ระหว่างหาข้อมูลและรูปภาพประกอบกระทู้ ไปเจอภาพถ่ายรูปคนโดนต้มเข้า ต้องร้องไอ้หยาด้วยความสยอง

พอดูโทษประหารอันต่อไป การบีบอัดจนตาย (crushing or pressing to death) ยิ่งเจอภาพถ่ายยุคใหม่ๆ ขอคนที่โดนบีบอัดจากอุบัติเหตุบ้าง หรือรถถังทับบ้าง ยิ่งสยดสยองจนต้องร้องไอ้หยา แม้จะอยู่สตวรรษที่ 21 แล้ว โทษประหารชีวิตถูกยกเลิกไปในหลายๆ ประเทศ แต่ความโหดเหี้ยมอำมหิตของคนบางพวกบางกลุ่มไม่ได้ลดลงตามความเจริญของสังคมเลย

การประหารโดยการบีบอัดจนตาย เป็นโทษอีกชนิดที่มีการใช้ในอังกฤษ บันทึกแรกๆ ที่กล่าวถึงการลงโทษแบบนี้มีตั้งแต่ปี 1275 และถูกใช้ต่อเนื่องมาจนถึงศตวรรษที่ 18 เมื่อมีการยกเลิกโทษนี้ไปในปี 1772 แต่โทษนี้มีการใช้ครั้งสุดท้ายจริงๆ ในปี 1741
การบีบอัดจนตายเป็นการลงโทษที่ใช้กับนักโทษที่ถูกกล่าวหาว่าประกอบอาชญากรรม แต่ตัวนักโทษปฏิเสธที่จะให้มีการดำเนินคดีและให้การต่อศาล โดยทั้งไม่ยอมรับและไม่ยอมปฏิเสธในความผิดที่ถูกกล่าวหาฟ้องร้อง ทำให้การพิจารณาคดีไม่อาจดำเนินต่อไปได้ แทนที่จะขังรอไว้เฉยๆ ซึ่งไม่รู้ว่าจะต้องขังนานเท่าใด ดังนั้นจึงต้องมีการทรมานเพื่อบังคับให้นักโทษตัดสินใจว่าจะยอมรับผิดหรือจะปฏิเสธอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป ซึ่งถ้านักโทษยอมรับหรือยอมปฏิเสธ ก็จะถูกดำเนินคดีตามขั้นตอนปกติต่อไป
คำถามตามมาคือแล้วทำไมนักโทษถึงปฏเสธที่จะให้การทั้งยอมรับหรือไม่ยอมรับความผิด คำตอบก็คือตามกฏหมายของอังกฤษนั้น นักโทษที่ถูกตัดสินว่าผิดในความผิดอุกฉกรรจ์จะถูกริบทรัพย์เป็นของแผ่นดินด้วย เช่นถ้าใครถูกตัดสินว่าเป็นกบฏ ทางการจะยึดทรัพย์สินทุกอย่างไปด้วย ดังนั้นครอบครัวที่อยู่ข้างหลังจะไม่เหลืออะไรเลย แต่ในทางกลับกัน ถ้าบุคคลที่ถูกกล่าวหาเสียชีวิตโดยยังไม่มีการตัดสินความผิด ทางการก็ไม่อาจจะยึดทรัพย์ของคนผู้นั้นได้ เหมือนกับว่านักโทษผู้นั้นยังบริสุทธิ์ ดังนั้นนักโทษหลายคนจึงเลือกที่จะตายโดยวิธีนี้ แทนที่จะถูกประหารชีวิตและถูกยึดทรัพย์ด้วย