดังนี้

นายทอมัส เปปเป้ ที่ค้นพบสวนลุมพินีที่พระพุทธเจ้าประสูติ ในปี ค.ศ. ๑๘๙๗ ทั้งยังได้พบผอบซึ่งมีอัฐิธาตุอย่างกระดูกมนุษย์ในผอบนั้น พร้อมทั้งจารึกสมัยก่อนอโศก ว่าเป็นพระบรมธาตุของพระศาสดา และอัฐิธาตุของพระญาติในราชศากยสกุลด้วยอีกหลายพระองค์ ซึ่งคงจะถูกพระเจ้าวิทูทภะประหาร คราวเสด็จไปล้างโคตรข้างพระมารดาด้วยความแค้น

ประเด็นที่พึงพิจารณาก็คือเราเคยเชื่อกันว่า พระบรมสารีริกธาตุนั้นเป็นดังเมล็ดงา เมล็ดถั่ว เพราะแม้จนบัดนี้พุทธศาสนิกก็ยังเชื่อว่า พระภิกษุที่ได้เข้าถึงบรมธรรมในขั้นตรัสรู้ อัฐิธาตุของท่านย่อมกลายสภาพไปเป็นเช่นนั้น ดังเรามีพระธาตุเช่นนี้กันมากมายทั้งที่ในเมืองไทย เมืองพม่า และลังกาทวีป

ก็เมื่อนายเปปเป้ได้รับคำยืนยันจากนักปราชญ์ที่สำคัญ ๆ ในวงการพุทธศาสนา อย่างศาสตราจารย์ริดส์ เดวิดส์ ผู้ก่อตั้งสมาคมบาลีปกรณ์แต่ใน ค.ศ. ๑๘๘๑ ว่านั่นคือพระธาตุของพระพุทธเจ้า แล้วไทยเราจะมีท่าทีอย่างไร

ในเวลานั้น พระองค์เจ้าปฤษฎางค์ เสด็จออกทรงผนวชอยู่ที่ลังกาทวีป มีพระสมณฉายาว่าชินวรวงศ์ ทรงจาริกไปยังสวนลุมพินีที่เนปาล แล้วตรัสชวนให้รัฐบาลอังกฤษถวายพระธาตุที่เป็นกระดูกอย่างคน ๆ นี้ แด่พระจุลจอมเกล้า โดยประทานเหตุผลว่า ทรงเป็นองค์เอกอัครพุทธศาสนูปถัมภกเหลืออยู่เพียงพระองค์เดียวในโลก แต่ทรงเกรงว่าอังกฤษจะไม่ทำตามคำตรัสชวนของพระองค์ จึงทรงหยิบเอาพระธาตุนั้นใส่ย่ามมา เผื่ออังกฤษไม่ถวายในหลวงรัชกาลที่ ๕ พระองค์ท่านก็จะถวายเอง เพื่อคืนดีกับพระเจ้าอยู่หัว เพราะต่างก็กริ้วโกรธซึ่งกันและกัน จึงทรงลาออกจากราชการแล้วไปทรงผนวช แม้ก่อนทรงผนวช ก็ถึงกับเคยทรงขอรับราชการกับอังกฤษที่พม่า และกับฝรั่งเศสที่กัมพูชา เพราะทรงแค้นรัชกาลที่ ๕ กับกรมสมเด็จพระสวัสดิวัตนวิศิษฐ์เป็นประเด็นสำคัญ

เผอิญลอร์ดเกอซันเพิ่งได้เป็นอุปราชอินเดีย และเห็นควรใช้การพระศาสนาเป็นอุบายทางการทูต จึงตกลงส่งพระธาตุที่ว่านี้มาถวายในหลวงรัชกาลที่ ๕ ซึ่งถึงแม้จะพอพระทัย ก็หนักพระทัยที่พระธาตุเป็นดังกระดูกสามัญมนุษย์ ทั้ง ๆ ที่ตรัสถามผู้รู้ในเมืองไทยให้ตรวจภาษาจากจารึกแล้ว ก็ยืนยันว่านั่นเป็นพระอัฐิธาตุของพระพุทธองค์จริง ๆ แต่เพื่อความแน่นอน โปรดให้ส่งเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) ซึ่งเคยบวชเรียนเป็นเปรียญมาก่อน ออกไปรับพระบรมสารีริกธาตุ

เจ้าพระยายมราชไปได้ฟังความที่ชินวรวงศ์ตรัสเล่า ก็เลยทูลฟ้องเข้ามาว่าพระองค์นี้ลักขโมยของเขา ต้องอาบัติอทินนาทานปาราชิก ที่ตั้งพระทัยไว้ว่าจะดีกัน เพื่อเสด็จคืนสู่สยามก็เลยเป็นหมันไป ต่อในหลวงรัชกาลที่ ๕ สวรรคตแล้ว ชินวรวงศ์จึงเสด็จเข้ามาถวายพระเพลิงพระบรมศพ แล้วไปเฝ้าสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ซึ่งก็ทรงยืนยันว่าชินวรวงศ์หมดความเป็นภิกษุภาวะไปแล้ว จึงต้องทรงละจากสมณเพศ แล้วดำรงพระชนม์อยู่ต่อมาในเมืองไทยอย่างไร้ความหวังใด ๆ สิ้น

พระบรมสารีริกธาตุที่ได้รับมาในรัชกาลที่ ๕ นั้น โปรดให้ประดิษฐานไว้บนบรมบรรพต (ภูเขาทอง) ที่วัดสระเกศ เพราะเป็นที่ที่สูงที่สุดในกรุงเทพฯ ยังคณะชาวพุทธในประเทศต่าง ๆ รวมทั้งลังกา พม่า จีน มงโกเลีย รัสเซีย และญี่ปุ่น ก็แต่งสมณทูตมาทูลขอส่วนแบ่งพระบรมธาตุนี้ด้วย และก็โปรดประทานแบ่งปันไป คล้าย ๆ กับเมื่อคราวถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระแล้ว พระราชาต่าง ๆ ก็พากันมาขอส่วนพระบรมธาตุไปนั้นแล

มองดูในแง่ของพระบรมกฤษฎาภินิหาร ก็นับว่าน่าชื่นชม แต่มองในแง่ของชินวรวงศ์ ก็นับว่าน่าสงสาร


จาก พุทธทาสศึกษา
 


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 687  เมื่อ 14 ส.ค. 15, 19:18

ความในหนังสือพระประวัติพระองค์เจ้าปฤษฎางค์ สรุปว่าทรงพักอยู่กับญาติระยะหนึ่ง หลังจากนั้นก็ได้ไปอยู่บ้านของพระยาคนหนึ่งที่กรมหลวงเทวะวงศ์ทรงจัดให้อยู่ในวังของท่าน ก่อนที่จะให้ย้ายไปอยู่บ้านที่สี่พระยา ซึ่งกรมหลวงเทวะวงศ์ทรงให้พระยาพิพัฒน์โกษาจัดหาให้ แต่ไม่โปรด เพราะเห็นว่าอยู่ไกลและเป็นถิ่นฐานของชาวต่างประเทศทั้งนั้น จึงย้ายอีครั้งไปอยู่บ้านเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี ตามคำชักชวนของอดีตบุคคลที่ท่านคิดว่าเป็นศัตรูนั่นเอง


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 688  เมื่อ 14 ส.ค. 15, 19:33

พระยาพิพัฒน์โกษา หรือนายเซเรสติโน ซาเวียร์ เกิดในเมืองไทย มีเชื้อสายโปรตุเกส โดยบรรพบุรุษเข้ามาตั้งถิ่นฐานในกรุงศรีอยุธยา ก่อนที่จะย้ายมาอยู่กรุงเทพ เมื่อเล็กบิดาส่งไปเรียนหนังสือที่อังกฤษ หลังจากสำเร็จ การศึกษาได้ทำงานช่วยคณะผู้แทนไทยประจำกรุงปารีส ฉะนั้นจึงน่าจะได้รู้จักพระองค์เจ้าปฤษฎางค์ดี ก่อนจะกลับมารับราชการในประเทศไทย ด้วยพื้นฐานของครอบครัว และความรู้ความสามารถ โดยเฉพาะรู้ภาษาต่างประเทศหลายภาษา ทำให้นายเซเรสติโน ซาเวียร์ เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน มีผลงานเป็นที่พอใจของเจ้านายและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทั้งในเรื่องราชการการทูตและการค้าระหว่างประเทศ จนได้เป็นถึงปลัดกระทรวงต่างประเทศ โดยมีกรมหมื่นเทววงศ์ทรงเป็นเสนาบดี

พระยาพิพัฒน์โกษา เป็นหนึ่งในสี่พระยาที่ร่วมศึกษาวางแผนและพัฒนาที่ดิน ตัดถนนและแบ่งที่ดินขาย จึงมีฐานะดีมาก พอที่กรมหมื่นเทววงศ์ทรงฝากเป็นธุระให้จัดหาบ้านให้พระองค์เจ้าปฤษฎางค์ได้


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 689  เมื่อ 15 ส.ค. 15, 21:09

ในเวลานั้น พระองค์เจ้าปฤษฎางค์ เสด็จออกทรงผนวชอยู่ที่ลังกาทวีป มีพระสมณฉายาว่าชินวรวงศ์ ทรงจาริกไปยังสวนลุมพินีที่เนปาล แล้วตรัสชวนให้รัฐบาลอังกฤษถวายพระธาตุที่เป็นกระดูกอย่างคน ๆ นี้ แด่พระจุลจอมเกล้า โดยประทานเหตุผลว่า ทรงเป็นองค์เอกอัครพุทธศาสนูปถัมภกเหลืออยู่เพียงพระองค์เดียวในโลก แต่ทรงเกรงว่าอังกฤษจะไม่ทำตามคำตรัสชวนของพระองค์ จึงทรงหยิบเอาพระธาตุนั้นใส่ย่ามมา เผื่ออังกฤษไม่ถวายในหลวงรัชกาลที่ ๕ พระองค์ท่านก็จะถวายเอง เพื่อคืนดีกับพระเจ้าอยู่หัว เพราะต่างก็กริ้วโกรธซึ่งกันและกัน จึงทรงลาออกจากราชการแล้วไปทรงผนวช แม้ก่อนทรงผนวช ก็ถึงกับเคยทรงขอรับราชการกับอังกฤษที่พม่า และกับฝรั่งเศสที่กัมพูชา เพราะทรงแค้นรัชกาลที่ ๕ กับกรมสมเด็จพระสวัสดิวัตนวิศิษฐ์เป็นประเด็นสำคัญ


สงสัยจริงๆว่าผู้เขียนบทความนี้ ไปได้ข้อมูลนี้มาจากไหน     
ทำให้เกิดคำถามว่า  ท่านไม่ได้อ่านบันทึกของพระองค์เจ้าปฤษฎางค์ ที่แสดงความเศร้าโศกในการสวรรคตของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕  และไม่ได้ค้นข้อมูลในหอจดหมายเหตุ อันสามารถหักล้างข้อความสีแดงข้างบนนี้ลงได้
หรือมิใช่?
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 44 45 [46] 47 48 ... 60
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.07 วินาที กับ 20 คำสั่ง