เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 13
  พิมพ์  
อ่าน: 43082 นิราศกวางตุ้งกับเส้นทางเดินเรือสายประวัติศาสตร์จากไทยสู่จีน
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 60  เมื่อ 28 ก.ค. 14, 07:56

๕ โยชน์มันเท่ากับ ๘๐ กิโลเมตรไม่ใช่หรือ
แต่ระยะทางตามจริงกูเกิลเอิร์ธวัดได้มากกว่ากันสัก ๒ เท่า

คือแผนที่โบราณพออาศัยได้แค่ทิศทางนะผมว่า แต่มาตราส่วนและระยะมันไม่ได้ แค่ประมาณๆพอสังเขปเท่านั้น


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 61  เมื่อ 28 ก.ค. 14, 08:06

การเดินเรือโดยอ้างจุดสังเกตสำคัญแบบนี้ทำกันอย่างไร? ข้อนี้ผมก็สงสัยมานาน เลยลองคำนวณดูว่าเรือจะมองเห็นเกาะต่างๆ เหล่านี้ที่ระยะห่างเท่าใด

ขอสรุปเป็นสูตรที่ได้มาดังนี้นะครับ (ขอไม่ลงวิธีคิด เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นตำราเรขาคณิต แต่ถ้าท่านใดสนใจผมจะมาลงรายละเอียดให้ครับ)

ระยะที่สามารถมองเห็นได้ = sqr(2Rh)+sqr(2RH)
โดย R=รัศมีของโลก ประมาณว่าเท่ากับ 6,370,000 ม. (6,370 กม.)
h = ความสูงจากระดับน้ำทะเลถึงจุดที่สังเกตการบนเรือ (ควรจะเป็นที่รังกา ดังนั้นอย่างน้อยต้อง 25 ม.)
H = ความสูงของเกาะที่เป้าหมาย
ถ้าคิดว่าเรือลำเดียวกันในตำแหน่งเดียวกัน R และ h เป็นค่าคงที่ตามข้างต้น จะยุบสูตรลงมาได้เป็น
ระยะที่สามารถมองเห็นได้ = 17847 + 3569 * sqr(H)
น่าสนใจครับ แต่ผมมีประเด็นสงสัยนิดเดียว คือในทะเลหลวงนั้นเรือมันมิได้อยู่นิ่งๆนะครับ จะทั้งโยกทั้งโยนไปทุกมิติตามความแรงของคลื่นและลม แถมยังมีเรื่องแสงแดดและสายตาอีก ดังนั้นจุดที่คนบนรังกาจะสังเกตุการณ์เห็นเป้าหมายที่สุดขอบฟ้าคงจะไม่ตรงกันสักครั้ง ตัวเลขจึงได้แค่ประมาณการที่มีความคลาดเคลื่อนเยอะทีเดียว
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 62  เมื่อ 28 ก.ค. 14, 08:36

ขอแทรกเข้ามาแสดงความเห็นครับ ก่อนที่จะออกจากอ่าวไทยไป

ได้อ่านกระทู้นี้มาด้วยความสนใจตั้งแต่ต้น เพราะเกี่ยวพันกับเส้นทางเดินเรือในกระทู้ที่เคยเขียนไว้เรื่อง อาณาจักรริวกิว

สิ่งที่สะกิดใจในทันที คือ เส้นทางการเดินเรือออกจากปากน้ำที่จะต้องไปยังแถวประจวบฯ แล้วจึงตัดข้ามอ่าวไปทางแหลมญวน  พอถึง คห.36 ก็มีภาพแสดงเส้นทางการเดินเรือลงไปทางใต้ของอ่าวไทยทั้งขาไปและขากลับ

ในความรู้ที่พอจะมีของผมนะครับ  อธิบายได้ด้วยเรื่องของกระแสน้ำที่หมุนวนอยู่ในอ่าวไทย

ในอ่าวไทยตอนบนสุด (ตัว ก.ไก่) กระแสน้ำจะไหลหมุนวนไปในทิศทางทวนเข็มนาฬิกา
  
พอเข้าไปในพื้นที่อ่าวเปิด จะมีวงกระแสน้ำอยู่ 2 วง วงหนึ่งตอนบนจะหมุนตามเข็มนาฬิกา จากแหลมญวนเลาะชายฝั่งตราด-จันทบุรี ไปแถวประจวบฯ แล้วย้อยลงไปในอ่าวข้ามกลับไปแหลมญวน   วงที่สองอยู่ตอนล่าง จะหมุนทวนเข็มนาฬิกา จากทางมาเลเซียเลาะชายฝั่งขึ้นมาชนกับวงตอนบน

อย่างไรก็ตาม ทิศทางของลมตามฤดูกาล จะพัดผ่านเหนือผิวน้ำสวนทางกับทิศทางการไหลวนของมวลน้ำได้

ผมดูแผนที่ร่องน้ำที่สันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่าร่องน้ำลึก(แต่แคบ)ทั้งหมดมีความยาวร่วม๒๐กิโลเมตร ตรงปลายชี้เข้าหาฝั่งด้านตะวันตก เลยคิดว่ากระแสน้ำที่เชี่ยวกรากคงจะมีอิทธิพลต่อทิศทางของเรือสำเภาใหญ่ที่กินน้ำลึก ที่จะพัดพาให้ไปในทิศทางนั้นกระมัง
ปกติ เรือสำเภาสมัยนั้นที่จะออกทะเลต้องทอดสมอรออยู่ในแม่น้ำ จนน้ำขึ้นระดับสูงสุดแล้ว น้ำนิ่งหรืออีกศัพท์หนึ่งเรียกว่าน้ำตาย จึงจะเคลื่อนออก ถ้าเร็วไปก่อนหน้าจะกลายเป็นวิ่งทวนน้ำให้ลำบากใช่น้อย น้ำตายจะนิ่งอยู่ระยะสั้นๆแล้วจึงเริ่มไหลลง เรือก็จะลอยตามน้ำออกไปโดยง่าย ถึงเรือใหญ่ๆท้องจะครูดสันดอนบ้างก็ฉุดลากกันไม่ยาก(เมื่อเทียบกับถ้าทวนน้ำ) ระยะทางของร่องน้ำ๒๐กิโลเมตรนั้น ต้องใช้เวลาเดินทางกว่าชั่วโมง กระแสน้ำจะเปลี่ยนจากน้ำตายเป็นน้ำเป็น คือเชี่ยวกรากเต็มที่ เรือใหญ่ที่กินน้ำลึกก็จะยิ่งไหลตามน้ำเร็ว ถ้าลมไม่แรงจริงๆ ใบเรือจะไม่สามารถให้พลังขับเคลื่อนต้านกระแสน้ำได้ ต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติของมัน กว่าจะตั้งตัวได้กลางทะเลไต้ก๋งคงคิดว่าเอาเรือไปเริ่มกันแถวสามร้อยยอดดีกว่า
แต่ทฤษฎีนี้ยังหาเอกสารมายืนยันไม่ได้ ผมจึงอุบไว้ นี่เห็นคุณนายตั้งเอ่ยเรื่องกระแสน้ำขึ้นมาเลยเอามาลงไว้เป็นน้ำจิ้ม ไว้กินกับอาหารกวางตุ้งที่คุณม้าจะพาไปเที่ยวกันเมื่อเรือไปถึง
(ในรูปเป็นแผนที่ร่องน้ำที่ผมไปขอยืมมาจากพันทิปครับ จุดแดงกับเขียวคือตำแหน่งทุ่น ให้เรือวิ่งตรงกลาง ซึ่งสมัยก่อนไม่มี ไต้ก๋งต้องชำนาญจริงๆไม่อย่างนั้นจะพาเรือชนฝั่งเลนใต้น้ำ)


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 63  เมื่อ 28 ก.ค. 14, 08:51

คุยกันถึงเรื่องเกาะขนุนกันหลายกระทู้ จึงขอสอดแทรกงานเขียนของ ดร.ธิดา สาระยา เกี่ยวกับหมู่เกาะนี้ให้ฟังดังนี้

คุนหลุน (ปูโลคอนดอร์) มีชื่อพื้นเมืองว่า "คอน-นอน" ซึ่งชาวอาหรับ คริสต์ศตวรรษที่ ๙ เรียกว่า "ซุนดาฟูลาต"

นักบวชจีน อี้จิง ซึ่งเดินทางจากเมืองจีนไปแสวงบุญที่อินเดียใน ค.ศ. 671 ได้ทิ้งงานเขียนบรรยายเกี่ยวกับเกาะคุนหลุน

ไว้ว่า ประชากรผิวดำ ผมหยิก ใช้ชีวิตด้วยการขโมย ปล้นชิงโจรสลัด กินเนื้อมนุษย์ ใช้ภาษาต่างจากภาษาป่าอื่น

ชำนาญในการดำน้ำ สามารถดำน้ำได้ทั้งวัน นับถือพระพุทธศาสนา รู้จักสวดมนต์ในภาษาสันสฤต
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 64  เมื่อ 28 ก.ค. 14, 09:02

ท่านอี้จิงก็เถิดนะ ค.ศ. 671 ที่ท่านเดินทางจากเมืองจีนไปแสวงบุญที่อินเดียน่ะ หลังพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานเพียง ๑๒๘ ปี ก่อนพระเจ้าอโศกมหาราชจะส่งพระธรรมทูตมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาในแผ่นดินแถบนี้ร่วม๔๐๐ปี

ถ้าคนที่แปลมา ไม่ว่าจะทอดไหนก็ตาม หากไม่ผิดเรื่องค.ศ. เรื่องหลวงจีนไปอินเดียก็พอจะกล้อมแกล้มได้ว่าไปแสวงบุญกับบาบาอะไรสักคนนึง แต่ชาวเกาะในเมืองญวนผิวดำ ผมหยิก ใช้ชีวิตด้วยการขโมย ปล้นชิงโจรสลัด กินเนื้อมนุษย์ จะนับถือพระพุทธศาสนาขนาดสวดมนต์ในภาษาสันสฤตได้ อันนี้ฝอยแน่นอน
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 65  เมื่อ 28 ก.ค. 14, 12:17

ขออภัย  ขออภัยจริงๆครับ

ย้อนกลับไปอ่านที่ได้เขียนไปเรื่องทิศทางของกระแสน้ำในอ่าวไทย  ผมป้ำเป๋อไปอย่างไรก็ไม่ทราบ ดันบอกทิศทางผิดไป

ที่ถูกต้องเป็นดังนี้ครับ

วงของกระแสน้ำในอ่าวไทยช่วงบนสุด (วงใน ก.ไก่) เป็นแบบหมุนทวนเข็มนาฬิกา
วงของกระแสน้ำในอ่าวเปิดตอนบนเป็นแบบหมุนทวนเข็มนาฬิกาเช่นกัน
วงของกระแสน้ำตอนล่างเป็นแบบหมุนตามเข็มนาฬิกา

ทั้งหมดนี้เป็นลักษณะของการเคลื่อนที่ของมวลน้ำในทะเลหรือมหาสมุทรที่เรียกว่า Gyre 

เมื่อเกิดลมมรสุมตามฤดูกาล ลมที่พัดผ่านเหนือผิวน้ำจะทำให้เกิดคลื่นและกระแสน้ำในบริเวณที่ไม่ลึกจากผิวน้ำมากนัก นำพาให้เกิดกระแสน้ำที่เรียกว่า longshore current 

บริเวณที่กระแสน้ำงที่ได้กล่าวถึงเหล่านี้มาร่วมวงสามัคคีกันและแยกย้ายจากกันก็อยู่ที่แถวๆชายฝั่งของประจวบฯ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 66  เมื่อ 28 ก.ค. 14, 12:51

ประมวลแล้ว พอสำเภาตุปัดตุเป๋พ้นร่องน้ำในสันดอนมาก็เจอกระแสน้ำวนในปากอ่าว พัดเพเซไปทางฝั่งตะวันตกซ้ำเข้าอีก กว่าจะเข้าร่องลมได้ก็ต้องประมาณเขาสามร้อยยอดนั่นเอง


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 67  เมื่อ 28 ก.ค. 14, 13:04

กินยาแก้เมาคลื่นเสร็จแล้วก็นั่งเรือน้อย ตามหลังมาอีกทีค่ะ
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 68  เมื่อ 28 ก.ค. 14, 13:33

ประมวลแล้ว พอสำเภาตุปัดตุเป๋พ้นร่องน้ำในสันดอนมาก็เจอกระแสน้ำวนในปากอ่าว พัดเพเซไปทางฝั่งตะวันตกซ้ำเข้าอีก กว่าจะเข้าร่องลมได้ก็ต้องประมาณเขาสามร้อยยอดนั่นเอง

อ้าว แล้วทีพวกใช้ใบไปเกาะสีชัง เกาะคราม อ่างหิน จะทำอย่างไรล่ะ ?
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 69  เมื่อ 28 ก.ค. 14, 14:06

ผมคิดว่าเรือเล็กกินน้ำตื้น จะได้รับแรงใต้น้ำน้อยกว่าเรือใหญ่ที่หนักและกินน้ำลึกครับ ผนวกกับแรงลมที่กระทำกับใบก็ถ่ายให้เรือเคลื่อนตัวไปข้างหน้าได้ดีกว่าเรือหนัก นี่จากประสพการณ์ที่เล่นกับเรืออยู่สิบปีนะ ถ้าจะเอาเรื่องทฤษฏีก็ต้องให้คุณนายตั้งตอบ
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 70  เมื่อ 28 ก.ค. 14, 14:23

คุณม้า...เราอยู่เกาะขนุนมากเกินไปแล้ว อยากให้แล่นเรือออกไปยังทะเลทรายได้แล้ว  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 71  เมื่อ 28 ก.ค. 14, 14:37

คุณ Siamese ใจร้อนอย่างนี้ท่าทางจะมีอาวุธหนักอยู่ในมือแน่ๆ ใจเย็นๆ ครับ เดี๋ยวค่ำๆเราค่อยออกเรือ ขอจอดเรือหลบลมที่เขาขนุนจิบชาชมลมชมน้ำอีกสักพักนะครับ

ร่องน้ำของคุณ Navarat.C เห็นท่าจะเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาตัดใหม่ในอนาคตแน่ๆ เลยครับ แต่เห็นแผนที่อ่าวไทยที่แสดงกระแสน้ำวนที่คุณนายตั้งพูดถึงแล้วรู้สึกตื่นเต้นกว่าอีก เพราะทำให้ผมนึกถึงกำสรวลสมุทร เรื่องนั้นเรือสำเภาแล่นเลียบชายฝั่งตะวันออกไปถึงแถวเกาะสีชังแล้วแล่นตัดข้ามอ่าวไทยมา ที่ประหลาดคือดูเหมือนจะพูดถึงชะอำด้วย ผมอ่านแล้วก็เลยขอข้ามตรงนั้นไปเฉยๆ อาจจะเกี่ยวข้องกับกระแสน้ำนี้หรือเปล่าครับ
บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 72  เมื่อ 28 ก.ค. 14, 14:43

คุณ Siamese ใจร้อนอย่างนี้ท่าทางจะมีอาวุธหนักอยู่ในมือแน่ๆ ใจเย็นๆ ครับ เดี๋ยวค่ำๆเราค่อยออกเรือ ขอจอดเรือหลบลมที่เขาขนุนจิบชาชมลมชมน้ำอีกสักพักนะครับ



ไม่มีอะไรเด็ดๆ หรอกครับ  ยิงฟันยิ้ม

เวปลิงค์เกี่ยวกับกระแสน้ำในอ่าวไทย http://www.fao.org/docrep/field/003/ab751e/ab751e01.htm
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 73  เมื่อ 28 ก.ค. 14, 15:20

เสิฟขนมน้ำชา ให้เข้ากับบรรยากาศค่ะ


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 74  เมื่อ 28 ก.ค. 14, 16:22

อ้างถึง
ร่องน้ำของคุณ Navarat.C เห็นท่าจะเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาตัดใหม่ในอนาคตแน่ๆ เลยครับ

ไม่ใช่ของพ้ม พ้มไปลอกเค้ามาคร้าบ อายจัง

http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2010/08/X9537356/X9537356.html

อ้างถึง
แต่เห็นแผนที่อ่าวไทยที่แสดงกระแสน้ำวนที่คุณนายตั้งพูดถึงแล้วรู้สึกตื่นเต้นกว่าอีก เพราะทำให้ผมนึกถึงกำสรวลสมุทร เรื่องนั้นเรือสำเภาแล่นเลียบชายฝั่งตะวันออกไปถึงแถวเกาะสีชังแล้วแล่นตัดข้ามอ่าวไทยมา ที่ประหลาดคือดูเหมือนจะพูดถึงชะอำด้วย ผมอ่านแล้วก็เลยขอข้ามตรงนั้นไปเฉยๆ อาจจะเกี่ยวข้องกับกระแสน้ำนี้หรือเปล่าครับ
คุณม้านี่ ช่างมีอารมณ์ขันจริงจริ้ง ยิงฟันยิ้ม
เห็นน้ำวนในอ่าวตามระโยงของของคุณหนุ่มรัตนสยามแล้ว ผมก็เอ๋อเหมือนกัน เจ๋ง
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 13
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.047 วินาที กับ 20 คำสั่ง