เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9 10 ... 15
  พิมพ์  
อ่าน: 125603 ไฮโซโบราณ
Kunlamata
พาลี
****
ตอบ: 226


ความคิดเห็นที่ 105  เมื่อ 02 ต.ค. 14, 21:17

ภาพบุรุษในชุดไทยโบราณท่านนี้ พอจะเป็นไฮโซโบราณได้มั้ยคะ พบจากเวบ2bangkok.com
ไม่มีคำอธิบายใดๆนอกจาก"Old Portrait"


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 106  เมื่อ 03 ต.ค. 14, 09:11

เป็นภาพถ่ายของนายเจียเป็งเซ็ง เจ้าของห้องภาพ Chia Peng Seng เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๖  

ภาพถ่ายนายทหารหนุ่มข้างล่าง ผลงานของนายเจียเป็งเซ็ง  ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
tikky1974
อสุรผัด
*
ตอบ: 27


ความคิดเห็นที่ 107  เมื่อ 03 ต.ค. 14, 12:24

ขอเข้ามาส่องและตอบรูปภาพที่78ด้วยคนนะคะ

ด้านซ้ายสุด คือ คุณเยื้อน ภาณุทัต ค่ะ ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 108  เมื่อ 03 ต.ค. 14, 18:04

รูปนี้หรือคะ คุณเยื้อน ภาณุทัต
ทำไมคุณ siamese ถึงมารวมภาพท่านไว้กับพระวรกัญญาและคุณพระสุจริตสุดาล่ะคะ


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 109  เมื่อ 03 ต.ค. 14, 18:17



บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 110  เมื่อ 04 ต.ค. 14, 10:38

ไฮโซในวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม
สองศรีพี่น้อง อายุอยู่ในวัยรุ่น ยังไม่ได้ออกเรือน
ถ่ายในสตูดิโอ  มีพร็อพคือเก้าอี้ยาว ผ้าม่าน และข้างหลังเป็นภาพวิวขยายใหญ่แทนผนังเปล่าๆ 
การแต่งกายอยู่หลังปี 2463  ประมาณ 2464-68   นุ่งซ่ิน สวมเสื้อตัวยาวเป็นผ้าแพรบางเบาเหมาะกับอากาศในสยาม
ผมสยายยาว  หากว่าโตเป็นสาวใหญ่ ออกเรือนแล้วก็คงจะรวบเป็นมวย คนขวามีโบผูกผมด้วย สวมถุงน่องดำรองเท้าดำเข้าชุด แสดงความทันสมัย  ถ้าถุงน่องขาวรองเท้าดำย่อมถือว่าเชยไปหน่อย

ลักษณะเธอทั้งสองพอจะเป็นนางเอกนางรองในนิยายของดอกไม้สดได้   ความเป็นคุณหนูแสดงออกที่อาภรณ์ประดับกาย  สองคนนี้พ่อแม่คงรวย  สวมสร้อยข้อมือทั้งซ้ายขวา แถมนาฬิกาข้อมืออีกด้วย   แหวนก็พราวอยู่บนนิ้วหลายวง 
เสื้อถ่ายไม่ชัด ไม่งั้นคงเห็นสร้อยคอ จี้ เข็มกลัด เพิ่มอีกหลายชิ้นค่ะ



บันทึกการเข้า
tikky1974
อสุรผัด
*
ตอบ: 27


ความคิดเห็นที่ 111  เมื่อ 04 ต.ค. 14, 10:47

รูปนี้หรือคะ คุณเยื้อน ภาณุทัต
ทำไมคุณ siamese ถึงมารวมภาพท่านไว้กับพระวรกัญญาและคุณพระสุจริตสุดาล่ะคะ


อาจจะเป็นเพราะคุณเยื้อนอยู่ในยุคเดียวกันมั๊งคะ? ดิฉันเดาเอาเองนะคะ ยิงฟันยิ้ม

ท่านเป็นครูสอนการเรือน เก่งเรื่องปักผ้าเป็นพิเศษ เคยมีโรงเรียนการเรือนภาณุทัต ที่วังบูรพา
และท่านก็เป็นหลานลุงของพระยาอัพตริกามาตย์ (จ่าง ภาณุทัต) สมัยนั้นท่านก็คงไฮโซอยู่บ้าง

มีรูปคุณเยื้อนติดอยู่ที่พระราชวังมฤคทายวันด้วยนะคะ ดิฉันทราบเพราะเป็นภาณุทัตเหมือนกัน
แต่อยู่ปลายแถวโน้นเลยค่ะ...คุณทวดของดิฉันเคยลี้ภัยไปกับท่านด้วย ครอบครับเลยได้รู้เรื่อง
ราวของท่านมาบ้าง...

แต่ที่เป็นไฮไลท์จริงๆน่าจะเป็นเพราะท่านเคยเกี่ยวดองกันกับราชสกุล พึ่งบุญ รูดซิบปาก   ซึ่ง ณ เวลานั้นน่าจะไฮโซที่สุดแล้วนะคะ

ขอออกตัวก่อนนะคะว่านี่เป็นเรื่องเล่าสืบต่อกันในครอบครัวดิฉัน มิได้มีเจตนาไปในทางไม่ดี  :Dผิดพลาดประการใดขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 112  เมื่อ 04 ต.ค. 14, 19:05

http://ratthasil.blogspot.com/

ข้าพเจ้าคือเลือดหยดเดียวที่ยืนอยู่บนพื้นโลก ไม่มีญาติวงษ์พงศาอะไรที่ใหน ตัวคนเดียวจริงๆ เพราะฉะนั้นต้องช่วยตัวเอง หาเงินใช้เอง สร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง สร้างความสุขให้ตัวเอง ทุกสิ่งเพราะตัวคนเดียว จะเหลียวหน้าไปหาใคร และอยู่ในสภาพเหมือนถูกเตาไฟแผดเผาให้เร่าร้อนอยู่ทุกวันคืน และขอปฏิญาณไว้ว่าถ้าใครมาทำอะไร หรือมาจุกจิก ข้าพเจ้าเป็นต้องสู้ทีเดียว เดิมตั้งใจใว้ว่าภายในอายุยี่สิบถึงสามสิบปี ข้าพเจ้าต้องมีทั้งทรัพย์และชื่อเสียงในงานประณีตศิลป์ ครั้นผ่านมาจนบัดนี้ข้าพเจ้ายังไม่มีเงิน จึงคิดได้ว่าข้าพเจ้ามีวาสนาพิเศษอะไรจึงต้องการทั้งเงินและชื่อเสียง ต่อไปนี้จึงขอตัดขาดกับเงิน ต้องการเพียงชื่อเสียงอย่างเดียว มนุษย์เราควรใช้เงินเท่าที่มี มีมากก็ใช้มาก มีน้อยก็ใช้น้อย เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้าไม่อยากสอนอะไรให้ใครอีกเลย ไม่มีประโยชน์ ให้เท่าที่เขามีภาชนะรองรับ บางคนคว่ำขันมา ก็ไม่ได้ใส่อะไรไปเลย ข้าพเจ้าเห็นว่าการช่างนี้เป็นของกายสิทธิ์ ผู้รับต้องเป็นผู้มีวาสนา วิชานี้เป็นของศักดิ์สิทธิ์ อยู่กับเด็กๆก็น่ารัก อยู่กับสาวๆก็สวยขึ้น อยู่กับคนแก่ก็น่าเคารพ จึงไม่สมควรที่จะเอาของดีๆมาให้คนที่ไม่เห็นประโยชน์ บางคนเรียนไปแล้วเอาไปทิ้งๆขว้างๆข้าพเจ้าสงสารเพราะฉะนั้นก็ไม่ให้ไปอีก ขอเอาติดตัวตายไปเสียดีกว่า ตั้งแต่อายุยี่สิบปีมานี่ข้าพเจ้าไม่มีคู่เทียบจนกระทั่งบัดนี้ มาบัดนี้นั้นเป็นของแน่นอน มาหาใครเทียบไม่ได้ เพราะข้าพเจ้ารู้เห็นของเก่ามาเยอะ ใด้ประดิษฐ์งานมามาก ก็ช่างสังเกตุช่างจำ เป็นเครื่องเรืองปัญญา ข้าพเจ้าเป็นคนอาภัพเพราะเป็นคนหลังแข็งสักหน่อย ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร ไม่ว่าใครทั้งนั้นเลย เป็นคนหยิ่งมาก เราถือว่าทำงานแลกข้าว แล้วเราก็กินข้าวของเรา จริงอยู่ข้าพเจ้าไม่มีวาสนาไม่มีเงินอย่างเขา แต่บางอย่างเขาก็ไม่มีเหมือนกับเรา เพราะฉะนั้นก็ยกย่องตัวเอง เป็นคนยกย่องไม่เหยียบตัว ถ้าเราไปก้มราบกราบงามเสียแล้ว เขาจะมาทำอะไรเรามีแต่เขาจะเหยียบเรา ที่มีคนริษยามากก็ดีเชียว สังเกตุคนเลวๆต่ำๆ ไม่มีคนริษยาเลย เพราะฉะนั้นถือว่า เขาอิจฉาดีกว่าเขาสงสาร วันนี้อยู่นี่พรุ่งนี้อาจไปอยู่ที่ใหนก็ได้ ชีวิตคนนั้นไม่แน่ ที่มีความรุ้ไว้นี่ เอาไว้หากินในทุกที่ๆจรไป มีศิลปะติดตัวไปเหมือนเป็นบารมี


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 113  เมื่อ 05 ต.ค. 14, 17:55

นางชัด ณ ระนอง ธิดาคนที่ 2 ของพระยาประดิพัทธภู​บาล (คอยู่เหล ณ ระนอง)กับคุณหญิงคลับ​ ประดิพัทธภูบาล​ ธิดาเจ้าพระยาสุรวงษ์ไวยวัฒน์ (วร บุน​นาค)

นางชัด ณ ระนองเป็นภรรยาจหมื่นรณภพพิชิต (คอยู่เตี่ยน) บุตรพระยาจรูญราชโภคากร (คอซิมเต็ก ณ ระนอง)  ภายหลังหย่าขาดกัน​ มีบุตรธิดา​  8​  คน​

1.นางจิตรา​ ตัณฑวณิช
2.นายคาร  ณ​ ระนอง3.นายกำธร  ณ​ ระนอง
4.ดญ.รชัฎ​ ณ​ ระนอง​ (วายชนม์)
5.นายอำนาจ  ณ​ ระนอง
6.นางเฉิดฉัน  ณ​ ระนอง
7.นางชยาศรี​ ภราดรชัย
8.นางสุชาดา​ ปัญยวนิช



คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 ต.ค. 20, 10:07 โดย เทาชมพู » บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 114  เมื่อ 06 ต.ค. 14, 10:05

พามาพบอีกคนในเช้าวันจันทร์
ภาพนี้..ดูมาดแล้ว   คุณหญิงแม่ แน่ๆค่ะ


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
นางมารน้อย
พาลี
****
ตอบ: 306


ทำงานแล้วค่ะ


ความคิดเห็นที่ 115  เมื่อ 06 ต.ค. 14, 10:29

ภาพนี้ถ่ายในตอนปลายรัชกาลที่ ๖     เสียดายไม่เห็นว่าท่อนล่างของสาวงามคนนี้เป็นผ้าซิ่นหรือโจงกระเบน   แต่ก็ดูจากเสื้อว่าเป็นสาวทันสมัย  ห้อยทับทรวงอันใหญ่ราคาไม่เบา บนเรือนผมติดเข็มเพชรยาวๆ ลักษณะเป็นเข็มพระนามเจ้านาย   เธอเป็นเจ้านายสตรีหรือภรรยาข้าราชการสำคัญกันแน่
รู้แต่ว่าเธอสวยมาก  หน้าใสแป๋วแหวว  ดูเป็นนางเอกทีเดียว   เคยเล่นละครพระราชนิพนธ์หรือเปล่าหนอ
รู้จักยิ้มหวานประสานสายตาให้กล้อง  ยืนแบบมีมาดไขว้มือไว้ข้างหลังเสียด้วย   ไม่เกร็งเลย  เหมือนชินกับสายตาคนมากๆอยู่แล้ว  

สาวน้อยท่านนี้งดงามมากๆเลยค่ะ
บันทึกการเข้า

สวัสดีทุกๆท่านค่ะ
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 116  เมื่อ 06 ต.ค. 14, 11:49

สวยจนอยากรู้จักชื่อค่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 117  เมื่อ 06 ต.ค. 14, 12:33

มาให้ดูอีกรูปหนึ่งค่ะ
คุณแม่กับสาวน้อยวัยสิบขวบ แสดงความรักที่อบอุ่นต่อกันมาก  คุณแม่ท่าทางมีระเบียบแต่คงจะใจดี  เห็นได้จากลูกสาวก็ดูสนิทชิดใกล้ คลอเคลียกับแม่อย่างไม่เกร็ง
รูปนี้น่าจะถ่ายปลายรัชกาลที่ ๕ หรือต้นรัชกาลที่ ๖ ทั้งแม่และลูกแต่งกายงามมาก    เสื้อผ้าเป็นของมีราคาทั้งสองชุด   คุณแม่ยังคงหวีผมสั้น   เสยด้วยขี้ผึ้งเหมือนสมัยปลายรัชกาลที่ ๕    ลูกสาวเมื่อโกนจุกแล้วก็ไม่ตัดผม แต่ไว้ยาวเหมือนเด็กฝรั่ง ตามแฟชั่นผมทรงใหม่ในสมัยรัชกาลที่ ๖
ที่น่าสนใจคือโจงกระเบนคุณแม่ ไม่ใช่ผ้าไทยอย่างผ้าลายหรือผ้ายกซึ่งเนื้อแข็งเดินสวบสาบ   แต่เป็นผ้าฝรั่งเนื้อนุ่มลักษณะคล้ายผ้าแพรชนิดหนา  มีรอยรีดเป็นรอยพับเล็กๆลงมา  แต่ไม่มีรอยอัดก๊อปปี้อย่างผ้าไทย   โจงกระเบนของลูกสาวก็แบบเดียวกัน  น่าจะเป็นผ้าฝรั่งด้วยกันทั้งสองแบบ
ถนิมพิมพาภรณ์บนตัวคุณแม่บอกให้รู้ว่าฐานะคุณพ่อเห็นจะไม่น้อยหน้าใคร ลูกเมียจึงแต่งเครื่องประดับกันงามเพียบ  แต่บนเสื้อนั้นขาดเข็ม จี้  หรือเครื่องประดับพระราชทานและประทาน    จึงขอเดาว่าคุณแม่น่าจะเป็นคุณนายของคุณหลวงหรือคุณพระ  แต่ไม่ใช่คุณหญิงของพระยา


บันทึกการเข้า
tikky1974
อสุรผัด
*
ตอบ: 27


ความคิดเห็นที่ 118  เมื่อ 06 ต.ค. 14, 13:00

http://ratthasil.blogspot.com/

ข้าพเจ้าคือเลือดหยดเดียวที่ยืนอยู่บนพื้นโลก ไม่มีญาติวงษ์พงศาอะไรที่ใหน ตัวคนเดียวจริงๆ เพราะฉะนั้นต้องช่วยตัวเอง หาเงินใช้เอง สร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง สร้างความสุขให้ตัวเอง ทุกสิ่งเพราะตัวคนเดียว จะเหลียวหน้าไปหาใคร และอยู่ในสภาพเหมือนถูกเตาไฟแผดเผาให้เร่าร้อนอยู่ทุกวันคืน และขอปฏิญาณไว้ว่าถ้าใครมาทำอะไร หรือมาจุกจิก ข้าพเจ้าเป็นต้องสู้ทีเดียว เดิมตั้งใจใว้ว่าภายในอายุยี่สิบถึงสามสิบปี ข้าพเจ้าต้องมีทั้งทรัพย์และชื่อเสียงในงานประณีตศิลป์ ครั้นผ่านมาจนบัดนี้ข้าพเจ้ายังไม่มีเงิน จึงคิดได้ว่าข้าพเจ้ามีวาสนาพิเศษอะไรจึงต้องการทั้งเงินและชื่อเสียง ต่อไปนี้จึงขอตัดขาดกับเงิน ต้องการเพียงชื่อเสียงอย่างเดียว มนุษย์เราควรใช้เงินเท่าที่มี มีมากก็ใช้มาก มีน้อยก็ใช้น้อย เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้าไม่อยากสอนอะไรให้ใครอีกเลย ไม่มีประโยชน์ ให้เท่าที่เขามีภาชนะรองรับ บางคนคว่ำขันมา ก็ไม่ได้ใส่อะไรไปเลย ข้าพเจ้าเห็นว่าการช่างนี้เป็นของกายสิทธิ์ ผู้รับต้องเป็นผู้มีวาสนา วิชานี้เป็นของศักดิ์สิทธิ์ อยู่กับเด็กๆก็น่ารัก อยู่กับสาวๆก็สวยขึ้น อยู่กับคนแก่ก็น่าเคารพ จึงไม่สมควรที่จะเอาของดีๆมาให้คนที่ไม่เห็นประโยชน์ บางคนเรียนไปแล้วเอาไปทิ้งๆขว้างๆข้าพเจ้าสงสารเพราะฉะนั้นก็ไม่ให้ไปอีก ขอเอาติดตัวตายไปเสียดีกว่า ตั้งแต่อายุยี่สิบปีมานี่ข้าพเจ้าไม่มีคู่เทียบจนกระทั่งบัดนี้ มาบัดนี้นั้นเป็นของแน่นอน มาหาใครเทียบไม่ได้ เพราะข้าพเจ้ารู้เห็นของเก่ามาเยอะ ใด้ประดิษฐ์งานมามาก ก็ช่างสังเกตุช่างจำ เป็นเครื่องเรืองปัญญา ข้าพเจ้าเป็นคนอาภัพเพราะเป็นคนหลังแข็งสักหน่อย ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร ไม่ว่าใครทั้งนั้นเลย เป็นคนหยิ่งมาก เราถือว่าทำงานแลกข้าว แล้วเราก็กินข้าวของเรา จริงอยู่ข้าพเจ้าไม่มีวาสนาไม่มีเงินอย่างเขา แต่บางอย่างเขาก็ไม่มีเหมือนกับเรา เพราะฉะนั้นก็ยกย่องตัวเอง เป็นคนยกย่องไม่เหยียบตัว ถ้าเราไปก้มราบกราบงามเสียแล้ว เขาจะมาทำอะไรเรามีแต่เขาจะเหยียบเรา ที่มีคนริษยามากก็ดีเชียว สังเกตุคนเลวๆต่ำๆ ไม่มีคนริษยาเลย เพราะฉะนั้นถือว่า เขาอิจฉาดีกว่าเขาสงสาร วันนี้อยู่นี่พรุ่งนี้อาจไปอยู่ที่ใหนก็ได้ ชีวิตคนนั้นไม่แน่ ที่มีความรุ้ไว้นี่ เอาไว้หากินในทุกที่ๆจรไป มีศิลปะติดตัวไปเหมือนเป็นบารมี

[/quote

ได้อ่านแล้วค่ะ ถึงไม่ได้อ่านก็ทราบค่ะ และไม่แปลกใจซักนิด ว่าทำไมท่านถึงกล่าวไว้เช่นนั้น
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 119  เมื่อ 07 ต.ค. 14, 08:16

ดูมาดแล้วน่าจะเป็นสาวมั่น สมัยต้นรัชกาลที่ ๖  เพราะทรงผมบอกเช่นนั้น

หน้าตาคมคาย  ยืนสง่าผ่าเผย    สวมถุงน่องหนาแบบผู้ชาย รองเท้าคัทชูสีดำ โจงกระเบนผ้าไหมมีรอยอัดก๊อปปี้
ไม่มีเครื่องราช แต่ประดับกายด้วยสร้อยเพชร และสร้อยข้อมือกับแหวนพองาม  สะพายแพรตามระเบียบการแต่งกาย   ในเมื่อถ่ายคนเดียวไม่มีคู่ก็เดาว่าเป็นสาวโสด และคงจะฐานะดี

เห็นแล้วนึกถึงพระเอกละครยังไงก็ไม่รู้ค่ะ

ค้นพบภายหลัง   คุณเจริญ ศิริสัมพันธ์  สมรสกับพระศรีรัถจักร (สิน ธนะสุนทร)


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22 มิ.ย. 22, 17:08 โดย เทาชมพู » บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9 10 ... 15
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.05 วินาที กับ 20 คำสั่ง