เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
อ่าน: 18249 พระบรมศพพระเจ้าสีป่อ
แสงดาวฝั่งทะเล
อสุรผัด
*
ตอบ: 8


 เมื่อ 21 พ.ย. 14, 00:42

รบกวนสอบถามท่านผู้รู้ว่า เหตุใดจึงไม่มีการอัญเชิญพระบรมศพพระเจ้าสีป่อและพระนางศุภยาจีกลับประเทศพม่า เพื่อถวายพระเพลิงและประกอบพระราชพิธีพระบรมศพให้ถูกต้องตามโบราณราชประเพณี ปล่อยให้พระบรมศพอยู่ในต่างบ้านต่างเมืองอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่พระองค์ก็มีพระราชประสงค์จะนิวัติพระนครตั้งแต่ยังมีพระชนม์ชีพ ขอบคุณค่ะ  ฮืม
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 21 พ.ย. 14, 06:31

พระนางศุภยลัตได้รับอนุญาตให้ออกจากวังในรัตนคีรีกลับคืนสู่แรงกูนในวันที่๑๐เมษายน๑๙๑๙ แต่มิได้เป็นอิสระแท้จริง เพราะยังคงอยู่ใต้อารักขาของอังกฤษต่อไปจวบจนสิ้นพระชนม์ในปี๑๙๒๕ อย่างไรก็ดี พระนางมีโอกาสได้พระราชทานสัมภาษณ์แก่หนังสือพิมพ์ หม่อง กา เล เมื่อทรงมีพระชนมายุ๖๕พรรษาว่า

"ตอนพระเจ้าเหนือหัวสวรรคตเมื่อ๑๕ธันวาคมปี๑๙๑๖ เราไม่มีเงินพอที่จะจัดพิธีพระบรมศพถวาย ไม่มีแม้กระทั่งโอกาสจะได้ทำบุญอุทิศพระราชกุศลตามประเพณี เราตั้งพระบรมศพไว้ในห้องๆหนึ่งที่วัง จนวันที่๑๗กุมภาพันธ์ ๑๙๑๗ จึงย้ายมาบรรจุที่พระราชสุสานที่สร้างไว้ในบริเวณวังนั่นเอง จนกระทั่งเดือนมีนาคม ๑๙๑๗ พวกเจ้าหน้าที่รัฐบาลก็มาย้ายพระราชสุสานไปตั้งใหม่ในป่าแห่งหนึ่ง"

พระราชธิดาเจ้าหญิงมธุรสศุภรา (Princess Madarus Suphara - her daughter and Princess) เคยประทานประทานสัมภาษณ์นิตยสารมหาพันธุละว่า “พระราชสุสานตั้งอยู่ใจกลางป่า ไกลจากวังมาก ต้องเดินทางกันครึ่งค่อนวันจึงจะไปถึง”

พระนางศุภยาลัตทรงอ้างในระหว่างการสัมภาษณ์ครั้งนั้นว่า ทรงอยากจะย้ายพระราชสุสานกลับมาพม่า แต่รัฐบาลอังกฤษปฏิเสธเพราะเกรงว่าจะเกิดกระแสต่อต้านจากมวลชนที่เห็นว่าอังกฤษเอากษัตริย์ของพวกตนไปเป็นๆแต่คืนกลับมาให้แค่ร่างที่หาชีวิตไม่แล้ว ไม่ยอมแม้แต่จะให้นำส่วนใดส่วนหนึ่งของพระบรมศพกลับมาพม่า จึงเฝ้าระวังการเคลื่อนไหวของบรรดาพระราชวงศ์ ทั้งยังจัดยามคอยเฝ้าดูพระราชสุสานด้วย

เมื่อพระนางศุภยลัตเสด็จกลับพม่าในปี๑๙๑๙นั้น พระนางศุภยาจี พระขนิษฐาซึ่งเป็นพระมเหสีอีกองค์หนึ่งของพระเจ้าสีป่อมิได้เสด็จด้วย คงอยู่ในวังที่รัตนคีรีนั่นเองจนกระทั่งสิ้นพระชนม์ในสองสามปีต่อมา รัฐบาลอังกฤษได้นำพระศพไปบรรจุไว้ในพระราชสุสานเคียงข้างกัน

ทุกวันนี้พระราชสุสานที่ว่ากันว่าอยู่ใจกลางป่าในครั้งกระนั้น กลายมาเป็นป่าคอนกรีตซึ่งเป็นย่านพักอาศัยของชาวเมืองไปแล้วอย่างน่าพิศวง ขอบคุณรัฐบาลอินเดีย(จากใจชาวพม่า)ที่ได้ทำการบูรณะพระราชสุสานเมื่อปี๑๙๙๔ และเว้นที่ตรงนั้นไว้ให้โดยการสร้างกำแพงเล็กๆ ป้องกันมิให้คนเข้าไปใช้พระราชสุสานเป็นลานตากเสื้อผ้าดังเช่นที่เคย


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 21 พ.ย. 14, 06:47


ผู้สือข่าวหนังสือพิมพ์อิระวดี- ข้าพุทธเจ้าอยากทราบเรื่องการสวรรคตของพระเจ้าธีบอ

พระนางศุภยาลัต- ท่านสิ้นพระชนม์ตอนเที่ยงคืนวันที่15 ธันวาคม 1916 หลังจากนั้น3ปี ฉันก็เดินทางออกจากรัตนคีรีในวันที่ 10 เมษายน  1919 มาถึงพม่าวันที่18

ผู้สือข่าว- ข้าพุทธเจ้าอยากทราบเรื่องพระบรมศพของพระเจ้าธีบอ

พระนางศุภยาลัต- เมื่อพระองค์สวรรคต ฉันไม่มีเงินพอที่จะจัดพระราชพิธี ไม่มีแม้โอกาสที่จะทำบุญสวดศพตามประเพณี  ตอนแรกก็ตั้งพระบรมศพไว้ในห้องของพระตำหนัก หลังจากนั้น ในวันที่ 9 กุมภาพันธุ์ 1917 ก็อัญเชิญมาไว้ในสุสานที่สร้างไว้บนสนาม แต่พอถึงเดือนมีนาคม1919 หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องก็มาย้ายสุสานไปไว้ในป่าแห่งหนึ่ง

เจ้าหญิงศุภพญา- สุสานนี้อยู่ไกลวังมาก ใช้เวลาตั้งครึ่งวันที่จะเดินทางไปถึง สุสานสร้างขึ้นบนภูเขา อยู่ใจกลางของป่าเลย

พระนางศุภยาลัต- เมื่อฉันรู้ว่าฉันจะกลับพม่า ฉันก็คิดจะนำพระบรมศพกลับมาด้วย แต่ฉันก็ครุ่นคิดว่าประชาชนพม่าจะชื่นชอบความคิดของฉันหรือไม่ ตอนที่ฉันบอกกับเจ้าหน้าที่อังกฤษที่เกียวข้องว่าฉันจะเอาพระบรมศพกลับไปพม่าพร้อมกับฉัน เขาบอกว่าคนพม่าจะโกรธที่ส่งพระราชาของเขากลับในสภาพที่เป็นศพ เพราะตอนที่จับตัวไปยังไม่ตาย ความตายของศุภยาเล น้องสาวของฉันก็แปลก  เธอตายอย่างเฉียบพลัน หลังจากที่ปวดท้องอย่างรุนแรง เธอตายในวันที่23 มิถุนายน1912 ตอนนั้นเราก้ไม่มีโอกาสทำบุญตามธรรมเนียมพิธีศพเหมือนกัน

จาก
มาดูรูปพิธีกรรมสำเร็จโทษเจ้านายในพม่ากัน

http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/10/K8387677/K8387677.html

คคห.ที่ ๗๖ 

โดยแท้แล้ว อังกฤษที่ยังปกครองพม่าเป็นอาณานิคมอยู่กลัวว่าคนพม่าจะถือโอกาสก่อความวุ่นวายให้ต้องเหนื่อยอีกน่ะครับ

บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 21 พ.ย. 14, 07:28

ที่ตั้งของเมืองรัตนคีรี อยู่ในแคว้นมหาราช ทิศตะวันตกของประเทศอินเดีย


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 21 พ.ย. 14, 07:33

วังที่รัฐบาลอังกฤษจัดให้เสด็จมาประทับ ตั้งอยู่บนยอดเขา ใกล้ปากแม่น้ำ Kajari มองเห็นทิวทัศน์ท้องทะเลได้สวยงาม


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 21 พ.ย. 14, 07:36

วังของพระเจ้าธีป่อ ที่รัตนคีรี และหลุมพระศพก็ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวังนี้เท่าไรนัก


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 21 พ.ย. 14, 07:39

มุมมองจากวังไปสู่ทะเลอาระเบียน


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 21 พ.ย. 14, 08:15

รูปข้างบนของคุณหนุ่มน่าจะเป็นมุมมองจากจุดชมวิว Thiba point  พระตำหนักของพระเจ้าสีป่ออยู่ไปอีกไกลเชียว  ยิงฟันยิ้ม


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 21 พ.ย. 14, 08:30

คราที่ ประธานาธิบดีเต็งเส่งเยือนอินเดียเมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๕  มีเพียงการมอบเงินและของขวัญแก่เชื้อพระวงศ์พระเจ้าสีป่อในอินเดีย



และเชิญเชื้อพระวงศ์กลับประเทศพม่า ไม่มีการพูดถึงการอัญเชิญพระบรมศพพระเจ้าสีป่อและพระนางศุภยาจีกลับประเทศพม่า  เหตุผลหนึ่งน่าจะเป็นเพราะปัจจุบันพม่าอยู่ในการปกครองระบบใหม่ จึงไม่อยากเชิดชูระบบเก่าให้มากเกินไป  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 21 พ.ย. 14, 08:47

การพบกันระหว่างพระเจ้าสีป่อและประธานาธิบดีเต็งเส่ง ที่พระตำหนักรัตนคีรี  ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 21 พ.ย. 14, 09:41

อังกฤษในสมัยนั้นถ้าตัดสินตามมาตรฐานศีลธรรมสมัยนี้นับว่าโหดร้ายมาก เนรเทศกษัตริย์จากบ้านเมืองหนึ่งไปสวรรคตที่อีกบ้านเมืองหนึ่ง นอกจากพระเจ้าสีป่อซึ่งถูกอังกฤษเนรเทศไปสวรรคตที่รัตนคีรี ประเทศอินเดียแล้ว จักรพรรดิบาฮาดูร์ชาห์ที่ ๒ จักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์โมกุลก็ถูกอังกฤษเนรเทศมาสวรรคตที่ย่างกุ้ง ประเทศพม่านี้เหมือนกัน ปัจจุบันพระบรมศพก็ยังอยู่ที่ย่างกุ้งนี่เอง

พระราชสุสาน "Dargah of Bahadur Shah Zafar" ที่ฝังพระบรมศพจักรพรรดิบาฮาดูร์ ชาห์ที่ ๒ ที่ย่างกุ้ง


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 21 พ.ย. 14, 09:43

“โลงพระศพ” ๓ องค์เรียงลำดับจากซ้ายไปขวาคือ จักรพรรดิบาฮาดูร์ ชาห์ที่ ๒ (ที่มีมงกุฎครอบไว้) พระนางซีนาทมาฮาล พระอัครมเหสี และเจ้าหญิงเรานัคซามานี เบกุม พระราชนัดดา

ภาพและข้อมูลโดย คุณออกญาศรีราชเดโชชัยแห่งพันทิป   เศร้า



บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 21 พ.ย. 14, 10:17

ภาพหลุมพระศพ


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 21 พ.ย. 14, 10:18

ให้คุณเพ็ญฯ ช่วยแกะตัวอักษรที่เลือนลาง


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 21 พ.ย. 14, 10:37

IN THIS TOMB
ON THE  19TH MARCH 1919
WERE DEPOSITED THE MORTAL REMAINS OF THEBAW
THE LAST KING OF UPPER BERMA
WHO WAS DEPOSED ON THE 1ST DECEMBER 1985
AND WAS REMOVED TO RATNAGIRI WHERE HE DIED ON THE 15TH DECEMBER 1916
AT THE AGE OF 58
ALSO THE REMAINS OF TEIK SU PAYA DALE *
THEBAWS MINOR QUEEN
WHO DIED AT RATNAGIRI ON THE 25TH JUNE 1912 AGED 50

* TEIK SU PAYA DALE แกะอักษรตามที่เขียนเอาไว้ แต่ที่ถูกต้องน่าจะเป็น TEIK SUPAYAGALE
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.073 วินาที กับ 20 คำสั่ง