SILA
|
ความคิดเห็นที่ 360 เมื่อ 11 ก.ย. 14, 10:12
|
|
ส่วนเนื้อที่ว่า "tomorrow, just you wait and see" นั้น (เขาว่า) หมายถึง การรอนับจำนวนเครื่องบินที่บินกลับมาหลังปฏิบัติการ ผู้คนสมัยสงครามเล่าว่า ชาวอังกฤษเมื่อเห็นครื่องบินรบบินออกจากฐานทัพไปปกป้องประเทศ พวกเขาจะ คอยนับจำนวนเครื่องที่บินไปและรอนับใหม่อีกครั้งตอนบินกลับ พวกเขาจะเศร้าใจเมื่อนับจำนวนเครื่องที่บินกลับมาได้น้อยกว่าที่บินจากไปไม่กลับคืน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 361 เมื่อ 11 ก.ย. 14, 10:29
|
|
Sentinel งานประติมากรรมรำลึกรูป spitfire ใน Birmingham เพื่อเป็นอนุสรณ์ แด่โรงงาน Castle Bromwich factory ที่อยู่ใกล้เคียง ออกแบบโดย Tim Tolkien ผู้เป็น great-nephew (หลานของน้องชาย) J. R. R. Tolkien แห่ง The Lord of the Rings ช่วงสงคราม เครื่องบิน spitfire ส่วนมาก(กว่าครึ่ง) ถูกสร้างขึ้นในโรงงานแห่งนี้ ในขณะที่ บางโรงงานถูกเครื่องบินเยอรมันโจมตี พนักงานเสียชีวิตหลายราย แต่เหล่าคนงาน ก็ไม่เสียขวัญ ยังคงมุ่งมั่นผลิตเครื่องบินเพื่อปกป้องน่านฟ้าปิตุภูมิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 362 เมื่อ 12 ก.ย. 14, 10:29
|
|
บทเพลงนี้ประพันธ์ขึ้นในปี 1941 ก่อนที่อเมริกาจะเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่สอง เวลานั้นเยอรมันได้พิชิตยุโรปแทบหมดทวีปแล้วข้ามช่องแคบและหน้าผาเข้ามาเปิดสงคราม เวหาเหนือน่านฟ้าเกาะอังกฤษได้หนึ่งปี
เครื่องบินทิ้งระเบิดของเยอรมันบินข้ามช่องแคบอังกฤษ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 363 เมื่อ 12 ก.ย. 14, 10:31
|
|
อังกฤษเรียกสงครามนี้ว่า Battle of Britain ในขณะที่ฝ่ายเยอรมันเรียกว่า Luftschlacht um England แปลตรงตัวว่า Air battle for England ที่กองทัพอากาศ เยอรมันรณรงค์ในช่วงหน้าร้อนและใบไม้ร่วงปี 1940
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 364 เมื่อ 12 ก.ย. 14, 10:32
|
|
คำว่า Battle of Britain นี้ นายกรัฐมนตรี Winston Churchill ได้กล่าวไว้ ในสภาเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 1940 ว่า "... the Battle of France is over. I expect that the Battle of Britain is about to begin."
นายกฯ เชอร์ชิลล์ ชูนิ้วสัญลักษณ์ตัว V เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 1940, 10 วันหลังจากที่ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี, กองทัพเยอรมันเคลื่อนพลถึงช่องแคบอังกฤษ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 365 เมื่อ 12 ก.ย. 14, 10:37
|
|
รื้อฟื้นวิชาภูมิศาสตร์
England + Wales = Britain
Britain + Scotland = Great Britain
Great Britain + Northern Ireland = United Kingdom
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 366 เมื่อ 12 ก.ย. 14, 10:40
|
|
ตามเกณฑ์แล้ว บริเทน คือ อังกฤษและเวลส์ แต่คำว่า บริเทนนี้เป็นที่นิยมใช้ใน ความหมาย เกาะ(ที่รวม) อังกฤษ, เวลส์ และสก็อตแลนด์ ที่เป็นความหมายเดียวกับ เกรท บริเทน ในที่นี้ Britain สั้นๆ นั้นยังเหมาะเจาะในแง่พ้องเสียง b กับ t และมีจำนวนสองพยางค์ เท่ากับ Battle
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 367 เมื่อ 12 ก.ย. 14, 10:43
|
|
สงครามแห่งบริเทน เป็นสงครามเวหา(สู้รบกันทางอากาศอย่างเดียว) ระดับพระกาฬ ครั้งแรกแห่งประวัติศาสตร์สงคราม เยอรมันมีเป้าหมายที่จะครองน่านฟ้าเหนือกองทัพอากาศอังกฤษ เปิดฉากปฏิบัติการโจมตีทิ้งระเบิดตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 1940 โดยมีเมืองชายฝั่งที่เป็นศูนย์กลาง การเดินเรืออย่างเช่น Portsmouth เป็นเป้าหมายหลัก
หนึ่งเดือนต่อมากองทัพอากาศเยอรมันก็รุกเข้าโจมตีสนามบินของกองทัพอากาศอังกฤษ ตลอดจนโรงงานผลิตเครื่องบินและโครงสร้างพื้นฐาน จากนั้นก็เลยไปยังสถานที่สำคัญทางการเมือง และเปิดกลยุทธ์การทิ้งระเบิดข่มขวัญประชาชนพลเรือน
แผนที่การโจมตีทางอากาศขนาดใหญ่
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 368 เมื่อ 12 ก.ย. 14, 10:55
|
|
ในส่วนการโจมตีกรุงลอนดอนทางอากาศนี้มีศัพท์เรียกว่า (London) Blitz โดยที่ คำว่า blitz นี้มาจากภาษาเยอรมัน blitzkrieg แปลว่า สงครามสายฟ้าฟาด - lightning war เป็นการทิ้งระเบิดโจมตีเป้าหมายอุตสาหกรรมและศูนย์กลางพลเรือนในลอนดอนอย่างหนักตั้งแต่ บ่ายวันที่ 7 กันยายน ปี 1940 ด้วยเครื่องบินทิ้งระเบิดเกือบ 350 ลำ หย่อนระเบิดลงสู่ลอนดอน แถบตะวันออก ส่งผลให้ชาวเมืองเสียชีวิต 450 คนและบาดเจ็บรุนแรง 1,300 ราย
ปี 1940 เดือนกันยา สายฟ้าฟาดลงมหานครลอนดอน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 369 เมื่อ 15 ก.ย. 14, 09:45
|
|
เครื่องบินทิ้งระเบิดของเยอรมันเหนือบริเวณใต้/ตะวันออกของลอนดอน ในวันที่ 7 กันยายน 1940
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 370 เมื่อ 15 ก.ย. 14, 09:55
|
|
อังกฤษมี Supermarine Spitfire ปกป้องประจัญบานผู้รุกราน ร่วมกับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 371 เมื่อ 15 ก.ย. 14, 09:57
|
|
Hawker Hurricane (ซึ่งเป็น fighter ที่มีจำนวนมากที่สุดในสงครามครั้งนี้)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 372 เมื่อ 15 ก.ย. 14, 09:59
|
|
นอกจากเครื่องบิน, ปืนต่อต้านอากาศยานแล้ว อีกสิ่งหนึ่งซึ่งช่วยปกป้องน่านฟ้าของอังกฤษ คือ
Barrage balloon(blimp) บัลลูนขนาดใหญ่ลอยอยู่กับที่เหนือเมืองโดยผูกโยงยึด ไว้ด้วยสายเคเบิ้ลโลหะ ทำหน้าที่ขวางกั้นและสร้างความเสียหายหากเครื่องบินของฝ่ายตรงข้าม พุ่งเข้าชน มีผลทำให้การจู่โจมเป็นไปได้ยาก และเป็นการบังคับให้อีกฝ่ายต้องบินในระดับสูงขึ้น ไปกว่า 1,500 ม. ซึ่งเป็นย่านกระสุนปืนต่อต้านอากาศยานหนาแน่น(กระสุนปืนต่อต้านนี้ไม่ สามารถพุ่งสู่เป้าเครื่องบินที่บินอย่างรวดเร็วในระดับล่างได้ทันท่วงที)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 373 เมื่อ 15 ก.ย. 14, 10:06
|
|
ตอนกลางปี 1940 บัลลูนจำนวน 1,400 ลูกได้รับการติดตั้งเหนือน่านฟ้า หนึ่งในสาม ของจำนวนนั้นอยู่ที่ลอนดอน
ภาพนี้ระบุว่าเป็นบัลลูนเหนือลอนดอนตอนหน้าร้อนปี 1944
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 374 เมื่อ 15 ก.ย. 14, 10:18
|
|
เยอรมันเปิดปฐมบทสายฟ้าฟาดในวันที่ 7 กันยายน 1940 ตอนกลางวันแสกๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|