เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 15
  พิมพ์  
อ่าน: 39555 สมัยรัชกาลที่๔ มีPhotoshopแล้วหรือ?
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 45  เมื่อ 31 ส.ค. 14, 09:13

หลังจากโพสต์ค.ห. 42 ไปแล้ว     ดิฉันก็ลองไปค้นกูเกิ้ลดูถึงที่มาของพระบวรฉายาลักษณ์ที่เป็นประเด็นลิขสิทธิ์   เพราะยังมีความข้องใจบางประการอยู่
ดิฉันไม่มีข้อข้องใจในเรื่องการถือครองพระบวรฉายาลักษณ์สมเด็จพระปิ่นเกล้าฯที่คุณอรรถดามี   เพราะไปเจอคำให้สัมภาษณ์ของคุณอรรถดาในเรื่องนี้  และเห็นพระรูปของสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯหนึ่งในสองภาพที่คุณอรรถดานำมาลง   จึงขอยกมาประกอบในค.ห.นี้เพื่อความเข้าใจให้ชัดเจนขึ้น



จะเห็นได้ว่าเป็นภาพถ่ายพระอิริยาบถเดียวกันกับที่ลงในหนังสือ สมุดภาพรัชกาลที่ ๔ ของคุณพิพัฒน์ พงศ์รพีพร     ซึ่งคุณ NAVARAT.C ไปอ้างอิงมาอีกต่อหนึ่ง



สิ่งที่ดิฉันข้องใจก็คือ   คุณอรรถดามีลิขสิทธิ์ หรือว่ามีสิทธิ์ ในภาพพระรูปสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ กันแน่?

ถ้ามีลิขสิทธิ์ แปลว่าใครจะนำพระรูปสมเด็จพระปิ่นเกล้าที่ถ่ายโดยห้องภาพสิงคโปร์ เวอร์ชั่นนี้  ไม่ว่าจะมีใบเดียวหรือกี่ใบ  อยู่ ณ แห่งหนใดในโลก   ไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตของคุณอรรถดาไม่ได้  ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์   คุณอรรถดาสามารถฟ้องร้องได้ตามที่ท่านได้แจ้งผ่านคุณ siamese มาให้ดิฉันทราบ     ถ้าจะเอาเรื่องกันทุกคน ทั้งคุณพิพัฒน์ คุณ NAVARAT.C  และดิฉัน ตกเป็นจำเลยหมด
แต่ถ้าคุณอรรถดา มีสิทธิ์  ในฐานะที่พระรูปใบนี้เป็นทรัพย์สินที่คุณอรรถดาไปซื้อมาด้วยราคาแพง   สิทธิ์นี้จำกัดอยู่แค่ว่า ใครอื่นๆ ไม่สามารถจะไปเอารูปใบที่อยู่ในครอบครองของท่านมาทำอะไรตามใจชอบ    ต้องได้รับอนุญาตจากท่าน
แต่ไม่รวมพระรูปใบอื่นๆในพระอิริยาบถเดียวกันนี้ที่ตกอยู่ในส่วนอื่นๆของโลกและในความครอบครองของคนอื่น

ตามความเข้าใจของดิฉัน  คุณอรรถดา มีสิทธิ์ แต่มิใช่มีลิขสิทธิ์
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 46  เมื่อ 31 ส.ค. 14, 09:37


แต่ถ้าคุณอรรถดา มีสิทธิ์  ในฐานะที่พระรูปใบนี้เป็นทรัพย์สินที่คุณอรรถดาไปซื้อมาด้วยราคาแพง   สิทธิ์นี้จำกัดอยู่แค่ว่า ใครอื่นๆ ไม่สามารถจะไปเอารูปใบที่อยู่ในครอบครองของท่านมาทำอะไรตามใจชอบ    ต้องได้รับอนุญาตจากท่าน
แต่ไม่รวมพระรูปใบอื่นๆในพระอิริยาบถเดียวกันนี้ที่ตกอยู่ในส่วนอื่นๆของโลกและในความครอบครองของคนอื่น

ตามความเข้าใจของดิฉัน  คุณอรรถดา มีสิทธิ์ แต่มิใช่มีลิขสิทธิ์

ก็เป็นเพราะว่าพระบรมรูปสมเด็จพระปิ่นเกล้า พระรูปนี้พี่อรรถดา กว้านค้นหาทั่วยุโรปมาแล้วเป็นภาพเก่าโบราณแท้ พบเพียง ๒ ภาพเท่านั้นคือ สวย กับ ไม่สวย ท่านเก็บมาหมดเลย จึงเชื่อได้ว่ามีอยู่เพียง ๒ ชิ้นต้นฉบับอยู่ในมือ ส่วนภาพที่ปล่อยออกมาตามหนังสือตามแหล่งออนไลน์ต่างๆ ก็ต้องตามพิสูจน์กันไปครับ

เพราะว่าภาพสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ นี้มีความพิเศษมาก ไม่พบเห็นที่ใดมาก่อนเลย ส่วนมากพระองค์จะทรงฉายพระรูปเอียงๆ และยิ่งมีการตกแต่งสายสะพายทหารเรือให้กับรูป ยิ่งเพิ่มความน่าสงสัยให้มากขึ้น
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 47  เมื่อ 31 ส.ค. 14, 09:43

ขณะนี้ คุณอรรถดายังมั่นใจหรือครับว่าตนมีลิขสิทธิ์พระบวรฉายาลักษณ์ดังกล่าวตามกฏหมาย
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 48  เมื่อ 31 ส.ค. 14, 09:53

ดิฉันเข้าใจว่าห้องภาพสิงคโปร์ที่ถ่ายพระรูปสมเด็จพระปิ่นเกล้า  ไม่ได้ถ่ายเอาไว้แค่ใบเดียว     แต่ว่าได้อัดก๊อปปี้ไว้จำนวนหนึ่ง ตามแบบห้องภาพที่ถ่ายบุคคลสำคัญของโลก ย่อมไม่ถ่ายเอาไว้แค่ใบเดียว  แต่อัดภาพไว้มากๆเพื่อจำหน่ายแก่บุคคลที่สนใจ   เพราะภาพถ่ายไม่เหมือนภาพวาด จะอัดก๊อปปี้ไว้เท่าใดก็ถือว่าแท้เหมือนกันหมด  ไม่ถือว่าเป็นภาพปลอม    ผิดกับภาพวาดของศิลปินที่วาดได้หนเดียว  

ด้วยเหตุนี้พระบวรฉายาลักษณ์ในพระอิริยาบถนี้จึงมีให้เห็นในประเทศไทยหลายพระรูปด้วยกัน   แม้แต่ที่หอจดหมายเหตุก็คงจะมี  ยังไม่รวมภาพในครอบครองของเอกชนอีกหลายท่าน      ถ้าไม่มีหลายใบแล้ว คุณศักดา ศิริพันธุ์และคุณพิพัฒน์ พงศ์รพีพรจะได้มาจากไหน  ในเมื่อเทียบรายละเอียดในภาพกับพระรูปที่คุณอรรถดาครอบครองอยู่  เห็นได้ว่าคนละใบกัน

เมื่อคุณ NAVARAT.C  อ้างพระรูปนี้จากหนังสือภาพของคุณพิพัฒน์    จึงแสดงว่า ท่านมิได้นำมาจากพระรูปที่คุณอรรถดามีอยู่    ดังนั้นคุณอรรถดาก็คงสบายใจได้ว่า ไม่มีการละเมิดสิทธิ์พระรูปในครอบครองของคุณ

ต่อไปจะขอพูดเรื่องกฎหมายลิขสิทธิ์สักเล็กน้อย เพื่อประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านเรือนไทย
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 49  เมื่อ 31 ส.ค. 14, 10:03

ต้องขอทำความเข้าใจกับ อ.เทาชมพู กับ อ. Navarat.c ครับว่า ภาพที่มีเจ้าของครอบครองคือภาพสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ รูปนี้ซึ่งมีด้านหลังเป็นลายมือ กับช่างภาพที่สิงคโปร์ครับ (รูปอื่นไม่เกี่ยว)
ดังนั้นภาพพระปิ่นเกล้าฯภาพอื่นไม่เกี่ยวนะครับ เป็นลิขสิทธิ์ของทางสำนักพิมพ์ครับ ดังนั้นจะใช้ภาพนี้ก็ต้องขอกับทางเจ้าของต้นฉบับครับ

คือใครใช้ภาพพระปิ่นนี้ ตอนนี้มีเจ้าของนะครับจะใช้ต้องทำการขออนุญาตเพราะภาพนี้พิมพ์ลงในหนังสือภาพเก่า


ภาพติดลิขสิทธิ์ ขอลบค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31 ส.ค. 14, 13:37 โดย เทาชมพู » บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 50  เมื่อ 31 ส.ค. 14, 10:11

คุณเพ็ญชมพูเป็นคนเอามาลงไม่ใช่หรือ คุณเพ็ญไปเอามาจากไหนเล่า

แล้วที่เห็นนี้ เป็นสองภาพนะครับ ซ้ายกับขวา ที่อ้างลิขสิทธิ์เป็นภาพไหน เฉพาะภาพที่เขียนไว้หรือทั้งสองภาพ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 51  เมื่อ 31 ส.ค. 14, 10:24

ลิขสิทธิ์้เป็นสิทธิ์ประเภทหนึ่งในทรัพย์สิน แต่กฎหมายจำแนกออกมาว่าไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทองทั่วไป   แต่เป็นทรัพย์สินทางปัญญา  
ผู้สร้างสรรค์ย่อมมีสิทธิ์ในทรัพย์สินจากปัญญาของตน   ภาพถ่ายก็เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่ง

แต่ทรัพย์สินทางปัญญานี้ไม่เหมือนแก้วแหวนเงินทองที่จะตกทอดไปให้ลูกหลานเจ้าของทรัพย์ได้แบบไม่มีกำหนดเวลา     ถ้าเจ้าคุณปู่ของท่านผู้อ่านเรือนไทยเป็นเจ้าของที่ดินแถวถนนสีลม จะยกโฉนดที่ดินให้คุณผู้เป็นหลาน  ท่านทำได้  คุณจะยกต่อไปให้เหลนคุณก็ทำได้เช่นกัน  เหลนอยู่มาจนแก่เป็นทวด  จะยกต่อให้เหลนของตนอีก ก็ไม่มีกฎหมายที่ไหนห้าม

แต่ถ้าคุณปู่เป็นเจ้าของห้องภาพ  ท่านได้ถ่ายภาพเจ้านายสยามไว้ตั้งแต่รัชกาลที่ 4   (โดยเจ้านายพระองค์นั้นอนุญาตให้คุณปู่ครอบครอง พิมพ์จำหน่ายได้)  ถือว่าคุณปู่มีลิขสิทธิ์ในพระรูป   ใครอยากได้พระรูปต้องมาซื้อจากห้องภาพของท่าน  แต่เมื่อคุณปู่สร้างงานนี้ได้ครบ 50 ปี แล้ว   ลิขสิทธิ์ในภาพฝีมือคุณปู่หมดไปแล้วค่ะ   พระรูปเจ้านายที่คุณปู่ถ่ายนั้นกลายเป็นของสาธารณะ  ใครจะทำสำเนาอัดก๊อปปี้ เอาไปขายไปตีพิมพ์ที่ไหนก็ทำได้โดยอิสระ  

แต่ถ้าใครไปซื้อกระจกภาพที่คุณปู่เก็บเป็นสมบัติส่วนตัวมา  เขาคนนั้นก็มีสิทธิ์ในกระจกภาพนั้น ใครจะมาหยิบกระจกภาพไปอัดรูปจากกระจกตามใจชอบไม่ได้  แต่เขาไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพเจ้านายสยามอย่างที่คุณปู่เคยเป็น  เพราะท่านเป็นคนสร้างสรรค์ผลงานภาพถ่าย   คนซื้อมาทีหลังไม่ได้เป็นคนสร้างงานชิ้นนี้    คุณปู่เป็นคนเดียว

ช่วยดิฉันอ่าน พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มาตราที่ 19-26 ดูหน่อยได้ไหม  เผื่อใครมีพ.ร.บ.ฉบับใหม่กว่านี้ ช่วยนำมาให้ดูด้วยนะคะ

:: ส่วนที่ 4 อายุแห่งการคุ้มครองลิขสิทธิ์

มาตรา 21 ลิขสิทธิ์ในงานภาพถ่าย โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ สิ่งบันทึกเสียง หรืองานแพร่เสียงแพร่ภาพให้มีอายุห้าสิบปีนับแต่ได้สร้างสรรค์งานนั้นขึ้น แต่ถ้าได้มีการโฆษณางานนั้นในระหว่างระยะเวลาดังกล่าว ให้ลิขสิทธิ์มีอายุห้าสิบปี นับแต่ได้มี การโฆษณาเป็นครั้งแรก

ส่วนบทประพันธ์ บทกวี  ก็เช่นกัน   มีอายุยาวกว่าภาพถ่าย   คือยาวถึง 50 ปีหลังเจ้าของถึงแก่กรรม  แยกไปอีกมาตราหนึ่งคือ
มาตรา 19
มาตรา 19  ภายใต้บังคับ มาตรา 21 และ มาตรา 22 ลิขสิทธิ์ตาม พระราชบัญญัตินี้ให้มีอยู่ตลอดอายุของผู้สร้างสรรค์ และมีอยู่ต่อไปอีกเป็นเวลาห้าสิบปี นับแต่ผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตาย
ในกรณีที่มีผู้สร้างสรรค์ร่วม ลิขสิทธิ์ในงานดังกล่าวให้มีอยู่ตลอดอายุของ ผู้สร้างสรรค์ร่วม และมีอยู่ต่อไปอีกเป็นเวลาห้าสิบปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายถึงแก่ ความตาย


จากนั้นกลายเป็นสมบัติของสาธารณะ   เช่นทุกวันนี้ใครจะเอางานของสุนทรภู่  หรือนายมีศิษย์สุนทรภู่  มาพิมพ์จำหน่ายก็ทำได้  ไม่ต้องไปขอซื้อจากลูกหลานเหลนของท่าน



บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 52  เมื่อ 31 ส.ค. 14, 10:25

คุณเพ็ญชมพูเป็นคนเอามาลงไม่ใช่หรือ คุณเพ็ญไปเอามาจากไหนเล่า

คือจะขอทำความเข้าใจและช่วยแก้ต่างให้พี่อรรถดา ให้เพื่อนสมาชิกฟัง ดังนี้ครับ

1. ทางเจ้าของภาพไม่ได้เป็นเจ้าของภาพพระปิ่นเกล้าที่อาจารย์ท่านอื่นถืออยู่แต่ท่านเป็นเจ้าของภาพที่มีช่างภาพและลายเซ็นต์ชื่อ จากสิงคโปร์

2. การใช้ภาพดังกล่าวมีลิขสิทธิ์ของทางสำนักพิมพ์ ก็เพียงบอกเครดิทและที่มาของภาพเพียงเท่านี้ เพราะเป็นการศึกษาไม่ได้เพื่อการค้า  เนื่องจากภาพนี้ได้ถูกตีพิมพ์ลงในหนังสือภาพเก่าโดยสำนักพิมพ์เรียบร้อยแล้วเมื่อไม่กี่ปีนี้เองครับ จึงมีลิขสิทธิ์ทางสำนักพิมพ์

3. เจ้าของภาพเกรงว่าจะมีการเข้าใจผิดไปมากกว่านี้ จึงขออธิบายผ่านมายังผมขอให้เข้าใจว่า ท่านได้ภาพนี้มานานแล้วแต่ภาพเกิดหลุดออกไปเมืองนอก  เนื่องจากสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งท่านสะสมภาพนี้มานานกว่าปี 2008 แล้ว ดังนั้นภาพพระปิ่น + ด้านหลังลายเซ็นต์นี้เป็นของมีลิขสิทธ์ จะใช้ภาพต้องขอสำนักพิมพ์เพื่อให้เครดิทสำหรับการศึกษาครับ

ส่วนขอ้ความที่กล่าวว่า "สหายจากแดนไกล" ณ เวลานั้นๆ เจ้าของภาพได้ถือต้นฉบับเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 ก.ย. 14, 16:47 โดย เทาชมพู » บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 53  เมื่อ 31 ส.ค. 14, 10:53

อ้างถึง
ดังนั้นภาพพระปิ่น + ด้านหลังลายเซ็นต์นี้เป็นของมีลิขสิทธ์ จะใช้ภาพต้องขอสำนักพิมพ์เพื่อให้เครดิทสำหรับการศึกษาครับ

ผมเห็นด้วยครับ

แต่การที่คุณเพ็ญอ้างคุณพิพัฒน์ ผมก็ถือว่าคุณเพ็ญให้เครดิตของภาพแล้ว คุณเพ็ญคงไม่ทราบว่าเพื่อนจากแดนไกลที่ถูกเอ่ยถึงคือใคร และคงไม่ทราบว่าภาพคู่นี้ได้รับการตีพิมพ์ในหนังสือของสำนักพิมพ์ใด การให้เครดิตถูกต้องตัวคนจึงเป็นไปได้ยาก

เมื่อเจ้าของลิขสิทธิ์ต้องการเพียงให้ให้เครดิต ก็อยู่ในวิสัยที่จะให้เกียรติกันได้ ผมเชื่อว่าบัดนี้ผู้อ่านในเรือนไทยคงทราบแล้วว่า ถ้าไม่มีคนอย่างคุณอรรถดา คอมันตร์ ดั้นด้นไปพบพระบวรฉายาลักษณ์นั้นในยุโรปแล้วซื้อมา คนไทยคงไม่มีโอกาสได้เห็น ฝรั่งคงซื้อไปเก็บเรียบร้อยแล้ว
ในส่วนตัวผม ขอแสดงความชื่นชมและขอคารวะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 54  เมื่อ 31 ส.ค. 14, 10:55

คุณเพ็ญชมพูเป็นคนเอามาลงไม่ใช่หรือ คุณเพ็ญไปเอามาจากไหนเล่า

คือจะขอทำความเข้าใจและแก้ต่างให้พี่อรรถดาดังนี้ครับ

1. ทางเจ้าของภาพไม่ได้เป็นเจ้าของภาพพระปิ่นเกล้าที่อาจารย์ท่านอื่นถืออยู่แต่ท่านเป็นเจ้าของภาพที่มีช่างภาพและลายเซ็นต์ชื่อ จากสิงคโปร์

2. การใช้ภาพดังกล่าวมีลิขสิทธิ์ของทางสำนักพิมพ์ ก็เพียงบอกเครดิทและที่มาของภาพเพียงเท่านี้ เพราะเป็นการศึกษาไม่ได้เพื่อการค้า

3. เจ้าของภาพเกรงว่าจะมีการเข้าใจผิดไปมากกว่านี้ จึงขออธิบายผ่านมายังผมขอให้เข้าใจว่า ท่านได้ภาพนี้มานานแล้วแต่ภาพเกิดหลุดออกไปเมืองนอก เนื่องจากสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งท่านสะสมภาพนี้มานานกว่าปี 2008 แล้ว ดังนั้นภาพพระปิ่น + ด้านหลังลายเซ็นต์นี้เป็นของมีลิขสิทธ์ จะใช้ภาพต้องขอสำนักพิมพ์เพื่อให้เครดิทสำหรับการศึกษาครับ

ส่วนขอ้ความที่กล่าวว่า "สหายจากแดนไกล" ณ เวลานั้นๆ เจ้าของภาพได้ถือต้นฉบับเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ

ขอถอดความจากคำชี้แจงของคุณ siamese ว่า...

1    เมื่อคุณพิพัฒน์นำพระรูปสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯที่ถ่ายโดยห้องภาพสิงคโปร์มาลงในเรือนไทย เมื่อปี 2008   สิทธิ์การครอบครองภาพนั้นตกอยู่กับคุณอรรถดาเรียบร้อยแล้ว
2     แต่คุณพิพัฒน์มิได้นำภาพนี้มาจากคุณอรรถดา แต่บอกว่าได้มาจาก "สหายจากแดนไกล"
3    ดังนั้นคุณพิพัฒน์จึงมิได้ขออนุญาตจากคุณอรรถดา  ในปี 2008
4     เมื่อภาพนี้ถูกคุณเพ็ญชมพูนำมาอ้างอิงอีกครั้งในปี 2014   คุณอรรถดาจึงทักท้วงมา  โดยเห็นว่าเป็นภาพลิขสิทธิ์ของท่าน

ขออธิบายเรื่องข้อยกเว้นในการละเมิดลิขสิทธิ์ นะคะ เพื่อประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านเรือนไทย
เนื่องจากกระทู้เกือบทุกกระทู้มีภาพประกอบ   ดิฉันใส่เองบ้าง ท่านสมาชิกใส่บ้าง    ถ้าเข้าใจเรื่องลิขสิทธิ์ ท่านจะได้สบายใจว่าการใส่ภาพประกอบเป็นการละเมิดหรือไม่    เพราะเหตุใด

ส่วนที่ ๖
ข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์

มาตรา ๓๒ การกระทำแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของบุคคลอื่นตามพระราชบัญญัตินี้ หากไม่ขัดต่อการแสวงหาประโยชน์จากงาน อันมีลิขสิทธิ์ตามปกติของเจ้าของลิขสิทธิ์ และไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของเจ้าของลิขสิทธิ์เกินสมควร มิให้ถือว่า เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ภายใต้บังคับบทบัญญัติในวรรคหนึ่ง
การกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ตามวรรคหนึ่ง มิให้ถือว่าเป็น การละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้กระทำดังต่อไปนี้
(๑) วิจัยหรือศึกษางานนั้น อันมิใช่การกระทำเพื่อหากำไร
(๒) ใช้เพื่อประโยชน์ของตนเอง หรือเพื่อประโยชน์ของตนเองและบุคคลอื่นในครอบครัวหรือญาติสนิท
(๓) ติชม วิจารณ์ หรือแนะนำผลงานโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น
(๔) เสนอรายงานข่าวทางสื่อสารมวลชนโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น
(๕) ทำซ้ำ ดัดแปลง นำออกแสดง หรือทำให้ปรากฏ เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาของศาลหรือเจ้าพนักงาน ซึ่งมีอำนาจตามกฎหมาย หรือในการรายงานผลการพิจารณาดังกล่าว
(๖) ทำซ้ำ ดัดแปลง นำออกแสดง หรือทำให้ปรากฏ โดยผู้สอนเพื่อประโยชน์ ในการสอนของตน อันมิใช่การกระทำเพื่อหากำไร
(๗) ทำซ้ำ ดัดแปลงบางส่วนของงาน หรือตัดทอน หรือทำบทสรุปโดยผู้สอน หรือสถาบันศึกษา เพื่อแจกจ่ายหรือจำหน่ายแก่ผู้เรียนในชั้นเรียนหรือในสถาบันศึกษา ทั้งนี้ ต้องไม่เป็นการกระทำเพื่อหากำไร
(๘) นำงานนั้นมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการถามและตอบในการสอบ
มาตรา ๓๓ การกล่าว คัด ลอก เลียน หรืออ้างอิงงานบางตอนตามสมควรจากงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ โดยมีการรับรู้ถึง ความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น มิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้ปฏิบัติตามมาตรา ๓๒ วรรคหนึ่ง
มาตรา ๓๔ การทำซ้ำโดยบรรณารักษ์ของห้องสมุดซึ่งงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ มิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ หากการทำซ้ำนั้นมิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อหากำไร และได้ปฏิบัติตามมาตรา ๓๒ วรรคหนึ่ง ในกรณีดังต่อไปนี้
(๑) การทำซ้ำเพื่อใช้ในห้องสมุดหรือให้แก่ห้องสมุดอื่น
(๒) การทำซ้ำงานบางตอนตามสมควรให้แก่บุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ในการ วิจัยหรือการศึกษา
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 55  เมื่อ 31 ส.ค. 14, 11:00

อ้างถึง
ดังนั้นภาพพระปิ่น + ด้านหลังลายเซ็นต์นี้เป็นของมีลิขสิทธ์ จะใช้ภาพต้องขอสำนักพิมพ์เพื่อให้เครดิทสำหรับการศึกษาครับ

ผมเห็นด้วยครับ

แต่การที่คุณเพ็ญอ้างคุณพิพัฒน์ ผมก็ถือว่าคุณเพ็ญให้เครดิตของภาพแล้ว คุณเพ็ญคงไม่ทราบว่าเพื่อนจากแดนไกลที่ถูกเอ่ยถึงคือใคร และคงไม่ทราบว่าภาพคู่นี้ได้รับการตีพิมพ์ในหนังสือของสำนักพิมพ์ใด การให้เครดิตถูกต้องตัวคนจึงเป็นไปได้ยาก

เมื่อเจ้าของลิขสิทธิ์ต้องการเพียงให้ให้เครดิต ก็อยู่ในวิสัยที่จะให้เกียรติกันได้ ผมเชื่อว่าบัดนี้ผู้อ่านในเรือนไทยคงทราบแล้วว่า ถ้าไม่มีคนอย่างคุณอรรถดา คอมันตร์ ดั้นด้นไปพบพระบวรฉายาลักษณ์นั้นในยุโรปแล้วซื้อมา คนไทยคงไม่มีโอกาสได้เห็น ฝรั่งคงซื้อไปเก็บเรียบร้อยแล้ว
ในส่วนตัวผม ขอแสดงความชื่นชมและขอคารวะ


เจ้าของภาพท่าน Nice ครับ คุยกันแล้วก็ต้องชื่นชมพี่อรรถ เนื่องจากภาพนี้ได้ตีพิมพ์ลงในหนังสือไม่กีปีที่ผ่านมา ดังนั้นจึงมีลิขสิทธิ์ของทางสำนักพิมพ์ พี่เขาก็เป็นห่วงจึงได้ติงมา และได้ให้เครดิทเรียบร้อยแล้ว และเพื่อทางความรู้ไม่ใช่ทางการค้าพี่เขาก็ให้ครับ

ส่วนเรื่อง อ.เทาชมพู กล่าวถึงกฏหมายลิขสิทธ์ ควรตั้งกระทู้ใหม่ โดยหาตัวอย่างหลายๆ เคส มาศึกษาจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 56  เมื่อ 31 ส.ค. 14, 11:06

สำหรับพระบวรฉายาลักษณ์สมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ภาพนี้เป็นสมบัติส่วนตัวของพี่อรรถดา คอมันตร์ ที่นำลงพิมพ์ในหนังสือสยามเรเนสซอง และได้ทำการขออนุญาตจากพี่อรรถดาในการใช้ภาพนี้เพื่อเป็นการศึกษาและค้นคว้าโดยไม่มีผลประโยชน์ทางแสวงหากำไร เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จึงขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วย

ดิฉันขอขอบคุณคุณอรรถดาเช่นเดียวกับคุณ siamese    ที่อนุญาตให้ใช้ภาพนี้ได้  แต่ในเมื่อภาพนี้ได้มีลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์ซ้อนเข้ามาอีก   เพื่อคลี่คลายความลำบากใจของทุกฝ่าย ดิฉันจะขอลบพระบวรฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระปิ่นเกล้าที่มีชื่อห้องภาพสิงคโปร์ออกไป และหาพระรูปอื่นในลักษณะเดียวกันมาแทนที่      เพราะจุดมุ่งหมายของกระทู้นี้ เน้นที่เครื่องราชอิสริยาภรณ์ในพระรูป   ไม่ใช่ตัวพระรูปเอง ดังนั้นพระรูปอื่นที่คล้ายกันก็คงจะใช้ได้

และขอประทานโทษคุณอรรถดาที่ทำให้ยุ่งยากเสียเวลา  ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของทางฝ่ายดิฉัน ที่เกิดขึ้นด้วยค่ะ   เมื่อรู้แล้วก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จะพยายามแก้ไขอย่างดีที่สุด
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 57  เมื่อ 31 ส.ค. 14, 11:07

ไม่น่าที่จะต้องลบนี่ครับ

เอาภาพเดิม(คู่กัน)นั่นแหละ paintคำว่า "ภาพมีลิขสิทธิ์" ลงไปแทน น่าจะจบด้วยดี คนอ่านๆมาถึงหลังๆจะได้ไม่เสียอรรถรส



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 ก.ย. 14, 16:46 โดย เทาชมพู » บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 58  เมื่อ 31 ส.ค. 14, 11:13

สำหรับพระบวรฉายาลักษณ์สมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ภาพนี้เป็นสมบัติส่วนตัวของพี่อรรถดา คอมันตร์ ที่นำลงพิมพ์ในหนังสือสยามเรเนสซอง และได้ทำการขออนุญาตจากพี่อรรถดาในการใช้ภาพนี้เพื่อเป็นการศึกษาและค้นคว้าโดยไม่มีผลประโยชน์ทางแสวงหากำไร เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จึงขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วย

ดิฉันขอขอบคุณคุณอรรถดาเช่นเดียวกับคุณ siamese    ที่อนุญาตให้ใช้ภาพนี้ได้  แต่ในเมื่อภาพนี้ได้มีลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์ซ้อนเข้ามาอีก   เพื่อคลี่คลายความลำบากใจของทุกฝ่าย ดิฉันจะขอลบพระบวรฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระปิ่นเกล้าที่มีชื่อห้องภาพสิงคโปร์ออกไป และหาพระรูปอื่นในลักษณะเดียวกันมาแทนที่      เพราะจุดมุ่งหมายของกระทู้นี้ เน้นที่เครื่องราชอิสริยาภรณ์ในพระรูป   ไม่ใช่ตัวพระรูปเอง ดังนั้นพระรูปอื่นที่คล้ายกันก็คงจะใช้ได้

และขอประทานโทษคุณอรรถดาที่ทำให้ยุ่งยากเสียเวลา  ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของทางฝ่ายดิฉัน ที่เกิดขึ้นด้วยค่ะ   เมื่อรู้แล้วก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จะพยายามแก้ไขอย่างดีที่สุด

ไม่ต้องลบครับ อ.เทาชมพู / พี่ท่านได้โทรมาคุยกับผมแล้ว ไม่ติดใจอะไรและฝากนับถือ อ.เทาชมพู และ อ. Navarat ด้วยครับ สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้พี่ท่านได้ทิ้งท้ายไว้อย่างเดียวว่า ไม่อยากให้คนไทยเข้าใจผิดไปว่าภาพนี้อยู่เมืองนอก ตอนนี้ภาพนี้อยู่เมืองไทย โดยคนไทยแล้ว และทำเพื่อความรู้ยิ่งสนับสนุนเพียงแต่ให้เครดิทก็เพียงพอ เพราะพี่ท่านลงทุนซื้อภาพ ( ราคาหลายบาทนะคับ เท่าที่ผมได้ยินมา - หนุ่มสยาม)  ดังนี้แล้วกระทู้คุยเรื่องค้นหาตราปริศนาต่อไปละกันครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 ก.ย. 14, 13:41 โดย เทาชมพู » บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 59  เมื่อ 31 ส.ค. 14, 11:22

ที่อยากลบเพราะเกรงใจสำนักพิมพ์ค่ะ  ปกติดิฉันก็มีมิตรภาพที่ดีกับสำนักพิมพ์ทั้งหลายในฐานะผู้มีหน้าที่การงานเกี่ยวข้องกันอยู่แล้ว
เราควรเกรงใจเขาเสียก่อนเขาจะมาเกรงใจเรา

ตอนนี้ยิ่งรู้ว่าภาพราคาเป็นล้านๆก็ยิ่งกลัว      ถ้าพลาดพลั้งแม้แต่นิดเดียว   ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ในเรื่องอะไรก็ตาม    ดิฉันจะขายเว็บใช้หนี้ก็ไม่คุ้มแม้แต่หนึ่งในร้อย   จะไปรบกวนท่านนวรัตนและท่านหนุ่มสยาม ก็มิบังอาจอยู่แล้ว


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 15
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.069 วินาที กับ 20 คำสั่ง