เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
อ่าน: 9082 จากบทความ"เสรีไทย"
ถาวภักดิ์ t_tiyabhorn@yahoo.com
บุคคลทั่วไป
 เมื่อ 28 ก.ย. 00, 12:00

เคยอ่านเกี่ยวกับเสรีไทยฝ่ายอังกฤษ จากบทความของเสรีไทยที่อยู่ในกองทัพอังกฤษ 2-3 ท่าน  ทำให้เห็นได้ชัดเจนถึงความสนใจเอาแต่ผลประโยชน์เข้าตัวเองของฝรั่งชาตินี้  

เสรีไทยในกองทัพอังกฤษต้องรับการฝึกอย่างหฤโหด ในหลักสูตรหน่วยคอมมานโด  และต้องปฎิบัติภาระกิจเสี่ยงชีวิต  บางท่านก็ตายในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่  หากทางการอังกฤษก็ได้แต่ปูนบำเหน็จ เลื่อนยศให้เสมือนเป็นทหารของตน  ไม่ได้มองว่าเป็นชนชาติของฝ่ายพันธมิตร  ดังเจตนารมณ์ของเหล่าเสรีไทยที่เสียสละเข้าช่วยรบ   โดยเมื่อสงครามยุติ อังกฤษได้กระทำต่อประเทศไทยดังประเทศผู้แพ้สงคราม  พยายามจะเข้ามาควบคุม  และเรียกร้องค่าปฏิกรณ์สงคราม  ดีที่ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ได้เดินหมากทางการเมืองไว้อย่างแยบยลในอเมริกา  ด้วยการไม่ประกาศสงครามกับอเมริกา ตามคำสั่งของรัฐบาลของจอมพล ป.  พร้อมทั้งได้ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นในอเมริกา
จึงได้อเมริกาหนุนหลัง พอพยุงฐานะของประเทศไม่ให้ตกต่ำไปมากนัก

คุณประโพธิ เปาโรหิตย์ (ไม่แน่ใจตัวสะกด) อยู่ในคณะเสรีไทยชุดแรก  ที่สามารถแทรกซึมเข้ามาปฏิบัติการในประเทศไทยได้สำเร็จ  ด้วยการจัดตั้งฐานลับบนภูกระดึง  เป็นทั้งคลังอาวุธ และค่ายฝึกกำลังพล เตรียมการกองกำลังต่อต้านญี่ปุ่น

อาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์เป็นเสรีไทยสายอังกฤษอีกท่านหนึ่งที่กระโดดร่มเข้ามาเพื่อปฏิบัติการในประเทศ   หากได้รับบาดเจ็บขณะลงถึงพื้น  และถูกชาวบ้านผู้หลงผิดตามคำโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลจอมพล ป. รุมทำร้าย เพราะมองว่าท่านเป็นคนไทยขายชาติ เป็นแนวห้าให้ชาติศัตรู  แม้ท่านจะมีทั้งปืนกล และระเบิดมือ  แต่ด้วยความเมตตาเพื่อนร่วมชาติ ท่านจึงไม่ยอมต่อสู้  ยอมรับการเตะถีบ จับกุมแต่โดยดี

เหล่าเสรีไทยสายอังกฤษ  โดยเฉพาะผู้ที่ได้เข้ามาปฏิบัติภาระกิจในประเทศไทย  ล้วนได้รับการเลื่อนยศ และเหรียญกล้าหาญจากกองทัพอังกฤษ  แต่เป็นที่น่าสังเกตุว่า ท่านเหล่านี้มิได้แสดงความภาคภูมิใจในยศและเหรียญตรานั้นเลย

ถ้าจะให้เดา  ก็น่าจะเป็นเพราะความขมขื่นที่ได้รับจากการกระทำของประเทศอังกฤษต่อมาตุภูมิของตน
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 19 ก.ย. 00, 00:00

ปัจจุบันเกือบไม่มีคนรุ่นใหม่ทราบแล้วละค่ะว่า ใครคือเสรีไทยกันบ้าง  ดิฉันเองก็เพิ่งทราบตอนไปค้นเรื่องนี้มาลง
ขอทยอยลงรายชื่อเสรีไทย(สายอเมริกา) รุ่นแรกก่อนนะคะ
๑  อานนท์ ณ ป้องเพชร
๒ บุญรอด บิณฑสัณห์
๓ บุญเลี้ยง ตามไท
๔ บุญเย็น   ศศิรัตน์
๕ การะเวก ศรีวิจารณ์(เสียชีวิตขณะปฏิบัติงาน)
๖ จก ณ ระนอง
๗ จำรัส ฟอลเล็ต
๘ เอี่ยน  ขัมพานนท์
๙  ม.ล,เอกชัย กำภู
๑๐  จินตมัย  อมาตบกุล
๑๑ ม.จ. ยุธิษเฐียร สวัสดิวัตน์
๑๒  จำรูญ ดิษยนันท์
๑๓  การุณ เก่งระดมยิง
๑๔  นิธิพัฒน์ ชาลีจันทร์
๑๕ พิเศษ ปัตตะพงษ์
๑๖ โผน  อินทรทัต
๑๗ พิสุทธิ์ สุทัศน์ ณ อยุธยา
๑๘  เป้า  ขำอุไร
๑๙  สมพงษ์ ศัลยพงษ์ (เสียชีวิตขณะปฏิบัติงาน)
๒๐ สวัสดิ์ เชี่ยวสกุล
๒๑ วิเชียร วายวานนท์
บันทึกการเข้า
GSX
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 19 ก.ย. 00, 00:00

เสรีไทยสายอังกฤษเริ่มแรกมีชื่อเรียกกันว่า Free Siamnese movement เพราะอังกฤษยังติดกับคำว่าประเทศสยามอยู่ แต่ในเอกสารทางราชการของอักกฤษเรียกเสรีไทยสายอังกฤษว่า Thai Resistance Movement
ส่วนเสรีไทยสายอเมริกามีชื่อว่า Free Thai Movementมาตั้งแต่แรก
บันทึกการเข้า
ถาวภักดิ์
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 19 ก.ย. 00, 00:00

บทความเกี่ยวกับชีวิตการเป็นเสรีไทยของคุณประโพธิ เปาโรหิตย์ มักไม่เป็นที่รู้จัก ในหมู่ผู้ค้นคว้าเรื่องเสรีไทย  ด้วยท่านได้เขียนแฝงไว้ในนิยายอิงประวัติศาสตร์ "สมบัติเจ้าพระฝาง" โดยใช้นามปากกาว่า"นวลแสงทอง" (ถ้าผมจำไม่ผิด)  และรู้สึกว่าจะพิมพ์จำหน่ายโดยสำนักพิมพ์โลกทิพย์

ผู้ที่อ่านจึงไม่ทราบว่าการที่ตัวเอกของเรื่องได้กล่าวถึงชีวประวัติ  ตั้งแต่การเข้าร่วมอยู่ในกองทัพอังกฤษ  การรับราชการเป็นตำรวจสันติบาล   จนถึงการเข้าทำงานกับบริษัทลีเวอร์ฯ  นั่นล้วนมาจากชีวิตจริงของท่านผู้แต่ง

เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญู ต่อผู้เสียสละให้กับประเทศ  หากผู้ค้นคว้าท่านใดได้อ่านหนังสือดังกล่าวแล้วไม่แน่ใจในส่วนใด จะสอบถามผม  ก็จะยินดีช่วยหาความกระจ่างให้  สิ่งใดที่ผมไม่สามารถตอบเองได้ ก็จะไปขอความกรุณาสอบถามจากภรรยาหม้ายของท่านให้
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 19 ก.ย. 00, 00:00

ขอบคุณค่ะคุณ GSX ดิฉันได้คำแปลชื่อเสรีไทยมาจากบันทึกของ นอ.วิมล วิริยะวิทย์ เสรีไทยสายอเมริกา รุ่น ๒
ท่านบอกว่า ชื่อ เสรีไทย = Free Thai
ขบวนการเสรีไทย = Free Thai Movement ค่ะ

คุณถาวภักดิ์คะ  คุณประโพธิเล่าหรือเปล่าว่าทางการบ้านเมืองได้ปูนบำเหน็จความดีความชอบให้เสรีไทยอย่างไรบ้าง เมื่อสงครามจบแล้ว
บันทึกการเข้า
GSX
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 19 ก.ย. 00, 00:00

เท่าที่้เคยได้ยินมาจำได้ว่าเสรีไทยสายปรีดี หลายคนเริ่มมีบทบาททางการเมืองหลังสงคราม แล้วพอหลังจากที่ท่านปรีดีถูกให้ออกนอกประเทศไปแล้วนั้น เสรีไทยบางส่วนถูกรัฐบาลของจอมพล ป. เก็บไปก็มี อันนี้ฟังเค้ามาอีกที่ไม่มีรายละเอียด
บันทึกการเข้า
ลุงแก่
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 19 ก.ย. 00, 00:00

คำให้สัมภาษณ์ มรว. เสนีย์ ปราโมช
ถาม - "ท่านถูกขอไปนี่เพื่อทำงานเสรีไทยหรือเปล่าคะ"
ตอบ - "เปล่าผมทำของผมเอง จอมพล ป. ท่านเข้าข้างญี่ปุ่น
ยังตัดเงินเดือนของผมเลย ตอนนั้นผมมีโทษประหารอยู่ ถ้ากลับมา
ก็ถูกยิงเป้าแน่เลย"

สั้นๆ แค่นี้แหละครับ บังเอิญอ่านพบ
 
บันทึกการเข้า
ถาวภักดิ์
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 19 ก.ย. 00, 00:00

คุณประโพธิ  ท่านไม่ได้เล่าไว้เลยครับ  แต่เท่าที่ได้ยินมา  ก็ไม่ปรากฎว่าเหล่าเสรีไทย จะได้รับการเชิดชู  หรือบำเหน็จเป็นพิเศษแต่อย่างใด   กลับจะเป็นภัย และเป็นที่เพ่งเล็ง  ในยุคจอมพล ป. กลับมาเรืองอำนาจ  ดังที่คุณGSXกล่าว
บันทึกการเข้า
หนอนต้อม
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 19 ก.ย. 00, 00:00

ขอแสดงความเห็นแบบส่วนตัว ส่วนตัว ของผมหน่อยนะครับ
ผมอยากมองว่า เสรีไทย เป็นตัวอย่างอีกครั้งของการแตกความสามัคคีของคนไทยเราเอง
 จริงอยู่ เสรีไทยช่วยไม่ให้เราตกอยู่ในสภาพประเทศผู้แพ้สงคราม
ทำให้เราไม่ต้องประสบความลำบากยากเข็ญแบบประเทศญี่ปุ่น
แต่มองอีกแง่ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันร่วมรับความลำบากนั้นมิใช่หรือ ที่ทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในทุกวันนี้
ปัจจุบัน ก็ยังเห็นเรื่องแบบนี้อยู่เสมอในประเทศไทย ต่างฝ่ายต่างอ้างว่ารักชาติ ต่างฝ่ายก็พยายามใช้วิธีของตัว ไม่พยายาม ประสานเข้าหากัน ผมไม่รู้เรื่องของเสรีไทยมากนัก แต่ที่หลาย ๆ คนบอกว่าเสรีไทยถูกลอบฆ่ามากมาย หลังสงครามสิ้นสุด ก็น่าจะชี้ว่า เกิดอะไรขึ้น
ผมไม่อยากสรุปว่าฝ่ายใดถูก ฝ่ายใดผิด ถ้าเราไม่มีเสรีไทย แล้วประเทศเราจะเป็นอย่างไร ก็บอกไม่ได้ เพราะเรื่องทั้งหมดเป็นอดีตไปแล้ว เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ แต่อยากเราสามัคคีกันรักชาติในปัจจุบันมากกว่า ไม่ใช่ต่างคนต่างรัก ต่างคนต่างทำ แล้วผลก็ออกมาอย่างที่เป็นอยู่
 
บันทึกการเข้า
นกข.
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 22 ก.ย. 00, 00:00

คุณหนอนต้อมชอบมองต่างมุมแฮะ ไม่ว่ากันครับ สนุกดี
ผมกลับคิดว่าการมีเสรีไทยขึ้น อย่างน้อยในช่วงแรกๆ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความรักชาติของคนไทย มากกว่าจะมองว่าเป็นการแก่งแย่งแตกกันเอง ส่วนว่ารักชาติแล้วอาจจะไม่ค่อยประสานงานกันเท่าไหร่ในการปฏิบัติ(หรือว่าสมัยหลังสงครามแล้วมีการช่วงชิงอำนาจเข่นฆ่ากัน) นั้น เป็นอีกเรื่อง ผมว่าคุณหนอนต้อมคงต้องทำใจว่า นิสัยประจำชาติพวกเราก็ยังงี้แหละ ผมยังคิดอยู่ว่า มีเสรีไทยแตกออกมาน่าจะดีกว่า ถ้าคุณหนอนต้อมต้องการให้คนไทยเป็นเหมือนอย่างคนเยอรมัน คนญี่ปุ่น เชื่อผู้นำชาติพ้นภัย เดินต้อยๆ ตามกันไปลงเหวทั้งชาติ ผมว่าคงไม่สนุกครับ ญี่ปุ่นเจอเอาระเบิดปรมาณูเข้าไป และเยอรมันบ้านเมืองยับเยินพินาศหมดไม่ใช่เพราะอย่างนั้นหรือครับ อีกอย่าง นิสัยคนไทยก็ไม่ให้ที่จะเป็นอย่างนั้นด้วยดังกล่าวแล้ว ถ้าคุณหนอนต้อมบอกว่าอยากให้คนไทยสามัคคีร่วมเผชิญภัยสงคราม คุณหนอนต้อมต้องไปบอกจอมพล ป. ตอนนั้น เพราะถ้าท่านสู้ ไทยคนอื่นก็คงร่วมกับท่านสู้ด้วย (ก่อน 7 ธค. ไทยประกาศตัวเป็นกลางและจอมพล ป. ตั้งท่าจะสู้อย่างเข้มแข็งนะครับ ที่สู้ไปแล้วก็มี วรีกรรมยุวชนทหารนั่นไง แต่ท่านมาเปลี่ยนใจตอนหลัง) แต่นี่เพราะคนไทยคนอื่นตอนนั้นเขาเห็นว่าท่านไปยอมญี่ปุ่นหมดแล้วน่ะสิครับ เขาเห็น (จะเห็นผิดหรือถูกก็แล้วแต่) ว่ารัฐบาลจอมพล ป. กลายเป็นหุ่นญี่ปุ่น หรือระบอบวิชีไปแล้ว เขาถึงต้องดิ้นรนหาทางสู้ของเขากันเอง คุณจะโทษว่าเสรีไทย "แตกสามัคคี" ออกไปจากการนำของรัฐบาลหลวงพิบูลฯ หรือ ฟังแปลกๆ นะ (เรื่องเหตุผลต่างๆ ที่จอมพล ป.พิจารณาแล้วตัดสินใจยอมญี่ปุ่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง) และหลังสงครามแล้ว ส่วนหนึ่งเพราะมีเสรีไทย บ้านเมืองเราหลังสงครามจึงไม่บอบช้ำมากนัก
ทีนี้ว่าถึงเรื่องการร่วมกันรับความทุกข์ร้อนด้วยกันทั้งชาติ ซึ่งทำให้ญี่ปุ่นกับเยอรมันฟื้นตัวเร็ว ผมมองว่าเป็นคนละตอนกับตอนสงครามแล้วครับ ผมเห็นด้วย ว่าการร่วมกันสามัคคีสู้หน้าวิกฤตของชาติเป็นเรื่องดี แต่ทั้งนี้ คนที่เป็นแกนต้องมีภาวะผู้นำสูงและสามารถทำให้คนอื่นเห็นว่าเขามีความชอบธรรมในการนำ ถ้าตัวเองสูญเสียความน่าเชื่อถือในการนำไปเอง จะไปโทษว่าคนอื่นที่เขาทนดูชาติย่อยยับไม่ได้ "แตกสามัคคี" ออกไป ก็คงไม่ได้มั้งครับ  
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 22 ก.ย. 00, 00:00

ขอต่อประเด็นของคุณนกข.
ดิฉันอ่านพบในหนังสือประวัติของหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์  ในนั้นบันทึกการประชุมของคณะรัฐมนตรีตอนญี่ปุ่นบุกไทย   ในนั้นบอกหมดว่าใครพูดอะไร ค้านอะไร แถลงอะไรบ้าง  อ่านแล้วก็พิศวงว่า หลายๆคนในนั้นพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า  อย่าสู้เขาเลยไม่มีทาง  สู้ไปก็แพ้แน่   ทั้งที่ก่อนหน้านี้ นกยรัฐมนตรีก็ประกาศให้ไทยสู้สุดใจขาดดิ้น  ทำให้คนไทยจำนวนหนึ่งที่สู้ตามนโยบายแรก เสียชีวิต อย่างยุวชนทหาร
แต่ในบันทึกการประชุมไม่ได้บอกว่า มีข้อมูลอะไรทำให้มีบุคคลสำคัญหลายคนเห็นว่า สู้ไปก็แพ้
บันทึกการเข้า
GSX
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 23 ก.ย. 00, 00:00

อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับพอดีไม่ได้มีหนังสืออยู่ใกล้ๆให้ค้นด้วย สมัยนั้นกองทัพญี่ปุ่นยิ่งใหญ่มากยึดจีนได้ บุกไปบอมบ์เพิร์ลฮาเบอร์ แถวๆเอเชียนี่ก็โดนญี่ปุ่นโจมตีกันถ้วนหน้า อีกอย่างทหารที่รบให้กองทัพจักพรรดิ์ญี่ปุ่่นนั้นเตรียมตัวมาชนะหรือไม่ก็ตาย ดังนั้นจึงเป็นนักรบที่เหี้ยมโหดกับศัตรูมาก ผมเคยดูภาพสารคดีเกี่ยวกับทหารญี่ปุ่นในสงคราม เค้าฝึกกันโหดมาก ยิ่งการใช้ดาบปลายปืนเนียแล้วดูแล้วน่ากลัว คือเค้าจะแต่งชุดเหมือนกับเคนโด คือมีเกราะเต็มตัว แต่จะไม่ใช้ดาบไม้ แต่จะเปลี่ยนเป็นปืนที่ทำจาำกไม้ยาวๆ แล้ว ก็ซ้อมตะลุมบอนกัน ใช้พานท้ายตีกันเอาปลายดาบปลายปืน(ปลอม)แทงกันอย่างแรงเห็นเล่นกันคว่ำไปเลย ดูแล้วน่ากลัวมาก(เป็นคล้ายๆภาพที่ญี่ปุ่นเก็บเอาไว้) พวกนี้เวลาประจันบานแล้วถ้าตัวเองจะตายก็ต้องพุ่งตัวเอาดาบปลายปืนหรือดาบคัทตาน่า แทงให้ทหารศัตรูตายไปกับตนด้วยอย่างน้อยคนหรือ2คน คล้ายๆนักรบกามิกาเซ่ คือตัวตายไม่ว่าแต่ข้าศึกต้องตายด้วย (แต่ทหารอเมริกันมีปืน11มม.ใช้ป้องกันพวกนี้ได้คือยิงโดนปุ๊ปร่างจะกระเด็นไปอีกทางหรือไม่ก็กองตรงนั้นเลยซามูำไรไม่มีโอกาสเข้าแทง)
คาดว่าผู้ใหญ่หลายท่านในที่ประชุมน่าจะทราบข้อมูลทางการทหารของญี่ปุ่นดีเลยคิดว่าโอกาสที่กองทัพไทยจะชนะนั้นมีน้อยมาก หรืออาจไม่มีเลยก็เป็นได้ ดังนั้นจึงลงความเห็นว่าสู้ไปก็แพ้ อีกอย่างสมัยนั้นกองทัพไทยยังไม่ได้มีประสิทธิภาพสูงมากนัก กองทัพไทยเำพิ่งจะมาพัฒนาได้เท่ากับประเทศพัฒนาแล้วก็ตอนช่วงสงครามเวียดนามแล้ว  ซึ่งอเมริกามีส่วนมากในการปรับปรุงช่วยเหลือด้านการทหาร เพราะช่วงนั้นเราเป็นกันชนอยู่ระหว่างคอมมิวนิสต์กับเสรีนิยมกองทัพไทยจึงได้อาวุธและระบบที่ทันสมัยที่สุดในขณะนั้นมาใช้
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 23 ก.ย. 00, 00:00

ไปเปิดหนังสือ "ชีวิตและงานของพลเรือตรีหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์"อีกทีหนึ่ง ขอคัดบางส่วนมาให้อ่าน
ความคิดเห็นของคุณ GSX ตรงกับความคิดของบุคคลในคณะรัฐมนตรีหลายๆคนค่ะ
พล ต.ต. อดุล อดุลเดชจรัส - "กองทัพเรือของอเมริกาก็ดี ดัทช์ก็ดี   หรือกองทัพเรืออังกฤษก็ดี  ไม่สามารถที่จะมาช่วยไทยในอ่าวไทยได้...ผมเห็นว่าควรจะพูดจาผ่อนไปบ้างตามสมควร เพราะเราขืนสู้ก็สู้ไม่ได้  และไม่มีใครเขาช่วยเราได้อย่างเต็มที่"
พล ต พิชิต เกรียงศักดิ์พิชิต  - เท่าที่ท่านนายกรัฐมนตรีบอกแล้วว่าถ้าสู้  เราก็สู้ไปไม่กี่น้ำ  ถ้าไปอย่างนี้บางทีจะมีทางบ้างกระมัง"
นายดิเรก ชัยนาม - ผมคิดว่าสู้นั้นเราสู้ไม่ไหว  อย่างที่ท่านนายกเคยกล่าวแล้ว...แต่การที่จะบังคับให้เราร่วมรบนั้นเรายอมไม่ได้
 
บันทึกการเข้า
นิลกังขา
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 24 ก.ย. 00, 00:00

แม้แต่หลังวันที่ 7 ธค. เมื่อเราหยุดยิงกับญี่ปุ่นและจำยอมให้ทัพญี่ปุ่นผ่านทางไปตีสัมพันธมิตรแล้ว ผมว่า ผู้ใหญ่ฝ่ายที่เห็นว่าจำเป็นต้องมีเสรีไทยก็ยังคงเข้าใจจอมพล ป. อยู่ ว่าเราจำเป็นจำทำเพราะจำใจ ซึ่งยังพอจะอธิบายฝ่ายสัมพันธมิตรได้ หลังจากนั้นแล้วต่างหาก ที่รัฐบาลตัดสินใจเข้าเป็นพันธมิตรญี่ปุ่นกอดคอร่วมรบกับสัมพันธมิตร ประกาศสงครามกับอเมริกาอังกฤษ นั่นต่างหาก ที่ความจำเป็นต้อง "แตกสามัคคี" ไปจัดตั้งเสรีไทยปรากฏชัดขึ้นมา เพราะจะหวังพึ่งรัฐบาลก็ประกาศตัวกลายเป็นพวกญี่ปุ่นไปเต็มตัวแล้ว อย่างน้อยในระดับทางการ แต่ลึกๆ คนในรัฐบาลเองหลายฝ่าย เช่น พล.ต.อ หลวงอดุลฯ อธิบดีตำรวจ ท่านก็รู้เห็นเป็นใจกับฝ่ายเสรีไทยอยู่ด้วย - ซึ่งผมแปลว่า ที่จริง ไม่ใช่แตกสามัคคีเสียทีเดียวนะครับ ก็ยังแอบๆ ประสานกันอยู่บ้างนะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 24 ก.ย. 00, 00:00

มาถึงตอนที่คุณนิลกังขาเล่าแล้วยังติดใจอยู่ว่า  รัฐบาลจำใจ  ถูกบังคับให้เป็นพันธมิตร หรือว่าสมัครใจเข้าไปเอง เพราะเชื่อว่าญี่ปุ่นจะชนะกันแน่คะ
ที่ถามเพราะยังค้นตำราไม่พบค่ะ
ส่วนเรื่องเสรีไทย เคยถามอาจารย์ทางประวัติศาสตร์  ท่านบอกว่าพอสงครามสงบ  ใครต่อใครก็มาเปิดเผยตัวกันใหญ่กว่าเป็นเสรีไทย  แม้บางกระแสก็ยังมีข่าวว่าจอมพลป.เป็นเสรีไทย(แบบซ่อนเร้น) ด้วยเหมือนกัน
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.078 วินาที กับ 19 คำสั่ง