เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 10 11 [12] 13 14 ... 24
  พิมพ์  
อ่าน: 62455 คดีพระปรีชากลการ มโหฬารงานสร้างทางการเมือง
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 165  เมื่อ 07 เม.ย. 15, 10:29

วิกฤติการณ์กับอังกฤษครั้งนี้จึงถือว่าผ่านพ้นไปด้วยความโล่งอก ถือเป็นสำเร็จทางการทูตอันน่าภูมิใจของสยาม  

ทำให้สยามเป็นอิสระในการตัดสินคดีตามกระบวนการยุติธรรมของประเทศนี้

ตรงกับบทสรุปใน พระราชหัตถเลขา


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 166  เมื่อ 07 เม.ย. 15, 11:31


ส่งใบเตือน ว่าคุณหมอเพ็ญนำโฆษณามาลง..
ดีมั้ยเนี่ย

เรื่องนี้รับรองไม่นำไปฟ้องท่านเจ้าเรือน ยิ้มเท่ห์  ยิงฟันยิ้ม  ยิ้มเท่ห์  ยิงฟันยิ้ม

!


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 167  เมื่อ 07 เม.ย. 15, 19:03

เหรียญ Mission to England รูปเจ้าคุณภาส

(ขอขอบคุณเจ้าของเหรียญมา ณ ที่นี้)


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 168  เมื่อ 07 เม.ย. 15, 19:17

ด้านหน้าเหรียญชัด ๆ


บันทึกการเข้า
visitna
นิลพัท
*******
ตอบ: 1724


ความคิดเห็นที่ 169  เมื่อ 07 เม.ย. 15, 20:40

หน้าบนเหรียญ ไม่เหมือนกัน
อันล่างคงไม่ใช่เหรียญ เป็นแผ่นใหญ่
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 170  เมื่อ 07 เม.ย. 15, 21:10

คมชัด สวยงามมาก คงสั่งทำจากที่อังกฤษหลายสตางค์เป็นการส่วนตัว
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 171  เมื่อ 08 เม.ย. 15, 07:28

เจ้าพระยาภาณุวงศ์(พร บุนนาค)เกิด พ.ศ. ๒๓๙๒ และได้ไปเรียนอังกฤษระหว่างอายุ ๑๕-๑๙ ปี กลับมาแล้วเข้ารับราชการในตำแหน่งราชเลขานุการตั้งแต่ปลายรัชกาลที่ ๔
ครั้นถึงสมัยรัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้เป็นราชเลขานุการส่วนพระองค์ จางวางมหาดเล็ก และสมาชิกสภาที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน  แล้วก็เล่นบทสยามหนุ่มดุเดือดไปหน่อยจนมีเรื่อง  

หลังจากนั้นท่านก็ถูกเบรกให้อยู่เฉยๆ จนกระทั่งได้รับบทพระเอกในประวัติศาสตร์ท่อนนี้
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 172  เมื่อ 08 เม.ย. 15, 07:32

คณะทูตพิเศษกลับถึงกรุงเทพในวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๔๒๒ พระยาภาสกรวงศ์ได้เข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัวทันทีเพื่อกราบบังคมทูลถึงความสำเร็จในการทำงานของคณะทูตว่า รัฐบาลอังกฤษตัดสินใจที่จะไม่เข้าแทรกแซงกิจการภายในของสยามตามที่กงสุลน๊อกซ์เสนอ เมื่อแน่ชัดอย่างนี้แล้ว จึงโปรดเกล้าให้เจ้าพระยามหินทรศักดิ์ธำรง ทำสำนวนการสอบสวนคดีเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะลูกขุน เพื่อตัดสินโทษของจำเลยทั้งหมดโดยเร็ว

เรื่องเดิมที่ถูกขึ้นหิ้งค้างไว้ตั้งแต่ช่วงโน้นมีอยู่ว่า  แม้ข้าหลวงพิเศษที่ไปสืบคดีในปราจีนจะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานและพยานบุคคลได้แน่นหนาแล้วก็ตาม แต่พระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จเจ้าพระยาก็ยังไม่มั่นใจ เพราะสืบรู้มาว่าพระปรีชาและนายน๊อกซ์ได้คิดวางแผนหาทางไว้สู้คดีในเรื่องบัญชีเหมืองทองไว้แล้ว โดยประสานงานกับข้างนอกผ่านนายหนูน้องชายต่างมารดา และบ่าวไพร่ที่มาส่งปิ่นโตทุกวัน เนื่องจากทางราชการไม่ได้ห้าม เพียงแต่ให้อยู่ในสายตาเท่านั้น
พระพิเรนทรเทพ ผู้คุมที่ได้รับมอบหมายให้คอยเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของพระปรีชา ได้รายงานไว้ฉบับหนึ่งว่า พระปรีชาคุยโม้กับผู้คุมว่าตนไม่มีความหวาดหวั่นในเรื่องนี้

กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ ซึ่งได้พบกับนายน๊อกซ์อยู่เสมอก็ทิ้งเพื่อนมาถือข้างพระเจ้าอยู่หัวในการต่อสู้เพื่อแผ่นดิน  โดยมีพระอักษรให้สมเด็จเจ้าพระยาทราบความคิดของนายน๊อกซ์ที่เผยต่อพระองค์  ล่าสุดทรงกล่าวว่า ถ้าจะสู้เรื่องบัญชีเห็นจะไม่ได้ ด้วยเขาตระเตรียมไว้แล้ว
พระเจ้าอยู่หัวจึงทรงรู้สึกหนักพระทัยถึงกับตรัสว่า “...ด้วยเขาไม่โง่ การสิ่งใดก็คงตระเตรียมหาช่องทางไว้ทุกอย่าง จะจับต้องให้มั่น...”
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 173  เมื่อ 08 เม.ย. 15, 10:08

เมื่อเรือรบอังกฤษเข้ามานั้น ญาติโกโหติกาของพระปรีชาต่างกระดิ๊กกระดี้เหมือนปลากะดี่ได้น้ำ นำข้าวปลาอาหาร พืชผักผลไม้ พร้อมบุหงามาลัยไปเซ่นสังเวยทหารบนเรือรบเสมอ ฝรั่งเหล่านั้นจึงอิ่มเอมเปรมปรีดิ์มาก
ในเวลาเดียวกัน เจ้าพระยามหินทรศักดิ์อธิบดีคณะตุลาการ และหลวงสรจักรานุกิจต่างทำหนังสือถวายรายงานว่า มีการยักย้ายถ่ายเทเงินทองจากบ้านพระปรีชาไปไว้ที่สถานกงสุลอังกฤษ และที่ห้างมาแลบยุเลียนของชาวฝรั่งเศส และตามบ้านญาติ ในระหว่างนี้

ระหว่างการสอบสวน พระปรีชาขณะนั้นก็แสดงความฮึกเหิม ไม่เคารพศาล พูดจาทำนองข่มขู่ตุลาการ แทนที่จะยอมตอบคำถาม และตั้งตนเป็นทนายซักถามโจทก์และพยานโจทก์ ซึ่งแทบทั้งหมดเป็นคนรับใช้ของตนอย่างดุดัน จนบางครั้งทำให้การสอบพยานต้องชะงักลง

ช่วงนี้พระปรีชาได้ให้นางแฟนนีทำหนังสือร้องเรียนไปยังกรมพระบำราบปรปักษ์ว่าตุลาการไม่มีความยุติธรรม เพราะเอาพยานที่ล้วนแต่เป็นบริวารที่เคยมีเรื่องโกรธเคืองกับตนมาก่อน มาให้การเข้าข้างโจทก์เท่านั้น  แต่ทางราชการปฏิเสธที่จะรับเรื่องเพราะนางแฟนนีไม่ใช่ตัวการโดยตรง ชอบที่จะให้พระปรีชาทำหนังสือด้วยตนเองเท่านั้น พระปรีชาจึงคิดจะทำหนังสือถวายฎีกาว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ก็ล้มเลิกความตั้งใจ เพราะอันที่จริงศาลก็ให้สิทธิ์จำเลยนำสืบพยานฝ่ายตน แต่พระปรีชาสละสิทธิ์เอง

ความรู้ถึงพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชกระแสว่า วิสัยคนๆนี้กำเริบนัก ขนาดอยู่ในตรวนยังฮึกเหิมมาก ถ้าออกจากตรวนได้คงจะถือว่าเพราะกลัวพ่อตา พูดจาหรือทำกิริยาเหลือเกินมาก
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 174  เมื่อ 08 เม.ย. 15, 10:36

เจ้าพระยาภาณุวงศ์(พร บุนนาค)เกิด พ.ศ. ๒๓๙๒ และได้ไปเรียนอังกฤษระหว่างอายุ ๑๕-๑๙ ปี กลับมาแล้วเข้ารับราชการในตำแหน่งราชเลขานุการตั้งแต่ปลายรัชกาลที่ ๔

เจ้าพระยาภาสกรวงศ์ (พร บุนนาค) กระมัง
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 175  เมื่อ 08 เม.ย. 15, 11:26

เออนะคนเรา แก่แล้วก็เสื่อมอย่างนี้ เรื่องยาวๆทั้งอ่านทั้งพิมพ์ลงกระทู้อินเทอเน็ทอย่างนี้หนักหน่อย ไม่มีคนช่วยตรวจทานเหมือนพิมพ์หนังสือ ผมก็หลุดได้บ่อย กำลังกล่าวถึงพระยาภาสกรวงศ์อยู่แท้ๆ มือไปพิมพ์เป็นเจ้าพระยาภาณุวงศ์ และอ่านทวนสองสามเที่ยวก็หาเห็นที่ผิดไม่

คุณเพ็ญชมพูมีคุณอันประเสริฐกับผมตรงที่คอยตามล้างตามเช็ดแบบไม่ลดละเลิก ยิงฟันยิ้ม ต้องขอขอบคุณมากครับ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 176  เมื่อ 08 เม.ย. 15, 11:34

คณะตุลาการขอให้พระยากสาปน์ส่งมอบ นางจีน นางสุ่น นายหวาด นายใหญ่ที่ถูกพยานพาดพิงมาให้ปากคำ แต่พระปรีชาบ่ายเบี่ยงให้ไปขอกับนางแฟนนี ซึ่งนางแฟนนีตอบว่า จะยอมส่งให้ก็ต่อเมื่อได้รับพระราชหัตถเลขาของพระเจ้าอยู่หัว เออ เอากับนางสิ เจอไม้นี้เข้าคณะตุลาการก็ต้องเฉย

อย่างไรก็ดี เกมนี้สมเด็จเจ้าพระยาแก้ได้ โดยใช้พระยาเจริญราชไมตรี( ตาด ) น้องชายแท้ๆของพระยากสาปน์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลต่างประเทศ ซึ่งเดินทางไปปฏิบัติราชการที่เชียงใหม่แล้วกลับมาโดยไม่ขออนุญาตต้นสังกัดก่อน สมเด็จเจ้าพระยากราบบังคมทูลว่า เพราะพระยาเจริญเป็นผู้รู้กฏหมายดี จึงเป็นห่วงครอบครัวเพราะทราบเรื่องที่พระปรีชานำตระกูลไปพัวพันกับคดีอุฉกรรจ์ ระดับท้าทายกับพระราชอำนาจ  จึงขอให้พระเจ้าอยู่หัวทรงหยั่งท่าทีว่าพระยาเจริญจะเห็นแก่ญาติพี่น้องหรือจะเจ็บร้อนกับแผ่นดิน

พระเจ้าอยู่หัวจึงทรงให้คนนำหมายไปตามพระยาเจริญราชไมตรีมาเฝ้า ทรงถามว่า การกระทำผิดธรรมเนียมทางราชการเช่นนี้มีความผิดหรือไม่ พระยาเจริญกราบบังคมทูลว่า ก่อนเดินทางไปเชียงใหม่ในเรื่องที่รัฐบาลอาณานิคมของอังกฤษในอินเดียส่งคนมาสอบสวนคดีความที่เชียงใหม่นั้น ตนได้กราบทูลกรมพระบำราบปรปักษ์ไว้ว่า ถ้าพันตรีสตรีทส์ผู้แทนอังกฤษกลับเมื่อไหร่ตนจะขอกลับกรุงเทพด้วย ก็ทรงอนุญาตไว้แล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตนขอยอมรับผิดที่ไม่ได้ทำเป็นหนังสือขอมาตามธรรมเนียม และขอพระราชทานอภัยโทษ

ความอ่อนน้อมยอมรับผิดทำให้พระเจ้าอยู่หัวทรงเมตตาพระราชทานอภัยโทษ แม้ว่าสมเด็จเจ้าพระยาจะมีความเห็นว่า อย่างไรก็ต้องลงโทษบ้าง จะได้ไม่เป็นเยี่ยงอย่างกับคนอื่น แต่ทรงมีพระราชดำริว่า พระยาเจริญเพิ่งปฏิบัติราชการได้เป็นผลสำเร็จ ความดีกับความผิดก้ำกึ่งกัน ครั้งนี้จึงให้ภาคทัณฑ์ไว้ก่อน
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 177  เมื่อ 08 เม.ย. 15, 11:40

สมเด็จเจ้าพระยาจึงอ้างพระมหากรุณาธิคุณนี้ ขอให้พระยาเจริญร่วมมือตามตัวนางจีน นางสุ่น ผู้ช่วยพระปรีชาในการกลั่นทอง ซึ่งหลบหนีไปอยู่บ้านกงสุลอังกฤษ และนายหวาด นายใหญ่ เสมียนบัญชีในกรุงเทพของพระปรีชามามอบตัวกับทางราชการได้สำเร็จ

และยังเป็นตัวแทนฝ่ายพระเจ้าอยู่หัว ไปเจรจาหว่านล้อมพี่ชายให้ร่วมมือกับสมเด็จเจ้าพระยา เพื่อบรรเทาโทษของตนเองและคนในตระกูลจากโทษริบราชบาทว์
นอกจากนั้น พระเจริญยังให้บุตรสะใภ้ซึ่งเป็นน้องสาวของพระปรีชา มายื่นเรื่องต่อทางราชการ ขอคืนทองคำแท่งและทองรูปพรรณ ซึ่งได้มาจากพระปรีชากลการ ซึ่งถึงแม้จะมีน้ำหนักรวมกันเพียง ๒ชั่ง ๑๙บาท แต่พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพอพระทัย เพราะใช้เป็นหลักฐานเอาผิดพระปรีชาได้
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 178  เมื่อ 08 เม.ย. 15, 15:20

คณะตุลาการขอให้พระยากสาปน์ส่งมอบ นางจีน นางสุ่น นายหวาด นายใหญ่ที่ถูกพยานพาดพิงมาให้ปากคำ

นางจีนน่าจะเป็นภรรยาคนหนึ่งของพระปรีชาฯ

พระปรีชากลการสมรสครั้งแรกกับคุณพลับ ธิดาพระครูมหิธรผู้เป็นพราหมณ์หลวงผู้ทำพิธีเมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๓ มีบุตรกับคุณพลับ ๑ คนเป็นชายชื่อประเสริฐ แต่ถึงแก่กรรมแต่ยังเยาว์ เมื่อคุณพลับถึงแก่กรรมจึงสมรสกับคุณลม้ายธิดาพระอินทราธิบาล (สุ่น) ซึ่งได้กราบถวายบังคมลาออกจากราชการมาอยู่บ้าน มีบุตรกับคุณลม้าย ๒ คนคือคุณหญิงตระกูลและพระยาพิศาลสารเกษตร (อรุณ) ต่อมามีบุตรกับคุณเหลี่ยม ๓ คน มีบุตรกับคุณสินเป็นชาย ๑ คน มีบุตรกับคุณจีนเป็นหญิง ๑ คน และมีบุตรกับคุณหลีเป็นชาย ๑ คน

จาก หนังสือบ่อทองและการทำเหมืองทองคำในสยามยุคใหม่ โดย วลัยลักษณ์ ทรงศิริ หน้า ๓๕


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 179  เมื่อ 08 เม.ย. 15, 16:48

แม่นแล้ว ! นางจีน เป็นเมียน้อยคนหนึ่งของพระปรีชา ซึ่งพระปรีชาใช้ให้ช่วยกลั่นทอง ถูกพาดพิงว่า เมื่อเรือรบเข้ามาแล้วพระเจ้าอยู่หัวก็ยังไม่ปล่อยพระปรีชาออกจากคุก จึงได้ใช้ไสยศาสตร์ ด้วยการนำหีบหมาก ซองบุหรี และเข็มขัดทองของนางแฟนนีไปให้นางปลั่ง หมอทำเสน่ห์ใช้ทำพิธีฝังรูปรอย เพื่อให้พระเจ้าอยู่หัวรักใคร่พระปรีชาจะได้ปล่อยตัวให้พ้นโทษ และทำให้ศัตรูของพระปรีชา ตั้งแต่กรมพระบำราบ สมเด็จเจ้าพระยา เจ้าพระยาภาณุวงศ์ และเจ้าพระยามหินทร์ ให้มีอันเป็นไปด้วยประการต่างๆ แม้พิธีนี้จะแตกเพราะนางจีนจับได้ว่าหมอผีหลอกลวงหวังจะสับเปลี่ยนทองที่นำเข้าพิธีกรรมก็ตาม ก็ถือว่าความผิดที่คิดทำร้ายผู้อื่นสำเร็จแล้ว

แม้พระเจ้าอยู่หัวจะเห็นว่าเป็นเรื่องเหลวไหล  แต่สมเด็จเจ้าพระยายืนยันว่าในรัชกาลก่อนผู้ทำความผิดในคดีเยี่ยงนี้มีโทษถึงตายอยู่ ถ้าไม่เอาเรื่องเสียเลยก็จะกำเริบมากไป ต้องสอบสวนเอาข้อเท็จจริงให้ได้  จึงทรงมีพระราชบัญชาให้ดำเนินคดีแยกกัน
ผลการสอบสวนผู้ต้องหาให้การสารภาพทุกประเด็น แต่จะให้คณะลูกขุนตัดสินโทษหลังจบคดีพระปรีชาแล้ว

(คดีนี้ ปรากฏในจดหมายเหตุรัชกาลที่ ๕ เรื่อง คำตัดสินคดี อีจีน อีปลั่ง ผู้ทำกฤติยาคุณยาแฝดในหลวง ความโดยสรุปว่า ให้ประหารชีวิตผู้จ้าง และผู้รับจ้าง ส่วนผู้สมรู้ร่วมคิดทุกคนได้รับโทษเฆี่ยนหลังลายไปตามๆกัน)
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 10 11 [12] 13 14 ... 24
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.074 วินาที กับ 20 คำสั่ง