บะหมี่ลวงดวงวิญญา：โกหุนเมี้ยน （勾魂面）แห่งเสฉวน

[han_bing]

ตอนไปเที่ยวเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวนกับเพื่อน ได้กินบะหมี่จานหนึ่งอร่อยมาก อร่อยชนิดที่เพื่อนข้าพเจ้าผู้กินข้าวน้อยประหนึ่งแมวดมสั่งมากินสองจานเลยทีเดียว โดยจานแรกเป็นจานที่นางกินมากเป็นพิเศษ ซึ่งนับว่าน่าอัศจรรย์ เพราะเพื่อนคนนี้กินไม่เคยหมด มักตกเป็นของข้าพเจ้าเสมอ แต่บะหมี่ชามนี้ เธอสามารถตัดกินหมด แถมยังพร้อมต่อจานที่สองมาอีก
ประหนึ่งว่าดวงวิญญาเธอถูกดึงดูดด้วยบะหมี่ให้ไหลหลง

บะหมี่ชนิดนี้มีตำนานเล่าว่าเกิดเมื่อครั้งต้นราชวงศ์ชิงในรัชสมัยพระเจ้าซุนจื้อ (顺治皇帝) พระบิดาของพระเจ้าคังซี (康熙皇帝) พ่อค้าเกลือคนแซ่หู (胡)ผู้หนึ่งซื้อหมูมา อีท่าไหนก็ไม่รู้ทำหมูตกลงไปในกองเกลือ หาเท่าไรก็หาไม่เจอ เลยออกไปซื้อหมูมาใหม่ พอคราวนี้กลับเจอหมูที่ตกอยู่ในกองเกลือ ด้วยความเสียดาย เลยเอาหมูมาทำกับข้าวดีกว่า โดยเอามาสับละเอียดและผัด เพราะมันเค็มอยู่แล้ว หลังจากนั้นจึงราดบะหมี่ ผลที่ได้จากความบังเอิญคืออร่อยเกินคาด

ต่อมาร้านค้าเกลือร้านนี้เลิกกิจการเพราะขายไม่ดี แต่ว่าบุตรชายพ่อค้าเกลือคิดว่าบะหมี่สูตรนี้น่าจะทำเลี้ยงชีพได้เลยเป็นลูกผู้ชายขายบะหมี่แทน และเปิดเป็นร้านขายบะหมี่ชื่อว่า “บะหมี่ลวงวิญญาตำหรับตระกูลหู” หรือ “หูจี้โกหุนเมี้ยน” (胡记勾魂面) ผลคือดังและแพร่กระจายไปทั่วเมืองเสฉวน และพัฒนาเรื่อยมา จนทุกวันนี้เป็นของทานเล่นในเมืองเสฉวนชนิดหนึ่ง

ภาพพระเจ้าซุนจื้อ

[han_bing]

วิธีการทำบะหมี่ชนิดนี้ก็ง่ายมากไล่เป็นลำดับได้ดังนี้

๑.   เอางาคั่วกับถั่วคั่วมาป่นให้ละเอียดผสมกันพร้อมพักไว้เพื่อเตรียมโรยหน้า 

[han_bing]

๒.   นำหมูสับมาผัดกับซีอิ้ว พริกไทย น้ำมันงา หรือซอสงา เกลือ น้ำตาล ชิมรสให้กลมกล่อม พักไว้

[han_bing]

๓.   ๓.   ทำน้ำมันพริกสำหรับคลุกกับเส้นหมี่ นึกภาพไม่ออกว่าใช้น้ำมันเท่าไรจึงจะเหมาะ และอะไรคือน้ำมันพริก คิดง่ายๆ ว่าบะหมี่ก้อนหนึ่งท่านจะใช่น้ำมันคลุกมากเท่าไรบะหมี่จึงจะไม่ติดกัน ก็ใช้น้ำมันเท่านั้นแหละ

วิธีทำน้ำมันพริกแบบเสฉวนง่ายมาก นั้นคือ นำพริกป่น เมล็ดซวงเจียว (พริกหอมที่ใส่กุ้งอบวุ้นเส้น)งาขาว ขิงบุบเบาๆ กระเทียมตำ ต้นหอมส่วนสีขาวหั่นฝอย หรือบางสูตรจะไม่ใส่กระเทียมตำ แต่จะมีการเพิ่มอบเชย โป๊ยกั๊กเข้าไปด้วย

[han_bing]

วิธีทำคือนำขิง กระเทียม ต้นหอม งาขาว พริกป่น ทั้งหมดมาใส่ไว้ในถ้วยกระเบื้อง นำโป๊ยกั๊กอบเชยผัดกับน้ำมันให้หอม แล้วนำน้ำมันที่ผัดเสร็จร้อนๆราดลงไป คนๆให้ได้กลิ่นหอม ทิ้งไว้สักพัก หรือจะทิ้งไว้ ๑ คืนก็ได้ นำน้ำมันนี้มาคลุกเส้นหมี่

ทั้งนี้ถ้าเป็นคนเจียงซูจะใช้แค่น้ำมันพอ เพราะไม่กินเผ็ด แต่ไปกินที่เสฉวนคนเสฉวนราดส่วนผสมทุกอย่างหมดเลยผลคือเผ็ดสะใจคนไทยดีมาก

ทั้งนี้ข้าพเจ้ามีวิธีอีกแบบคือ ใส่ทุกอย่างเข้าด้วยกัน แล้วเอาเข้าไมโครเวฟ ๓ นาที แล้วเอาออกมาพักไว้ข้างนอก ค่าได้พอๆกัน

ภาพแรกน้ำมันพริกผสมพริกสะใจตามประสาคนเสฉวน ภาพสองเอาพริกออกขอแค่น้ำมันมีรสเผ็ดหน่อยๆตามประสาคนเจียงซู

[han_bing]

๔.   น้ำซุปเตรียมไว้สำหรับใส่บะหมี่พอมีน้ำคลุกคลิก ให้ใส่ซีอิ้วดำลงในน้ำซุปด้วยเพื่อสีสันอันเข้มข้น

ก่อนกิน ตักน้ำมันพริกพร้อมเครื่องปรุงเผ็ดๆทั้งปวงมาใส่ไว้ในถ้วยเตรียมไว้ หลังจากในใส่น้ำซุปเล็กน้อยกะว่าพอขลุกขลิก

[han_bing]

๕.   เมื่อจะกินลวกบะหมี่ร้อนๆวางทับลงไป หลังจากนั้นใส่หมูสับบนเส้นหมี่ และโรยถั่วกับงาคั่วที่บดบนหน้าบะหมี่ พร้อมโรยหน้าด้วยใบหอมซอย

อนึ่ง ถ้าทำกินเองที่บ้านแล้วไม่อยากลวกทีละจานทีละจาน ก็ต้องนำน้ำมันพริกมาคลุกเส้นหมี่ไว้ก่อน แต่ตอนกินสีออกจะไม่สวยเท่าไรนัก

   พูดจากประสบการณ์ผู้กินบอกได้เลยว่าอร่อยมาก ล่อลวงวิญญาลูกค้าได้ดีจริงๆ

[walai]

๕.   เมื่อจะกินลวกบะหมี่ร้อนๆวางทับลงไป หลังจากนั้นใส่หมูสับบนเส้นหมี่ และโรยถั่วกับงาคั่วที่บดบนหน้าบะหมี่ พร้อมโรยหน้าด้วยใบหอมซอย

อนึ่ง ถ้าทำกินเองที่บ้านแล้วไม่อยากลวกทีละจานทีละจาน ก็ต้องนำน้ำมันพริกมาคลุกเส้นหมี่ไว้ก่อน แต่ตอนกินสีออกจะไม่สวยเท่าไรนัก

   พูดจากประสบการณ์ผู้กินบอกได้เลยว่าอร่อยมาก ล่อลวงวิญญาลูกค้าได้ดีจริงๆ

    เห็นภาพแล้ว อยากชิมจังค่ะ  ไม่ทราบว่าที่เยาวราชพอจะมีร้าน
                   ให้ได้ลิ้มลองบ้างไหมนะ

[Naris]

เอ๋ หน้าตาอย่างนี้
ที่พิจิตรมีร้านบะหมี่เก่าแก่อยู่ร้านหนึ่ง ชื่อ "อากื้อ เจ้าเก่า" อยู่ตรงข้ามวิทยาลัยสารพัดช่าง เจ้าของเป็นชาวไทยเชื้อสายจีน (ปัจจุบัน อากื้อเสียชีวิตแล้ว แต่ภริยายังทำกิจการต่อ) ที่ร้านมีเมนูหนึ่งชื่อ "บะหมี่หมูสับ" ลักษณะคล้ายคลึงกับบะหมี่ในภาพนี้มากครับ ถ้ามีโอกาสกลับไปพิจิตร เดี่ยวผมจะถ่ายภาพมาเพื่อเปรียบเทียบกันครับ   

[han_bing]

    เห็นภาพแล้ว อยากชิมจังค่ะ  ไม่ทราบว่าที่เยาวราชพอจะมีร้าน
                   ให้ได้ลิ้มลองบ้างไหมนะ
[/quote]

ต้องลองดูตามร้านอาหารเสฉวนนะครับ แต่ไม่แน่ใจว่ามีไหม ปรกติอยู่ไทยผมทำกินเองครับ