NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 75 เมื่อ 20 ต.ค. 14, 06:57
|
|
วันที่ ๖ ธันวาคม
เวลา ๓.๓๐ ล.ท. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินประทับพลับพลาท้องสนามหลวง พระราชทานธงไชยเฉลิมพลแก่กองทัพบก สมเด็จพระบรมราชินี พระพันปีหลวงได้เสด็จล่วงหน้าไปก่อน และบรรดาพระราชวงศ์นานาประเทศและเจ้าหญิงกับอัครราชทูตผู้แทนพิเศษพากันเข้าเฝ้างานนั้น
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 76 เมื่อ 20 ต.ค. 14, 06:59
|
|
เวลาค่ำพระราชทานเลี้ยงนายทหาร ภายหลังที่เสร็จการเลี้ยงแล้ว เจ้าพระยายมราชมีงานสโมสรสันนิบาตที่พระทรวงนครบาล
ในภาพเป็นขบวนเสด็จของพระราชวงศ์ต่างประเทศพระองค์หนึ่งโดยรถม้าพระที่นั่ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 77 เมื่อ 21 ต.ค. 14, 06:33
|
|
วันที่ ๗ ธันวาคม
สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนลพบุรีราเมศร์ ทรงเชิญพระราชวงศ์นานาประเทศ และอัครราชทูตผู้แทนพิเศษ เสวยและรับประทานอาหารกลางวัน
เวลา ๓ ล.ท. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จทอดพระเนตรการตรวจพล ณ ท้องสนามหลวง สมเด็จพระบรมราชินี พระพันปีหลวงพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายในเสด็จในงานนี้ พระราชวงศ์นานาประเทศ อัครราชทูตผู้แทนพิเศษ และคณะทูตานุทูตเข้าเฝ้า เวลาค่ำ เสด็จพระราชดำเนินยังกระทรวงกลาโหม กองทหารบกชักยัญไฟถวายไชยมงคล
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 78 เมื่อ 21 ต.ค. 14, 06:37
|
|
^บน^ ขบวนพระราชวงศ์เสด็จยังมณฑลพิธี ณ บริเวณท้องสนามหลวง
Vล่างV ขบวนเสด็จพระราชดำเนิน ออกจากประตูวิเศษไชยศรี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 79 เมื่อ 21 ต.ค. 14, 06:52
|
|
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จทรงม้า ขณะผ่านแยกวัดมหาธาตุ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 80 เมื่อ 21 ต.ค. 14, 06:59
|
|
ขบวนเสด็จตรวจพลด้านทักษิณาวัตร เวียนขวารอบท้องสนามหลวงไปยังปะรำพิธี พร้อมเจ้านายฝ่ายชายจากนานาประเทศ
สมเด็จพระราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินตามโดยรถม้าพระที่นั่ง พร้อมเจ้านายฝ่ายหญิงจากนานาประเทศ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 81 เมื่อ 21 ต.ค. 14, 07:06
|
|
บริเวณปะรำพิธี พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในเครื่องแบบเต็มยศ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในภาพ เห็นพระบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงศ์(ตอนนั้นคงยังเป็นหม่อมเจ้าอยู่) พระโอรสของสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงศ์ภูวนาทบนที่ประทับแถวหน้าในฐานะที่ยังทรงเป็นเด็กน้อยอยู่ด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
V_Mee
|
ความคิดเห็นที่ 82 เมื่อ 21 ต.ค. 14, 08:01
|
|
ขอย้อนไปที่ความเห็น ๗๕ ในการพระราชทานธงไชยเฉลิมพลแก่กองทหารบกในสมัยรัชกาลที่ ๖ นั้นมีพระราชบันทึกว่า หน่วยทหารที่ได้รับพระราชทานธงไชยเฉลิมพลในสมัยนั้้นมีแต่กองพันทหารราบและทหารม้าเท่านั้น ต่อมาเจ้าพระยาบดินทรเดชานุชิต (ม.ร.ว.อรุณ ฉัตรกุล) เสนาบดีกระทรวงกระลาโหม (สะกอย่างสมัยนั้น) กราบบังคมทูลขอพระราชทานธงไชยเฉลิมพลแก่หน่วยทหารปืนใหญ่ ได้มีพระบรมราชาธิบายว่า ธงไชยเฉลิมพลนั้นเป็นให้ไว้เป็นขวัญกำลังใจแก่หน่วยทหารที่ออกทำการรบในสนามให้นำไปพร้อมกับกองทหารที่เข้าทำการรบจริงในสนาม ซึ่งมีเพียงทหารราบและทหารม้าเท่านั้นที่ออกทำการในสนาม ส่วนทหารปืนใหญ่เป็นเพียงหน่วยสนับสนุนมิได้ออกทำการในสนามพร้อมกับสองหน่วยดังกล่าว จึงไม่มีธรรมเนียมในนานาชาติที่จะให้ธงไชยเฉลิมพลแก่ทหารเหล่าอื่นนอกจากสองเหล่าที่กล่าวแล้ว
ต่อมาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว กระทรวงกลาโหมได้ขอพระราชทานธงไชยเฉลิมพลแก่ทหารปืนใหญ่และทหารเหล่าอื่นๆ เพิ่มเติม เมื่อโปรดเกล้าฯ พระราชทานแล้ว ภายหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองจึงมีการขอพระราชทานธงไชยเฉลิมพลให้หน่วยทหารจนครบทุกเหล่า แถมด้วยกองทัพตำรวจอีกด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
V_Mee
|
ความคิดเห็นที่ 83 เมื่อ 21 ต.ค. 14, 08:34
|
|
ภาพในความเห็นที่ ๗๙ ขวาสุด พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องเต็มยศ (เทา) จอมพลทหารบก พระมาลาเฮลเม้ตประดับพู่ขนนกขาว ฉลองพระองค์ทูนิกคอพับสีเทา พระสนับเพลาสีน้ำเงินแก่ ทรงม้าพระที่นั่งสยามพันธุ์ เป็นม้าพันธุ์อาหรับสีดำมีด่างขาวที่หน้าผาก ผู้ที่ตามเสด็จมาทางซ้ายของภาพคือ นายพลเอก พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช เสนาบดีกระทรวงกระลาโหม ซึ่งในระหว่างประทับตรวจพลสวนสนามกลางท้องสนามหลวงในวันนี้ ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรยศเลื่อนเป็นจอมพลทหารบก ยังสงสัยอยู่ว่า ในเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระเจ้าพี่ยาเธอพระองค์นั้นต่างก็ทรงม้าพระที่นั่งอยู่กลางสนาม เวลาพระราชทานและรับพระราชทานสัญญาบัตรนั้นทรงกระทำกันบนหลังม้าหรืออย่างไรไม่มีบันทึกไว้
อีกสองพระองค์ที่ทรง้าตามเสด็จมานั้นทรงเครื่องทหารเรือ ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นพระองค์ใด
ในความเห็นที่ ๘๐ ผู้ทรงทรงเครื่องนายพลเอกทหารบก พระมาลาพู่ขาว ทรงม้าขาว คือ นายพลเอก พระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ (จอมพล สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ) เสนาธิการทหารบก ผู้อำนวยการสวนสนามในวันนั้น พระราชวงศ์ต่างประเทศที่มาร่วมในงานสวนสนามคราวนี้ที่เป็นฝ่ายหน้าต่างก็ทรงเครื่องแบบตามประเทศของตนทรงม้ามาในขบวน ส่วนฝ่ายในประทับรถม้าพระที่นั่งมาด้วยสมเด็จพระพันปีหลวง และสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร
ภายหลังการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภชครั้งนี้แล้ว ได้มีการถวายพระยศทหารแแด่สมเด็จพระพันปีหลวงให้ทรงเป็นนายพันโท ผู้บังคับการพิเศษกองพันที่ ๒ กรมทหารราบที่ ๑ มหาดเล็กรักษาพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และทรงเป็นนายพันเอก ผู้บังคับการกรมทหารบกม้าที่ ๕ มณฑลนครราชสีมา กับสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร ทรงเป็นนายพันเอก ผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ ๒ มณฑลนครไชยศรี ต่อมาในรัชกาลที่ ๖ เมื่อโปรดเกล้าฯ สถาปนาสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี เป็นพระบรมราชินีแล้ว ก็ได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศนายพันโท ให้ทรงเป็นผู้บังคับการพิเศษกองพันที่ ๒ กรมทหารราบที่ ๑ มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ แล้วเลยเป็นธรรมเนียมต่อมาที่สมเด็จพระบรมราชินีจะได้รับพระราชทานพระเกียรติยศนี้เนื่องด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นผู้บังคับการพิเศษของกรมทหารนี้มาทุกพระองค์ตั้งแต่รัชกาลที่ ๕ เป็นลำดับมา
อนึ่งเมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริจะโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงงเพชรบุรีราชสิรินธรเป็นผู้บังคับการพิเศษกรมทหารราบที่ ๑๔ จังหวัดเพชรบุรีตามพระนามกรมนั้น สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถได้กาบบังคมทูลพระกรุณาว่า หากทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำเนินการตาพระราชดำริแล้วเกรงว่านายทหารในกรมทหารราบที่ ๑๔ ที่เคยประดับอักษรพระบรมนามาภิไธย ว.ป.ร.บนอินทรธนูในฐานะมราทรงเป็นผู้บังคับการพิเศษของกรมนั้นมาก่อนจะพากันเสียใจที่ต้องเปลี่ยนเอาอักษรพระบรมนามาภิไธยออกไปประดับอักษรพระนาม ว.อ.แทน อีนจะเป็นการลดเกียรติยศของทหารหน่วยนั้น หากจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ "น้องหญิง" คือสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงเพชรบุรีฯ ทรงเป็นทหารม้าเช่นเจ้านายฝ่ายในของนานาประเทศจะงดงามกว่า และสมเด็จพระพันปีหลวงเองนั้นก็ทรงมีพระราชหฤทัยนิยมการทหารเป็นอย่างยิ่ง หากจะไม่ถวายพระเกียรติยศให้ทรงเป็นทหาร จะทรง "ไว้หนวด" เอาได้ จากนั้นจึงได้โปรดเกล้าฯ ถวายพระเกียรติยศให้สมเด็จพระพันปีหลวง และพระราชทานพระเกียรติยศให้สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงเพชรบุรีฯ ทรงเป็นนายทหารม้า และเป็นธรรมเนียมถวายพระเกัยรติยศให้พระบรมวงศ์ฝ่ายในทรงเป็นนายทหารม้าสืบมา อาทิ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสรานครินทร์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารรัตน์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 84 เมื่อ 21 ต.ค. 14, 08:52
|
|
อีกสองพระองค์ที่ทรง้าตามเสด็จมานั้นทรงเครื่องทหารเรือ ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นพระองค์ใด ใช่สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดชไหมครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
V_Mee
|
ความคิดเห็นที่ 85 เมื่อ 21 ต.ค. 14, 19:19
|
|
ไม่ใช่สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าฟ้าฯ กรมขุจสงขลานครินทร์ครับ เพราะเสร็จการถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมือเดือนมีนาคม ๒๔๕๔ แล้ว สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอพระองค์นั้นได้ดดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวที่เสด็จประพาสเมืองสงขลาเมื่อวันที่ ๑๕ เมษายน ๒๔๕๔ แล้วเลยกราบถวายบังคมลาเสด็จกลับออกไปทรงศึกษาที่ยุโรปตั้งแต่วันที่ ๑๗ เมษายนปีเดียวกันนั้น
แต่พิจารณาจากตำแหน่งที่ทรงม้าคู่กันมากับพระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช เสนาบดีกระลาโหมแล้ว เจ้านายที่ทรงเครื่องทหารเรือพระองค์นั้นน่าจะเป็น นายพลเรือเอก สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมหลวงนครสวรรค์วรพินิต (จอมพล จอมพลเรือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าฯ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต) ซึ่งเวลานั้นทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 86 เมื่อ 22 ต.ค. 14, 06:47
|
|
รถม้าที่ประทับทรงสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชชนี และเจ้านายฝ่ายหญิงนานาชาติ จอดหน้าบริเวณปริมณฑลเพื่อทอดพระเนตร ระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินตรวจพล
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 87 เมื่อ 22 ต.ค. 14, 06:48
|
|
นายพลเอก พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช เสนาบดีกระทรวงกลาโหม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 88 เมื่อ 22 ต.ค. 14, 06:53
|
|
ทหารสวนสนามผ่านที่ประทับ และรถม้าพระที่นั่ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 89 เมื่อ 25 ต.ค. 14, 16:35
|
|
แกรนด์ ดยุค โบริส วลาดิมีโรวิช ผู้แทนองค์พระเจ้าซาร์จากรัสเซีย ทรงมีพระราชบันทึกว่า
"หลังจากรับประทานอาหารกลางวันแล้ว พวกเราจะไปร่วมชมกองกำลังทหารที่กำลังรุ่งโรจน์อย่างที่ไม่เคยปรากฏให้เห็นที่กรุงเทพฯ มาก่อนเลย ที่ลานกว้างมีนายทหารจำนวน ๓๐,๐๐๐ นาย ตั้งแถวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยใต้ดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงตรงศีรษะพอดี ขณะรอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กองทหารที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จพระราชดำเนินตรวจพลสวนสนามนั้นประกอบด้วยกองทหารทั้งสามกองพล และตัวแทนจากกองร้อยต่างๆ ตามท้องที่ที่อยู่ห่างไกลอีกจำนวนหนึ่ง มีกระโจมตั้งอยู่ริมสนามสำหรับรับรองผู้ที่ได้รับเชิญมาร่วมงานนี้
ครั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินถึง ทรงเครื่องเต็มยศจอมพลทหารบก ทรงม้านำหน้าขบวนเสด็จด้วยขบวนทหารม้าที่สง่างาม ซึ่งประกอบด้วยเจ้านานาประเทศและนายทหารตามเสด็จจำนวนมาก
จากนั้นขบวนออกเดินสวนสนามก็เริ่มขึ้น ตลอดระยะเวลาสองชั่วโมงที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของพลโท สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถนั้น กองทหารทั้งหมดเคลื่อนไหวอย่างเข้มแข็งเป็นจังหวะสม่ำเสมอพร้อมเพรียง บรรดานายทหารล้วนมีท่วงท่าสง่างาม สวมเสื้อนอกเครื่องแบบสีเทาอ่อน กางเกงขายาวสีน้ำเงินเข้ม รัดข้อเท้าแน่นด้วยสนับเพลาที่ทำด้วยขนสัตว์ เฉพาะกองทหารรักษาพระองค์เพียงกองเดียวเท่านั้นที่สวมหมวกแบบเมืองร้อน ซึ่งก็ดูเหมาะสมอย่างยิ่ง ส่วนทหารที่ตั้งแถวอยู่ตามทางจะสวมหมวกแก๊ป ทำด้วยผ้าลินิน มองดูคล้ายกับหมวกของทหารรัสเซีย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|