เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6
  พิมพ์  
อ่าน: 24530 ซัวเถาในความทรงจำ
Anna
องคต
*****
ตอบ: 552


ความคิดเห็นที่ 30  เมื่อ 05 ก.ค. 15, 19:36

ได้ยินคำว่า'เถ็ง ไฮ่' ทำให้จำได้ถึงเมื่อครั้งที่พวกเราพี่น้องไปตามหารากเหง้าที่ซัวเถา(ความจริงก็หาเรื่องเที่ยวนั่นแหละ ยิงฟันยิ้ม)
ดิฉันได้ยินคำว่า 'เถ็ง ไฮ่,ตั่วฉู่ และเตี่ยเอี๊ย' มาในชุดเดียวกัน พวกนี้เป็นชื่อตำบลหรือหมู่บ้านอะไรทำนองนั้นใช่ไหมคะ
ตอนนั้น..หมายถึงตอนที่ได้ยินอาแปะซึ่งเป็นคนที่นั่นพูดคำเหล่านี้ ด้วยความที่ภาษาจีนของดิฉันค่อนข้างแย่ทำให้จับความได้บ้างไม่ได้บ้าง จะถามก็ตั้งคำถามไม่ถูก คิดคำไม่ออก
บันทึกการเข้า
ปิ่น
ชมพูพาน
***
ตอบ: 172


ความคิดเห็นที่ 31  เมื่อ 05 ก.ค. 15, 19:43

ได้ยินคำว่า'เถ็ง ไฮ่' ทำให้จำได้ถึงเมื่อครั้งที่พวกเราพี่น้องไปตามหารากเหง้าที่ซัวเถา(ความจริงก็หาเรื่องเที่ยวนั่นแหละ ยิงฟันยิ้ม)
ดิฉันได้ยินคำว่า 'เถ็ง ไฮ่,ตั่วฉู่ และเตี่ยเอี๊ย' มาในชุดเดียวกัน พวกนี้เป็นชื่อตำบลหรือหมู่บ้านอะไรทำนองนั้นใช่ไหมคะ
ตอนนั้น..หมายถึงตอนที่ได้ยินอาแปะซึ่งเป็นคนที่นั่นพูดคำเหล่านี้ ด้วยความที่ภาษาจีนของดิฉันค่อนข้างแย่ทำให้จับความได้บ้างไม่ได้บ้าง จะถามก็ตั้งคำถามไม่ถูก คิดคำไม่ออก

เป็นชื่อสถานที่ค่ะ เถ็งไฮ่ เป็นจังหวัดค่ะ ตั่วฉู่ น่าจะเป็นชื่อเรียกย่านมากกว่าค่ะ เพราะแถวซัวเถาจะมีชื่อแนวๆนี้เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น เจี่ยฉู่(บ้าน ด้านบน) เอ่ฉู่(บ้าน ด้านล่าง) ประมาณนี้ ส่วน เตี่ยเอี๊ย อดีตเคยมีฐานะเป็นจังหวัดค่ะ ภายหลัง ค.ศ.๒๐๐๓ ลูกลดฐานะโอนมาเป็น เขตเตี่ยน้ำ และเขตเตี่ยเอี๊ย ค่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 32  เมื่อ 06 ก.ค. 15, 08:57

อยากถามเรื่องอาหารการกิน ว่าเช้า กลาง วัน เย็น คนที่นั่นเขากินอะไรกันคะ
แล้วพวกของกินเล่นสำหรับเด็กๆ อย่างขนม มีอะไรบ้าง

อีกข้อคือเรื่องการแต่งกาย  ตอนเด็กๆคุณปิ่นแต่งตัวยังไง   และคุณพ่อคุณแม่สวมชุดแบบไหน
บันทึกการเข้า
ปิ่น
ชมพูพาน
***
ตอบ: 172


ความคิดเห็นที่ 33  เมื่อ 06 ก.ค. 15, 10:26

อยากถามเรื่องอาหารการกิน ว่าเช้า กลาง วัน เย็น คนที่นั่นเขากินอะไรกันคะ
แล้วพวกของกินเล่นสำหรับเด็กๆ อย่างขนม มีอะไรบ้าง

อีกข้อคือเรื่องการแต่งกาย  ตอนเด็กๆคุณปิ่นแต่งตัวยังไง   และคุณพ่อคุณแม่สวมชุดแบบไหน

ตอบอาจารย์เทาชมพูค่ะ

เรื่องอาหารการกิน

เช้า กินข้าวต้มค่ะ กับข้าวส่วนใหญ่จะเป็นง่ายๆ เช่น ไข่เจียวไช้โป๊ว หรือ ไช้โป๊วผัดพริกกับน้ำตาล(พิสดารพอดู ไม่รู้เคยได้กินไหม จริงๆอร่อยดีนะคะ เค็มๆหวานๆเผ็ดๆ) หรือ ถั่วลิสงคั่วเกลือ กับข้าวอย่างอื่นจำไม่ค่อยได้  ถ้าไม่กินข้าวต้ม บางวันที่มีหาบน้ำเต้าหู้มาขายถึงหน้าบ้าน ก็จะซื้อน้ำเต้าหู้ กินกับปาท่องโก๋ (ปาท่องโก๋ที่บ้านปิ่น จะยาวกว่าปาท่องโก๋ไทยประมาณ2เท่าครึ่ง แป้งไม่หนานุ่มอย่างปาท่องโก๋ไทย จะเป็นแบบกรอบๆ) ส่วนน้ำเต้าหู้ที่ซื้อมา บางทีก็ปรุงแบบใส่น้ำตาล หรือไม่ก็เอาไปต้มแล้วใส่ไข่ ฟองเต้าหู้และเต้าหู้ ก็คงแปลกพอๆกัน เพราะคนไทยคงไม่กินแบบนี้ ส่วนพวกผู้ใหญ่ผู้ชาย เช่น อากง ตอนเช้าชอบขี่จักรยานออกไปหาเพื่อน แล้วเลยไปกินอาหารเช้าที่ร้านขายอาหารเช้า ร้านขายอาหารเช้าที่นั่น ปกติจะขาย น้ำเต้าหู้แบบเลือกใส่เครื่องอย่างที่บอกข้างต้น แล้วก็มีลูกเดือยต้มอย่างเค็ม คือ เอาลูกเดือยไปต้มกับกระดูกหมู เคี่ยวจนข้น เหนียว แล้วใส่ไข่ ใส่หมู ใส่ผักชีโรยหน้า เป็นต้น

เที่ยง ปกติแล้วจะกินที่บ้าน ตอนเที่ยงก็กินข้าวต้ม นะคะ โรงเรียนที่เรียนหนังสือเป็นโรงเรียนใกล้บ้าน เพื่อนๆนักเรียนก็เป็นด็กที่อาศัยอยู่แถวนั้น ปกติเราจะเดินเท้าไปเรียนหนังสือ ใครที่บ้านไกลหน่อยก็ขี่จักรยานมา ที่โรงเรียนมีลานจักรยานให้นักเรียนจอด ไม่มีคนไหนที่ผู้ปกครองมาส่ง ฉะนั้นที่โรงเรียนจะไม่มีโรงอาหาร รอเลิกเรียนตอนเที่ยง ส่วนใหญ่จะเดินกลับบ้านไปกินข้าว คนที่บ้านไกลอาจจะหิ้วปิ่นโตมากินที่ห้อง แต่ส่วนใหญ่จะกินที่บ้านค่ะ ตอนเที่ยง อาม่าอาจจะผัดกับข้าวเพิ่มอีกอย่าง แต่โดยปกติแล้วคนที่นี่กินกันอย่างประหยัด พออิ่มท้องเท่านั้น สมัยนั้น ขนมกินเล่นจะไม่ค่อยเห็น ถ้าไม่ได้กินที่บ้าน บางทีก็ไปซื้อก๋วยเตี๋ยวที่ร้านอาหารแถวบ้าน(จะพกหม้อแบบมีหูหิ้วไปด้วย) ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋ว มีแต่เส้นใหญ่เท่านั้น เส้นใหญ่มีลักษณะ หนาและแคบกว่าเส้นใหญ่ไทย อีกลักษณะหนึ่งที่แม่มักจะบ่น คือ ก๋วยเตี๋ยวไทยนั้น มันและมีรสชาติเปรี้ยว ซึ่งก็จริงอย่างที่แม่บ่นอยู่ ถ้าคนที่ไม่เคยกินก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วอาจจะไม่รู้สึก แต่เราที่กินมาแล้ว พอมาชิมที่ไทยก็รู้สึกแบบเดียวกันว่า...เปรี้ยว แต่ด้วยความที่ชอบกินก๋วยเตี๋ยวมาตั้งแต่เด็ก พอมาอยู่ที่ไทยแล้วก็ยังชอบกินเส้นใหญ่อยู่ดี นานๆทีจะกินเส้นแบบอื่น

เย็น ข้าวเย็นน่าจะเป็นอาหารมื้อใหญ่สุดของวัน มื้อเย็นโดยปกติแล้วจะกินข้าวสวย สมัยที่ยังไม่มีหม้อหุงข้าว เวลาจะกินข้าวสวยก็ต้องเอาข้าวไปต้ม พอข้าวสุกก็ต้องเอากระชอนตาถี่มาตักข้าวให้สะเด็ดน้ำแห้งดีแล้วจึงกินได้ แบบนี้เรียกว่าหุงข้าวเช็ดน้ำหรือเปล่าหนอ? มื้อเย็นอาจจะมีปลา มีผัดผัก มีเนื้อสัตว์กิน กับข้าวที่กินจริงๆยอมรับว่าจำไม่ได้

อ้อ อีกอย่างที่เป็นข้อสังเกตคือ สมัยนั้น ทุกบ้านเขาใช้น้ำมันหมูกันหมด จะเจียวน้ำมันจากมันหมูเอง พอถึงหน้าหนาว น้ำมันหมูในถ้วยก็จะกลายเป็นไขแข็งๆ เวลาตักขึ้นมาแล้วใส่ในกระทะร้อนๆ สักพักก็ละลายเป็นน้ำมันใสๆ

ส่วนขนม และ เสื้อผ้า สมัยนั้นขอติดไว้ก่อน เผื่อจะไปหารูปมาประกอบ แต่เรื่องเสื้อผ้านี่ เขาตัดเย็บกันเองก็เยอะเหมือนกัน ไปซื้อมาจากข้างนอกก็พอมีบ้าง   
บันทึกการเข้า
ปิ่น
ชมพูพาน
***
ตอบ: 172


ความคิดเห็นที่ 34  เมื่อ 06 ก.ค. 15, 10:30

วันนี้จะมาเล่าเรื่อง คืนไหว้พระจันทร์ในความทรงจำ

อาจจะมีพิธีกรรมที่คนไทยไม่คุ้น เช่น เสี่ยงบุ้งกี๋ เผาเจดีย์ไฟ บูชาหนังสือเรียน

ถ้าไม่ได้มาเขียนกระทู้นี้ บอกตามตรงว่าคงลืมไปหมดแล้ว แต่ขอติดไว้ก่อน เดี๋ยวรอช่วงว่างๆจะมาเขียนให้ค่ะ
บันทึกการเข้า
ปิ่น
ชมพูพาน
***
ตอบ: 172


ความคิดเห็นที่ 35  เมื่อ 06 ก.ค. 15, 12:49

เทศกาลจีนอย่างหนึ่งที่ชาวไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี นอกจาก ตรุษจีนแล้ว เห็นจะเป็นเทศกาลไหว้พระจันทร์

โดยปกติแล้ว กิจกรรมที่ทำในคืนไหว้พระจันทร์ นอกเหนือจากไหว้เจ้า กินขนมไหว้พระจันทร์แล้ว บังเอิญยังนึกขึ้นได้ว่า ตอนเด็กๆเคยมีกิจกรรมอย่างอื่นด้วย

หนึ่งในนั้นคือ การเสี่ยงบุ้งกี๋ นั่นเอง

การเสี่ยงบุ้งกี๋ วิธีทำคือ นำบุ้งกี๋สานมาผูกตะเกียบตรงบริเวณหัวบุ้งกี๋ เสร็จแล้วนำกระจาดสานแบบแบนมาใส่แป้งสาลี(หรือแป้งอย่างอื่นก็ได้)ให้เต็ม จากนั้นคว่ำบุ้งกี๋ให้ตะเกียบจ่ออยู่ที่แป้ง โดยมีสองหรือสามคนหรือมากกว่านั้นมาจับบุ้งกี๋ไว้ มีการอ่านคำเชิญเทพธิดาบุ้งกี๋มาทรงในบุ้งกี๋ จากนั้นก็ถามคำถาม เพื่อให้ตะเกียบที่มัดไว้กับบุ้งกี๋เคลื่อนที่เขียนหนังสือลงบนแป้งนั้นเอง ดูมาถึงตรงนี้ อย่างกะเล่น ผีถ้วยแก้วหรือผีปากกาก็ไม่ปาน ตอนแรกนึกว่าอาจจะเป็นกิจกรรมที่บ้านปิ่นเล่นๆกันเอง เพราะไม่เห็นถิ่นอื่นจะมีกิจกรรมนี้ แต่พอได้ค้นประวัติก็พบว่า ได้ทำกันมาสมัยก่อนแล้ว อย่างน้อยก็ราชวงศ์ชิง

อ้างถึง
清 请紫姑神 。《荆楚岁时记》:『其夕迎紫姑,以卜将来蚕桑,并占众事。』故民间每于正月十五夜用畚箕为架,以扶乩形式迎接她降临,请她保佑蚕桑丰收,人畜平安。虽为一种迷信活动,实则含有对旧社会不幸妇女的深刻同情,并希望她有保护善良人们的神力。

โดยบันทึกไว้ในเอกสาร 《荆楚岁时记》ว่า "ตอนเย็นต้อนรับจี่โกว เพื่อทำนายผลผลิตไหมและใบหม่อน และทำนายเรื่องอื่นๆ" ดังนั้นทุกปีของคืนวันเพ็ญเดือนอ้าย ตามปฏิทินจันทรคติจีน ชาวบ้านจะใช้บุ้งกี๋เป็นโครง เรียกให้ท่านมาทรง เพื่อให้ท่านคุ้มครองผลผลิตไหมหม่อนมีผลดี คนและสัตว์ปลอดภัยมีสุข ถึงแม้เป็นกิจกรรมที่เป็นด้านไสยะ แท้จริงแล้วบ่งบอกความสงสารที่มีต่อผู้หญิงในโลกจรีต และหวังว่าท่าน(เธอ)มีอิทธิฤทธิ์คุ้มครองผู้คนที่มีจิตใจดี

และโชคดีมากที่เจอภาพเขียนแบบโบราณที่มีพิธีนี้อยู่ด้วย

ต้องออกตัวก่อนว่า ตอนต้นบอกว่าที่บ้านปิ่นทำพิธีนี้ในวันไหว้พระจันทร์ เนื่องจากผ่านมาเป็นสิบกว่าปีแล้ว จำรายละเอียดไม่ค่อยได้ว่า สรุปแล้วทำกิจกรรมนี้ในวันเพ็ญเดือนอ้าย(หลังตรุษจีน15วัน) หรือคืนไหว้พระจันทร์ กันแน่ เพราะมีความเป็นไปได้ว่า อาจจะมีการปรับเปลี่ยนไปก็ได้

และเท่าที่จำได้คือ ตอนที่เสี่ยงบุ้งกี๋ มีแต่ผู้หญิงและเด็กที่มาจับบุ้งกี๋ พวกผู้ชายไม่ได้มาเสี่ยงด้วย




บันทึกการเข้า
ปิ่น
ชมพูพาน
***
ตอบ: 172


ความคิดเห็นที่ 36  เมื่อ 06 ก.ค. 15, 13:19

ไปค้นประวัติของเทพธิดาบุ้งกี๋แล้ว พบว่า ตัวเองอาจจะไม่ได้จำผิดก็ได้ค่ะ

พอจะเล่าประวัติของเทพธิดาบุ้งกี๋ให้ฟังคร่าวๆว่า

紫姑 (จีนกลาง จื่อ กู) (จีนแต้จิ๋ว จี่ โกว) ชื่ออื่นก็ว่า จื่อกู เช่อกู/เหมากู/เคิงกู(เทพธิดาห้องส้วม) เป็น เทพเจ้าห้องสุขาของจีน

โดยตำนานเล่าว่า เดิมชื่อ 何媚 (เหอ เหม้ย) เป็นคนไหลหยาง เล่ากันว่าเป็นอนุของหลี่จิ่งแห่งเมืองโซ่วหยาง เนื่องจากภรรยาหลวงเกิดความริษยาจึงถูกฆ่าตายในห้องสุขาเมื่อคืนวันเพ็ญ เดือนอ้าย โดยอ้างว่า เมื่อจื่อกู ตายแล้วเกิดอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์สามารถทำนายอนาคตได้ จึงกลายเป็นเทพทรงเจ้าของชาวบ้าน

ตอนหลังได้มีการเปลี่ยนแปลง

อ้างถึง
学者认为有许多地区在中秋节的扶乩,皆是由紫姑的习俗所演变。

广东、福建、台湾鹿港等地的篮仔姑使用菜篮为扶乩道具。台湾的椅仔姑使用椅子为扶乩道具。

มีนักวิชาการคิดว่าการเชิญทรงเจ้าของหลายๆท้องที่ในเทศกาลไหว้พระจันทร์น่าจะมีที่มาจากธรรมเนียมจื่อกูนั่นเอง

มณฑลกวางตุ้ง ฮกเกี้ยน ไต้หวัน เป็นต้น มีเทพธิดาตะกร้าที่ใช้ตะกร้าสารเป็นอุปกรณ์ทรงเจ้า ไต้หวันก็มีเทพธิดาเก้าอี้ที่ใช้เก้าอี้เป็นอุปกรณ์ทรงเจ้า [/i]

https://zh.wikipedia.org/wiki/%E7%B4%AB%E5%A7%91

จากน้องวิกี้ค่ะ
บันทึกการเข้า
Namplaeng
ชมพูพาน
***
ตอบ: 183


ความคิดเห็นที่ 37  เมื่อ 06 ก.ค. 15, 15:05

ประเพณีของชาวจีนทางใต้ ในช่วงเพ็ญเดือนแปด เขาจะทำพิธีอัญเชิญ เจ้าตะกร้าครับ
ยังไงรบกวนคุณปิ่นลองค้นจากคีย์เวอร์ด “ 请篮姑 ” แล้วเก็บความมาเล่าสู่กันฟังนะครับ
บันทึกการเข้า
ปิ่น
ชมพูพาน
***
ตอบ: 172


ความคิดเห็นที่ 38  เมื่อ 11 ก.ค. 15, 12:12

วันนี้มีรูปสมัยเด็กมาให้ดูค่ะ



คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ

คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
Jalito
องคต
*****
ตอบ: 478


ความคิดเห็นที่ 39  เมื่อ 11 ก.ค. 15, 21:03

ไม่บรรยายภาพหน่อยหรือครับ พอสังเขปก็ได้ วันเวลาสถานที่
บันทึกการเข้า
Jalito
องคต
*****
ตอบ: 478


ความคิดเห็นที่ 40  เมื่อ 11 ก.ค. 15, 21:06

เด็กๆดูมีความสุขกันทุกคน
บันทึกการเข้า
ปิ่น
ชมพูพาน
***
ตอบ: 172


ความคิดเห็นที่ 41  เมื่อ 12 ก.ค. 15, 00:01

ซัวเถาค่ะ น่าจะช่วงปี พ.ศ. ๒๕๓๕-๓๗ โดยประมาณค่ะ เป็นบ้านปิ่นหลังที่บรรยายเรื่องบ่อน้ำ (เหยื่อสองคนที่ตกบ่อน้ำสี่เหลี่ยมก็อยู่ในภาพด้วย) บ้านหลังนี้เป็นบ้านทรงแต้จิ๋วดั้งเดิมเลย ทุกบ้านจะสร้างเหมือนๆกันค่ะ

รูปที่ ๑ กับ รูปที่ ๒ จะเห็นว่าด้านซ้ายของภาพมีม่านไม้ไผ่อยู่ เป็นการนำไม้ไผ่มาเหลาเป็นแผ่นเล็กๆ ใช้เชือกอะไรสักอย่างเย็บเป็นผืนยาวเท่าความสูงของบานประตูแล้วเพ้นท์เป็นลวดลายค่ะ เอาไว้กั้นหน้าห้องเหมือนมู่ลี่ค่ะ หนักมาก เวลาไม่ใช้จะม้วนขึ้น ม้วนจากปลายขึ้นบน ด้านบนม่านจะมีเหรียญผูกเชือกเอาไว้ขัดระหว่างซอกไม้ไผ่ม่านเวลาเก็บม่านค่ะ ตอนหลังไปสร้างบ้านทรงสมัยใหม่ ม่านแบบนี้ก็ไม่มีใครนำไปใช้แล้วค่ะ เป็นภูมิปัญญาของชาวแต้จิ๋วแท้เลยค่ะ

รูปที่ ๒ จะสังเกตเห็นเด็กผู้หญิงสามคนรวบผมแบบมีโบว์สีแดงอันใหญ่ผูกอยู่บนหัว โบว์สีแดงนั้นทำจากริบบิ้นชีฟองแบบยาวพับให้เป็นโบว์แล้วติดผมค่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าแฟชั่นนี้มาจากไหนค่ะ แต่สมัยนั้นฮิตมากๆ

รูปที่ ๓ ถ่ายที่หน้าบ้านค่ะ เด็กผู้ชายคนที่ยืนต้นแถวใส่ชุดตำรวจจีน สมัยนั้นก็มีชุดแนวๆนี้ให้เด็กได้สวมใส่ นี่ครบเซทเลยนะ มีหมวกด้วย ส่วนเด็กผู้ชายคนที่โตที่สุดใส่ชุดสีฟ้า สันนิฐานว่าเป็นชุดนักเรียนค่ะ ชุดนักเรียนจีนส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นชุดกีฬาแบบนี้ เสาสองต้นข้างประตูที่เห็นมีขอบขาวๆเหมือนกระดาษนั้น คือ เวลาตรุษจีนจะต้องติด ตุ้ยเลี้ยง หรือกระดาษสีแดงที่เขียนคำมงคล ไว้สองฝั่งประตู ผ่านพ้นปีใหม่ไป กระดาษก็จะเปื่อยและยุ่ยไปในที่สุดค่ะ คงเหลือแต่ที่ทากาวติดอยู่ (กาวสมัยนั้นก็เป็นกาวแบบข้าวเหนียวค่ะ)

ปิ่นอยู่ในภาพทั้งสามภาพเลยค่ะ
บันทึกการเข้า
walai
มัจฉานุ
**
ตอบ: 64


ความคิดเห็นที่ 42  เมื่อ 12 ก.ค. 15, 08:12


........ตอนนี้ ก็เกิดเป็นภาพปริศนาในใจของผู้ติดตามอ่านกันละค่ะ
........ ???คุณปิ่น..ยืนตรงไหนเอ่ย?ภาพนี้บันทึกมาประมาณ21-23ปีแล้ว ฮืม
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 43  เมื่อ 12 ก.ค. 15, 08:46

คิดว่าคุณปิ่นคือเด็กผู้หญิงที่โตที่สุดในทุกภาพ  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 44  เมื่อ 12 ก.ค. 15, 08:53

คิดตรงกันเลย ซินแสเพ็ญ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.082 วินาที กับ 20 คำสั่ง