siamese
|
ความคิดเห็นที่ 75 เมื่อ 18 พ.ย. 14, 07:03
|
|
slag มีคำภาษาไทยเรียกอย่างหนึ่งว่า ขี้ตะกรัน ครับ
มันผิดกับตะกรันตรงที่ว่า ตะกรันมันจะยังเกาะติดกับผนังอยู่ แต่ขี้ตะกรัน คือส่วนที่หลุดลอยออกมาฟ่องอยู่บนของเหลว
นึกถึงโรงงานถลุงแร่แทนทาลัม ที่ภูเก็ต
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 76 เมื่อ 20 พ.ย. 14, 18:40
|
|
ครับ
สั้นๆกับมัน สำหรับผู้สนใจ ดังนี้ครับ
แทนทาลัม - โคลัมเบียม (ไนโอเบียม) เป็นธาตุโลหะประเภทราคาแพง ใช้ในสินค้าประเภทเทคโนโลยีสูง (เครื่องยนต์เจ๊ท คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ) และในโลหะคุณภาพเลิศ (จรวด ดาวเทียม ฯลฯ) แล้วก็ในทางการแพทย์ (ดามกระดูก เครื่องเอ็กเรย์ MRI ฯลฯ) พบได้ไม่มากสถานที่ในโลกนี้ ซึ่งไทยเราก็เป็นหนึ่งในนั้น นอกจากพบในลักษณะแร่ตามธรรมชาติแล้ว ก็ยังพบในตะกรันที่เป็นกากจากการถลุงแร่ดีบุกในพื้นทื่เกาะภูเก็ต ราคาของมันสูงมากกว่าโลหะดีบุกที่ได้จากการถลุงกันเสียอีก ก็สูงมากพอที่คิดจะขุดเมืองภูเก็ตกันเลยทีเดียว แล้วก็มีการกล่าวล่วงไปถึงเรื่องของกัมมันตภาพรังสีโดยลืม (?) นึกไปถึง airborne radon gas ที่พบกันได้เป็นปกติทั่วๆไปในพื้นที่ๆรองรับด้วยหินแกรนิตชนิดที่เนื้อแร่ฟันม้า (feldspar) อุดมไปด้วยธาตุโซเดียม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 77 เมื่อ 20 พ.ย. 14, 19:24
|
|
เดิมว่าจะเล่าเป็นแต่ละตัว jigsaw แล้วเอามาค่อยๆต่อกัน แต่ก็ดูจะอืดอาดช้าไป ก็เลยจะขอเล่าแบบโครงใหญ่ ส่วนรายละเอียดนั้น ค่อยๆว่ากันทีหลัง
ครับ ก็เป็น 2 ลักษณะของการทำงานสำรวจหรือศึกษา ที่ผมมักจะกล่าวว่า ก็มีแบบหนึ่ง ที่ทำการศึกษาและเก็บข้อมูลแล้วนำมาสร้างบ้านพอเป็นเลาๆว่าบ้านมันเป็นทรงไทย ทรงจีน หรือทรงฝรั่ง แล้วค่อยๆหาเฟอร์นิเจอร์ (รายละเอียด การพิสูจน์) มาใส่ มาพินิจดูซิว่ามันลงตัว ไม่ลงตัว และว่ามันน่าจะเป็นบ้านทรงใหนกันแน่ หรือในอีกแบบหนึ่ง คือ หาเฟอร์นิเจอร์ (รายละเอียด) มาให้ได้มากที่สุด แล้วค่อยๆนำมาจัดดูว่ามันน่าจะลงตัวเป็นเรื่องของบ้านทรงใด
ซึ่งทั้งสองวิธีการนี้ ต่างก็ทำให้เกิดความน่าเบื่อ คือ เบื่อมโน กับ เบื่อยืดยาด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 78 เมื่อ 20 พ.ย. 14, 19:38
|
|
อีกนิดนึงกับเรื่องของ slag ครับ
เท่าที่พอจะมีข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณธาตุตะกั่วและเงินใน slag ในแถบนั้น ผนวกกับสภาพของพื้นที่ ผนวกกับเส้นทางคมนาคมที่น่าจะใช้กันในอดีตกาล ผนวกกับเครื่องใช้ส่วนบุคคลที่พบ และจากการสัมผัสจริง (จากการเดินสำรวจในงานที่รับผิดชอบ)
ผมเห็น (เดา) ว่า slag ที่หนานยะน่าจะเป็นพวกเศษจากกระบวนการ roasting ของแร่ดิบ ก่อนที่จะขนย้ายไปถลุงที่สองท่อเพื่อเอาโลหะตะกั่ว สำหรับที่เกริงกราเวีย อาจจะเป็นเรื่องของการ refine โลหะให้บริสุทธิ์มากขึ้นหรือการทำโลหะผสม (alloy) ให้มีคุณสมบัติที่ดีทากขึ้น และสำหรับบ่องามนั้น ดูลักษณะน่าจะเป็นเรื่องสนใจจะเอาเงินมากกว่าโลหะตะกั่ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 79 เมื่อ 22 พ.ย. 14, 19:20
|
|
ก็จะขอย้ำอีกครั้งว่า ผมมีความรู้ทางประวัติศาสตร์น้อยมาก ความรู้ทางทหารและการเดินทัพก็ไม่มี เรื่องราวที่จะได้กล่าวถึงต่อๆไปจากนี้นั้น ผมใช้ประสบการณ์ที่ได้พบได้สัมผัสในพื้นที่จริงเป็นพื้นฐานในการสร้างภาพต่างๆ อาทิ หลักคิดหลักปฏิบัติของคนพื้นบ้านในการเดินท่องป่าไปในถิ่นที่ไม่รู้จักดี การเตรียมตัวเตรียมความพร้อม ข้อจำกัดในการดำรงชีพตลอดช่วงการเดินทางที่ต้องใช้ระยะเวลามากกว่าสัปดาห์ ทั้งอาหาร ทั้งอุปกรณ์และเครื่องมือพื้นฐานที่จำเป็น รวมถึงการสัตว์ต่าง (ช้าง ม้า) ในขบวนการเดินทาง ฯลฯ
แล้วก็ใช้เรื่องของชื่อเรียกขานสถานที่ต่างๆ ความเก่าแก่ของที่ตั้งชุมชนต่างๆ เส้นทางการคมนาคมเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มชุมชน ระยะทางและระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางระหว่างชุมชนต่างๆ ุ ความเป็นไปได้ในเรื่องราวของกระทู้นี้ ก็จึงอาจจะกล่าวได้ว่าเป็นเพียงเรื่องที่มาจากการพินิจพิจารณาและการวิเคราะห์ของบุคคลผู้หนึ่งที่ใช้เสี้ยวหนึ่งของชีวิตคลุกคลีอยู่ในป่าผืนหนึ่งที่มีการเคลื่อนไหวของการเดินทัพของไทยกับพม่าในประวัติศาสตร์ของประเทศทั้งสอง ซึ่งก็อาจจะถูกต้องหรือไม่ถูกต้องเลยก็ได้ (มีแนวโน้มว่าจะเป็นด้านไม่ถูกเสียมากกว่า)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
กะออม
|
ความคิดเห็นที่ 80 เมื่อ 22 พ.ย. 14, 19:49
|
|
เก็บ slag เต็มโพล่แล้วค่ะ รอนายทางออกเดินทาง แล้วเรื่องเส้นทางเดินทัพจะขออนุญาตแทรกแซงเป็นบางเวลา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33584
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 81 เมื่อ 22 พ.ย. 14, 19:55
|
|
แบกอุปกรณ์มาส่งคุณกะออมค่ะ เดินตามรพินทร์ ไพรวัลย์ไปดีๆนะคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 82 เมื่อ 22 พ.ย. 14, 20:25
|
|
จะไปแล้วเหรอครับ ไปด้วย ๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33584
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 83 เมื่อ 22 พ.ย. 14, 20:47
|
|
อ้าว ลืมห่อ ของสำคัญ ดีจริง คุณนวรัตนอุตส่าห์หิ้วมาส่งให้ด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 84 เมื่อ 22 พ.ย. 14, 20:59
|
|
หน้า..เดิ้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 85 เมื่อ 22 พ.ย. 14, 21:00
|
|
เอ๋ ^ นี่เราเดินไปหรือเดินกลับหว่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 86 เมื่อ 23 พ.ย. 14, 22:53
|
|
ยกทัพโยธาเวลาดึก อึกทึกทั่วลั่นสนั่นป่า ยกทัพแบบนี้ดูทีท่าว่าจะไม่รอดแน่ๆ คงต้องเป็นแบบเงียบๆหน่อย
มาช่วยกันวางแผนการเคลื่อนทัพนะครับ แล้วใช้เหตุการณ์เมื่อครั้งสงครามเก้าทัพมาพิจารณา (สำหรับเหตุการณ์ก่อนๆนั้น ค่อยแทรกเข้าไป) สมมุติว่าทัพพม่ามารวมพลอยู่ที่เจดีย์สามองค์ แล้วจะเคลื่อนทัพมายึดกรุงธนบุรี ผมเลือกโดยการสมมุติเอาพื้นที่ตั้งของเจดีย์สามองค์เป็นจุดเริ่มต้น ก็เพราะว่าพื้นที่บริเวณนี้เป็นที่ยอดเนิน ด้านตะวันตกเฉียงเหนือเป็นร่องทอดลงไปสู่ที่ราบปากอ่าวของพม่า ด้านตะวันออกเฉียงใต้เป็นร่องทอดลงไปสู่แม่น้ำแควน้อยที่เป็นเส้นทางเข้าสู่เมืองหลวงของไทย พื้นที่นี้กว้างมากพอที่จะเป็นที่นัดหมายรวมไพร่พล มี landmark ที่ดี คือ เขา (นึกชื่อยังไม่ออกครับ) สำหรับสถานที่พักสะสมกำลังของไพร่พลนั้นก็จะอยู่ต่ำลงมาประมาณ 20 กม. คือแถวสบแม่น้ำบีคลี่กับซองกาเลีย แล้วก็มีที่ราบสำหรับดำเนินการด้านการสะสมรวบรวมสะเบียงอยู่ใกล้ๆ ซึ่งก็คือพื้นที่ตั้งของบ้านหนองลูในปัจจุบัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
samun007
|
ความคิดเห็นที่ 87 เมื่อ 23 พ.ย. 14, 23:51
|
|
ยกทัพโยธาเวลาดึก อึกทึกทั่วลั่นสนั่นป่า ยกทัพแบบนี้ดูทีท่าว่าจะไม่รอดแน่ๆ คงต้องเป็นแบบเงียบๆหน่อย
มาช่วยกันวางแผนการเคลื่อนทัพนะครับ แล้วใช้เหตุการณ์เมื่อครั้งสงครามเก้าทัพมาพิจารณา (สำหรับเหตุการณ์ก่อนๆนั้น ค่อยแทรกเข้าไป) สมมุติว่าทัพพม่ามารวมพลอยู่ที่เจดีย์สามองค์ แล้วจะเคลื่อนทัพมายึดกรุงธนบุรี ผมเลือกโดยการสมมุติเอาพื้นที่ตั้งของเจดีย์สามองค์เป็นจุดเริ่มต้น ก็เพราะว่าพื้นที่บริเวณนี้เป็นที่ยอดเนิน ด้านตะวันตกเฉียงเหนือเป็นร่องทอดลงไปสู่ที่ราบปากอ่าวของพม่า ด้านตะวันออกเฉียงใต้เป็นร่องทอดลงไปสู่แม่น้ำแควน้อยที่เป็นเส้นทางเข้าสู่เมืองหลวงของไทย พื้นที่นี้กว้างมากพอที่จะเป็นที่นัดหมายรวมไพร่พล มี landmark ที่ดี คือ เขา (นึกชื่อยังไม่ออกครับ) สำหรับสถานที่พักสะสมกำลังของไพร่พลนั้นก็จะอยู่ต่ำลงมาประมาณ 20 กม. คือแถวสบแม่น้ำบีคลี่กับซองกาเลีย แล้วก็มีที่ราบสำหรับดำเนินการด้านการสะสมรวบรวมสะเบียงอยู่ใกล้ๆ ซึ่งก็คือพื้นที่ตั้งของบ้านหนองลูในปัจจุบัน
ตอนแรกว่าจะขอความกรุณาเรื่องนี้อยู่เหมือนกันครับ กะจะรอตอนกระทู้วายแล้วจึงถาม แต่เห็นเขียนก่อน ผมจึงขอสอบถามครับว่าา ด่านเจดีย์สามองค์ของจริง สรุปแล้วจมอยู่ใต้น้ำตอนที่เขาสร้างเขื่อนกันจริงหรือไม่ครับ ?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 88 เมื่อ 24 พ.ย. 14, 10:10
|
|
แผนที่แสดงการเดินทางของทัพพม่าจากด่านเจดีย์สามองค์ ถึงสมรภูมิทุ่งลาดหญ้า
ที่มาแผนที่ รวมศักดิ์ ไชยโกมินทร์. (2544). สงครามประวัติศาสตร์. กรุงเทพฯ
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
samun007
|
ความคิดเห็นที่ 89 เมื่อ 24 พ.ย. 14, 13:02
|
|
ร่วมด้วยครับ แผนที่เส้นทางเดินทัพจากกรุงธนบุรีถึงกรุงอังวะ ของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
โดยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ทรงส่งแผนที่นี้ไปถวายจักรพรรดิเฉียนหลงแห่งต้าชิง เมื่อราว ๆ พ.ศ. ๒๓๒๔ ครับ โดยวิธีการวางแผนที่ให้ทิศเหนืออยู่ทางขวามือ ทิศใต้อยู่ซ้ายมือ ทิศตะวันออกอยู่ด้านล่าง ส่วนทิศตะวันตกอยู่ด้านบน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|