ผมวิเคราะห์เองเล่นๆว่า
หากเป็นอาการผิดปกติ ก็น่าเป็นเรื่องเฉพาะตัว ไม่น่าออกผลลัพธ์ลักษณะแบบเดียวกันเป็นจำนวนหลายตัว
อย่างนี้ต้องผิดปกติลงลึกถึงระดับยีน (gene) ถึงได้ถ่ายทอดไปให้รุ่นลูกได้
แต่ยีนนี้คงไม่ค่อยเด่น เลยโดนยีนอื่นกดไว้ ลักษณะปีกจึงไม่ปรากฏให้เห็น
ส่วนบางตัวจังหวะดี ยีนปีกไม่โดนยีนอื่นกลบ ก็จะแสดงปีกเป็นติ่งยื่นยาวออกมาให้เห็น
ที่จริงแล้ว "ยีนปีก" หมกตัวอยู่ในแมวถิ่นนั้นทุกตัว
ถ้าปล่อยให้แมวผสมพันธุ์กันเองตามยถากรรม ปีกก็จะโผล่บ้าง ไม่โผล่บ้าง
แต่ถ้ามีการคัดพันธุ์ คัดซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลายชั่วอายุ เพื่อกำจัดยีนข่มทิ้งไป ยีนปีกก็จะเด่นขึ้นเรื่อยๆ เราก็จะได้แมวที่มีปีกทุกตัว
ผมวิจารณ์พอสนุกเท่านั้นครับ ผู้อ่านอย่านำไปอ้างอิงเป็นจริงเป็นจัง
คงไม่เกี่ยวกับ "ยีนปีก" อย่างที่คุณธสาครวิเคราะห์ ในแมวพันธุ์ขนยาวมักเกิดจากขนที่พันกันเป็นกระจุก เนื่องจากไม่ได้สางเป็นเวลานาน ๆ จนมีลักษณะคล้ายปีก หรือไม่อย่างนั้นก็เป็นกรณีแฝดติดกัน โดยอีกตัวหนึ่งมีพัฒนาการไม่สมบูรณ์ ส่วนที่คิดว่าเป็นปีก ก็คือส่วนขาของอีกตัวหนึ่งซึ่งติดอยู่บนหลังนั่นเอง กรณีสุดท้ายอาจเกิดจากการผิดปรกติของยีน ศัพท์แพทย์เรียกว่า Feline Cutaneous Asthenia (FCA) แมวพวกนี้จะมีผิวหนังหย่อนยาน จนสามารถปูดโปนออกมาจนมีลักษณะคล้ายปีก
มีรายงานว่าพบ "แมวมีปีก" หลายตัวก็จริง แต่ไม่เคยมีรายงานว่ามี "แมวบินได้" สักที 