เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 [2] 3 4
  พิมพ์  
อ่าน: 38754 สิ้น "เสนีย์ เสาวพงศ์" ตำนานนักเขียนเมืองไทย
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 15  เมื่อ 04 ธ.ค. 14, 11:26

มารู้จัก "เสนีย์ เสาวพงศ์" ผ่านบทสัมภาษณ์  ยิงฟันยิ้ม



บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 16  เมื่อ 04 ธ.ค. 14, 13:31

พี่เสที่ผมรู้จัก โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์  จากหนังสือ  "๘๔ เสนีย์ เสาวพงศ์ ไฟยังเย็นในหัวใจ"


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 17  เมื่อ 04 ธ.ค. 14, 13:40

.


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 04 ธ.ค. 14, 16:49

แด่ คุณศักดิชัย  บำรุงพงศ์  “๙๐ ปี  เสนีย์  เสาวพงศ์”

๙๐  ปี    สง่าแม้น                จอมพล
เสนีย์     แห่งอักษรถกล          เกียรติก้อง
เสาว      รสแก่ปวงชน           คำชื่น
พงศ์      หนังสือต่างพร้อง        แผ่พื้นวรรณไสว

ทาน       ทนในนิ่งสู้             เผด็จการ
ตะวัน      เฉิดดวงฉมฉาน        ค่ำเช้า
ดอก       น้อยติดตามบาน       ดวงแบ่ง
หนึ่ง       ดอกพี่เร่งเร้า           เกิดน้องอสงไขย
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 04 ธ.ค. 14, 16:53

“เสนีย์ เสาวพงศ์”             ยืนดำรงมานานไกล
เสนีย์แห่งวรรณไผท            สง่างามทุกยามยิน
“ความรักของวัลยา”          หญิงมั่นกล้าในแผ่นดิน
“ปีศาจ”ผงาดสิ้น              ปรับชีวิตปรับปัญญา

“ดิน น้ำ และดอกไม้”         บานไสวเกินพรรณนา
“คนดีศรีอยุธยา”             คือสามัญอันยืนยง
ยืนยัน “ทานตะวัน            ดอกหนึ่ง”นั้นอันดำรง
“ขอให้การพายเรือฯ”คง     เป็นอมตะนิรันดร

เก้าสิบปีแห่งชีวิต             นิรมิตมวลอักษร
เยือกเย็นและเร่าร้อน         ประทับไว้ในทรงจำ
เป็นหลักแห่งวรรณศิลป์      และเป็นปิ่นแห่งวรรณกรรม
เป็นขวัญแห่งถ้อยคำ         และเป็นหมุดที่หมายจาร
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 20  เมื่อ 04 ธ.ค. 14, 16:56

ดั่งว่าเป็นทานตะวันดอกหนึ่ง
แหงนหน้าซึ่งสู้ตะวันอันฉายฉาน
พระอาทิตย์แผดกล้ามาช้านาน
ก็ทนทานต้านสู้ไม่รู้รา

ทานตะวันดอกใหญ่ก่อให้เกิด
ดอกเล็กเล็กบานเฉิดอยู่ทั่วหล้า
หากเป็นชายชื่อว่า “สาย  สีมา”
หากเป็นหญิงชื่อ “วัลยา” ประมาณกัน

เก้าสิบปีทานตะวันอันแข็งแกร่ง
เก้าสิบปียังมีแรงยังแฝงฝัน
เก้าสิบปียังมีใจต่อใจพลัน
เก้าสิบปียังยืนยันยังยืนยง

ขอจงเป็นทานตะวันอันอมตะ
บานสวยสะให้ใครใครได้ใหลหลง
ขอเกียรติคุณ “เสนีย์  เสาวพงศ์”
เด่นดำรงคู่ไทยไปชั่วกาล

ชมัยภร  แสงกระจ่าง
นายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย
๑๑ กรกฎาคม  ๒๕๕๑
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 21  เมื่อ 08 ธ.ค. 14, 11:01

นพ.ประจวบ มงคลศิริ และ สาย สีมา ในฉากไคลแมกซ์ท้ายเรื่อง เมื่อเขาลุกขึ้นประกาศตนเป็นปีศาจ
ที่หลอกหลอนผู้คนชนชั้นสูงในห้องจัดงานเลี้ยง



พบกับ สาย สีมา ได้ในวันอาทิตย์ที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๗  ที่สถาบันปรีดี พนมยงค์ ยิงฟันยิ้ม



บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 22  เมื่อ 08 ธ.ค. 14, 11:21

บรรทัดล่างสุดบอกว่า *อยู่ในระหว่างทาบทาม  ยิงฟันยิ้ม

         เวลาเปลี่ยนผ่านไปหลายทศวรรษ, ถึงยุคนี้ ปีศาจ อาจแปลงร่าง แปรรูป ฤทธิ์อาจ
ลดลงไปไม่สามารถหลอกหลอนผู้คนชนชั้นสูงได้ดังก่อน

          


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 23  เมื่อ 09 ธ.ค. 14, 10:30

        เวลาเปลี่ยนผ่านไปหลายทศวรรษ, ถึงยุคนี้ ปีศาจ อาจแปลงร่าง แปรรูป ฤทธิ์อาจ
ลดลงไปไม่สามารถหลอกหลอนผู้คนชนชั้นสูงได้ดังก่อน

อย่างน้อยก็ยังสามารถหลอกหลอนคนบางคนได้อยู่

ทหารโผล่ พบผู้จัดงานรำลึก "เสนีย์ เสาวพงศ์" เคลียร์กันเข้าใจ-สุดท้ายขอมาฟังด้วย  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 24  เมื่อ 11 ธ.ค. 14, 14:50

รู้จัก ศักดิชัย บำรุงพงศ์ ผ่าน ส. ศิวรักษ์

[ แด่คุณศักดิชัย บำรุงพงศ์ ]
(๑๒ กรกฎาคม ๒๔๖๑ - ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๗)

ข้าพเจ้ารู้จักคุณศักดิชัยยิ่งกว่ารู้จัก 'เสนีย์ เสาวพงศ์' ซึ่งเป็นนามปากกาอันลือชื่อของท่าน โดยที่คนซึ่งตั้งตัวเป็นหัวก้าวหน้า ย่อมต้องรู้จักผลงานของเสนีย์ เสาวพงศ์ ด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะก็เรื่อง "ปีศาจ" เสนีย์ เสาวพงศ์เองก็ได้รับการยกย่องจากหลายต่อหลายวงการ เช่น เป็นคนแรกที่ได้รับรางวัลศรีบูรพา เป็นต้น

แต่คนส่วนใหญ่คงไม่รู้ ว่าการผลิตวรรณกรรมเป็นงานอดิเรกของท่าน ซึ่งทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยการรับใช้กระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่สมัยคุณดิเรก ชัยนามเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงนั้น โดยมีคุณศักดิชัยเป็นหน้าห้อง และในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ นั้น คุณดิเรกกับหลวงอดุลเดชจรัสประสานงานกันอย่างสำคัญทางด้านเสรีไทย บ่อยครั้งคุณหลวงจะโทรศัพท์มาถึงคุณดิเรกเอง โดยมีคุณศักดิชัยรับโทรศัพท์ที่กระทรวงการต่างประเทศ เมื่อได้ยินคำว่า "นี่อดุลพูด ต้องการพูดกับคุณดิเรก" คุณศักดิชัยแทบหัวใจวาย และเมื่อคุณหลวงมาหาคุณดิเรก ตอนเดินออกจากกระทรวง ท่านไม่ให้คุณศักดิชัยเดินตามท่าน หากให้เดินไปข้างหน้า เผื่อใครลอบยิงท่านจะได้ยิงคุณศักดิชัยก่อน

อนึ่ง คุณดิเรก ชัยนาม เคยบอกว่า คุณศักดิชัย เธออยู่หน้าห้องอาจารย์ ทำงานหนักมาก แต่จะขึ้นเงินเดือนให้เธอ คนก็จะนินทา งบประมาณของกระทรวงฯมีจำกัด ให้คนอื่นเขาเงินเดือนขึ้นไปก่อนเถอะนะ

วันที่คุณศักดิชัยหมั้นกับคุณเครือพันธ์ โดยมีท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์เป็นประธานนั้น ท่านผู้หญิงถูกจับในข้อหากบฏสันติภาพกลางพิธีหมั้นวันนั้นเลย และบิดาของคุณเครือพันธ์ ก็คือ คุณเฉลียว ปทุมรส ซึ่งเคยเป็นราชเลขาธิการในรัชกาลที่ ๘ และถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ลอบวางแผนปลงพระชนม์ในหลวงพระองค์นั้น จนศาลฎีกาซึ่งปราศจากความยุติธรรมตัดสินให้ประหารชีวิตคุณเฉลียว เช่นเดียวกับคุณชิต สิงหเสนีและคุณบุศย์ ปัทมศริน คุณศักดิชัยปิดปากเงียบ ไม่พูดเรื่องกรณีสวรรคตเอาเลย ทั้ง ๆ ที่ศรีภรรยาเป็นทนายให้บิดา ซึ่งก็คือพ่อตาของคุณศักดิชัย

เพราะทำงานใกล้ชิดกับคุณดิเรก และท่านอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ หลังรัฐประหาร ๒๔๙๐ คุณศักดิชัยจึงตกอับที่กระทรวงการต่างประเทศตลอดมา ดังทางกระทรวงการต่างประเทศนั้น ก็ส่งคุณศักดิชัยไปทำงานยังสถานทูตที่ไกลโพ้นถึงอเมริกาใต้ และค่อย ๆ ย้ายเข้ามา จนถึงกรุงเวียนนา ซึ่งท่านเป็นเบอร์ ๒ รองจากเอกอัครราชทูต โดยมีนายวรพุทธิ์ ชัยนาม ทำงานร่วมด้วย ในฐานะเลขานุการตรี ทั้งสองคนนี้เข้ากันได้อย่างเป็นปี่เป็นขลุ่ย ทั้งทางด้านวรรณกรรมและการเมือง ซึ่งทั้งคู่อยู่ฝ่ายค่ายสังคมนิยม ในขณะที่เอกอัครราชทูต ณ สถานที่แห่งนั้น เป็นคนขวาตกขอบอย่างปราศจากรสนิยมใด ๆ สิ้น

เมื่อคุณศักดิชัยมีตำแหน่งหน้าที่ถึงขั้นควรเป็นเอกอัครราชทูต กระทรวงฯก็เลือกให้ไปเป็นทูตที่เอธิโอเปีย ซึ่งทางกระทรวงฯเห็นว่า อยู่ในทวีปแอฟริกาอันเลวร้ายอย่างสุด ๆ เมื่อคุณศักดิชัยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทูตที่พม่าก็บินตรงจากเอธิโอเปียไปประเทศใหม่นี้เลย โดยไม่ได้เข้ามากราบบังคมทูลพระกรุณา จะว่านี่เป็นเรื่องทางการเมืองได้ไหม โดยเราต้องไม่ลืมว่าเวลานั้น พี่ชายของคุณศักดิชัยเป็นผู้บัญชาการทหารบก

สำหรับตัวข้าพเจ้าเองนั้น ได้คุ้นเคยกับคุณศักดิชัยเกือบตลอดสมัยที่ท่านทำงานอยู่กระทรวงการต่างประเทศ ดังนายสละ ศิวรักษ์ ลูกผู้พี่ของข้าพเจ้า ก็ร่วมงานกันกับคุณศักดิชัยในขบวนการเสรีไทย และช่วยกันหาเสียงให้คุณดิเรก ชัยนาม ตอนที่ท่านสมัครเป็น ส.ส. พระนคร และเป็นผู้เดียวที่ชนะ โดยชนะผู้สมัครคนอื่น ๆ ของพรรคประชาธิปัตย์เอาเลย

ดังได้กล่าวแล้วว่าข้าพเจ้าคุ้นเคยกับคุณศักดิชัยและคุณเครือพันธ์มานาน แม้เมื่อท่านมาเป็นประธานที่ปรึกษาของหนังสือพิมพ์ "มติชน" ก็ยังสนิทสนมกลมเกลียวกัน แม้เจ้าใหญ่นายโตของสำนักนั้นจะหันหลังให้ข้าพเจ้าแล้วก็ตาม

คุณศักดิชัย เป็นคนพูดน้อย และมีอารมณ์ขัน อันยิ้มเยาะตัวเองได้เนือง ๆ โดยไม่โฆษณาชวนเชื่อให้ตัวเองเอาเลย แม้เมื่อท่านได้รับเชิญให้ไปแสดงปาฐกถาหรืออภิปรายในที่ต่าง ๆ ท่านยังไม่ยอมบอกให้ "มติชน" ไปทำข่าว ท่านบอกว่าเดี๋ยวจะกลายเป็นโฆษณาให้ตัวเองไป

คุณศักดิชัยมีอายุยืนนาน แม้ตอนหลังจะแทบไม่รับรู้อะไร ๆ เอาเลยก็ตาม ที่ดีก็คือ ท่านไม่ทราบเอาเลยด้วยซ้ำว่าคุณเครือพันธ์ตายจากท่านไปก่อน

เท่าที่เขียนมานี้ ก็เพื่ออยากให้มหาชนได้ทราบว่าคุณศักดิชัย บำรุงพงศ์ มีสาระแห่งความเป็นมนุษย์อย่างน่าชื่นชม นอกเหนือไปจากผลงานอันเป็นอมตะของเสนีย์ เสาวพงศ์

ส. ศิวรักษ์
๒-๑๒-๕๗


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 25  เมื่อ 11 ธ.ค. 14, 15:10

ขอบคุณคุณเพ็ญที่นำมาแชร์
              อ่านเรื่องเล่า, เรื่องเขียนของคนอื่นก็ไม่สนุกเท่าเรื่องเล่าของ ส ศ ษ
เพราะมีเรื่องน่าสนใจที่ไม่เคยรู้, เคยได้ยินมาก่อนเสมอ
          
อ้างถึง
จอย ปทุมรส บำรุงพงศ์ อ่านแล้วสะเทือนใจมาก บางเรื่องไม่เคยทราบมาก่อนเลย
ขอบพระคุณที่เขียนถึงคุณพ่อค่ะ
บันทึกการเข้า
Anna
องคต
*****
ตอบ: 552


ความคิดเห็นที่ 26  เมื่อ 11 ธ.ค. 14, 23:20

ไม่เคยทราบมาก่อนว่าชีวิตของท่านประสบกับความยากลำบากขนาดนี้ อ่านแล้วสงสารท่านจังเลยค่ะ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 27  เมื่อ 14 ธ.ค. 14, 06:02

ปูชนียาลัย เสนีย์ เสาวพงศ์

เนาวรัตน์  พงษ์ไพบูลย์


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 28  เมื่อ 14 ธ.ค. 14, 06:39

ปลุกวิญญาณขบถแห่งยุคสมัย
ปลุกหัวใจเยาวชนคนหนุ่มสาว
ให้ความรักความหวังดั่งดวงดาว
ให้แวววาวจากวันนั้นจนวันนี้

สิ้น “เสนีย์ เสาวพงศ์” คงความหมาย
ไม่สิ้น “สาย สีมา” ทำหน้าที่
ไม่สิ้นแสงแรงสาดหนึ่ง “รัชนี”
จากมือผู้ผจงพจี เจียระไนฯ




บันทึกการเข้า
Anna
องคต
*****
ตอบ: 552


ความคิดเห็นที่ 29  เมื่อ 14 ธ.ค. 14, 07:35

บ่ายนี้จะไปฟังเสวนาค่ะ แล้วดูหนังเรื่องปีศาจ ขอสารภาพว่าเคยได้ยินชื่อนิยายเรื่องนี้ แต่ไม่เคยสนใจที่จะอ่านเลยค่ะ ต้องขอบพระคุณอาจารย์เพ็ญชมพูและทุกท่านที่นำข้อมูลมาแบ่งปัน ทำให้หูตาดิฉันขยายกว้างขึ้น ว่าแต่...ไม่ทราบว่าหนังจะเหมือนกับในหนังสือหรือเปล่าคะ ฮืม
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3 4
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.042 วินาที กับ 20 คำสั่ง