เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 23 24 [25] 26 27 ... 30
  พิมพ์  
อ่าน: 77944 เพลงเก่า เล่าอดีต
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 360  เมื่อ 11 ก.ย. 14, 10:12

          ส่วนเนื้อที่ว่า  "tomorrow, just you wait and see" นั้น (เขาว่า)
หมายถึง การรอนับจำนวนเครื่องบินที่บินกลับมาหลังปฏิบัติการ ผู้คนสมัยสงครามเล่าว่า
          ชาวอังกฤษเมื่อเห็นครื่องบินรบบินออกจากฐานทัพไปปกป้องประเทศ พวกเขาจะ
คอยนับจำนวนเครื่องที่บินไปและรอนับใหม่อีกครั้งตอนบินกลับ
          พวกเขาจะเศร้าใจเมื่อนับจำนวนเครื่องที่บินกลับมาได้น้อยกว่าที่บินจากไปไม่กลับคืน


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 361  เมื่อ 11 ก.ย. 14, 10:29

           Sentinel งานประติมากรรมรำลึกรูป spitfire ใน  Birmingham เพื่อเป็นอนุสรณ์
แด่โรงงาน Castle Bromwich factory ที่อยู่ใกล้เคียง ออกแบบโดย Tim Tolkien ผู้เป็น
great-nephew (หลานของน้องชาย) J. R. R. Tolkien แห่ง The Lord of the Rings
           ช่วงสงคราม เครื่องบิน spitfire ส่วนมาก(กว่าครึ่ง) ถูกสร้างขึ้นในโรงงานแห่งนี้
ในขณะที่ บางโรงงานถูกเครื่องบินเยอรมันโจมตี พนักงานเสียชีวิตหลายราย แต่เหล่าคนงาน
ก็ไม่เสียขวัญ ยังคงมุ่งมั่นผลิตเครื่องบินเพื่อปกป้องน่านฟ้าปิตุภูมิ


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 362  เมื่อ 12 ก.ย. 14, 10:29

            บทเพลงนี้ประพันธ์ขึ้นในปี 1941 ก่อนที่อเมริกาจะเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่สอง
เวลานั้นเยอรมันได้พิชิตยุโรปแทบหมดทวีปแล้วข้ามช่องแคบและหน้าผาเข้ามาเปิดสงคราม
เวหาเหนือน่านฟ้าเกาะอังกฤษได้หนึ่งปี

เครื่องบินทิ้งระเบิดของเยอรมันบินข้ามช่องแคบอังกฤษ


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 363  เมื่อ 12 ก.ย. 14, 10:31

             อังกฤษเรียกสงครามนี้ว่า Battle of Britain ในขณะที่ฝ่ายเยอรมันเรียกว่า
Luftschlacht um England แปลตรงตัวว่า Air battle for England ที่กองทัพอากาศ
เยอรมันรณรงค์ในช่วงหน้าร้อนและใบไม้ร่วงปี 1940


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 364  เมื่อ 12 ก.ย. 14, 10:32

           คำว่า Battle of Britain นี้ นายกรัฐมนตรี  Winston Churchill ได้กล่าวไว้
ในสภาเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 1940 ว่า
           "... the Battle of France is over. I expect that the Battle of Britain
is about to begin."

นายกฯ เชอร์ชิลล์ ชูนิ้วสัญลักษณ์ตัว V เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 1940, 10 วันหลังจากที่
ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี, กองทัพเยอรมันเคลื่อนพลถึงช่องแคบอังกฤษ


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 365  เมื่อ 12 ก.ย. 14, 10:37

รื้อฟื้นวิชาภูมิศาสตร์

      England + Wales = Britain

      Britain + Scotland = Great Britain

      Great Britain + Northern Ireland = United Kingdom


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 366  เมื่อ 12 ก.ย. 14, 10:40

           ตามเกณฑ์แล้ว บริเทน คือ อังกฤษและเวลส์ แต่คำว่า บริเทนนี้เป็นที่นิยมใช้ใน
ความหมาย เกาะ(ที่รวม) อังกฤษ, เวลส์ และสก็อตแลนด์ ที่เป็นความหมายเดียวกับ เกรท บริเทน
           ในที่นี้ Britain สั้นๆ นั้นยังเหมาะเจาะในแง่พ้องเสียง b กับ t และมีจำนวนสองพยางค์
เท่ากับ Battle


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 367  เมื่อ 12 ก.ย. 14, 10:43

           สงครามแห่งบริเทน เป็นสงครามเวหา(สู้รบกันทางอากาศอย่างเดียว) ระดับพระกาฬ
ครั้งแรกแห่งประวัติศาสตร์สงคราม เยอรมันมีเป้าหมายที่จะครองน่านฟ้าเหนือกองทัพอากาศอังกฤษ
เปิดฉากปฏิบัติการโจมตีทิ้งระเบิดตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 1940 โดยมีเมืองชายฝั่งที่เป็นศูนย์กลาง
การเดินเรืออย่างเช่น  Portsmouth เป็นเป้าหมายหลัก

           หนึ่งเดือนต่อมากองทัพอากาศเยอรมันก็รุกเข้าโจมตีสนามบินของกองทัพอากาศอังกฤษ
ตลอดจนโรงงานผลิตเครื่องบินและโครงสร้างพื้นฐาน จากนั้นก็เลยไปยังสถานที่สำคัญทางการเมือง
และเปิดกลยุทธ์การทิ้งระเบิดข่มขวัญประชาชนพลเรือน

แผนที่การโจมตีทางอากาศขนาดใหญ่


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 368  เมื่อ 12 ก.ย. 14, 10:55

             ในส่วนการโจมตีกรุงลอนดอนทางอากาศนี้มีศัพท์เรียกว่า (London) Blitz โดยที่
คำว่า blitz นี้มาจากภาษาเยอรมัน blitzkrieg แปลว่า สงครามสายฟ้าฟาด - lightning war
เป็นการทิ้งระเบิดโจมตีเป้าหมายอุตสาหกรรมและศูนย์กลางพลเรือนในลอนดอนอย่างหนักตั้งแต่
บ่ายวันที่ 7 กันยายน ปี 1940 ด้วยเครื่องบินทิ้งระเบิดเกือบ 350 ลำ หย่อนระเบิดลงสู่ลอนดอน
แถบตะวันออก ส่งผลให้ชาวเมืองเสียชีวิต 450 คนและบาดเจ็บรุนแรง 1,300 ราย

ปี 1940 เดือนกันยา สายฟ้าฟาดลงมหานครลอนดอน


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 369  เมื่อ 15 ก.ย. 14, 09:45

เครื่องบินทิ้งระเบิดของเยอรมันเหนือบริเวณใต้/ตะวันออกของลอนดอน ในวันที่  7 กันยายน 1940


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 370  เมื่อ 15 ก.ย. 14, 09:55

อังกฤษมี Supermarine Spitfire ปกป้องประจัญบานผู้รุกราน ร่วมกับ


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 371  เมื่อ 15 ก.ย. 14, 09:57

Hawker Hurricane (ซึ่งเป็น fighter ที่มีจำนวนมากที่สุดในสงครามครั้งนี้)


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 372  เมื่อ 15 ก.ย. 14, 09:59

นอกจากเครื่องบิน, ปืนต่อต้านอากาศยานแล้ว อีกสิ่งหนึ่งซึ่งช่วยปกป้องน่านฟ้าของอังกฤษ คือ

           Barrage balloon(blimp) บัลลูนขนาดใหญ่ลอยอยู่กับที่เหนือเมืองโดยผูกโยงยึด
ไว้ด้วยสายเคเบิ้ลโลหะ ทำหน้าที่ขวางกั้นและสร้างความเสียหายหากเครื่องบินของฝ่ายตรงข้าม
พุ่งเข้าชน มีผลทำให้การจู่โจมเป็นไปได้ยาก และเป็นการบังคับให้อีกฝ่ายต้องบินในระดับสูงขึ้น
ไปกว่า 1,500 ม. ซึ่งเป็นย่านกระสุนปืนต่อต้านอากาศยานหนาแน่น(กระสุนปืนต่อต้านนี้ไม่
สามารถพุ่งสู่เป้าเครื่องบินที่บินอย่างรวดเร็วในระดับล่างได้ทันท่วงที)


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 373  เมื่อ 15 ก.ย. 14, 10:06

            ตอนกลางปี 1940 บัลลูนจำนวน 1,400 ลูกได้รับการติดตั้งเหนือน่านฟ้า หนึ่งในสาม
ของจำนวนนั้นอยู่ที่ลอนดอน

ภาพนี้ระบุว่าเป็นบัลลูนเหนือลอนดอนตอนหน้าร้อนปี 1944


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 374  เมื่อ 15 ก.ย. 14, 10:18

เยอรมันเปิดปฐมบทสายฟ้าฟาดในวันที่ 7 กันยายน 1940 ตอนกลางวันแสกๆ


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 23 24 [25] 26 27 ... 30
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.114 วินาที กับ 19 คำสั่ง