ในปีที่แล้ว (พ.ศ. ๒๕๕๙) เชื้อพระวงศ์ที่กลับไปอยู่อาศัยในเมียนมา ได้มีโอกาสพบกับญาติฝ่ายทางอินเดียเป็นครั้งแรก ซึ่งฝ่ายตระกูลนี้สืบเชื้อสายจาก "ตูตู" บุตรสาวของพระธิดาพระองค์ใหญ่ในพระเจ้าธีบอซึ่งเกิดกับยามเฝ้าประตูวังและคนขับรถชาวอินเดีย ทำให้ไม่ได้รับการยอมรับจากเชื้อพระวงศ์คนอื่น ๆ มานาน แต่ในครั้งนี้ต่างเข้าทักทายกันด้วยความยินดี และเชื้อพระวงศ์ฝ่ายเมียนมาบางคนถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เมื่อได้ทราบว่าอีกฝ่ายมีความเป็นอยู่ที่ลำบากยากจนมานาน
พิธีรำลึก ๑๐๐ ปีการสวรรคตของพระเจ้าธีบอในครั้งนี้ ยังทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า ถึงเวลาอัญเชิญพระบรมศพกลับสู่แผ่นดินเกิดได้แล้วหรือยัง เนื่องจากที่ผ่านมามีข้อขัดข้องทางการเมืองที่ห้ามไม่ให้นำพระบรมศพกลับสู่เมียนมาหลายครั้ง เนื่องจากรัฐบาลเกรงว่าจะมีผู้ฉวยโอกาสปลุกปั่นสร้างความไม่สงบขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม อู ซอ วิน บอกว่า การนำพระบรมศพกลับสู่เมียนมานั้นเป็นสิ่งที่เขาต้องพยายามทำให้เกิดขึ้นให้จงได้ ไม่ว่าจะยากลำบากเพียงใด เพราะการคืนสู่บ้านเกิดเป็นพระราชประสงค์ที่แรงกล้าของพระเจ้าธีบอเมื่อยังทรงพระชนมชีพอยู่ ส่วนเชื้อพระวงศ์สายทางอินเดียนั้นคัดค้านการนำพระบรมศพกลับเพราะจะไม่เหลือสิ่งใดเป็นอนุสรณ์ไว้ที่รัตนคีรีเลย
ด้านเชื้อพระวงศ์ทางเมียนมาบางรายเห็นว่า ขณะนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะนำพระบรมศพกลับ เนื่องจากเมียนมายังมีปัญหาต่าง ๆ ที่ต้องแก้ไขอีกมากมาย รวมทั้งปัญหาความขัดแย้งทางเชื้อชาติศาสนา ซึ่งการเชิญพระบรมศพกลับอาจยิ่งเพิ่มความยุ่งยากซับซ้อนให้กับปัญหาเหล่านี้ได้
ข่าวจาก
บีบีซี