naitang
|
ความคิดเห็นที่ 30 เมื่อ 03 พ.ค. 15, 19:16
|
|
ดังภาพที่เล่านำทางมา ก็คงพอจะเห็นภาพในภายหน้าได้พอควรแล้วนะครับว่าอะไรจะเกิดขึ้น
- ผมเองเห็นภาพ โครงการสร้างที่พักอาศัยแบบกึ่งถาวรในช่วงที่กำลังเก็บกวาด ฟื้นฟู ซึ่งหากบริหารจัดการไม่ดี มันก็จะกลายเป็นชุมชนถาวรต่อไป ภาพเช่นนี้ ผมเห็นที่ญี่ปุ่นหลังจากการเกิดแผ่นดินไหวแถว Joetsu เพียงแต่เป็นภาพในอีกคุณภาพหนึ่งของชีวิตเท่านั้นเอง อยู่กันจนคล้ายเป็นหมู่บ้าน นานพอที่จะมีรถเมล์ให้บริการ นานพอที่มีการต่อพื้นที่หลังห้องพักเพื่อทำสวนครัว - เห็นภาพของระบบไฟฟ้าแบบ Solar cell ขนาดพอใช้ประจำแต่ละชุมชนเล็กๆ หรือแต่ละบ้าน แบบที่เคยมีโครงการทำในมองโกลเลีย - เห็นภาพอาคารในสถาปัตยกรรมผสมระหว่างในวัฒนธรรมของถิ่นกับของประเทศผู้สนับสนุนโครงการ - เห็นภาพโทนสีของเมืองอาจจะเปลี่ยนไปจากโทนสีแดง ฯลฯ
ครับ ก็เป็นภาพในมโนของผมครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 31 เมื่อ 04 พ.ค. 15, 18:16
|
|
ผมอยากจะให้ติดตามดูภาพและข้อสนเทศทั้งหลายที่ปรากฎตามสื่อ online ต่างๆ ที่เกี่ยวกับแผ่นดินไหวที่เนปาลในครั้งนี้ แล้วลองนำมาวิเคราะห์ดูในแง่มุมต่างๆ
ผมคิดว่า เมื่อได้เห็นข้อมูลมากขึ้น ได้รับรู้ข่าวสารมากขึ้น มีรายละเอียดของเรื่องราวต่างๆมากขึ้น มากจนถึงระดับที่ตนเองคิดว่าพอจะเห็นเป็นภาพรวมของเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว เมื่อนั้น ก็จะไปสู่ความคิดที่เป็นด้านของปุจฉามากมาย ด้วยคำถามที่นำด้วยคำว่า "ทำไม"
ซึ่ง...ผมก็อยากจะไห้ล้วงลึกลงไปถึงเหตุผลที่ไม่มีการดำเนินการหรือไม่มีการกระทำใดๆในข้อปุจฉาว่า "ทำไม..." หัวข้อนั้นๆ ซึ่งก็จะพบว่า ไม่ว่าเป็นตัวเราเอง เป็นสังคมรอบตัวเรา เป็นฝ่ายปกครอง หรือเป็นรัฐในองค์รวม ฯลฯ ต่างก็ไม่ได้คำนึงถึง หรือเตรียมความพร้อมในรูปแบบที่หลากหลายเพื่อการรับมือกับภัยหรือพิบัติภัยที่เป็นลักษณะครอบคลุมพื้นที่กว้างและที่เป็นลักษณะของ mass destruction
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 32 เมื่อ 04 พ.ค. 15, 18:47
|
|
ผมเองสนใจในภาพหนึ่ง มีอาคารคอนกรีตหลายหลังที่ไม่ได้รับความเสียหายถึงระดับที่พังลงมา และซึ่งก็ยืนตระหง่านอยู่ท่ามกลางอาคารบ้านเรือนที่พังทลายแบบสลายลงมากอง อาจจะเอียงซวนเซ ถลอกปอกเปิกบ้าง แต่ก็ยังคงสามารถยืนอยู่ได้
ภาพเช่นนี้ในมุมหนึ่งก็คงไม่หนีที่จะเป็นเพราะโครงสร้างอาคารมีความแข็งแรงต่างกัน หรือไม่ก็มีการออกแบบอาคารแบบกันแผ่นดินไหวเอาไว้ แต่ก็อีกแหละครับ ในเมื่อก็ยังมีอาคารคอนกรีตในเขตชานเมืองและในชนบทที่ยังสามารถยืนอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังทั้งหลายอยู่ได้
ลักษณะเช่นนี้ สำหรับผมนั้น สื่อว่าการก่อสร้างอาคารนั้นๆเป็นไปอย่างมีคุณภาพ คือ สมกับศักยภาพอันพึงมีของความเป็นอาคารคอนกรีต
ซึ่งเลยพาลให้คิดต่อไปว่า แผ่นดินไหวในไทยที่ว่ามีโอกาสจะรุนแรงนั้น หากการก่อสร้างทั้งหลายเป็นไปอย่างมีคุณภาพเต็มตาม building code ของเรา และผู้ออกแบบ/ผู้อนุญาต/ผู้ตรวจสอบ/ผู้ตรวจงานมีสำนึกเพียงพอ ก็คงไม่น่าจะต้องมีอะไรเป็นห่วงมากนัก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 33 เมื่อ 04 พ.ค. 15, 19:10
|
|
อาคารที่ทนทานอยู่ได้ไม่พังทลาย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 34 เมื่อ 05 พ.ค. 15, 19:36
|
|
ภาพที่ อ.เทาชมพู นำมาแสดงนี้ ในความเห็นส่วนตัวของผมแล้ว ผมเห็นว่าเป็นภาพที่ยืนยันว่าคุณภาพของการก่อสร้างของเขาว่าดีมากเลยทีเดียว
แผ่นดินไหวขนาดนี้ ในระดับความเสียหายโดยทั่วไปในระดับนี้ ที่เรายังคงเห็นภาพโครงสร้างของหน้าต่าง/ประตูของอาคาร รวมทั้งอาการทรุดของอาคารต่างๆ ยังคงรูปทรงทรงสี่เหลี่ยม แม้ตัวอาคารที่ทรุดเอียงก็ยังคงรูปทรงสี่เหลี่ยม เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากที่ไม่โย้เย้ อย่างน้อยมันก็ย่อมแสดงถึงการออกแบบและการก่อสร้างมีคุณภาพที่ดี ซึ่งผมจะไม่ขอขยายความต่อนะครับ ให้วิศวกรเขาช่วยอธิบายทั้งในเชิงของแรง g ที่สัมพันธ์กับลักษณะการกระชากครั้งแรกของแผ่นดินที่ไหว ว่าจะเป็นการผลักหรือเป็นการดึง_push or pull หรือในเชิงของ stress & strain (ในรูป ellipsoid หรืออื่นใด) ซึ่งวิศวกรเขาอธิบายได้ดีกว่าผมแน่ๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 35 เมื่อ 06 พ.ค. 15, 06:07
|
|
ขออนญาตแทรกข่าวแผ่นดินไหวที่บ้านเราเมื่อตี ๔ วันนี้เอง ดูข่าวทีวีตอนเช้ารายงานข่าวว่าภูเก็ตสะเทือนไปทั้งเกาะ ชาวบ้านกลัวสึนามิอพยพหนีขึ้นที่สูงโดยรถยนต์กว่า ๕๐๐ คัน
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 36 เมื่อ 06 พ.ค. 15, 10:46
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 37 เมื่อ 06 พ.ค. 15, 20:27
|
|
กำลังตามดู ประมวลดูว่า ผชช.ทั้งหลายเขาจะว่า เขาจะอธิบายกันอย่างไรบ้างครับ ซึ่ง ณ ขณะนี้ ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีการกล่าวถึงมากนัก ทั้งๆที่ขนาดของมันอยู่ในระดับที่ต้องให้ความสนใจ (ทางวิชาการ) แล้วละครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 38 เมื่อ 06 พ.ค. 15, 20:57
|
|
ไม่รอผู้เชี่ยวชาญคนอื่นละค่ะ รอนักธรณีวิทยาชื่อคุณตั้งนี่แหละ ขนาดนี้ เป็นสัญญาณเตือนภัยที่ต้องจับตาไม่กระพริบแล้วหรือยังคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 40 เมื่อ 08 พ.ค. 15, 19:06
|
|
ที่จริงเขียนกระทู้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ดั๊นกดผิด เลยหายไปเลย กู้ก็ไม่ขึ้น ก็เลยต้องมาเขียนเอาใหม่ในวันนี้ครับ
คำอธิบายของ ผอ.สำนักธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อมนั้น อยู่ในแนวที่นักธรณีฯที่เรียนมาทาง pure geology จริงๆจะพึงตอบ ซึ่งในรายละเอียดของเรื่องราวนั้น แต่ละคนก็อาจจะมีความเห็นบนเหตุผลที่แตกต่างกันไป ซึ่งก็อาจจะแตกต่างกันมากจนไปถึงระดับที่อยู่บนพื้นฐานของแต่ละทฤษฎี
สำหรับความเห็นและเรื่องทางวิชาการที่ไม่ลึกซึ้งมากนักนั้น ผมจะค่อยๆเล่าความต่อไป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 41 เมื่อ 08 พ.ค. 15, 19:39
|
|
แต่ก่อนที่จะเล่าความทางวิชาการ ผมจะขอขยายความข้อปุจฉาของ อ.เทาชมพู ซึ่งเป็นข้อสงสัยของทุกผู้คนเสียก่อนดังนี้ครับ
คำตอบต่อคำถามว่า ต้องจับตาไม่กระพริบแล้วหรือยัง ผมเห็นว่า เมื่อมีผู้เล่นอยู่ในสนามคำถามนี้หลายกลุ่มเลยทีเดียว (ราชการ หน่วยงานสันทัดกรณี นักวิชาการ ชุมชน ผู้คน ฯลฯ) นอกจากนั้นแล้ว ในสนามคำถามนี้ ก็ยังมีทีมผู้เล่นอยู่สองพวก คือพวกระวังหน้า (ก่อนเกิดเหตุ) และพวกระวังหลัง (หลังเกิดเหตุ) ดังนั้น คำตอบ ก็คือ ทุกหน่วยงาน ทุกผู้คนควรจะจับตาได้แล้วครับ แต่เป็นการจับตาในเชิงของการสำรวจตรวจสอบความพร้อมของตนเองในทุกบริบทที่จะทำให้เกิดประโยชน์แก่ตนและแก่ผู้อื่นในสังคม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 42 เมื่อ 11 พ.ค. 15, 18:17
|
|
กระทู้มันคงไม่อยากให้ผมเขียนหรืออย่างไรก็ไม่รู้ เมื่อวานนี้เขียนเสร็จแล้ว กำลังจะกดส่ง อ้าว คอมพ์มันเกิดอาการวูบวาบแล้ว reboot เลย กู้ไฟล์ไม่ได้ วันนี้เลยขอสู้กับใหม่ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 43 เมื่อ 11 พ.ค. 15, 19:02
|
|
อตฺตาหิ อตฺตโน นาโถ_ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน น่าจะเป็นพุทธศาสนสุภาษิตที่ถูกต้องที่สุด และควรจะนำมาปฎิบัติสำหรับตนในเรื่องที่เกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาตืที่เกี่ยวด้วยเรื่องของ ดิน/หิน น้ำ/ของไหล ลม/พายุ และไฟ/ความร้อน/ความเย็น ซึ่งต่างก็เป็นภัยที่เป็นผลมาจากกระบวนการของธรรมชาติที่เกิดขึ้นในโลกมาเป็นเวลานับพันล้านปี
แล้วจะพึ่งตนเองได้อย่างไร ในเมื่อไม่มีความใดๆรู้เกี่ยวกับแผ่นดินไหวเลย ?
ไม่จริงเลยครับ ความรู้มีอยู่ในข้อมูลที่เผยแพร่กระจายอยู่ตามสื่อต่างๆ ซึ่งแม้จะมีจริงบ้าง เท็จบ้าง เทียมบ้าง ผมก็เชื่อว่าด้วยสัญชาตญาณของเรา เราก็น่าจะพอสามารถจำแนกได้แต่แรกเริ่มเลยว่า พอจะรับฟังเนื้อหาใดๆได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งหากเราได้ให้ความสนใจติดตามอ่านมากขึ้นจากสื่อภายในและภายนอกประเทศและจากนักวิชาการหลากหลายสถาบัน เราก็พอจะรับรู้และตัดเรื่องที่เป็นมโนออกไป เหลือแต่ส่วนที่เราเชื่อ แล้วสรุปเป็นข้อมูลสำคัญเฉพาะตัวของเรา ตามความเชื่อของเรา เป็นไปตามจริตของเรา ซึ่ง..ก็จะนำพาไปสู่การเตรียมตัวของเราที่เหมาะสมตามจริตของเรา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 44 เมื่อ 11 พ.ค. 15, 19:30
|
|
คราวนี้ก็จะเข้าเรื่องที่ผมอยากจะเล่าถึงกรณีแผ่นดินไหวในไทยและรอบบ้านเราที่ดูจะเกิดถี่มากขึ้น
เรื่องแรก คือ ความถี่ของการเกิดแผ่นดินไหว ด้วยพัฒนาการทางสื่อ กระแสสังคม เทคโนโลยี และเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ หนึ่งเรื่องที่มีการแข่งขันในสังคมก็อยู่ในบริบทของเรื่องความทันต่อเหตุการณ์และข้อมูล ซึ่งก็คือความสามารถและการแข่งขันกันในเรื่องของ real time แต่เดิมนั้น ผมเห็นว่า การรายงานแผ่นดินไหวที่จะออกเป็นข่าวสารนั้น จะพิจารณาในสองเรื่องควบคู่กันไปก่อนที่จะออกเป็นข่าว คือ คลื่นแผ่นดินไหวที่เครื่องตรวจวัดจับได้ กับ การรับรู้ของผู้คน (ความตื่นตระหนก) ณ พื้นที่ใดๆแห่งใดแห่งหนึ่ง ด้วยนัยนี้ ปริมาณแผ่นดินไหวที่รายงานตามสื่อในอดีตจึงมีน้อยกว่าลักษณะในปัจจุบันที่รายงานด้วยข้อมูลแบบ real time (ตามที่เครื่องมือบ่งบอก)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|