เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8
  พิมพ์  
อ่าน: 37146 เล่าด้วยภาพ: พระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภช รัชกาลที่ ๖
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 75  เมื่อ 20 ต.ค. 14, 06:57

วันที่ ๖ ธันวาคม

เวลา ๓.๓๐ ล.ท. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินประทับพลับพลาท้องสนามหลวง พระราชทานธงไชยเฉลิมพลแก่กองทัพบก สมเด็จพระบรมราชินี พระพันปีหลวงได้เสด็จล่วงหน้าไปก่อน และบรรดาพระราชวงศ์นานาประเทศและเจ้าหญิงกับอัครราชทูตผู้แทนพิเศษพากันเข้าเฝ้างานนั้น


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 76  เมื่อ 20 ต.ค. 14, 06:59

เวลาค่ำพระราชทานเลี้ยงนายทหาร
ภายหลังที่เสร็จการเลี้ยงแล้ว เจ้าพระยายมราชมีงานสโมสรสันนิบาตที่พระทรวงนครบาล

ในภาพเป็นขบวนเสด็จของพระราชวงศ์ต่างประเทศพระองค์หนึ่งโดยรถม้าพระที่นั่ง


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 77  เมื่อ 21 ต.ค. 14, 06:33

วันที่ ๗ ธันวาคม

สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนลพบุรีราเมศร์ ทรงเชิญพระราชวงศ์นานาประเทศ และอัครราชทูตผู้แทนพิเศษ เสวยและรับประทานอาหารกลางวัน

เวลา ๓ ล.ท. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จทอดพระเนตรการตรวจพล ณ ท้องสนามหลวง สมเด็จพระบรมราชินี พระพันปีหลวงพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายในเสด็จในงานนี้ พระราชวงศ์นานาประเทศ อัครราชทูตผู้แทนพิเศษ และคณะทูตานุทูตเข้าเฝ้า
   
เวลาค่ำ เสด็จพระราชดำเนินยังกระทรวงกลาโหม กองทหารบกชักยัญไฟถวายไชยมงคล


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 78  เมื่อ 21 ต.ค. 14, 06:37

^บน^ ขบวนพระราชวงศ์เสด็จยังมณฑลพิธี ณ บริเวณท้องสนามหลวง

Vล่างV ขบวนเสด็จพระราชดำเนิน ออกจากประตูวิเศษไชยศรี


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 79  เมื่อ 21 ต.ค. 14, 06:52

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จทรงม้า ขณะผ่านแยกวัดมหาธาตุ


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 80  เมื่อ 21 ต.ค. 14, 06:59

ขบวนเสด็จตรวจพลด้านทักษิณาวัตร เวียนขวารอบท้องสนามหลวงไปยังปะรำพิธี พร้อมเจ้านายฝ่ายชายจากนานาประเทศ

สมเด็จพระราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินตามโดยรถม้าพระที่นั่ง พร้อมเจ้านายฝ่ายหญิงจากนานาประเทศ


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 81  เมื่อ 21 ต.ค. 14, 07:06

บริเวณปะรำพิธี พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในเครื่องแบบเต็มยศ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท
ในภาพ เห็นพระบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงศ์(ตอนนั้นคงยังเป็นหม่อมเจ้าอยู่) พระโอรสของสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงศ์ภูวนาทบนที่ประทับแถวหน้าในฐานะที่ยังทรงเป็นเด็กน้อยอยู่ด้วย


บันทึกการเข้า
V_Mee
สุครีพ
******
ตอบ: 1436


ความคิดเห็นที่ 82  เมื่อ 21 ต.ค. 14, 08:01

ขอย้อนไปที่ความเห็น ๗๕  ในการพระราชทานธงไชยเฉลิมพลแก่กองทหารบกในสมัยรัชกาลที่ ๖ นั้นมีพระราชบันทึกว่า หน่วยทหารที่ได้รับพระราชทานธงไชยเฉลิมพลในสมัยนั้้นมีแต่กองพันทหารราบและทหารม้าเท่านั้น  ต่อมาเจ้าพระยาบดินทรเดชานุชิต (ม.ร.ว.อรุณ  ฉัตรกุล) เสนาบดีกระทรวงกระลาโหม (สะกอย่างสมัยนั้น) กราบบังคมทูลขอพระราชทานธงไชยเฉลิมพลแก่หน่วยทหารปืนใหญ่  ได้มีพระบรมราชาธิบายว่า ธงไชยเฉลิมพลนั้นเป็นให้ไว้เป็นขวัญกำลังใจแก่หน่วยทหารที่ออกทำการรบในสนามให้นำไปพร้อมกับกองทหารที่เข้าทำการรบจริงในสนาม  ซึ่งมีเพียงทหารราบและทหารม้าเท่านั้นที่ออกทำการในสนาม  ส่วนทหารปืนใหญ่เป็นเพียงหน่วยสนับสนุนมิได้ออกทำการในสนามพร้อมกับสองหน่วยดังกล่าว  จึงไม่มีธรรมเนียมในนานาชาติที่จะให้ธงไชยเฉลิมพลแก่ทหารเหล่าอื่นนอกจากสองเหล่าที่กล่าวแล้ว

ต่อมาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว กระทรวงกลาโหมได้ขอพระราชทานธงไชยเฉลิมพลแก่ทหารปืนใหญ่และทหารเหล่าอื่นๆ เพิ่มเติม  เมื่อโปรดเกล้าฯ พระราชทานแล้ว  ภายหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองจึงมีการขอพระราชทานธงไชยเฉลิมพลให้หน่วยทหารจนครบทุกเหล่า  แถมด้วยกองทัพตำรวจอีกด้วย
บันทึกการเข้า
V_Mee
สุครีพ
******
ตอบ: 1436


ความคิดเห็นที่ 83  เมื่อ 21 ต.ค. 14, 08:34

ภาพในความเห็นที่ ๗๙
ขวาสุด พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องเต็มยศ (เทา) จอมพลทหารบก พระมาลาเฮลเม้ตประดับพู่ขนนกขาว  ฉลองพระองค์ทูนิกคอพับสีเทา  พระสนับเพลาสีน้ำเงินแก่  ทรงม้าพระที่นั่งสยามพันธุ์ เป็นม้าพันธุ์อาหรับสีดำมีด่างขาวที่หน้าผาก
ผู้ที่ตามเสด็จมาทางซ้ายของภาพคือ นายพลเอก พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช เสนาบดีกระทรวงกระลาโหม  ซึ่งในระหว่างประทับตรวจพลสวนสนามกลางท้องสนามหลวงในวันนี้  ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรยศเลื่อนเป็นจอมพลทหารบก
ยังสงสัยอยู่ว่า ในเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระเจ้าพี่ยาเธอพระองค์นั้นต่างก็ทรงม้าพระที่นั่งอยู่กลางสนาม  เวลาพระราชทานและรับพระราชทานสัญญาบัตรนั้นทรงกระทำกันบนหลังม้าหรืออย่างไรไม่มีบันทึกไว้

อีกสองพระองค์ที่ทรง้าตามเสด็จมานั้นทรงเครื่องทหารเรือ  ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นพระองค์ใด

ในความเห็นที่ ๘๐
ผู้ทรงทรงเครื่องนายพลเอกทหารบก พระมาลาพู่ขาว ทรงม้าขาว คือ นายพลเอก พระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ (จอมพล สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ) เสนาธิการทหารบก ผู้อำนวยการสวนสนามในวันนั้น 
พระราชวงศ์ต่างประเทศที่มาร่วมในงานสวนสนามคราวนี้ที่เป็นฝ่ายหน้าต่างก็ทรงเครื่องแบบตามประเทศของตนทรงม้ามาในขบวน  ส่วนฝ่ายในประทับรถม้าพระที่นั่งมาด้วยสมเด็จพระพันปีหลวง และสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร

ภายหลังการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภชครั้งนี้แล้ว  ได้มีการถวายพระยศทหารแแด่สมเด็จพระพันปีหลวงให้ทรงเป็นนายพันโท ผู้บังคับการพิเศษกองพันที่ ๒ กรมทหารราบที่ ๑ มหาดเล็กรักษาพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  และทรงเป็นนายพันเอก ผู้บังคับการกรมทหารบกม้าที่ ๕ มณฑลนครราชสีมา  กับสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร ทรงเป็นนายพันเอก ผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ ๒ มณฑลนครไชยศรี
ต่อมาในรัชกาลที่ ๖ เมื่อโปรดเกล้าฯ สถาปนาสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี เป็นพระบรมราชินีแล้ว  ก็ได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศนายพันโท ให้ทรงเป็นผู้บังคับการพิเศษกองพันที่ ๒ กรมทหารราบที่ ๑ มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ แล้วเลยเป็นธรรมเนียมต่อมาที่สมเด็จพระบรมราชินีจะได้รับพระราชทานพระเกียรติยศนี้เนื่องด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นผู้บังคับการพิเศษของกรมทหารนี้มาทุกพระองค์ตั้งแต่รัชกาลที่ ๕ เป็นลำดับมา

อนึ่งเมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริจะโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงงเพชรบุรีราชสิรินธรเป็นผู้บังคับการพิเศษกรมทหารราบที่ ๑๔ จังหวัดเพชรบุรีตามพระนามกรมนั้น  สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถได้กาบบังคมทูลพระกรุณาว่า หากทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำเนินการตาพระราชดำริแล้วเกรงว่านายทหารในกรมทหารราบที่ ๑๔ ที่เคยประดับอักษรพระบรมนามาภิไธย ว.ป.ร.บนอินทรธนูในฐานะมราทรงเป็นผู้บังคับการพิเศษของกรมนั้นมาก่อนจะพากันเสียใจที่ต้องเปลี่ยนเอาอักษรพระบรมนามาภิไธยออกไปประดับอักษรพระนาม ว.อ.แทน  อีนจะเป็นการลดเกียรติยศของทหารหน่วยนั้น  หากจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ "น้องหญิง" คือสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงเพชรบุรีฯ ทรงเป็นทหารม้าเช่นเจ้านายฝ่ายในของนานาประเทศจะงดงามกว่า  และสมเด็จพระพันปีหลวงเองนั้นก็ทรงมีพระราชหฤทัยนิยมการทหารเป็นอย่างยิ่ง  หากจะไม่ถวายพระเกียรติยศให้ทรงเป็นทหาร  จะทรง "ไว้หนวด" เอาได้  จากนั้นจึงได้โปรดเกล้าฯ ถวายพระเกียรติยศให้สมเด็จพระพันปีหลวง  และพระราชทานพระเกียรติยศให้สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงเพชรบุรีฯ ทรงเป็นนายทหารม้า  และเป็นธรรมเนียมถวายพระเกัยรติยศให้พระบรมวงศ์ฝ่ายในทรงเป็นนายทหารม้าสืบมา  อาทิ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี  สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์  สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสรานครินทร์  พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา  พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารรัตน์
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 84  เมื่อ 21 ต.ค. 14, 08:52

อ้างถึง
อีกสองพระองค์ที่ทรง้าตามเสด็จมานั้นทรงเครื่องทหารเรือ  ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นพระองค์ใด

ใช่สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดชไหมครับ


บันทึกการเข้า
V_Mee
สุครีพ
******
ตอบ: 1436


ความคิดเห็นที่ 85  เมื่อ 21 ต.ค. 14, 19:19

ไม่ใช่สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าฟ้าฯ กรมขุจสงขลานครินทร์ครับ  เพราะเสร็จการถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมือเดือนมีนาคม ๒๔๕๔ แล้ว  สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอพระองค์นั้นได้ดดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวที่เสด็จประพาสเมืองสงขลาเมื่อวันที่ ๑๕ เมษายน ๒๔๕๔  แล้วเลยกราบถวายบังคมลาเสด็จกลับออกไปทรงศึกษาที่ยุโรปตั้งแต่วันที่ ๑๗ เมษายนปีเดียวกันนั้น

แต่พิจารณาจากตำแหน่งที่ทรงม้าคู่กันมากับพระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช เสนาบดีกระลาโหมแล้ว  เจ้านายที่ทรงเครื่องทหารเรือพระองค์นั้นน่าจะเป็น นายพลเรือเอก สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมหลวงนครสวรรค์วรพินิต (จอมพล จอมพลเรือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าฯ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต) ซึ่งเวลานั้นทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 86  เมื่อ 22 ต.ค. 14, 06:47

รถม้าที่ประทับทรงสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชชนี และเจ้านายฝ่ายหญิงนานาชาติ จอดหน้าบริเวณปริมณฑลเพื่อทอดพระเนตร ระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินตรวจพล


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 87  เมื่อ 22 ต.ค. 14, 06:48

นายพลเอก พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช เสนาบดีกระทรวงกลาโหม 


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 88  เมื่อ 22 ต.ค. 14, 06:53

ทหารสวนสนามผ่านที่ประทับ และรถม้าพระที่นั่ง


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 89  เมื่อ 25 ต.ค. 14, 16:35

แกรนด์ ดยุค โบริส วลาดิมีโรวิช ผู้แทนองค์พระเจ้าซาร์จากรัสเซีย ทรงมีพระราชบันทึกว่า

"หลังจากรับประทานอาหารกลางวันแล้ว พวกเราจะไปร่วมชมกองกำลังทหารที่กำลังรุ่งโรจน์อย่างที่ไม่เคยปรากฏให้เห็นที่กรุงเทพฯ มาก่อนเลย ที่ลานกว้างมีนายทหารจำนวน ๓๐,๐๐๐ นาย ตั้งแถวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยใต้ดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงตรงศีรษะพอดี ขณะรอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
กองทหารที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จพระราชดำเนินตรวจพลสวนสนามนั้นประกอบด้วยกองทหารทั้งสามกองพล และตัวแทนจากกองร้อยต่างๆ ตามท้องที่ที่อยู่ห่างไกลอีกจำนวนหนึ่ง มีกระโจมตั้งอยู่ริมสนามสำหรับรับรองผู้ที่ได้รับเชิญมาร่วมงานนี้

ครั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินถึง ทรงเครื่องเต็มยศจอมพลทหารบก ทรงม้านำหน้าขบวนเสด็จด้วยขบวนทหารม้าที่สง่างาม ซึ่งประกอบด้วยเจ้านานาประเทศและนายทหารตามเสด็จจำนวนมาก

จากนั้นขบวนออกเดินสวนสนามก็เริ่มขึ้น ตลอดระยะเวลาสองชั่วโมงที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของพลโท สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถนั้น กองทหารทั้งหมดเคลื่อนไหวอย่างเข้มแข็งเป็นจังหวะสม่ำเสมอพร้อมเพรียง บรรดานายทหารล้วนมีท่วงท่าสง่างาม สวมเสื้อนอกเครื่องแบบสีเทาอ่อน กางเกงขายาวสีน้ำเงินเข้ม รัดข้อเท้าแน่นด้วยสนับเพลาที่ทำด้วยขนสัตว์ เฉพาะกองทหารรักษาพระองค์เพียงกองเดียวเท่านั้นที่สวมหมวกแบบเมืองร้อน ซึ่งก็ดูเหมาะสมอย่างยิ่ง ส่วนทหารที่ตั้งแถวอยู่ตามทางจะสวมหมวกแก๊ป ทำด้วยผ้าลินิน มองดูคล้ายกับหมวกของทหารรัสเซีย


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.065 วินาที กับ 20 คำสั่ง