กลุ่มชนชาติในแผ่นดินจีนพอจะจำแนกได้เป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มคนในพื้นที่ด้านเหนือ เป็นพวกวัฒนธรรมข้าวสาลี (wheat) และ กลุ่มคนในพื้นที่ด้านใต้ เป็นพวกวัฒนธรรมข้าว (rice)
แน่นอน ยังไงๆจีนในดินแดนด้านเหนือ ก็ต้องขยายอิทธิพลลงมาครอบคลุมกลุ่มคนในดินแดนด้านใต้ เพื่อจะได้เพิ่มพูนโภคทรัพย์ของตนเอง แล้วก็คงต้องเข้ามาในลักษณะที่นุ่มนวล เพราะพื้นที่มันกว้างขวางมากเหลือเกิน แถมยังอยู่เป็นกระจุกๆแบบกระจายอีกด้วย
ถ้าจะดูเชิงนโยบายของคนจีนตอนเหนือแม่น้ำฉางเจียง (แยงซีเกียง) ต่อคนทางตอนใต้ของแม่น้ำฉางเจียง คงต้องแบ่งเป็นยุค ๆ ไปล่ะครับ ว่าจะดูยุคไหน เพราะแต่เดิมถ้าว่ากันไป ในแผ่นดินจีนปัจจุบันย้อนไปเมื่อประมาณ ๔-๕ พันปีก่อนนั้น
เผ่าที่เรียกตัวเองว่า หัวเซี่ย (ที่คนไทยเรามักจะคุ้นหูว่าคนจีนฮั่น) ก็เป็นแค่เผ่าหนึ่งในที่ราบลุ่มแม่น้ำเหลือง(ฮวงโห)เท่านั้น มาภายหลังด้วยนโยบายทั้งการผูกมิตร และเอื้อประโยชน์ต่อเผ่าอื่น ๆ รอบ ๆ จึงทำให้ จีชาง (พระนามเดิมของ จักรพรรดิโจวเหวิน : จิวบุ๋นอ๋อง) สามารถรวบรวมเผ่าต่าง ๆ รอบ ๆ เผ่าตัวเอง เข้าเป็นกองทัพพันธมิตร โค่นล้มอำนาจเดิมของ จักรพรรดิโจวหวัง(จิวอ๋อง) แห่งราชวงศ์ซางลงได้ จึงได้เกิดราชวงศ์โจวขึ้นมา
ซึ่งก็ยังไม่ได้มีการพัฒนาลงมายังเขตใต้แม่น้ำฉางเจียงเท่าไร สังเกตได้จากเหตุการณ์ที่ ฉู่จวงหวัง (King Zhuang of Chu ) โมโหมาก ที่ตัวเองไม่ได้รับการแต่งตั้งจากจักรพรรดิราชวงศ์โจว ให้ยกระดับศักดินาของตัวเองจากสามนตราชองค์หนึ่ง ให้เป็นอธิราชองค์หนึ่งในยุคนนั้น เนื่องมาจากแคว้นฉู่ อยู่ในบริเวณพื้นที่กันดาร จะบอกว่าบ้านนอกก็ไม่ผิด เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่จะอยู่ด้านตะวันออกเฉียงใต้ และบางส่วนก็อยู่ตอนใต้ของแม่น้ำฉางเจียง
ดังนั้นนโยบายต่อคนพื้นที่เดิม จะบอกว่านิ่มนวล ผมก็ว่าไม่นิ่มมาก แต่มาในลักษณะแต่งตั้งมาปกครอง และขยายพื้นที่โดยการขนคนตัวเองลงมาอยู่มากกว่า แนวเดียวกับที่กำลังทำในธิเบต และ ซินเจียงตอนนี้
ส่วนคนพื้นถิ่นเดิมที่เป็นเผ่าต่าง ๆ แทบไม่มีโอกาสมากนักในการเข้ามามีส่วนร่วม เพราะบ่อยครั้งก็เกิดการก่อการกบฏ ลุกขึ้นสังหารผู้ปกครองจากส่วนกลางที่เข้ามา "ขูดรีด" จากคนในพื้นถิ่น ที่เห็นชัด ๆ ก็จะแถบส่วนของในมณฑลซื่อฉวน (เสฉวน) ที่มีบันทึกไว้ก็ไม่น้อย ต้องปราบปรามกันก็บ่อย ครับ