เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 [3]
  พิมพ์  
อ่าน: 11325 ตำนานญี่ปุ่น:ชายในระฆัง
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 30  เมื่อ 13 ธ.ค. 14, 13:10


    บรรดาพระลูกวัดเห็นเช่นนั้นก็เข้ามาช่วย   โดยเอาตัวอันจินเข้าไปซ่อนไว้ในระฆังใบใหญ่ของวัด  เพื่อไม่ให้นางมังกรเจอเข้า
นางมังกรก็เลื้อยไปทั่ววัดเพื่อจะดมกลิ่นของอันจิน   จนในที่สุดได้กลิ่นมาจากระฆังใบใหญ่ นางจึงเลื้อยมารัดรอบระฆังไว้ แล้วพ่นไฟจนระฆังมอดไหม้ไปพร้อมกับชายที่อยู่ข้างใน ก็กลายเป็นเถ้าถ่านไปด้วย

อีกเวอร์ชันหนึ่งเล่าว่า

เมื่อนางพญางู (ตามรูปน่าจะเป็นงูใหญ่) ตามมาถึง ถามหาอันจิน แต่หาไม่พบ ด้วยความโกรธแค้น เห็นระฆังตั้งอยู่ จึงพ่นไฟแผดเผาระฆังจนมอดไหม้ โดยรู้ไม่ว่าชายคนรักที่เธอเฝ้าตามหาได้หลบอยู่ในนั้น  เป็นโศกนาฏกรรมที่หญิงสาวเป็นฆาตกรฆ่าคนรักของตัวเองที่เป็นนักบวช

เวอร์ชันนี้น่าจะสะเทือนใจกว่าเวอร์ชันแรก  ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 31  เมื่อ 13 ธ.ค. 14, 13:26

เวอร์ชั่นของเซนเซเพ็ญช่วยบรรเทาความผิดของคิโยะลงไปมาก     แต่เวอร์ชั่นที่หลวงพ่อเจ้าอาวาสเล่าให้ฟังคือเวอร์ชั่นที่ดิฉันเล่าค่ะ
หลวงพ่อยังให้โอวาทแถมท้ายเรื่องว่า เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่าปล่อยให้อารมณ์โกรธเข้าครอบงำ อย่างที่คิโยะเป็น  เพราะมันมีพิษสงพอจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างรวมทั้งตัวเราด้วย   ขอให้ระงับอารมณ์โกรธให้ได้ 
สาธุ เห็นด้วยกับหลวงพ่อเรื่องอารมณ์โกรธ   แต่ไม่เห็นด้วยว่าเรื่องนี้ควรโทษอารมณ์ของคิโยะฝ่ายเดียว     ก็ถ้าไม่มีหลวงพี่อันจินไปก่อเหตุ  คิโยะก็คงดำเนินชีวิตไปได้อย่างสงบจนแก่ตายไปตามสภาพ     
ใครล่ะไปหลอกเธอ ทั้งๆตัวเองก็เป็นพระ น่าจะรู้บาปบุญคุณโทษ     เมื่อเปลี่ยนใจไม่สมัครใจจะครองเรือน แทนที่จะกล้าหาญมาสารภาพกับคิโยะตรงๆว่าคิดผิดไปแล้ว  ก็ใช้วิธีหนีหัวซุกหัวซุน     หลอกหนนึงยังไม่พอ  ยังหยามน้ำหน้าเธอเป็นคำรบสอง  ความผิดหวังกับความอับอายขายหน้าคิโยะก็ต้องรับอยู่ฝ่ายเดียว   ใครมันจะนั่งใจเย็นอยู่ได้

เรื่องนี้สอนอีกข้อว่า ผู้ชายทำอะไรก็ไม่ผิด   ขนาดนี้ตายแล้วยังไปเกิดเป็นเทวดาอีกแน่ะ
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 32  เมื่อ 13 ธ.ค. 14, 13:50

การพ่นไฟให้ระฆังไหม้ คงต้องมีอานุภาพไฟร้อนเป็นพันองศา เพื่อให้โลหะหลอมละลาย  ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 33  เมื่อ 14 ธ.ค. 14, 09:59

ถ้าเป็นพันองศา  อันจินคงไม่เหลือแม้แต่ขี้เถ้า


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 34  เมื่อ 14 ธ.ค. 14, 12:30

              นึกถึง นางพญางูขาวของจีนซึ่งไม่โหดแต่เศร้า

            งูขาวตามสามีมนุษย์มาที่วัดแต่ถูกหลวงจีนกีดกัน จึงต้องออกฤทธิ์แรงฟาดฟัน
โดยงูขาวใช้เวทย์เรียกน้ำ(ไม่ใช้ไฟ) แต่สุดท้ายนางก็พ่ายแพ้หลวงจีนและถูกกักขังไว้ใน
เจดีย์ งานนี้พระเอกรอด ส่วนงูขาวในที่สุดกว่าจะหลุดพ้นการกักกันได้ชายคนรักก็ล้มหาย
ตายจากแล้ว


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 35  เมื่อ 15 ธ.ค. 14, 16:54

สองเรื่องนี้มีส่วนคล้ายกัน จนสงสัยว่าจะมี่ที่มาที่เดียวกันหรือเปล่า     
เรื่องของอันจินและคิโยะ ยังนำมาทำละครร่วมสมัยด้วยค่ะ

http://www.examiner.com/review/dojoji-the-man-inside-the-bell-a-japanese-legend-1


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 36  เมื่อ 15 ธ.ค. 14, 17:07

ก่อนจบกระทู้   มีภาพมาฝากเซนเซเพ็ญชมพู
ไปเที่ยวปราสาทโอซาก้า เจอคุณลุงนักรบโบราณ แต่งเสื้อเกราะแดง กำลังทำงานอยู่อย่างขะมักเขม้น   เลยไปขอถ่ายรูปมาเป็นที่ระลึก
คุณตามีหน้าที่รักษาความสะอาดของบริเวณโดยรอบพระราชวัง ก้มหน้าก้มตาทำงานแข็งขัน  เมื่อมีคนมาขอถ่ายรูป คุณตาก็มีท่าทีว่าเคยชินซะแล้วที่เป็นดาราหน้ากล้อง

ผลจากความก้าวหน้าทางสาธารณสุข โภชนาการดี หยูกยาการรักษาโรคก็ดี ทำให้ประเทศญี่ปุ่นมีผู้อายุยืนยาวเพิ่มจำนวนขึ้นมาก   ส่วนเด็กเกิดใหม่ก็น้อยลงเพราะหนุ่มสาวญี่ปุ่นไม่ค่อยนิยมมีลูกเป็นภาระกันเท่าไหร่   มีก็คนเดียวกันเสียมาก    ไปคราวหน้าเดินในเมืองเจอแต่หนุ่มสาวเต็มถนน   เห็นเด็กที่พ่อแม่เอาใส่รถเข็นมาคนเดียวเท่านั้น

ประเทศกำลังจะก้าวไปสู่สังคมคนสูงอายุ   รัฐบาลจึงต้องช่วยเหลือผู้สูงอายุให้ดำเนินชีวิตอย่างเป็นสุข  ดีกว่าอยู่กันไปอย่างซังกะตาย    วิธีการของเขาคือหางานให้ทำ เพื่อจะได้อยู่อย่างกระฉับกระเฉง มีความหมายมากกว่าหายใจไปวันๆ
ที่สนามบิน   จึงเจอคุณตาแก่ๆ มาทำหน้าที่จัดคิวผู้โดยสารซึ่งกำลังจะผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง     คิวนี้ยาว เอ้า เชิญไปทางโน้น  คิวนั้นยังสั้น   ยกที่กั้น จัดทางใหม่   ดูคุณตาทำงานอย่างกระฉับกระเฉง ไม่มีท่าทีเบื่อหน่าย
นี่คือปัญหาที่สังคมไทยจะต้องเผชิญในอนาคตอันใกล้ หรือเจออยู่แล้วก็เป็นได้


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.057 วินาที กับ 19 คำสั่ง