เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 30
  พิมพ์  
อ่าน: 159331 ไฮโซโบราณ(2)
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 75  เมื่อ 10 พ.ย. 14, 13:10

เอารูปมาเทียบกันอีกทีค่ะ


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
Rattananuch
อสุรผัด
*
ตอบ: 37


ความคิดเห็นที่ 76  เมื่อ 10 พ.ย. 14, 14:24

เหมือนมากค่ะ แต่ดูมีอายุขึ้นอีกหน่อย
น่าจะเป็นสองสาวคนเดิม แต่เป็นสาวเต็มตัวแล้ว เลยมาถ่ายรูปกันไว้อีก
คนกลางที่สวยทีสุด คงเป็นพี่สาวใหญ่หรือคุณแม่ยังสาว
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 77  เมื่อ 10 พ.ย. 14, 14:58

คนที่เหลือ เอามาเทียบกัน เผื่อจะเป็นสามสาวคนเดิมแต่คนละกาลเวลากัน
น่าจะคนละคนนะคะ

ที่แปลกใจคือยุคโจงกระเบนน่าจะมาก่อนผ้าซิ่น  แต่ทำไมในภาพนี้ ถ้าเป็นสาวๆชุดเดียวกัน นุ่งผ้าซิ่นตอนรุ่นสาวแล้วพอสาวเต็มตัวกลับไปนุ่งโจงกระเบน

สาวไทยสมัยก่อนที่สวยๆนี่ สวยชนิดไม่ต้องผ่านศัลยกรรมกันเลยนะคะ 
สวยแบบไทยๆไม่ต้องเขียนตาทาปาก  ไม่ต้องเสริมจมูกก็สวยได้มากๆ


บันทึกการเข้า
Rattananuch
อสุรผัด
*
ตอบ: 37


ความคิดเห็นที่ 78  เมื่อ 10 พ.ย. 14, 15:10

คนละคนแน่ค่ะอาจารย์ รูปปากไม่เหมือนกันเลย
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 79  เมื่อ 10 พ.ย. 14, 15:46

น่าจะเป็นน้องอีกคนหนึ่งของพี่สาวคนใหญ่ก็ได้ค่ะ    กลับไปที่หอจดหมายเหตุ  เห็นจะต้องไปค้นรูปเพิ่มเติม
อาจจะมีพี่น้องสี่สาวก็ได้
บ้านนี้ลูกสาวสวยทั้งนั้นเลย    อยากให้หลานเหลนผ่านมาทางเรือนไทย เข้ามาจำคุณยายคุณทวดได้บ้าง  เราจะได้รู้จักท่านทั้งหลายมากกว่านี้

พูดถึงคนสวย  ดิฉันมีพี่น้องสองศรีมาให้ดูอีกรูปหนึ่งค่ะ  เห็นแล้วนึกถึงพระเพื่อน-พระแพง


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 80  เมื่อ 10 พ.ย. 14, 15:51

คนขวา สวยมากค่ะ ถ้าอยู่ในยุคนี้ คงมีคนมองจนเหลียวหลัง


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 81  เมื่อ 11 พ.ย. 14, 21:33

เห็นแฟชั่นผ้าลูกไม้งามๆมาหลายภาพเต็มที    ถ้าใครเกิดสงสัยว่าสาวงามในรัชกาลที่ ๖  ไม่แต่งตัวแบบอื่นกันบ้างหรือ นอกเหนือจากลูกไม้อลังการงานสร้าง  ก็ขอนำชุดเรียบๆ  แต่ดูแช่มช้อยสมเป็นกุลสตรีไทยในอดีตมาให้ดูกันเป็นการสลับฉากบ้าง

พี่น้องสองสาวคู่นี้น่าจะอยู่ในสังคมคนละแบบกับคู่บน    แต่ก็ดูเรียบร้อยน่าชมทั้งคู่  เสื้อแบบเรียบๆไม่ฟู่ฟ่า  นุ่งโจงกระเบนไม่นุ่งซิ่น ดูลักษณะทรงผมน่าจะอยู่ในปลายรัชกาลที่ ๖   เธอสองคนนี้อาจเดินช้ากว่าสมัยนิยมนิดหน่อย แต่ก็ไม่เชย  สวมถุงน่องสีอ่อนรับกับรองเท้าส้นสูงดูเรียบร้อย    เดาว่าถ้าเป็นลูกสาวขุนนางก็ระดับกลาง หรือไม่ก็ลูกสาวคหบดี เป็นคนค้าคนขาย  พร้อพประกอบฉากเป็นแบบง่ายๆ เรียบๆเช่นเดียวกับเสื้อผ้า

เธอคงมาถ่ายรูปที่สตูดิโอโดยไม่ต้องการฉากอลังการนัก  เพราะสนนราคาอาจแพงเกินจำเป็นสำหรับเธอ



บันทึกการเข้า
นางมารน้อย
พาลี
****
ตอบ: 306


ทำงานแล้วค่ะ


ความคิดเห็นที่ 82  เมื่อ 11 พ.ย. 14, 21:41

สองพี่น้องนี้แต่งกายเรียบร้อย สวยงามน่ารักมากนะคะ ไม่ฟู่ฟ่าแต่ก็งาม
บันทึกการเข้า

สวัสดีทุกๆท่านค่ะ
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 83  เมื่อ 12 พ.ย. 14, 08:54

เห็นด้วยค่ะ  มาดูกันอีกรูปนะคะ
รูปนี้น่าจะถ่ายในรัชกาลที่ ๗   เมื่อแฟชั่นเปลี่ยนแบบจากความหรูหราสง่าอลังการมาเป็นเรียบง่ายแบบยุค 1920s    เสื้อคอกว้างแต่ตื้น แขนสั้นไม่ต่อแขก  เป็นแพทเทิร์นที่ง่ายมาก เย็บเอาเองก็ได้   มีการเล่นสีสันและดอกดวงลายผ้าแทนผ้าลูกไม้อย่างในปลายรัชกาลก่อน  ชายเสื้อผูกชายด้านข้าง นุ่งกับผ้าซิ่น  โจงกระเบนหายไปแล้วจากสาวสยาม

ดิฉันมีรูปคุณย่าตอนท่านยังสาว ก็แต่งแฟชั่นแบบเดียวกันนี้

สมัยนั้นมีการดัดผมแล้ว น่าจะด้วยคีมร้อน สาวๆจึงมีผมหนาพองขึ้นเป็นกรอบหน้า  ไว้ผมยาวแต่ม้วนขึ้นมาระดับคอ   อาภรณ์ก็น้อยลง ไม่อลังการอย่างในยุคก่อน   มีสร้อยห้อยจี้เพชร  สร้อยข้อมือเล็กๆและแหวนพอแล้ว  ไม่ต้องมีเข็มกลัดหรือสร้อยซ้อนกันหลายชั้น
แต่ต่างหูยังมีอยู่ เป็นแบบทิ้งตัวยาวๆ   เรียกว่า "ต่างหูด๊อก" หรือ "ตุ้มหูด๊อก"   เพราะเวลาเดินมันจะแกว่งกระด๊อกกระแด๊ก ตามการเคลื่อนไหว
สาวคนซ้ายสวมนาฬิกาข้อมือกรอบฝังเพชรด้วยค่ะ    สมัยนั้นไม่มี "โลเหล็ก"   สงสัยจริงว่าเป็นปาเต๊กฟิลลิปหรือว่าโอเมก้า


บันทึกการเข้า
นางมารน้อย
พาลี
****
ตอบ: 306


ทำงานแล้วค่ะ


ความคิดเห็นที่ 84  เมื่อ 12 พ.ย. 14, 10:51

ทำผมดัดลอนสมัยก่อนน่าจะยากนะคะ การใช้คีมเหล็กร้อนถ้าไม่ถนัดจริงๆนี่น่าจะลำบาก อย่างเรื่องโอชิน โอชินไปเรียนทำผมต้องฝึกหัดฝีมือตั้ง 2 ปีกว่าจะออกมาเปิดร้านเองได้ การใช้คีมเหล็กร้อนดัดผมนี่อยากที่สุด กว่าจะเป็นก็เล่นเอาลำบาก สมัยนี้สบายมาก ลอนเปียกสำเร็จก็มีพร้อม แปะเข้าไปแป๊บเดียวได้ทรงวินเทจเลย
บันทึกการเข้า

สวัสดีทุกๆท่านค่ะ
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 85  เมื่อ 13 พ.ย. 14, 09:13

คีมร้อนสมัยนั้นดัดยากจริงค่ะ   ร้อนไปหน่อยหรือนานไปนิด  ผมก็ไหม้เอาง่ายๆ หลุดไปหลายปอยให้เจ้าของน้ำตานองหน้า    ดัดผมจึงเป็นเรื่องต้องยอมเสี่ยงดวงเอา เพื่อความงาม

พาพระเอกนางเอกมาให้ดูอีกคู่   
รูปนี้ถ่ายในรัชกาลที่ ๗   แฟชั่นหญิงสาวเปลี่ยนไปแล้วโดยสิ้นเชิง    เสื้อทรงกระบอกตัวหลวมกับซิ่นสั้น ไม่ยาวถึงข้อเท้า เข้ามาเป็นแฟชั่นแทน     เครื่องประดับเปลี่ยนเป็นเล็กๆน้อยๆจุ๋มจิ๋ม ไม่อลังการอย่างในรัชกาลก่อน     ผมสั้นเข้ามาแทนผมยาว  ดัดเป็นลอนคลื่นทันสมัย  รองเท้าส้นสูงแทบไม่ต่างจากสมัยนี้  สวมถุงน่องเป็นแพรบางที่เรียกว่า ถุงเท้าใยบัว
ส่วนผู้ชายยังแต่งตัวตามเดิม

รูปนี้ฝ่ายชายคงเป็นข้าราชการ  เป็นคุณหลวงหรือยังไม่ทราบ   แต่น่าจะแต่งงานกันใหม่ๆชวนกันมาถ่ายรูป  คุณนายยังสาวพริ้ง แต่งกายงาม   ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป   ใครจะแต่งแฟชั่นไปงานย้อนยุคลองแต่งแบบเธอก็ได้ค่ะ  ไปหาเสื้อคุณแม่คุณน้ามาใส่ดูน่าจะเหมืน


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 86  เมื่อ 15 พ.ย. 14, 11:01

รูปคู่ คราวนี้แม่กับลูก
คุณแม่อยู่ในวัยสาวใหญ่  หน้าตาคมขำ แต่งกายอย่างสาวต้นรัชกาลที่ ๗    ประดับกายพองาม มีไม่กี่ชิ้น แต่ซูมเข้าไปเจอเพชรทั้งกำไลและแหวน  บอกให้รู้ว่าคุณพ่อทำงานมีรายได้ดี    เสื้อเธออาจจะเย็บเองก็ได้ เพราะเป็นแบบง่ายๆ ไม่ต้องต่อแขนซึ่งเย็บยาก   
ผิวกายของคุณแม่ แม้ว่าดูจากภาพขาวดำก็พอดูออกว่าไม่ใช่คนขาว  ผิดกับลูกสาวที่ขาวกว่ามากโดยเฉพาะมือ   มือคุณแม่ดูเกลี้ยงเกลา ลำนิ้วข้อไม่แตก ไม่มีลักษณะว่าทำงานหนัก   เธอคงเป็นคุณนายมีบ่าวซักผ้าหุงข้าวทำงานบ้านให้

ที่น่าสนใจคือลูกสาววัยดอกไม้แรกแย้ม     หน้าตาเธอไม่ใช่คนไทยเอาเลย  แม้ว่ามีแม่เป็นไทย ตาคมกลมโต จมูกโด่งปากเป็นกระจับ   ผมหนา หยักศกเป็นคลื่นน้อยๆตามธรรมชาติ      เสื้อผ้าก็เหมือนเสื้อสำเร็จรูปของฝรั่งเพราะขนาดตัวโตกว่าตัวเธอ เห็นไหล่ตกชัดเจน   เนื้อผ้าแพรนุ่มทิ้งตัว หาได้ยากในสยามในตอนนั้น   
เดาว่าเป็นเสื้อที่คุณพ่อซื้อมาให้ กะขนาดใหญ่หน่อยเผื่อใส่ได้หลายปี

ขอเดาต่อว่าคุณแม่ มีเชื้อมอญ เพราะหน้าตาผิวพรรณส่อไปทางนั้น    ส่วนลูกสาวคงมีคุณพ่อเป็นฝรั่ง ชาติไหนก็ไม่ทราบ  ลูกสาวจึงดูเป็นแหม่มมากกว่าเด็กไทย


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 87  เมื่อ 16 พ.ย. 14, 10:24

ภาพเดี่ยวของสตรีไฮโซท่านนี้ทำเอาพิศวงงงวยอยู่นานเมื่อเห็นในลิ้นชักหอจดหมายเหตุ   จนต้องหยิบออกมาเพื่อนำมาให้ตีความกัน
เธอแต่งกายอย่างสตรีต้นสมัยรัชกาลที่ ๗    เสื้อแขนกุดตัวยาวผูกโบด้านข้าง กับซิ่นครึ่งน่องนี้คือแฟชั่นต้นรัชกาลที่ ๗ ที่สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีทรงฉลองพระองค์แบบนี้ เห็นได้ในหลายพระรูปด้วยกัน
เรื่องเสื้อผ้าไม่น่าสงสัยอะไรหรอก ก็แฟชั่นน่ะแหละ แต่ที่สำคัญคือสายสะพายและเครื่องราชฯที่ติดอยู่บนสายสะพายนี่น่ะสิ  เป็นเครื่องราชฯ อะไร    และสายสะพายชั้นไหน    ดูไม่ออก
ลักษณะคล้ายๆเครื่องราชฯ ที่เคยประดับบนฉลองพระองค์พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ

ต้องเดือดร้อนรบกวนคุณ V_Mee อีกแล้วว่า ในรัชกาลที่ ๗ มีเครื่องราชฯสำหรับสตรีที่ไม่ใช่ตระกูลจุลจอมเกล้า คือตระกูลไหนอีกคะ

ที่สำคัญกว่านี้คือไฮโซผู้นี้ยังสวมเทียร่า คาดเป็นกระบังไว้รอบศีรษะด้วย    เคยเห็นกระบังเพชรของคุณหญิงอนิรุทธเทวา  แต่คนละแบบกัน   

มีรูปเธออีกรูปหนึ่ง จะนำลงให้งงกันอีกต่อไปค่ะ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 88  เมื่อ 16 พ.ย. 14, 10:25

คุณหญิงเฉลา อนิรุทธเทวา กับเทียร่า หรือกระบัง


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 89  เมื่อ 16 พ.ย. 14, 10:34

รูปของไฮโซสวมกระบังคนเดียวกัน  ถ่ายกับลูกๆ

รูปนี้ แฟชั่นสตรีในภาพประมาณตอนกลางหรือค่อนไปทางปลายรัชกาลที่ ๖  เพราะคุณแม่ยังนุ่งโจงกระเบนสวมเสื้อลูกไม้อยู่   แต่ว่าผมเผ้าดัดแบบทันสมัยแล้ว ไม่ใช่ผมเสยแต่งด้วยเจลขี้ผึ้งอย่างสตรีตอนต้นรัชกาล     

คุณแม่นั่งอย่างภูมิฐาน  ยังสวมสายสะพายสายเดิม แต่คราวนี้ไม่เข้าใจว่าทำไมสะพายคนละข้างกับอีกรูป  หรือว่าช่างภาพอัดภาพกลับซ้ายเป็นขวา
เริ่มสงสัยว่าเป็นสายสะพายของฝรั่ง ดวงตราบนสายสะพายก็ดวงตราฝรั่ง   แต่เป็นอะไรแท้จริงนั้นต้องรอคุณ V_Mee  หรือคุณ NAVARAT.C  คุณหนุ่มสยามและคุณเพ็ญชมพู 

คุณแม่ต้องเป็นภรรยาของฝรั่งเป็นแน่ เพราะลูกๆที่ยืนอยู่สามคนหน้าตาเป็นฝรั่ง ไม่มีเค้าหน้าแม่ซึ่งออกจีน(หรือญี่ปุ่น?)  ส่วนคุณพ่อไปไหนไม่ทราบ อาจจะถึงแก่กรรมไปแล้วจึงไม่มาถ่ายรูปร่วมกัน
ถ้าหากว่าคุณแม่ได้รับสายสะพายเพราะเป็นภรรยาคุณพ่อ  สามีเธอเป็นทูตหรือเจ้าคุณฝรั่งในหน่วยราชการไทยหน่วยไหนกัน?


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 30
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.045 วินาที กับ 19 คำสั่ง