เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 24
  พิมพ์  
อ่าน: 62089 คดีพระปรีชากลการ มโหฬารงานสร้างทางการเมือง
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 15  เมื่อ 25 มี.ค. 15, 15:39

พระจุลจอมเกล้าฯบรรลุนิติภาวะในเดือนกันยายน ๑๘๗๓ และมีพระบรมราชภิเษกขึ้นอีกครั้งหนึ่งตามพระราชประเพณี มีการเฉลิมฉลองประดับโคมไฟในกรุงเทพและปริมณฑลตลอดสามคืน ท่ามกลางคำกล่าวถวายพระพรจากตัวแทนของชาติคู่สนธิสัญญาทางพระราชไมตรี มีความเชื่อกันว่ายุคใหม่ของเสรีภาพและความก้าวหน้าได้ถูกกำหนดไว้แล้วในประเทศที่ประหลาดและเป็นเผด็จการนี้  เครื่องแต่งกายแบบชาวยุโรปบางส่วนถูกนำมาใช้ พระเจ้าแผ่นดินออกพระราชกำหนดยกเลิกการหมอบคลาน ซึ่งเป็นประเพณีเก่าแก่ที่ผู้น้อยต้องปฏิบัติต่อหน้าผู้มีอำนาจมากกว่า  ออกประกาศยกเว้นความสำคัญบางมาตราในกฎหมายเกี่ยวกับทาส  สภาที่ปรึกษาราชการแผ่นดินและสภาที่ปรึกษาส่วนพระองค์ได้ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อถวายข้อแนะนำแก่พระเจ้าแผ่นดิน

แต่วัตถุประสงค์อันดีเหล่านั้นได้ถูกเปลี่ยนไปเป็นประสงค์ร้าย  พระราชดำริที่จะปฏิรูปสู่ความก้าวหน้าปรากฏต่อมาว่าเป็นแค่กลลวง  เพียงปีเดียวหลังจากเถลิงพระราชอำนาจสมบูรณ์แบบ เสนาบดีกระทรวงเกษตราธิการก็ถูกจับกุมข้อหายักยอก เฉื่อยชาในการทำงาน และโดนประนาม ชายผู้นี้อาจจะเป็นผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ แต่ทรัพย์สมบัติอันมหาศาลของเขาถูกริบราชบาทว์เข้าหลวง ภรรยาและลูกๆถูกนำตัวไปเป็นทาส ตัวเขาถูกถอดยศและโดนเฆี่ยนอย่างโหดร้าย น่าจะโดนโทษประหารหรือจำคุกตลอดชีวิตด้วยซ้ำ แต่รอดไปเพราะการวิงวอนของอดีตผู้สำเร็จราชการ ผู้ซึ่งเป็นคนโปรด  ได้ออกรับหน้าแทนเพื่อช่วยผู้รับเคราะห์
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 16  เมื่อ 25 มี.ค. 15, 15:45

การที่พระราชาพระองค์ที่หนึ่งมิได้ทรงเป็นผู้เลือกพระราชาพระองค์ที่สอง ก็ด้วยว่าเหล่าเสนาบดีเห็นว่าพระราชาพระองค์ที่สองเป็นที่นิยมของสังคมมาก พระจุลจอมเกล้าฯจึงทรงเขม่นท่านมานาน  แล้วเพิ่งทรงมีโอกาสได้แสดงออกก่อนหน้านี้ โดยกล่าวหาว่าพระราชาพระองค์ที่สองคิดการกบฏและเรียกให้เข้าเฝ้า แต่ท่านทรงรู้ตนดีและเกรงจะถูกกำจัด จึงลอบหนีไปสถานกงสุลอังกฤษเพิ่อขอความคุ้มครอง แทนที่จะกระทำตามพระราชบัญชา

น๊อกซ์ขณะนั้นลางาน นิวแมนเพื่อนของยอร์ช วอชิงตันปฎิบัติหน้าที่แทนชั่วคราว ได้ให้การต้อนรับผู้ลี้ภัยอย่างดียิ่ง  พระราชาพระองค์ที่หนึ่งทรงเรียกประชุมสภาทันที และพวกนั้นมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าพระราชาพระองค์ที่สองขัดพระราชบัญชา หนีไปอาศัยความคุ้มครองของต่างชาติทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศ พวกเขาถวายคำแนะนำว่า ควรให้พระราชาพระองค์ที่สองสละตำแหน่งหรือถวายตำแหน่งให้เจ้านายพระองค์อื่นที่เหมาะสมกว่า

พระจุลจอมเกล้าฯมิทรงกล้าจะกระทำการบังคับเช่นนั้น  ทรงเกรงว่าราษฎรส่วนใหญ่จะเห็นว่าทรงพาลหาเรื่อง ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นนี้ จึงทรงต้องการคำปรึกษาของอดีตผู้สำเร็จราชการ ผู้ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีกับกงสุลอังกฤษเท่าๆกับยอร์ช วอชิงตัน เขาได้ถวายคำแนะนำให้ทรงมีพระอักษรถึงเจ้านายที่ไม่ทรงไว้วางพระทัยพระองค์นั้นให้เสด็จกลับคืนสู่พระราชวัง โดยพระองค์จะทรงรับรองความปลอดภัย พระราชาพระองค์ที่หนึ่งทรงกระทำตามคำแนะนำนั้น แต่พระราชาพระองค์ที่สองก็ยังทรงไม่ไว้พระทัย ทรงยืนยันว่าต้องการอยู่ที่สถานกงสุลก่อน เพื่อรอข้าหลวงใหญ่อังกฤษในสิงคโปร์ ที่คาดว่าจะมาถึงในไม่ช้า แล้วจะได้ไกล่เกลี่ยความเห็นต่างของพระเจ้าแผ่นดินทั้งสองพระองค์ให้สิ้นข้อกังขา  แต่เมื่อข้าหลวงใหญ่มาถึงก็ปรับเปลี่ยนเรื่องอย่างไม่เกรงใจ ให้พระจุลจอมเกล้าฯทรงแก้ไขคำมั่นสัญญาเสียใหม่ ซึ่งภายใต้สภาวการณ์นั้น คงจะไม่ทรงละเมิดแน่  เมื่อเป็นดังนั้น ยอร์ช วอชิงตันจึงเสด็จกลับวังด้วยชัยชนะที่ประจักษ์ชัด


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 17  เมื่อ 25 มี.ค. 15, 15:50

น๊อกซ์กลับมากรุงเทพในเดือนเมษายน ๑๘๗๕ ได้รับการเลื่อนเป็นข้าราชการการเมืองของอังกฤษควบกับตำแหน่งกงสุลใหญ่ แต่ปฏิสัมพันธ์กับกษัตริย์พระองค์ที่หนึ่งยังคงไม่ดีตามเดิม ส่วนมิตรภาพกับกษัตริย์พระองค์ที่สองยังแน่นแฟ้น สร้างความขุ่นใจใหม่ๆขึ้นในพระราชหฤทัย รวมทั้งสัมพันธภาพระหว่างกงสุลกับอดีตผู้สำเร็จก็เป็นไปอย่างดี ในไม่ช้าพระจุลจอมเกล้าฯก็ทรงไม่ต่างกับหุ่นเชิดของอดีตผู้สำเร็จ นายน๊อกซ์กลายเป็นผู้มีอิทธิพลในประเทศนี้จนถูกล้อว่าเป็นกษัตริย์พระองค์ที่หนึ่งแทน  ขุนน้ำขุนนางต่างปรารถนาที่จะคบหาสร้างมิตรภาพด้วย หนึ่งในนั้นคือพระปรีชา รักษาการข้าหลวงปราจินบุรี และผู้อำนวยการเหมืองทองคำหลวงที่กบินทร์
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 25 มี.ค. 15, 15:52

มีนาคมปีที่แล้วพระปรีชาได้แต่งงานกับแฟนนี น๊อกซ์ตามประเพณีที่กรุงเทพ แล้วรีบเดินทางไปปราจินโดยพลัน สองสามสัปดาห์ต่อมาเมื่อคู่บ่าวสาวกลับเมืองหลวง พระปรีชาก็ถูกจับกุมไปขังคุกทันที เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่าได้ฝ่าฝืนไปแต่งงานกับลูกสาวคู่อริของพระเจ้าแผ่นดิน ส่วนข้อหาในการจับกุมตัวมีว่าเขาได้แต่งงานกับลูกสาวนายน๊อกซ์โดยไม่ได้รับคำยินยอมจากบิดาของฝ่ายหญิง การนี้พระปรีชาถูกนำไปเฆี่ยนแล้วคุมขังไว้ในคุกใต้ดินอันสุดแสนโสโครก

กงสุลน๊อกซ์เดือดดาลมากเท่าที่พ่อตาทั้งหลายจะพึงเป็น โดยเฉพาะเขามีเหตุผลพอที่จะเชื่อว่าพระเจ้าอยู่หัวตกอยู่ภายใต้อิทธิพลชักนำของอดีตผู้สำเร็จ ผู้ซึ่งเกลียดชังพระปรีชาเพราะเห็นว่าร่ำรวยและมีอำนาจมาก  น๊อกซ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาและเรียกร้องให้ปล่อยตัวลูกเขยของตนทันที  พร้อมกับต้องการคำขอโทษจากรัฐบาลสยามที่ลากชื่อของเขาเข้าไปเกี่ยวในคดี และสร้างผลกระทบเลวร้ายต่อลูกสาว 
รัฐบาลออกมาแสดงความเสียใจในสิ่งที่กระทำโดยมิได้ตั้งใจ จนเป็นเหตุให้นายน๊อกซ์ต้องออกมาปฏิเสธนั้น และได้ถอนข้อกล่าวหาพระปรีชาในประเด็นที่ไปแต่งงานกับลูกสาวนายน๊อกซ์ทั้งหมด  แต่ปฏิเสธที่จะปล่อยตัว เพราะยังยืนยันความผิดของพระปรีชาในฐานที่ยักยอก บีบบังคับผู้อื่น และฆาตกรรม

สวรรค์ทรงทราบดี  ทั้งหมดนั้นไม่เป็นความจริง
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 25 มี.ค. 15, 15:56

กงสุลน๊อกซ์เริ่มมองเห็นว่าพระปรีชาคงพบจุดจบแน่ ถ้าเขาไม่เข้าไปช่วยปลดข้อหาอันหนักหน่วงนั้น  เขาจึงเล่นนอกบทปกติของข้าราชการอังกฤษ ด้วยการขมขู่จะนำเรือรบเข้ามายิงถล่มกรุงเทพ พระจุลจอมเกล้าฯทรงกระทำตรงกันข้ามกับความคาดหมายทั้งปวง ทรงปฏิเสธที่จะเกรงกลัว กงสุลน๊อกซ์จึงขอเข้าเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์ ทูลว่าพระเจ้าอยู่หัวกำลังนำความเสื่อมมาให้พระราชอำนาจของพระองค์เอง เพราะยอมตกเป็นเครื่องมือให้อดีตผู้สำเร็จราชการและบุคคลในตระกูล ใช้ทำลายล้างพระปรีชาและวงศาคณาญาติอย่างเหี้ยมโหด 

น๊อกซ์ยกคุณความดีที่ลูกเขยได้ปฏิบัติทั้งอดีตและปัจจุบันในการอุทิศตน รักษาไว้ซึ่งประโยชน์ของพระองค์  และท้วงว่าฝ่ายอดีตผู้สำเร็จราชการก็เคยทำแบบเดียวกันนี้ แล้วปรากฏความจริงว่าได้กระทำความผิด คดีแล้วคดีเล่า แต่ก็ได้รับพระราชทานอภัยโทษ
แม้นน๊อกซ์จะพูดเรื่องจริง แต่ความเกลียดชังที่พระองค์ทรงมีต่อพ่อตาทำให้ไม่ทรงนึกสงสารลูกเขยแม้น้อย น๊อกซ์จึงหมดปัญญา ทั้งขอร้องและข่มขู่อย่างไรก็ไร้ผล 

สองสามวันต่อมา เจ้าพระยาภาณุวงศ์น้องต่างมารดาของผู้สำเร็จราชการได้รับมอบหมายให้เดินทางไปลอนดอนเพื่อขอร้องมิให้รัฐบาลอังกฤษเข้าแทรกแซงขบวนการยุติธรรมของสยามในคดีพระปรีชา และขอให้ย้ายกงสุลน๊อกซ์ไปด้วย  เมื่ออัครราชทูตพิเศษกลับจากลอนดอนแล้ว เวลาใกล้เคียงกันนั้นกงสุลน๊อกซ์ก็หลุดจากหน้าที่ และหัวพระปรีชาหลุดจากบ่า

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เป็นเพราะเขาบังอาจแต่งงานกับลูกสาวของบุคคลที่พระเจ้าอยู่หัวเกลียดชังนั่นเอง
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 20  เมื่อ 25 มี.ค. 15, 15:59

รัฐบาลสยามสมควรได้รับการพิพากษาจากกรณีย์อันน่าเศร้าสลดนี้ หากพิจารณาด้วยใจเป็นธรรมจากวิธีการที่ประเทศนี้ปฏิบัติต่อคดีอื่นๆในอดีต  โดยที่ไม่จำเป็นต้องอ้างวิธีคิดของโลกในสมัยนี้ก็ได้

การตัดสินลงโทษพระปรีชากับครอบครัวอย่างป่าเถื่อนอย่างที่ปรากฏในขณะนี้ พวกสยามอาจอ้างว่าพระปรีชาให้การสารภาพ ว่าได้ขโมยทองคำของพระเจ้าอยู่หัวไปจริง  และญาติๆต่างรู้เห็นการยักยอกฉ้อฉลนี้  ทว่าคำสารภาพหรือปฏิเสธของชาวสยามก็เชื่อถือไม่ได้ จำเลยมักจะสารภาพในคดีอาชญากรรมซึ่งตนมิได้กระทำผิดแม้น้อย เพราะพวกเขารู้ดีว่าตนจะถูกกระทำทารุณกรรมอย่างสาหัสจนกว่าจะให้การรับสารภาพ 

การสอบสวนพระปรีชาได้รับการยอมรับจากผู้รู้เห็นเหตุการณ์ทุกคนว่าเป็นเรื่องตลกร้าย เพราะศาลไม่ยอมให้จำเลยซักค้านพยานโจทก์ผู้กล่าวหาเขาในเรื่องการฆาตกรรม หรือห้ามมิให้เขาอ้างความในสมุดเอกสารของตนเอง เมื่อให้การถึงบัญชีที่แสดงยอดรวมค่าใช้จ่ายในการทำเหมือง ความรู้สึกโดยทั่วไปของคนอังกฤษและอเมริกันที่นี่ก็คือ พระเจ้าอยู่หัวทรงอ่อนแอ โหดร้าย เป็นทรราชย์ที่ขี้ขลาด พระราชอำนาจก็เสื่อมไปเกือบสิ้นแล้ว และคงจะรักษาราชบัลลังก์ต่อไปได้อีกไม่กี่มากน้อย
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 21  เมื่อ 25 มี.ค. 15, 16:01

มีรายงานว่านางปรีชากลการหรืออดีตแฟนนี น๊อกซ์ ปลอดภัยดีอยู่ในอังกฤษพร้อมกับลูกและลูกๆของพระปรีชาซึ่งเกิดจากการสมรสครั้งก่อน โดยมีทรัพย์สินประมาณ๑๒๐,๐๐๐ เหรียญสหรัฐ ที่สามารถนำไปอังกฤษได้ในทันทีที่ทราบว่าตนตกเป็นหม้าย นางเป็นลูกครึ่ง มารดาเป็นชาวสยาม แต่ด้วยความฉลาดเฉลียว นางจึงเหมือนจะเป็นคนอังกฤษได้อย่างกลมกลืน มีข่าวแพร่ที่นี่ว่า อดีตกงสุลน๊อกซ์จะได้เป็นท่านเซอร์โทมัส จอชจ์ น๊อกซ์ในเร็วๆนี้ โดยมิได้กล่าวถึงว่านั่นเป็นการชดเชยกับการที่ถูกโยกย้ายในครั้งนี้หรือไม่
 
เรื่องทั้งหมดนี้แน่นอนว่าดูแปลก และโหดร้ายในความคิดของพวกแองโกลแซกซอน ยิ่งไปกว่านั้นยังเชื่อกันโดยทั่วไปว่าการประหารพระปรีชาครั้งนี้จะส่งผลกระทบทางลบกับพระจุลจอมเกล้าฯ

หลายหน้าจากจดหมายเหตุที่ไม่เป็นทางการในเรื่องการปกครองแบบเถื่อนๆของชาวตะวันออกนี้ อ่านแล้วอาจขำกลิ้งกับความไม่มีเหตุผลบนฐานของความยุติธรรม ถ้ามันไม่มีเลือดสาดกระเซ็นมาจากฉากอันน่าสพรึงกลัวเช่นนี้
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 22  เมื่อ 25 มี.ค. 15, 16:02

ต้นฉบับภาษาอังกฤษสามารถอ่านได้ที่ลิงก์ข้างล่างนี้  ยิงฟันยิ้ม

http://query.nytimes.com/mem/archive-free/pdf?res=9402EEDB1F31EE3ABC4A52DFB266838B699FDE
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 23  เมื่อ 25 มี.ค. 15, 16:07

ผมคงไม่ต้องลงระโยงอ้างอิงอะไรอีกต่อไป เพราะแพ้จังหวะคุณเพ็ญชมพู เสือปืนไวประจำห้อง

เรื่องราวของพระปรีชากลการเป็นที่รู้จักกันในวงเล่าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์พอสมควร โดยเฉพาะในเรือนไทยดอทคอม ที่เคยมีกระทู้เรื่องเกี่ยวกับพระปรีชากลการหลายหน จนบางท่านอาจเบื่อ  

ฉะนั้นเมื่อท่านอ่านเรื่องที่ฝรั่งในเมืองไทยเขียนแล้วส่งไปพิมพ์ในอเมริกา สำนวนแปลของผมข้างบนแล้ว ยังไม่ต้องตีโพยตีพายนะครับ  ถ้ามองข้ามถ้อยคำรุนแรงที่ผมพยายามเจือจางลงเยอะแล้วบ้าง ก็จะเห็นหลายประเด็นในสารคดีนั้นที่น่าติดตามกันต่อ อย่างน้อยขอให้อ่านข้างล่างนี้ก่อน เป็นคำแปลหนังสือถวายรายงานของลอร์ดซอลสบรี ยังสมเด็จพระนางเจ้าวิกตอเรีย แห่งสหราชอาณาจักร ในเรื่องเกี่ยวกับกงสุลน๊อกซ์  ตามที่เจ้าพระยาภาสกรวงศ์ (พร บุนนาค) อัครราชทูตพิเศษของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เดินทางจากกรุงเทพไปเพื่อขอเข้าเฝ้าถึงกรุงลอนดอน
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 24  เมื่อ 25 มี.ค. 15, 16:13

Knox story as told by Lord Salisbury to the Queen

……มีอีกตำแหน่งหนึ่งซึ่งต้องหาคนมาแทนโดยเร็ว คือกงสุลใหญ่ประจำสยาม เกิดมีปัญหาที่ชวนสงสัยขึ้นในกรุงเทพ ซึ่งทำให้ราชทูตคณะเล็กๆต้องเดินทางมาเฝ้าใต้ฝ่าละอองพระบาทเมื่อสองสามวันที่แล้ว

นายน๊อกซ์กงสุลใหญ่ผู้มีธิดาซึ่งเกิดจากภรรยาคนไทย ชื่อนางเฟนนีผู้ซึ่งโดยเต็มใจ และด้วยความรักที่มีต่อขุนนางสยามชื่อพระปรีชา ข้าหลวงจังหวัดหนึ่งผู้ยักยอกทองคำจากเหมืองทองภายใต้ความรับผิดชอบ มูลค่าประมาณ ๒๐๐,๐๐๐ปอนด์  แล้วมีความวิตกกังวลว่าจะถูกจับได้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็คงจะถูกตัดศีรษะ  จึงคิดว่าสิ่งที่จะทำให้ตนหลุดรอดก็คือแฟนนี เขาจึงได้เสียกับเธอและรับจะเลี้ยงดู แต่นายน๊อกซ์ปฏิเสธ ดังนั้นเขาจึงโน้มน้าวให้เธอให้หนีตามเขาไปโดยเรือยอร์ชกลไฟ โดยให้นอนกับภรรยาอื่นที่เขามีอีกจำนวนมากหนึ่งคืน หลังจากนั้นนางก็ขอประนีประนอมกับบิดา และนายน๊อกซ์ก็ถูกบีบให้ยอมรับลูกเขย

(ล่าง-เจ้าพระยาภาสกรวงศ์ อัครราชทูตพิเศษ ตีพิมพ์ในวารสารVanity ที่ออกในอังกฤษช่วงนั้น)


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 25  เมื่อ 25 มี.ค. 15, 16:15

รัฐบาลสยามไม่ยอมรับการกระทำแบบชายชู้ต่อผู้แทนของต่างประเทศ พระปรีชาจึงถูกเฆี่ยนในที่สาธารณะ ๓๐ที  แต่นายน๊อกซ์กลับไม่ยอมรับการชดเชยต่อการเสื่อมเสียเกียรติยศนี้อย่างที่ควร  ตรงกันข้าม เขาแสดงความเดือดดาลที่รัฐบาลสยามไม่ให้ความเคารพ ๑ ไม่สอดส่องดูแลทำให้เกิดปัญหาขึ้นในบ้านของเขา ๒ แล้วยังเฆี่ยนลูกเขยเขาเสียอีก

เขาเรียกร้องคำขอโทษโดยทันที และให้ปล่อยตัวพระปรีชา ผู้ซึ่งกำลังถูกดำเนินคดีเรื่องเหมืองทองคำและถูกคุมขังอยู่  เมื่อรัฐบาลสยามปฏิเสธ เขาได้สั่งการให้เรือรบหลวงเข้าไปกรุงเทพ แต่ยังโชคดี หากลอร์ดซอลสบรีมิได้ทราบเรื่องนี้อย่างทันท่วงที และได้สั่งการทางโทรเลขให้ระงับเสีย เขาก็อาจจะดำเนินการต่อไปถึงขั้นรุนแรง
 คณะราชทูตสยามจึงได้มาประท้วงในเรื่องนี้และนายน๊อกซ์ก็จะต้องกลับบ้านมาอธิบายด้วยตนเอง แต่ดูเหมือนเขาจะมีโอกาสน้อยมากที่จะได้กลับไปกรุงเทพอีกภายหลังโดนข้อกล่าวหา 

สุดท้ายที่ได้รับรายงานเรื่องนี้คือ พระปรีชาได้มอบเอกสารที่อาจจะทำให้ประนีประนอมยอมความกันได้นั้น ให้นางแฟนนีเก็บไว้ แล้วนางปฏิเสธที่จะนำให้ศาลพิจารณา โดยอ้างเอกสิทธิ์ว่าตนอยู่ในความคุ้มครองของประเทศอังกฤษ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 26  เมื่อ 25 มี.ค. 15, 16:17

อ่านแล้วเห็นไหมครับว่า สายข่าวของฝรั่งด้วยกันแท้ๆยังมีมุมมองที่ต่างกัน แล้วรายงานกลับไปประเทศต้นสังกัดด้วยรายละเอียดที่ไม่เหมือนกันแทบจะเป็นคนละเรื่อง  ส่วนที่คนไทยก็พอกัน เขียนหลายสำนวน จนอ่านแล้วไม่ทราบว่าตกลงเรื่องราวจริงๆมันอะไรเป็นอะไร

อันที่จริง ในหอจดหมายเหตุแห่งชาติมีเอกสารข้อมูลชั้นต้นครบ เป็นบันทึกพระราชกรณีย์กิจสมัยรัชกาลที่ ๕ ซึ่งมีอยู่ค่อนข้างจะสมบูรณ์มากโดยเฉพาะเรื่องราวของพระปรีชากลการ แต่ต้องนำมาปะติดปะต่อกันหลายฉบับหน่อย เพราะเป็นจดหมายเหตุบ้าง พระราชหัตถเลขาถึงคนโน้นคนนี้บ้าง การเรียบเรียงเรื่องราวจากเอกสารขั้นปฐมภูมินี้ จะได้ความใกล้เคียงความจริงที่สุด เพราะไม่มีใครจะสามารถประดิษฐ์เรื่องเท็จขึ้นได้ในเอกสารนับสิบๆฉบับที่เขียนขึ้นโดยบุคคลต่างๆ ตลอดระยะเวลาที่ต่างกันเป็นปีๆ

ดังนั้น คดีพระปรีชาที่ผมจะนำเสนอใหม่ในเรือนไทยดอทคอมในอันดับต่อไป น่าจะมีอะไรๆที่แตกต่างจากที่คนอื่น รวมทั้งตัวผมเองที่เคยเขียนๆไว้
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 27  เมื่อ 25 มี.ค. 15, 16:19

เชิญทุกท่านร่วมสนทนาครับ
บันทึกการเข้า
visitna
นิลพัท
*******
ตอบ: 1724


ความคิดเห็นที่ 28  เมื่อ 25 มี.ค. 15, 17:13

ถึงแม้มีศัตรูไม่มากแต่ถ้าท่านผู้นั้นคือสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ น่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 29  เมื่อ 25 มี.ค. 15, 20:15

เห็นด้วยครับ

ผมได้บรรเลงโหมโรงจบไปแล้ว ต่อไปจะเข้าเนื้อเรื่องโดยจะไปช้าๆ เพื่อเปิดโอกาสให้ท่านผู้อ่านเข้ามาในกระทู้ได้โดยไม่ถือว่าเป็นการขัดจังหวะ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 24
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.079 วินาที กับ 19 คำสั่ง