เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33421
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 60 เมื่อ 11 ธ.ค. 14, 22:14
|
|
ใกล้ปีใหม่ ดิฉันมีงานเต็มมือ ขอส่งไม้ต่อให้คุณ SILA หรือท่านอื่นๆที่สมัครใจมาต่อกระทู้ให้คุณหาญค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 61 เมื่อ 13 ธ.ค. 14, 09:38
|
|
ชวนชาวเรือนลอง "จิ้น"ตนาการงานเลี้ยงสังสรรค์ไฮโซ Patriarch ball กันครับ ภาพประกอบจาก The Age of Innocence เช่นเคย
จากแนวคิดของเดอะคุณนายแอสเตอร์ในตอนแรกที่หมายจะให้เป็นงานประมาณ Debutante ball เปิดตัวลูกสาวเข้าวงการไฮโซ จากนั้นก็ได้มีการจัดกันต่อเนื่องเพื่อเป็นงานพบปะผู้คนในแวดวง สายพันธุ์เดียวกันที่ผ่านการคัดสรรค์แล้วว่าคู่ควร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 62 เมื่อ 13 ธ.ค. 14, 09:44
|
|
ผู้ที่ได้รับเชิญมางานต่างก็ต้องจัดเตรียมเสื้อผ้าหน้าผมพร้อมเครื่องประดับที่ดูดีบ่งบอก เรื่องกิริยามารยาทสังคมนั้นชาวระดับได้รับเชิญย่อมรู้กฎกติกากันดีอยู่แล้ว เรื่องที่ต้องเตรียมการ จึงเป็นเรื่องอื่นๆ ประเภท การวางตัวระหว่างการเข้าชมอุปรากรที่โรงละคอนตอนหัวค่ำก่อนไปร่วมงานหลังอุปรากรจบ อย่างน้อยควรจะรู้เรื่องราวอุปรากรที่จัดแสดงในคืนนั้นไว้บ้างเพื่อจะได้คุยกับเขาได้ แต่ส่วนใครที่ไม่ ชอบดูชอบฟังอุปรากรเลยก็ต้องรู้จักเก็บอาการ ไม่แสดงออกว่าเบื่อหรือเผลอหลับเป็นอันขาด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 63 เมื่อ 13 ธ.ค. 14, 09:50
|
|
จบจากอุปรากรแล้วบรรดาแขกเหรื่อรับเชิญก็จะเคลื่อนขบวนรถจากโรงละคอนไปต่อ ที่อาคารสถานที่จัดเลี้ยง(แต่ยังไม่ได้กินเลี้ยง) หลังการทักทายแนะนำตัวสนทนาปราศรัยกัน แล้วก็จะเข้าสู่ช่วงเปิดงานโดยการเปิดตัวไฮโซคนสำคัญจับคู่ออกเต้นรำเปิดฟลอร์ แขกเหรื่อบางคนจึงอาจต้องเตรียมหาอะไรรองท้องมาก่อนหรือไม่งั้นก็ต้องเมินหิว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33421
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 64 เมื่อ 13 ธ.ค. 14, 12:06
|
|
ขอบคุณค่ะคุณ SILA
ประเพณี coming out หรือเปิดตัวสู่สังคมของเหล่าสาวน้อยลูกผู้ดีไฺฮโซ เป็นประเพณีข้ามทะเลจากอังกฤษมาอเมริกาฝั่งตะวันออก พอพ้นจากห้องเรียน อายุประมาณ 18 สาวน้อยก็ต้องเปิดตัวเป็นเดบูตอง ถ้าอยู่อังกฤษก็ต้องหัดถอนสายบัวให้สวย แต่งกายงามด้วยชุดขาวฟูฟ่องอลังการ เตรียมเดินเรียงแถวเข้าเฝ้าพระเจ้าแผ่นดิน ร่วมกับสาวน้อยอื่นๆที่เกิดปีเดียวกัน
จากนั้นพ่อแม่ก็จัดงานบอลล์เปิดตัวลูกสาว พาออกงานเลี้ยง ไปดูโอเปร่า ฯลฯ อย่างที่คุณ SILA เล่า จนกว่าเธอจะได้รับคำขอแต่งงานจากหนุ่มไฮโซคนใดคนหนึ่งให้จบสิ้นกระบวนการไป ถ้าเวลาผ่านไป 1 ปี ยังหาใครไม่ได้ ก็เป็นความอับอายขายหน้าถึงวงศ์ตระกูล เดบูตองสาวเกือบทุกคนจึงเปิดฉากชีวิตสาวด้วยความเครียดอย่างหนัก จนกว่าจะหาคู่หมั้นได้เป็นตัวเป็นตนเสียก่อนจึงจะหายเครียด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 65 เมื่อ 14 ธ.ค. 14, 11:01
|
|
ยังอยู่ที่งานเลี้ยงต่อ ครับ
ล่วงเลยหลังเที่ยงคืนจึงได้เวลามื้อเที่ยง(คืน) ต่างแยกย้ายไปนั่งตามโต๊ะในห้องอาหาร รอเสิร์ฟสารพันภักษาหารที่ผ่านการคัดสรรค์มาอย่างดี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 66 เมื่อ 14 ธ.ค. 14, 11:03
|
|
ระหว่างรับประทานอาหารเลิศรส ก็จะต้องมีการสนทนากับสมาชิกร่วมโต๊ะคนอื่นๆ ไปด้วย จึงควรจะมีการทำการบ้านเรื่องหัวข้อที่จะคุยกันมาบ้าง ไม่เช่นนั้นก็ต้องทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 67 เมื่อ 14 ธ.ค. 14, 11:08
|
|
จวบจนกาลผ่านไปประมาณตีหนึ่งครึ่งจึงได้เวลาเปิดฟลอร์อีกครั้งด้วยการเต้นรำ แบบ cotillion ซึ่งเป็นที่นิยมในนิว ยอร์คยุคนั้น นั่นคือการเต้นรำอย่างเป็นทางการของหนุ่มๆ สาวๆ ที่มีการแลกเปลี่ยนคู่เต้นรำ หนุ่มสาวต่างต้องเตรียมกายให้ดูงาม, เตรียมตัวฝึกฝนการเต้นรำให้ชำนาญพร้อม กับฝึกการหว่านเสน่ห์ในช่วงเวลานาทีทองนี้ที่เป็นโอกาสได้ใกล้ชิดกันตัวต่อตัว เพื่อจะได้ ก่อความประทับใจให้บังเกิด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 68 เมื่อ 14 ธ.ค. 14, 11:15
|
|
เมื่อรัตติกาลผ่านพ้นจนถึง 3 นาฬิกาก่อนฟ้าจะสางจึงได้เวลาเลิกงาน ด้วยเหตุ(การณ์เป็นเช่น)นี้ ผู้ที่จะออกงานนี้จึงควรจะเตรียมตัวให้พร้อมทั้งกาย, ใจ และ สมองเพื่อที่ว่าจะได้ออกงาน, ออกลายหงส์ได้โดยไม่พลาดแล้วกลับกลายเป็นหงส์ปีกหัก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 69 เมื่อ 15 ธ.ค. 14, 14:37
|
|
สิ่งหนึ่งที่อดสงสัยไม่ได้ เมื่อได้รู้ว่างานเลี้ยงนี้กินเวลาเกือบทั้งคืน ก็คือ เหล่าดรุณีเด็บ ทั้งหลายซึ่งแต่งตัวจัดเต็มด้วยกระโปรงบานยาวฟูฟ่องมีวิธีจัดการกับ "อุทกภัย" ของร่างกายอย่างไร คาดว่า ต่างคงพยายามจำกัดปริมาณน้ำดื่มและดริ๊งค์ให้น้อยที่สุด แต่ด้วยว่าเวลาที่ยาวนาน ขนาดนั้น อย่างไรเสียธรรมชาติก็ย่อมเป็นฝ่ายชนะและพวกเธอต้องจำนน
ในยุคนี้ที่มีแพมเพอร์ใช้แต่คงไม่สะดวกกายสบายตัว พวกเธอได้เลือกใช้วิธีร่วมด้วยช่วยกัน ดังในภาพ(เรท 13+) นี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 70 เมื่อ 16 ธ.ค. 14, 11:09
|
|
ดังได้กล่าวไปแล้วว่างาน Patriarch ball นี้มีขึ้นหลังจากการชมอุปรากรจบแล้ว เทศกาลงานเลี้ยงนี้จึงเริ่มขึ้นพร้อมๆ กับช่วงเวลาเริ่มฤดูกาลอุปรากรซึ่งเป็นตอนหน้าหนาว ในนิว ยอร์ค สถานที่แรกเริ่มเป็น Academy of Music แล้วต่อมาจึงย้ายไปที่ใหม่ ณ Metropolitan Opera House เดอะคุณนายแอสเตอร์จะปรากฏกายในชั้นบ็อกซ์ของเธอ นั่งโดดเด่นเป็นสง่าราวราชินี เธอมักจะรับชมรับฟังอยู่ไม่นานเกินองก์แรกแล้วก็เดินออกไป โดยเป็นที่รู้กันดีว่าถ้าใครลุกออก ไปก่อนเธอจะถือว่าเป็นการเสียมารยาทอย่างรุนแรง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 71 เมื่อ 16 ธ.ค. 14, 11:11
|
|
ช่วงเวลา 12 สัปดาห์ในหน้าหนาวของนิว ยอร์คนี้คือ ช่วงเวลาเทศกาลงานฉลอง นอกจาก คริสต์มาสปีใหม่, ฤดูกาลอุปรากรแล้วก็ยังมีงาน New York Horse Show และ ที่สำคัญก็คือ งานเลี้ยงของเดอะคุณนายแอสเตอร์นี้ที่เริ่มในเดือนธันวาคมของทุกปี โดยกำหนด ให้เป็นเดือนแห่งงานเลี้ยงต้อนรับการเปิดตัวของเหล่าดรุณีเด็บ(debutante) จนกระทั่งเมื่อย่างเข้าเดือนกุมภาพันธ์ครั้นเมื่องานการกุศล Charity Ball ได้ถูกจัดขึ้น ทั่วประเทศ เมื่อนั้นนั่นก็คือสัญญาณของการสิ้นสุดเทศกาลงานเลี้ยง เหล่า 400 รายของคุณนายแอสเตอร์ได้เวลาพักผ่อนสักที แต่ก็อาจจะมีงานเลี้ยงจัดกัน ภายในกลุ่มอย่างไม่เป็นทางการบ้าง หรือออกงานการกุศลไปพลาง และเตรียมการไปพลางสำหรับ การออกงานที่จะจัดขึ้นในหน้าร้อนซึ่งย้ายไปที่ Newport, Rhode Island ที่นั่นเดอะคุณนายก็มี คฤหาสน์ขนาดใหญ่จัดงานเลี้ยงรับรองแขกได้ 400 คน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 72 เมื่อ 16 ธ.ค. 14, 11:16
|
|
เดอะคุณนายแอสเตอร์ ครองบัลลังก์ราชินีวงศ์หงส์นิว ยอร์ค โดยมีคุณนายมหาเศรษฐีเก่า รายอื่นๆ ร่วมด้วยช่วยกันผดุงกรุงไกรไฮโซของแท้ ตลอดช่วงเวลาตั้งแต่ทศวรรษ 1870s จนถึง 1880s ก่อนที่คลื่นลูกใหม่, ลูกใหญ่จะถาโถมตามมา นั่นคือ Mrs. William K. Vanderbilt(เรียกตามนามสามี) หรือชื่อที่เพื่อนๆ เรียกกันว่า Alva คุณนายเศรษฐีใหม่ผู้ก้าวเข้ามาด้วยจุดมุ่งหมายจะทลายกำแพงวังหงส์ที่เดอะคุณนายสร้างขึ้น ทั้งๆ ที่ตระกูล Vanderbilt ในยุคนั้นจัดได้ว่าเป็นหนึ่งในตระกูลที่มั่งคั่งที่สุด แต่ทว่าทรัพย์สิน ของตระกูลมาจากธุรกิจสร้างทางรถไฟไม่ได้ร่ำรวยอยู่ก่อนเก่าจากมรดกตกทอด เดอะคุณนายและกลุ่ม จึงไม่ยอมรับอัลวาเข้าแวดวงศ์ ทั้งสองไม่เคยแม้แต่จะพูดจากันเลย
ไฮโซคลื่นลูกใหม่, ลูกใหญ่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 73 เมื่อ 17 ธ.ค. 14, 09:23
|
|
นอกจากนี้ อัลวายังไม่ได้สิทธิ์มีที่นั่งชั้นบอกซ์ประจำที่ Academy of Music ด้วย เหตุนี้เธอจึงรวมตัวกับเศรษฐีคนอื่นๆ ให้ทุนสนับสนุนการก่อตั้งโรงละคอนแห่งใหม่นั่นคือ Metropolitan Opera House ในปี 1883 ซึ่งกาลต่อมาปรากฏว่าโรงอุปรากรแห่งใหม่นี้ได้อยู่ยั้งยืนยงคงถึงปัจจุบัน ในขณะที่ Academy of Music นั้นถูกทุบไปในปี 1926 ปีเดียวกันนั้นเอง คฤหาสน์ที่อัลวาทุ่มทุนสร้างที่ Fifth Avenue เพื่อจัดงานคอสตูมยิ่งใหญ่ อลังการตระการตา ให้เป็นทอล์ค อ๊อฟ เดอะ ทาวน์ ชาวประชาไม่เคยเห็นกันมาก่อนก็พร้อมใช้งาน ในเดือนมีนาคม ปี 1883 ซึ่งเป็นเดือนที่เทศกาลงานเลี้ยงสิ้นสุดลงแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 74 เมื่อ 17 ธ.ค. 14, 09:28
|
|
เมื่อข่าวแพร่กระจายไป แคร์รี่ ลูกสาวคนเล็กของเดอะคุณนายแอสเตอร์ได้ฝึกซ้อมเต้นรำ เพื่อออกงานนี้ เธอตื่นเต้นรอลุ้นว่าจะได้รับเชิญไปร่วมงานหรือไม่ อัลวาได้ทีจึงปล่อยข่าวให้ไปถึง ว่าเนื่องจากตัวเธอไม่เคยได้รับเชิญไปงานของเดอะคุณนายเลยดังนั้นเธอจึงเห็นว่าน่าจะเป็นการไม่ เหมาะสมที่เธอจะเชิญแคร์รี่มางานนี้ แม้อัลวาได้ส่งสัญญาณท้าทาย แต่เดอะคุณนายที่รักและสงสารลูกสาวมากกว่าเรื่องศักด์ศรี ก็ได้ตัดสินใจไปคฤหาสน์อัลวาด้วยตัวเธอเอง เธอนั่งอยู่ในรถและยื่นนามบัตรของเธอให้แก่บริกรของ คฤหาสน์ เมื่อได้รับนามบัตรเดอะคุณนายมาแอลวาก็แสนดีใจที่แผนการประสบความสำเร็จ ประตูสู่ แวดวงศ์หงส์ได้เปิดรับแล้ว อัลวาจึงส่งเทียบเชิญครอบครัวแอสเตอร์ในทันที
ภาพเดอะคุณนายแอสเตอร์และอัลวาในช่วงปี 1900s
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|