ศศิศ
|
ความคิดเห็นที่ 30 เมื่อ 04 ธ.ค. 05, 17:23
|
|
เห็น "บ่าตาว" (บ่า ต๋าว) แล้วน้ำลายสอเลยครับผม
หากว่าใส่รวมมิตรแล้ว จะชอบมากและมักจะเก็บไว้กินทีหลังสุดเลย (( แต่ไม่ได้งก นาครับ 55)) เห็นบนดอยภูคา ก็มีเยอะเหมือนกัน ที่ชาวบ้านจะไปเก็บ แล้วมาหีบเอาเนื้อออกมาใส่ถุงขาย
ว่าแล้วก็หิว ออกไปหามากินดีกว่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
- ศศิศ -
|
|
|
samongi
มัจฉานุ
 
ตอบ: 59
เรียนคณะคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีชั้นสูง มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรี
เอกวิทยาการคอมพิวเตอ
|
ความคิดเห็นที่ 31 เมื่อ 07 ธ.ค. 05, 14:31
|
|
หิวเหมือนกันค่ะ ฝากความคิดถึงไปหาตาที่สันกำแพง เชียงใหม่ด้วยนะคะ ว่าหลานเป็นห่วง คุณ ศศิศ อยู่อำเภออะไรคะ ตอนนี้กำลังหนาวเลย ตาคงปวดขาแย่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Le Roi du Soleil
อสุรผัด

ตอบ: 18
กำลังศึกษาระดับปริญญาเอกแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอเรเนียน ประเทศฝรั่งเศส
|
ความคิดเห็นที่ 32 เมื่อ 08 ธ.ค. 05, 02:56
|
|
ที่อุตรดิตถ์เรียก "ลูกตาว" ครับ ที่นั่นมีโรงงานทำขายทั่วประเทศและส่งออกด้วยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ftslim2028
อสุรผัด

ตอบ: 1
|
ความคิดเห็นที่ 33 เมื่อ 20 ม.ค. 10, 15:35
|
|
ขอบคุณมากสำหรับข้อมูล กำลังหาอยู่พอดีเลย ทำรายงานวิจัยนิดหน่อย แหะๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นิลนนท์
มัจฉานุ
 
ตอบ: 58
|
ความคิดเห็นที่ 34 เมื่อ 13 ต.ค. 12, 23:19
|
|
ผมเข้าใจว่า ที่เรียก "ลูกชิด" (สะกดด้วย "ด" นะครับ ไม่ใช่ "ต" เพราะว่าเป็นคำไทย ไม่ใช่คำบาลี ถ้าเขียน ชิต แสดงว่ามีรากมาจากคำว่า ชิ-ตะ ซึ่งผิดนะครับ) ก็เพราะว่า คนภาคกลางรู้จักกินผลไม้ชนิดนี้ มาจากคนใต้ ซึ่งคนใต้คงเรียกว่า "ลูกฉก" แล้วต่อมาเพี้ยนตามหูคนภาคกลางเป็น "ลูกชิด" ซึ่งหมายถึงผลไม้ของต้นชิด (ฉก)
ส่วนคำว่า "ตาว" คงจะเป็นคำไทเดิม ซึ่งสำเนียงเหนือก็คือ "ต๋าว" คิดว่าสาเหตุแห่งการเรียกชื่อต่างคงเป็นเพราะเหตุนี้ครับ
อันที่จริงเรื่องชื่อพืชนี้น่าสนใจนะครับ ท่านใดมีความรู้เรื่องภาษามาเลย์ เขมร หรือ มอญ ที่เรียก "ต้นฉก" ก็เชิญนะครับ เพราะไม่แน่ "ต้นฉก" ของทางใต้ อาจเรียกเพี้ยนมาจากภาษามอญ หรือ มาเลย์ ก็ได้ </td></tr></table>
คนใต้เรียก ลูกชก (คนกลางจะได้ยินเป็น ฉก) คนกลางเรียกลูกชิด ผมเชื่อไม่ได้เกิดจากการเพี้ยนเสียง รายการกบนอกกะลาได้นำเสนอเรื่องนี้ไว้น่าสนใจ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นิลนนท์
มัจฉานุ
 
ตอบ: 58
|
ความคิดเห็นที่ 35 เมื่อ 13 ต.ค. 12, 23:56
|
|
ต้นตาว (Arenga pinnata) Philippines kaong Indonesia aren, enau, kawung Malaysia enau, kabong, berkat CHINESE Guang lang, Sha tang ye zi, Tang shu.
ผลของต้นตาวที่เราเรียกว่าลูกชิด อินโดนีเซียเรียก kolang-kaling ดูแล้วไม่น่าจะเพี้ยนมาเป็นลูกชกได้ นอกจากนี้แหล่งกำเนิดของพืชชนิดนี้คือแถบอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเรียกชื่อก็ขึ้นอยู่กับคนท้องถิ่นที่รู้จักพืชนี้ ชื่อท้องถิ่น ต๋งล้าง(ม้ง), ต่าว(เมี่ยน,ขมุ,ไทลื้อ,คนเมือง), หมึ่กล่าง(ลั้วะ), ต่ะดึ๊(กะเหรี่ยงเชียงใหม่)
ภาพด้านล่างคือลูกชิดของคนอินโดนีเซีย แต่งสีสารพัด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นิลนนท์
มัจฉานุ
 
ตอบ: 58
|
ความคิดเห็นที่ 36 เมื่อ 14 ต.ค. 12, 15:09
|
|
รายการกบนอกกะลาบอกว่าชื่อ ลูกชิด ได้มาจากลักษณะของเม็ดที่อยู่ชิดติดกันในผลตาว ใน 1 ผลมี 3 เม็ด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นิลนนท์
มัจฉานุ
 
ตอบ: 58
|
ความคิดเห็นที่ 37 เมื่อ 14 ต.ค. 12, 15:22
|
|
ดอกต้นตาว ออกเป็นพวง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นิลนนท์
มัจฉานุ
 
ตอบ: 58
|
ความคิดเห็นที่ 38 เมื่อ 14 ต.ค. 12, 15:44
|
|
ดูความแตกต่างระหว่างทะลายลูกตาว และลูกจาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นิลนนท์
มัจฉานุ
 
ตอบ: 58
|
ความคิดเห็นที่ 39 เมื่อ 14 ต.ค. 12, 15:52
|
|
ดูลูกตาวกันใกล้ ๆ ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นิลนนท์
มัจฉานุ
 
ตอบ: 58
|
ความคิดเห็นที่ 40 เมื่อ 14 ต.ค. 12, 16:39
|
|
ปัจจุบันลูกชิดใช้เรียกชื่อลูกตาว หรือลูกชก ส่วนต้นจากก็ให้ผลเป็นลูกจาก แต่ผมว่าที่มาชื่อ ลูกชิด ไม่ได้มาจากลักษณะของเม็ดที่อยู่ในผลลูกตาว แต่มาจากต้นจากมากกว่า ต้นจากชอบขึ้นตามริมคลองใกล้ทะเล บริเวณน้ำกร่อย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงมากนัก คนกรุงต้นรัตนโกสินทร์รู้จักลูกจาก มีกล่าวถึงในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานของ ร.2 ผลจากเจ้าลอยแก้ว บอกความแล้วจากจำเป็น จากช้ำน้ำตากระเด็น เป็นทุกข์ท่าหน้านวลแตง
หรือของสุนทรภู่ นิราศเมืองเพชรบุรี เมื่อไปถึงบริเวณสมุทรสาคร ในลำคลองสองฟากล้วนจากปลูก ทะลายลูกดอกจากขึ้นฝากแฝง ต้นจากถูกลูกชิดนั้นติดแพง เขาช่างแปลงชื่อถูกเรียกลูกชิด ถึงบ้านบ่อกอจากมิอยากสิ้น เหมือนจากถิ่นท่องเที่ยวมาเปลี่ยวจิต อันใบจากรากกอไม่ขอคิด แต่ลูกชิดชอบใจจะใคร่ชม ฯ
แสดงว่ามีการเรียกผลจากว่าลูกชิดมาตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ โดยการแปลงชื่อต้น จาก มาเป็นลูก ชิด คงคล้ายในสมัยนี้ที่เรียก แห้ว ว่าสมหวัง เพราะชื่อจากฟังแล้วไม่ค่อยเป็นมงคล ต่อให้อยากกินลูกก็อาจกระดากใจ ไม่รู้ว่าในที่สุดท่านสุนทรภู่ได้ชิมหรือได้เห็นเนื้อลูกจากหรือไม่
เรื่องที่ต้องพิจารณาก็คือท่านสุนทรภู่เรียกมีความเข้าใจผิดในการเรียกชื่อลูกชิดหรือไม่ คือเอาชื่อลูกชิดของต้นตาว ไปใช้เรียกผลต้นจากหรือเปล่า ถ้าท่านไม่ได้เข้าใจผิดกลอนของท่านก็บอกที่มาของชื่อลูกชิดได้อย่างชัดเจนยิ่ง โดยไม่ต้องคาดคะเนหาที่มาของชื่ออีก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นิลนนท์
มัจฉานุ
 
ตอบ: 58
|
ความคิดเห็นที่ 41 เมื่อ 14 ต.ค. 12, 17:37
|
|
ผมว่าสมัยกรุงต้นรัตนโกสินทร์ ชาวกรุงไม่รู้จักลูกตาว (แม้แต่ลูกจากเองท่านสุนทรภู่ก็ยังบอกว่าแพง และดูเหมือนว่าท่านยังไม่เคยได้กินด้วย) ด้วยเหตุผลต่อไปนี้ 1. ในไทยตาวไม่ใช่พืชเศรษฐกิจที่มีการเพาะปลูกกัน แต่ผลตาวเป็นของป่า ต้องเข้าไปในป่าดิบแล้งซึ่งห่างไกลจากกรุงมาก แหล่งต้นตาวอยู่ภาคใต้ ภาคเหนือและอีสานแถวเทือกเขาเพชรบูรณ์เป็นส่วนใหญ่ ต้นตาวจะอยู่บริเวณที่มีความชุ่มชื้น ใกล้แหล่งน้ำลำธาร ขณะที่การกินผลตาวต้องกินสดทิ้งค้างคืนรสชาดเปลี่ยน ในรายการกบนอกกะลาผู้ใหญ่ในพื้นที่ก็พูดถึงว่าสมัยก่อนไม่ได้นิยมกินผล แต่นิยมใช้ส่วนอื่นของต้นตาวมากกว่า การนำผลตาวสดเข้ากรุงเพื่อค้าขายไม่น่าจะเป็นไปได้ โดยเฉพาะการคมนาคมที่ยากลำบากกว่าปัจจุบันมากนักอาจใช้เวลาเป็นเดือน แม้ในปัจจุบันคงมีน้อยคนที่เคยกินตาวสด ไม่รู้ว่ารสชาดตาวสดจะเป็นอย่างไร 2 การแปรรูปตาวในสมัยก่อน ทำได้อย่างดีสุดน่าจะเป็นลอยแก้วซึ่งคงไม่เป็นที่นิยมและไม่เหมาะกับการส่งเข้ามาขายในกรุงอยู่ดี ขายได้ก็คงไม่กี่อัฐ ของป่าอย่างอื่นมีค่ามากกว่า สมัยนั้นโรงน้ำแข็งยังไม่มี น้ำแข็งไส ไอศกรีมที่ต้องการเครื่องเคียงอย่างลูกตาวก็ยังไม่ได้ถือกำเนิด ถ้ามีการกินผลตาวก็คงกินกันเฉพาะในท้องถิ่น จะเชื่อมลูกตาวแล้วกินกันอย่างไรให้อร่อยยังนึกไม่ออก 3 ชาวกรุงถึงเห็นเม็ดตาว ก็คงไม่เคยเห็นผลทั้งทะลายหรือผลตาวที่ผ่าซีกจนให้ชื่อเรียกว่าลูกชิดได้(คนปัจจุบันยังแทบไม่รู้จักหรือเคยเห็น) ผมว่าคนกรุงสมัยก่อนรู้จักผลจากก่อนลูกตาว เมื่อลูกตาวเชื่อมมาถึงกรุงอาจเห็นลักษณะคล้ายลูกจาก ด้วยความเข้าใจผิดจึงเอาชื่อของลูกจาก(ลูกชิด)ไปเรียกลูกตาว ลูกตาวหากินได้ง่ายกว่าลูกจาก หลายคนคงเคยกินลูกตาวแต่ไม่เคยกินลูกจาก เรียกกันจนแพร่หลายชื่อ ลูกชิด ของลูกจากก็เลยกลายเป็นชื่อของลูกตาวไปโดยปริยาย ต้นจากก็เลยหมดสิทธิในชื่อลูกชิด ต้องกลับไปใช้ชื่อ จาก เรียกลูกตัวเองเหมือนเดิม
หรือใครมีความเห็นอย่างอื่นเพิ่มเติมบ้างครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นิลนนท์
มัจฉานุ
 
ตอบ: 58
|
ความคิดเห็นที่ 42 เมื่อ 14 ต.ค. 12, 19:53
|
|
ลืมให้ดูครับ ว่าลูกจากแต่ละลูกอยู่ 'ชิด' กันจริง ๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 43 เมื่อ 15 ต.ค. 12, 07:15
|
|
ลืมให้ดูครับ ว่าลูกจากแต่ละลูกอยู่ 'ชิด' กันจริง ๆ
เขาเรียกทั้งหน่วยว่า "โหม่งจาก" เห็นทั้งโหม่งแบบนี้ลอยน้ำได้ครับ ผลจากหลุดจากโหม่งก็ลอยน้ำไปงอกเป็นต้นได้ ส่วนที่อร่อยที่สุดของผลจากคือ น้ำที่อยู่ตรงกลาง อร่อยมากครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
heha
|
ความคิดเห็นที่ 44 เมื่อ 26 ต.ค. 14, 20:27
|
|
นี่คงเป็นลูกตาวกระมังครับ ชักงง
เชื่อมแล้วจะเป็นเหนียวๆ ใสๆ กินกะไอติม??
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|