SILA
|
ความคิดเห็นที่ 120 เมื่อ 18 มิ.ย. 14, 10:20
|
|
และ แน่นอนว่า ตะปูที่มีชื่อที่สุดคือ ตะปูทอง(Golden Spike) ที่ Leland Stanford(Central Pacific Railroad President) เป็นผู้ตอก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 121 เมื่อ 18 มิ.ย. 14, 10:21
|
|
ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่ Stanford's Cantor Arts Center
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 122 เมื่อ 18 มิ.ย. 14, 10:24
|
|
เส้นทางรวมชาตินี้ รวมระยะทางราว 1,756 ไมล์(2,826 กม.) เชื่อมระหว่าง Sacramento, California กับ Omaha, Nebraska/Council Bluffs, Iowa (จาก Sacramento 690 ไมล์ + 1085 ไมล์จาก Omaha)
สองเส้นทางส่วนมุ่งสู่ Promontory Summit ในวันนั้น ถึงวันนี้ได้กลายเป็นตำนาน เมื่อทางการ ได้สร้างเส้นทางสายใหม่ - สายสีน้ำเงิน คือเส้นทางสายเดิม ส่วนสายสีแดงและเหลือง(ส่วนสะพานข้ามทะเลสาบ) สร้างขึ้นภายหลัง แล้วเสร็จในปี 1904
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 123 เมื่อ 18 มิ.ย. 14, 10:28
|
|
สถานที่ประวัติศาสตร์คราวนั้น ปัจจุบันนี้ได้กลายเป็น Golden Spike National Historic Site รางส่วนตรงกลางระหว่างรางที่มีคราบสีดำคือตำแหน่งแห่งที่ตอกตะปูตัวสุดท้าย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 124 เมื่อ 19 มิ.ย. 14, 10:28
|
|
ทางรถไฟที่เชื่อมตะวันออกสู่ตะวันตกนี้ได้ช่วยย่นระยะเวลาการเดินทาง จากเดิมใช้เวลานาน นับเดือนกลายเป็นวัน (การเดินทางบกจากซาน ฟราน ไป นิว ยอร์ค แต่ก่อนกินเวลาหลายเดือน เมื่อมีรถไฟใช้เวลาเหลือ เพียง 10 วัน)
Transportation by railroad 1870
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 125 เมื่อ 19 มิ.ย. 14, 10:29
|
|
ขบวนรถไฟขนผู้คนผิวขาวมุ่งตะวันตก บุกรุกเขตแดนของชนพื้นเมือง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 126 เมื่อ 19 มิ.ย. 14, 10:31
|
|
และถิ่นอาศัยของสัตว์ท้องถิ่น นั่นคือ ควาย Bison ระหว่างทาง"ผู้บุกรุก" ไล่ยิงฝูงควาย ซึ่งเป็นมังสาหารของชาวพื้นเมือง เพื่อเปิดทางให้ขบวนรถไฟผ่าน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 127 เมื่อ 19 มิ.ย. 14, 10:33
|
|
โดยมีผู้โดยสารร่วมด้วยช่วยกันยิงเป็นกิจกรรมเกมแก้เบื่อระหว่างทาง นอกจากนี้ยังมี การดำเนินกิจการล่าเนื้อและหนังควายเพื่อการค้าด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 128 เมื่อ 19 มิ.ย. 14, 10:36
|
|
มหกรรมการฆ่าที่โหดร้ายนี้ยังมีเบื้องหลังอันแสนเหี้ยมโหดและน่ารังเกียจด้วย นั่นคือ จุดประสงค์เพื่อให้ชนพื้นเมืองขาดแหล่งอาหารจะได้ย้ายออกไปจากพื้นที่นี้
ภาพ Moment of Excitement 1870 โดย Howard Fogg ชาวพื้นเมืองไล่ล่าควายเพื่อเป็นอาหารจนฝูงควายกีดขวางทางรถไฟ พนักงาน, ผู้โดยสาร บนรถไฟและชาวพื้นเมืองยิงปืนเข้าใส่กัน ที่ Western Kansas country
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 129 เมื่อ 19 มิ.ย. 14, 10:39
|
|
ถึงปี 1880 ฝูงควายก็ถูกสังหารล้มตายไปจนแทบไม่มีเหลือ
เพลง Iron Horse จึงจบลงที่ภาพภูเขากระดูกกระโหลกควายสังเวยการพิชิตตะวันตกของม้าเหล็ก ด้วยประการฉะนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 130 เมื่อ 23 มิ.ย. 14, 09:50
|
|
เพลงชวนฟังต่อไปนี้เป็นเพลงโปรดเป็นพิเศษ เนื้อร้องเล่าถึงการปฏิวัติออกมาแบบว่าโรแมนติคมาก ครับ
Fernando
เพลงในปี 1976 จากคณะนักร้องชาวสวีเดน ABBA ที่มีผลงานเพลงโด่งดังข้ามทวีปมากมาย เพลงนี้ทำสถิติยอดขายซิงเกิ้ลสูงสุดตลอดกาลของ ABBA
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 131 เมื่อ 23 มิ.ย. 14, 09:53
|
|
แรกเริ่มเมื่อเป็นซิงเกิ้ลในภาษาสวีดิชนั้น เป็นเพลงร้องปลอบใจเพื่อนผู้ผิดหวังในความรัก แต่เมื่อมาใส่เนื้อเป็นภาษาอังกฤษกลับเปลี่ยนเป็นเรื่องรักชาติ Can you hear the drums Fernando? I remember long ago another starry night like this In the firelight Fernando You were humming to yourself and softly strumming your guitar I could hear the distant drums And sounds of bugle calls were coming from afar
They were closer now Fernando Every hour every minute seemed to last eternally I was so afraid Fernando We were young and full of life and none of us prepared to die And I'm not ashamed to say The roar of guns and cannons almost made me cry
There was something in the air that night, the stars were bright, Fernando They were shining there for you and me for liberty, Fernando Though we never thought that we could lose, there's no regret If I had to do the same again, I would my friend, Fernando If I had to do the same again, I would my friend, Fernando
Now we're old and gray Fernando Since many years I haven't seen a rifle in your hand Can you hear the drums Fernando? Do you still recall the faithful night we crossed the Rio Grande? I can see it in your eyes How proud you were to fight for freedom in this land
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 132 เมื่อ 23 มิ.ย. 14, 09:54
|
|
เนื้อเพลงเล่าถึง สหายปฏิวัติผ่านศึกนั่งรำลึกความหลังครั้งยังเป็นหนุ่มสาวไฟแรงออกโรง ร่วมขบวนการปฏิวัติสร้างชาติ(ไหน?) จากชื่อเพลงซึ่งเป็นชื่อของสหายผ่านศึก คือ เฟอร์นันโด ประกอบกับเนื้อเพลงส่วนที่กล่าวว่า we crossed the Rio Grande แม่น้ำที่ไหลจากตะวันตกเฉียงใต้ของโคโลราโด้ผ่านเม็กซิโกไป ลงอ่าว รวมความแล้วทำให้ชี้เป้าไปที่การปฏิวัติในเม็กซิโก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 133 เมื่อ 23 มิ.ย. 14, 09:57
|
|
ครั้งไหน? คำตอบจากคำให้สัมภาษณ์ในปี 2008 ของ Bjorn Ulvaeus หนึ่งในสมาชิกวง และผู้แต่ง ได้ความว่าเป็นการปฏิวัติเม็กซิโกปี 1910(เริ่มต้นทศวรรษแห่งสงครามแย่งชิงอำนาจใน เม็กซิโก) โดย Emiliano Zapata
ฟังชื่อเหมือนจะคุ้นหู ค้นดูปรากฏว่า ชีวิตนักปฏิวัติผู้ต่อสู้เพื่อชนชั้นชาวนาชาวไร่ผู้นี้ได้เคย ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในชื่อว่า Viva Zapata! โดยฮอลลีวู้ดเมื่อปี 1952 เขียนบทโดย นักประพันธ์ระดับรางวัลโนเบล John Steinbeck กำกับโดยผู้กำกับชั้นครู Elia Kazan และ นำแสดงโดยนักแสดงในตำนาน Marlon Brando รับบทเป็นซาปาตา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 134 เมื่อ 23 มิ.ย. 14, 10:00
|
|
จากสหรัฐอเมริกาพากันลงใต้ไปสัมผัสบ้านเมืองในยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านผลัดอำนาจวุ่นวายชีวา
ซาปาตาตัวจริง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|