SILA
|
ความคิดเห็นที่ 45 เมื่อ 09 มี.ค. 16, 14:51
|
|
ทีมรถบ้านคุณย่าออกตระเวนแวะเวียนไปสถานที่ต่างๆ ตามที่คุณย่าประสงค์ เช่น ไป Mount Rushmore ใน South Dakota, Yellowstone National Park ใน Wyoming, Grand Canyon ใน Arizona
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 46 เมื่อ 09 มี.ค. 16, 14:52
|
|
และ ขึ้นบัลลูนที่ Orlando, Florida
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 48 เมื่อ 10 ต.ค. 16, 10:05
|
|
หลังจากที่คุณย่านอร์มาปฏิเสธการรักษาและตัดสินใจออกท่องเมริกาทางรถบ้านไปกับ ลูกชายและสะใภ้ได้ปีเศษ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 49 เมื่อ 10 ต.ค. 16, 10:06
|
|
และแล้ว ผู้ที่ติดตามการเดินทางของคุณย่าก็ได้รับทราบว่าการเดินทางของคุณย่าได้สิ้นสุดลง เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมนี้ที่เฟซบุ๊ค Driving Miss Norma ได้โพสท์ข้อความนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 50 เมื่อ 10 ต.ค. 16, 10:07
|
|
quotesgram.com
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 51 เมื่อ 28 เม.ย. 17, 10:28
|
|
บทสุดท้ายนิยายชีวิต(จริง) ที่สวยงาม บทนี้มาจากรายงานข่าวบีบีซี,dailyherald.com เล่าถึง
คู่รักวัยชราที่จับมือกันไว้ในขณะที่ทั้งคู่ใกล้สิ้นลม
คือ คุณปู่ไอแซค วัทกิ้นส์ วัย 91 ปีและคุณย่าเทเรซ่า วัย 89 ปี จากรัฐอิลลินอยส์ ทั้งคู่แต่งงานอยู่ด้วยกันมา 69 ปี เมื่อวันเสาร์ (23 เม.ย.นี้) หลังจากที่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลไฮแลนด์พาร์คพบว่าคู่รักวัทกิ้นส์หมดสติและหายใจ แผ่วลงจึงได้นำเตียงของทั้งคู่มาเรียงชิดติดกัน ส่วนสมาชิกครอบครัวก็ได้จับมือทั้งสองมาประสานกันไว้ เพื่อให้ไอแซคและ เทเรซ่าได้จับมือกันในวาระสุดท้าย... ในที่สุดคุณย่าได้เสียชีวิตก่อน(ด้วยโรคอัลไซเมอร์ส) แล้วหลังจากนั้นคุณปู่ไอแซคก็จากไปอย่างสงบในเวลา 40 นาที ต่อมา ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวดังเรื่องการจากไปในเวลาไล่เลี่ยกันของสองชีวิตที่รักผูกพันกัน นั่นคือ แม่ลูก Debbie Reynolds และ Carrie Fisher ที่จากไปในเวลาห่างกันหนึ่งวัน ส่วนในบ้านเราที่นึกถึงก็คือ คู่ศิลปินแห่งชาติ "รพีพร" ที่จากไปก่อนแล้ว หนึ่งเดือน "ป้าโจ๊ว" ซึ่งป่วยเรื้อรังมานานด้วยโรคอัลไซเมอร์จึงจากตามไป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 52 เมื่อ 28 เม.ย. 17, 10:35
|
|
ส่วนเรื่องนี้เป็น บทสุดท้ายที่สวยงามประทับใจจากนิยาย (ภาพจากพันทิป)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 53 เมื่อ 28 เม.ย. 17, 10:52
|
|
ู^ ดูเรื่องคุ้นๆ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 54 เมื่อ 04 มี.ค. 19, 10:07
|
|
จากหัวข้อกระทู้ บริทนีย์ ผป.หญิงด้วยโรคมะเร็งสมองที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาเลือกที่จะกระทำ การุณยฆาต(เอง) ในอเมริกา ผ่านมาเมื่อปีที่แล้ว, ข้ามทวีปไปออสเตรเลีย, คุณทวด david-goodall ศาสตราจารย์วัย ๑๐๔ ปี ที่สังขารซึ่งเสื่อมลงๆ จนไม่เอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิตทำให้คุณทวดตัดสินใจจบชีวิตลงด้วยการบินไปรับ บริการการุณยฆาตที่สวิตเซอร์แลนด์ https://www.bbc.com/thai/international-44001955
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 55 เมื่อ 04 มี.ค. 19, 10:10
|
|
ล่าสุดปีนี้, วันนี้้จากสื่อ https://mgronline.com/live/detail/9620000021639 นำเสนอเรื่องที่ราวกับรวมเคสทั้งสองเข้าด้วยกัน เมื่อหนุ่มไทยผป.ด้วย โรคเนื้องอกสมองที่ไม่ตอบสนองการรักษาได้ตัดสินใจ ไปรับบริการนี้ที่สวิตเซอร์แลนด์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 56 เมื่อ 04 มี.ค. 19, 10:11
|
|
“ผมไม่รู้จะอยู่ไปทำไม”
โลกโซเชียลฯ แห่แชร์โพสต์สุดท้ายของหนุ่มไทยรายหนึ่งที่ ป่วยด้วยโรคเนื้องอกในสมอง โดยเขาต้องสู้กับโรคนี้ มาเป็นระยะเวลานาน ผ่านการผ่าตัดรักษาหลายครั้ง ทว่า แนวโน้มการรักษาก็ไม่ดีขึ้นเลย หนำซ้ำความเสี่ยงว่าการผ่าตัดครั้งต่อไปอาจจะทำให้เขาต้องเป็นอัมพาต -เจ้าชายนิทรา หวั่นครอบครัวเดือดร้อน พร้อมเปรยกับครูสอนกีตาร์ว่า “ผมไม่รู้จะอยู่ไปทำไม” เขาจึงตัดสินใจ เดินทางไปสวิตเซอร์แลนด์เพื่อขอรับการการุณยฆาต และพร้อมจากโลกนี้ไปอย่างมีสติสัมปชัญญะ พร้อมโพสต์ร่ำลาครอบครัว ญาติสนิทมิตรสหาย เป็นครั้งสุดท้าย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 57 เมื่อ 04 มี.ค. 19, 11:51
|
|
ขอเคารพการตัดสินใจของเขาค่ะ ชีวิตของเขา เขามีสิทธิ์เลือกทางเดิน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Anna
|
ความคิดเห็นที่ 58 เมื่อ 04 มี.ค. 19, 12:25
|
|
เมื่อสองปีที่แล้ว ดิฉันได้เข้าคอร์สปฏิบัติธรรมกับอาจารย์คุณหมออมรา มลิลา คอร์สนี้มีคุณหมอท่านหนึ่งซึ่งป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายเข้าร่วมปฏิบัติด้วย คุณหมอเล่าว่า ก่อนที่จะป่วยเป็นมะเร็ง ท่านทำงานที่อเมริกามาหลายสิบปี พอรู้ว่าเป็นมะเร็งรักษาไม่หายมีแต่รอวันตาย ท่านจึงตัดสินใจกลับมาเมืองไทย ใช้ธรรมโอสถรักษาใจ ควบคู่ไปกับการใช้ยาประคองกายไม่ให้มันทรมานมากนัก ธรรมโอสถช่วยให้คุณหมอค่อยๆปล่อยวาง ช่วงที่ร่วมปฎิบัติธรรมด้วยกัน ถ้าเจ้าตัวไม่บอก ไม่มีใครรู้เลยว่าคุณหมอป่วยด้วยโรคร้ายและอยู่ในขั้นร้ายแรงขนาดนั้น ท่านยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา ไม่มีอาการของคนป่วยให้เห็นเลย คุณหมอเพิ่งเสียชีวิตเมื่อกลางปีที่แล้ว ได้ข่าวว่าท่านจากไปอย่างมีสติค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 59 เมื่อ 04 มี.ค. 19, 12:51
|
|
คำอธิษฐานขอดวงดาวส่องแสงแจ้งสว่าง ช่วยนำทางออกไปไกลเรียกขาน ละโรคร้ายได้ประสบพึงพบพาน ห้วงจิตแห่งจักรวาลนานนิรันดร์ขอให้คำอธิษฐานเป็นจริง
RIP
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|