เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 13
  พิมพ์  
อ่าน: 98792 ดยุคและดัชเชสแห่งวินด์เซอร์ : รักหลังนิราศบัลลังก์
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 75  เมื่อ 04 พ.ค. 14, 08:59

   ย้อนกลับมาถึงนางเอกของกระทู้
   บัดนี้  จากหญิงอเมริกันสามัญชน  วอลลิสก้าวขึ้นมาสู่ตำแหน่งพระสนมลับ   แล้วก็จบลงที่ตำแหน่งดัชเชสแห่งวินด์เซอร์   ถ้าเทียบกับพื้นราบเบื้องต้นก็ต้องถือว่าเป็นเส้นทางขึ้นสู่ภูเขายอดสูงเอาการอยู่     แต่เธอก็มิได้ปรีดาปราโมทย์กับตำแหน่งนี้ด้วยเหตุสองประการ  คือหนึ่ง ราชสำนักอังกฤษไม่ยอมให้เธอใช้คำนำหน้าว่า Her Royal Highness  ทั้งๆสามีเธอเป็นเจ้านายแท้ๆ เคยเป็นกษัตริย์มาก่อน     เพราะพระพันปีแมรี่และพระเจ้าจอร์ชที่ 6 รวมทั้งรัฐบาลอังกฤษไม่อาจยอมรับให้เธอเป็น "เจ้า" ได้อยู่ดี    
   ท่านดยุคก็หาทางออกให้ภรรยาที่เคารพ  โดยกำหนดให้คนรับใช้มหาดเล็กเด็กชาในวังใหม่ที่ฝรั่งเศส ตลอดจนเพื่อนฝูงที่ยังคบหากันอยู่  เรียกขานวอลลิสในแวดวงพวกเขาว่า  Her Royal Highness เอาดื้อๆงั้นแหละ  ใครจะมาทำไม ในเมื่อพูดกันเฉพาะกลุ่มของฉันเท่านั้น

   ข้อสองที่วอลลิสไม่แฮปปี้กับตำแหน่งนี้ คือสามีเธอพยายามแล้วที่จะดิ้นรนต่อสู้ให้เธอได้เสกสมรสกับพระองค์ ได้ขึ้นเป็นพระราชินีแห่งสหราชอาณาจักร   หรือต่อให้ไม่ได้เป็นควีน เป็น Princess Consort  คือ "เจ้าหญิงพระชายา" ก็ยังดี     แต่พระองค์ก็ทำไม่สำเร็จจนต้องสละราชบัลลังก์     วอลลิสจึงเหมือนคนที่พลาดล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งมาเจอแค่เลขท้ายสามตัว ทำให้เธอหันไปชิงชังผู้หญิงที่ลอยลำปาดหน้าเธอขึ้นเป็นควีน  อันได้แต่พระราชินีเอลิซาเบธของพระเจ้าจอร์ชที่ 6   น้องสะใภ้ของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด  
   เธอมองหญิงสาวคนนี้เป็นศัตรูคู่แข่ง  พยายามทำทุกอย่างที่จะหลู่เกียรติ  ไม่ว่าจะเป็นสรรหาคำมาเรียกลับหลังให้อีกฝ่ายดูตลกในสายตาเพื่อนๆของเธอ  หรือแม้แต่ผลักดันตัวเองให้เป็นผู้หญิงแต่งกายดีที่สุดในโลกตามคำประกาศเกียรติคุณของดีไซเนอร์ในปารีส  เพื่อให้ชื่อเสียงเธออยู่ใน 'ระดับโลก' ก็อย่างน้อยสักด้านหนึ่ง      พร้อมกันนั้นก็จะได้เยาะหยันดูถูกพระราชินีอังกฤษผู้ทรงแต่งกายแบบเดียวไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่สาวจนแก่
   แต่อย่างหนึ่งที่ยังไงวอลลิสทำไม่ได้  แต่พระราชินีของพระเจ้าจอร์ชทำได้ คือทำตัวเป็นที่รักของประชาชนอังกฤษ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 76  เมื่อ 04 พ.ค. 14, 10:54

      ก่อนหน้านี้ วอลลิสเหมือนซินเดอเรลลาที่เริงลีลาศอยู่กับเจ้าชาย  โดยคิดว่าจะผ่านเวลาสองยามไปได้ตลอดกาล  แต่เอาเข้าจริง ผลกลายเป็นว่าพอพ้นเวลาสองยาม ไม่ใช่แต่เธอเท่านั้น เจ้าชายก็กระเด็นออกมาคลุกฝุ่นอยู่นอกประตูวังด้วยอีกคน
     บัดนี้เธอได้ครอบครองเขาโดยสมบูรณ์ก็จริง   แต่การได้ครอบครองพระเจ้าแผ่นดินแห่งสหราชอาณาจักร กับครอบครองท่านดยุคผู้มีแต่ศักดินานำหน้าชื่อ  มันแตกต่างกันมาก      สามีเธอในบัดนี้ไม่สามารถบันดาลอะไรให้เธอได้นอกจากเงินทองพออยู่กันไปได้  จากการขายสมบัติส่วนตัวให้น้องชาย    เอาละ วอลลิสไม่ต้องทำกับข้าวดูดฝุ่นเองอย่างแม่บ้านทั่วไป   ไม่ต้องแม้แต่ไปทำงานนอกบ้านหารายได้     แต่เธอก็รู้สึกว่าเป็นตอนจบของชีวิตทีจืดชืดเสียเหลือประมาณ   หลังจากเริ่มต้นอย่างอลังการเป็นข่าวไปทั่วโลก
    เธอกับสามีก็จะต้องอยู่กันไปสองคน ห่างไกลจากสังคมไฮโซของอังกฤษ  มีเพื่อนฝูงในวงแคบๆ นับวันก็จะร่อยหรอลงไปเรื่อยๆ   ทั้งสองจะถูกลืมเลือน ถูกทอดทิ้ง กลายเป็นตาแก่ยายแก่เหงาๆหงอยๆ กันไปตามประสาผู้แพ้ชะตากรรม
    นางฟ้าตกสวรรค์จะทำอย่างไร   ก็ต้องหาทางปีนขึ้นสวรรค์กลับไปอีกน่ะซีคะ     เรื่องอะไรจะชะเง้ออยู่เชิงบันไดให้น้อยเนื้อต่ำใจกับวาสนาเปล่าๆ

    สงครามโลกครั้งที่สองปะทุขึ้นเมื่อแสนยานุภาพของเยอรมันบุกโปแลนด์แบบสายฟ้าแลบ ในค.ศ. 1939     อังกฤษกลายเป็นคู่สงครามกับเยอรมันในพริบตา   เพราะอังกฤษเซ็นสัญญาปกป้องโปแลนด์เอาไว้ก่อนหน้านี้       ในตอนต้น  ทัพเยอรมันได้เปรียบทุกประตู  เพราะฝรั่งเศสเองก็ล้มครืนตามหลังโปแลนด์ลงมาอย่างไม่น่าจะเป็น     ท็อปบู๊ตเยอรมันเหยียบฝรั่งเศสไว้ พร้อมจะก้าวอีกขาข้ามช่องแคบโดเวอร์มาเหยียบลอนดอน
    ฮิตเลอร์ไม่ได้ทำสงครามบนดินแบบทื่อๆแค่ส่งทหารเข้าบุกที่โน่นที่นี่    แต่สงครามใต้ดินเขาก็ทำไม่น้อยกว่ากัน     วอลลิสและท่านดยุคผู้เปิดใจรับเยอรมันมาแต่แรก จึงได้รับการติดต่อว่า ถ้าหากว่าเยอรมันเป็นฝ่ายชนะ เขาจะยกบัลลังก์อังกฤษคืนให้ราชันย์ผู้นิราศอีกครั้ง และวอลลิสจะได้เป็นพระราชินีอย่างเต็มภาคภูมิ
บันทึกการเข้า
ประกอบ
สุครีพ
******
ตอบ: 1342


ความคิดเห็นที่ 77  เมื่อ 04 พ.ค. 14, 14:37

แข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนากันนี่ไม่ได้จริงๆบางคนไต่บันไดจนกระไดหัก ก็ยังไต่ไม่ถึง เหมือนฟ้ากับอึสุนัข

พระราชินีเอลิซาเบธของพระเจ้าจอร์ชที่ 6 หรือควีนมัม (1900-2001) เป็นสตรีที่ผู้หญิงแบบวอลลิซไม่อาจเทียบเคียงได้เลยไม่ว่าในด้านไหนๆ
ด้านชาติกำเนิดควันมัม หรือเลดี้เอลิซาเบธ แองเจลา โบว์ ลีออน เกิดในตระกูลขุนนางชาวสก็อต ได้รับการศึกษาอย่างดี เป็นผู้หญิงฉลาด หลักแหลม แกร่ง แถมไม่ใช่คนที่ฟุ้งเฟ้อ
ช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ก็อุทิศตัวดูแลทหารที่บาดเจ็บ ที่มาพักฟื้นที่ปราสาทของเธอ
พระเจ้าจอร์ชที่ 6 สมัยยังเป็นเจ้าชายอัลเบิร์ต ต้องใช้ความพยายามขอแต่งงานหลายครั้ง กว่าเลดี้เอลิซาเบธจะยอมตกลง เพราะเธอวิตกและไม่ต้องการใช้ชีวิตแบบราชวงศ์
ในงานแต่งงาน เลดี้เอลิซาเบธ วางช่อดอกไม้ของเจ้าสาวที่หลุมศพทหารนิรนาม  เพราะเธอเสียพี่ชายไปในสงครามด้วย
เป็นสิ่งที่กินใจและได้ใจ จนกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันของเจ้าสาวที่ทำพิธีแต่งงานในวิหารเวสมินเตอร์จนถึงปัจจุบัน
เมื่อเป็นพระราชินีแล้ว  ในช่วงที่ลอนดอนถูกระดมทิ้งระเบิด ขณะที่วอลลิสฝันถึงตำแหน่งราชินี ถ้าเยอรมันชนะ พระราชินียืนกรานว่าจะไม่อพยพไปไหนทั้งนั้น จะอยู่ปฏิบัติหน้าที่ราชินีในลอนดอนต่อไป
ควีนมัมมีพระชนม์ยืนยาวถึง 101 ปี เป็นพระราชวงส์อังกฤษที่ได้รับความนิยมนับถืออย่างสูง แม้แต่ในช่วงที่กระแสนิยมราชวงศ์อังกฤษตกลงด้วยเรื่องเสื่อมเสียต่างๆ


บันทึกการเข้า

วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 78  เมื่อ 04 พ.ค. 14, 15:53

^


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 79  เมื่อ 04 พ.ค. 14, 16:14

   ฝันหวานของวอลลิสเริ่มตั้งแต่ค.ศ. 1937  พอแต่งงาน  ท่านดยุคกับเธอก็ประกาศเยือนเยอรมันเป็นข่าวเอิกเกริก   ไม่ได้แคร์ราชสำนักและพระเจ้าจอร์ชที่หกว่าจะกลืนน้ำลายเอื๊อกๆ ไปตามๆกัน    ทั้งคู่ไปพบกับฮิตเลอร์ซึ่งชาญฉลาดพอจะแสดงท่าทีพออกพอใจดัชเชสแห่งวินด์เซอร์จนออกนอกหน้า    มิหนำซ้ำยังโปรยยาหอมว่า
   "คุณเหมาะจะได้เป็นพระราชินีมากทีเดียวครับ"
   ส่วนรัฐบาลอังกฤษที่จ้องเขม็งอยู่  คิดไปอีกอย่าง คือคิดว่าผู้หญิงคนนี้เหมาะจะเป็นสายลับนาซียิ่งกว่าอะไรทั้งหมด    แม้วอลลิสจะระแคะระคาย และหาว่าพวกนี้บ้าไปเอง  แต่หน่วยเอฟ.บี.ไอ.ของอเมริกาก็มีความเห็นทำนองเดียวกับรัฐบาลอังกฤษ     อย่างไรก็ตาม การเล่นงานพระเชษฐาของกษัตริย์อังกฤษว่าเป็นสายลับไม่ใช่เรื่องง่ายๆ   และก็คงโง่มากถ้ากระพือข่าวให้ไก่ตื่นกันหมด   หน่วยสืบราชการลับก็เลยต้องซุ่มแกะรอยกันเงียบๆต่อไป

   ถ้าหากว่าท่านผู้อ่านเรือนไทยทั้งหลายเชื่อบันทึกของท่านดยุค หรือหนังสือชีวประวัติที่เขียนถึงทั้งสองคนนี้ออกมาอย่างหยดย้อย  ก็คงจะเห็นว่าความรักของอดีตพระราชาและหญิงม่ายเป็นความรักยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษ   เคียงข้างกันมาตลอด เห็นคนหนึ่งต้องเห็นอีกคน ไม่ทิ้งขว้างร้างหย่ากันเลยจนความตายมาพรากจากกัน
   แต่ถ้าเชื่อเรื่องก๊อสสิปอย่างที่กระทู้นี้จะเล่าให้ฟัง  ซึ่งฟังมาจากรายงานข่าวที่ส่งไปที่เอฟบีไออีกทีหนึ่ง  พบว่าหลังจากวอลลิสได้ผูกมิตรกับฝ่ายอักษะของเยอรมัน   เธอก็ไปสนิทเอกอัครราชทูตทูตเยอรมันประจำอังกฤษชื่อจัวอาคิม ฟอน ริบเบนทรอพ     สนิทกันไปสนิทกันมาจนเกินเลยเพื่อน      ข่าวคราวทั้งหลายจากทางฝ่ายพันธมิตรที่วอลลิสรู้ผ่านสามีและเพื่อนฝูงก็รั่วไหลผ่านไปสู่เยอรมัน  ผ่านทางชู้รักคนนี้แหละค่ะ




บันทึกการเข้า
Anna
องคต
*****
ตอบ: 552


ความคิดเห็นที่ 80  เมื่อ 04 พ.ค. 14, 21:03

กระทู้นั้นเพิ่งจะเอ่ยถึงลอออร  กระทู้นี้ทองไพรำก็ตามมาติดๆ  ยิงฟันยิ้ม 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 81  เมื่อ 06 พ.ค. 14, 10:14

     ส่วนท่านดยุคนั้นรู้เรื่องกิ๊กของดัชเชสหรือไม่ ไม่มีใครรู้   เพราะไม่เห็นมีข่าวรั่วไหลว่าทรงทะเลาะเบาะแว้งกับวอลลิส   ก็ยังรักใคร่กันดีเหมือนเดิม          รัฐบาลอังกฤษได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนรู้เมื่อเห็นทรงวางองค์เป็นพันธมิตรของฝ่ายอักษะอย่างไม่ปิดบัง   ชื่นชมระบบฟาสซิสม์มาตั้งแต่ครั้งครองราชย์ อยู่อย่างไรก็อย่างนั้น    เมื่อฝรั่งเศสตกพ่ายแพ้เยอรมัน  ทั้งสองจึงได้อพยพไปสเปน และปอร์ตุเกสเพื่อให้พ้นภัยสงคราม  แต่ก็ยังเชียร์เยอรมัน  ถึงขนาดมีข่าวลับส่งไปยังรัฐบาลอังกฤษ  ว่าท่านเผยแผนการลับของฝ่ายพันธมิตรในการป้องกันเบลเยี่ยมแก่เยอรมัน   
     คนส่งแผนนี้เป็นท่านดยุคหรือดัชเชสก็ยังน่าสงสัยอยู่  แต่ในเมื่อเป็นสามีภรรยาใต้หลังคาเดียวกัน ก็เลยถูกเหมารวมว่า ใครส่งก็ตามไม่สำคัญ  มันก็ได้ชื่อว่าส่งจากที่นี่ละเอ้า

      ในที่สุด พระเจ้าจอร์ชและรัฐบาลอังกฤษทนก้างชิ้นนี้ตำคอต่อไปไม่ไหว     จึงจัดการหาตำแหน่งใหม่ให้สมพระเกียรติท่านโดยแต่งตั้งเป็นผู้ว่าราชการเกาะบาฮามาส   พูดง่ายๆคือเนรเทศไปให้พ้นหูพ้นตาทั้งอังกฤษและเยอรมัน      ทำเอาพระเอกของเรายิ้มไม่ออก  นอกจากบาฮามาสอยู่ไกลปืนเที่ยงสุดกู่แล้ว  ท่านยังมองว่าเป็นอาณานิคมกระจอกๆ สุดจะโลว์โซ  มีแต่ความยากไร้ไปทุกหนทุกแห่ง   หาเซเล็บไม่ได้เลยสักคน  จะให้วอลลิสของฉันเฉิดฉายกรีดกรายอยู่ตรงไหนกันล่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 82  เมื่อ 06 พ.ค. 14, 11:17

      ราชสำนักอังกฤษได้กำหนดกฎเกณฑ์ให้ราชการบาฮามาสปฏิบัติมารยาทต่อผู้ว่าราชการคนใหม่  ให้ถือว่าท่านดยุคยังคงเป็น "เจ้า" ตามฐานะชาติกำเนิด    คือต้องเรียกว่า Your Royal Highness    เมื่อเสด็จเข้าไปในงานราชการไหน  คนในงานถ้าเป็นชายต้องถวายคำนับ และถอนสายบัวสำหรับผู้หญิง     ซึ่งเป็นประเพณีปฏิบัติต่อเจ้านายเท่านั้น   
      ที่น่าเจ็บแสบจนวอลลิสแทบจะดิ้นเร่าก็คือ   เธอถูกแยกออกมาเป็นสามัญชน  ให้ผู้คนเรียกเพียงว่า  Your Grace  ซึ่งเป็นสรรพนามบุรุษที่สองเรียกดัชเชสที่เป็นเมียขุนนาง  ไม่ใช่ดัชเชสชายาของเจ้านาย    ผู้คนไม่ต้องถอนสายบัวให้เธอ  พวกเขาแค่ปฏิบัติต่อเธอเหมือนเลดี้อะไรคนหนึ่ง ซึ่งมันเป็นการลบหลู่กันอย่างไม่อาจให้อภัยได้สำหรับวอลลิส       แม้ว่าเวลาอยู่ในคฤหาสน์เธอทำตัวเป็น "ท่านผู้หญิงบ่าวตั้ง" ให้มหาดเล็กเด็กชายเรียกว่าใต้ฝ่าพระบาทมานานแล้วก็ตาม
       
          วอลลิสฉลาดพอตีลูกเฉย  ไม่ทำตัวให้สื่อรู้ว่าเธอเจ็บแค้นอย่างไร     เพราะถ้าเธอโวยขึ้นมาก็มีแต่จะถูกประณามหนักขึ้นอีกจากทุกด้าน    คนที่เต้นผางออกมาสู้รบกับราชสำนักอังกฤษเสียเองคือสามีเธอ  พระองค์ส่งจดหมายฟ้องรัฐบุรุษเชอชิลล์ทันทีว่า..
          "ฉันขอคัดค้านสิ่งที่พระเจ้าจอร์ชทรงเลือกปฏิบัติต่อเมียฉัน     หรือคนที่เจ้ากี้เจ้าการน่าจะเป็นพระราชินีก็เป็นไปได้    คุณคงเข้าใจนะว่าถ้าใครมาตั้งป้อมจ้องจงเกลียดจงชังเมียของคุณ  คุณก็คงไม่อยากญาติดีกับเขา  เหมือนอย่างที่ฉันกำลังรู้สึกอยู่.."
         
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 83  เมื่อ 06 พ.ค. 14, 11:26

       ปกติผู้ชายเขาไม่คิดจุ๊กๆจิ๊กๆ ไปถึงเรื่องแม่คนนั้นมาอิจฉาแม่คนนี้  หรือเรื่องกำหนดคำเรียกซึ่งเป็นเรื่องราชการแท้ๆเกิดขึ้นเป็นผลจากผู้หญิงสองคนจิกตีกัน     เราคงพอเดาได้ว่าใครที่ใส่ความคิดลงไปในหัวท่านดยุคว่า การที่วอลลิสไม่สามารถจะเป็น"เจ้า"ได้  เกิดจากพระราชินีเอลิซาเบธริษยาหล่อน    
      วอลลิสไม่คิดว่าเธอเองเกิดมาไม่เคยเป็นเจ้า  แถมยังดึงเจ้าลงไปจากบัลลังก์ให้อับอายขายหน้าไปทั่วโลกเสียอีก   แล้วจะให้ราชสำนักประกาศให้ราชการบาฮามาสเรียกว่า "เจ้า" มันไม่มากไปหน่อยหรือ
       อย่างไรก็ตาม  ท่านดยุคก็ฝังใจเชื่อเอาจริงๆจังๆว่าเมียท่านไม่ได้เป็นองค์หญิงก็เพราะความริษยาของพระราชินีอังกฤษ    ขนาดแก่ใกล้ตายในหลายสิบปีต่อมา  ท่านยังเคยให้สัมภาษณ์ว่าพระราชินีไม่ชอบวอลลิสเพราะ..
         "จะมีอะไรอีก  นอกจากอิจฉาริษยาน่ะซี     ก็สมัยเป็นสาวๆน่ะ เอลิซาเบธหลงใหลใฝ่ฝันฉัน  อยากจะแต่งงานกับฉันจนตัวสั่น   แต่ฉันไม่เคยสนใจหล่อน"

          สามีภรรยาคู่นี้จำต้องย้ายไปครองตำแหน่งเจ้าเมืองบาฮามาสก็จริง   แต่วอลลิสไม่เคยยอมให้ความยากไร้และไกลปืนเที่ยงของหมู่เกาะมาเปลี่ยนรสนิยมได้      เธอยังดำเนินชีวิตอย่างหรูหรา ลงเรือยอทอันเป็นเรือสำราญชั้นเศรษฐีไปพักผ่อน  แต่งกายหรูเริ่ดมีเสื้อเฟอร์แพงระยับห่มกาย ประดับเพชรพลอยจากห้างหรูในปารีส   ขณะที่คนอังกฤษเผชิญภัยสงคราม  อดอยากยากแค้นกับบัตรปันส่วนอาหารและของใช้  วอลลิสก็มิได้สะท้านสะเทือน
           ความไฮโซที่เล่าขานกันมาคือเมื่อวอลลิสอยากจะไปดัดผม    เธอก็ขึ้นเครื่องบินเฟิสคลาสจากบาฮามาสไปนิวยอร์คอย่างหน้าตาเฉย  เพราะที่หมู่เกาะไม่มีสไตลิสต์ทำให้ได้     ในขณะเดียวกันพระเจ้าจอร์ชกับพระราชินีก็ทนฟังเสียงระเบิดลงสนั่นอยู่รอบวังโดยไม่ยอมทิ้งประชาชน
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 84  เมื่อ 07 พ.ค. 14, 10:52

ท่านดยุคและวอลลิสขณะอยู่ในบาฮามาส


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 85  เมื่อ 07 พ.ค. 14, 10:59

ท่านดยุคยังคงถือหางฝ่ายอักษะอย่างเสมอต้นเสมอปลาย     สงครามในยุโรปดำเนินไปอย่างดุเดือด เมื่ออเมริกาเข้าถือหางฝ่ายพันธมิตร    ชะตากรรมของอังกฤษที่ทำท่าว่าจะย่ำแย่ก็กระเตื้องขึ้นมา    ถึงกระนั้นท่านดยุคก็ยังเชื่อว่าฮิตเลอร์เป็นฝ่ายชนะแน่ในบั้นปลาย
ความเชื่อนี้มีหลักฐานยืนยันจากจดหมายที่ทรงเขียนถึงประธานาธิบดีรูสเวลท์ว่า หากอเมริกาต้องการประนีประนอมยอมสงบศึกกับฮิตเลอร์ (เพราะสู้ไปก็มีแต่แพ้ท่าเดียว) ละก็     พระองค์ยินดีจะเป็นทูตสันถวไมตรีให้เอง
แน่ละ  ท่านดยุคยังจำคำมั่นสัญญาของฮิตเลอร์ได้ว่า หากเยอรมันชนะ  พระองค์ก็จะได้กลับไปนั่งบัลลังก์อังกฤษที่พระอนุชาจำต้องสละ   และวอลลิสก็จะได้เป็นควีน
แต่ผลของสงครามโลกครั้งที่ 2   คือพันธมิตรชนะ   ฮิตเลอรฆ่าตัวตายพร้อมภรรยา     ทำให้ฝันของสามีภรรยาสลายลงไม่มีชิ้นดี
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 86  เมื่อ 07 พ.ค. 14, 11:15

    ในที่สุด ท่านดยุคและวอลลิสทนอยู่ในบาฮามาสต่อไปไม่ไหว   ท่านก็ลาออกตั้งแต่ปลายสงครามโลกในปี 1945   เมื่อสงครามโลกสงบลง   รัฐบาลอังกฤษก็ทำเฉยเมย ไม่แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งใดต่อไปอีก      เพราะตำแหน่งผู้ว่าราชการบาฮามาสที่ได้มาก็ไม่ใช่ว่าได้ด้วยความดีความชอบ    แต่ได้เพราะรัฐบาลเสือกไสไปให้พ้นๆเยอรมันเท่าที่จะทำได้
    บัดนี้เมื่อสงครามจบลง เยอรมันแพ้    ประเทศชนะก็ต้องวุ่นวายกับฟื้นฟูบูรณะประเทศ  ไม่มีเวลาจะมาสนใจอดีตเจ้านายผู้นี้อีก
 
   ท่านดยุคยังโชคดีอยู่บ้าง ที่ฝรั่งเศสยื่นมือเข้ามาช่วยให้ทั้งสองได้พำนักถาวรในประเทศ   นอกจากนี้ยังเอื้อเฟื่อ ยกเว้นภาษีให้  เทศบาลปารีสช่วยหาบ้านใกล้ๆบัวเดอบูโลญให้เช่าอยู่ ด้วยราคาพอเป็นพิธี   ท่านดยุคมีรายได้จากรัฐบาลจ่ายให้ และหาลำไพ่จากค้าสกุลไทยแบบเลี่ยงกฎหมายพอเป็นค่าใช้จ่าย      ส่วนข้าวของเครื่องใช้ก็ทรงซื้อแบบอภิสิทธิ์ชน คือยกเว้นภาษีผ่านทางสถานทูตอังกฤษ     นานๆก็เขียนหนังสือเกี่ยวกับพระราชวงศ์ออกมาสักเล่มหนึ่งเป็นรายได้พิเศษ
    ดังนั้นแม้ว่าไม่ได้ร่ำรวยแบบเศรษฐีจริง     ทั้งสองก็ดำรงชีวิตแบบไฮโซอยู่ได้หลังสงครามโลกครั้งที่สอง   เพราะวอลลิสยังไงก็ไม่ยอมอยู่ต่ำกว่านั้น
    ในตอนนี้เอง ชายคนใหม่ก็ย่างกรายเข้ามาในชีวิตเธอ
บันทึกการเข้า
hobo
พาลี
****
ตอบ: 324


ความคิดเห็นที่ 87  เมื่อ 07 พ.ค. 14, 11:38

หาลำไพ่จากค้าสกุลไทย

ไม่เข้าใจครับอาจารย์
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 88  เมื่อ 07 พ.ค. 14, 11:38

ท่านดยุคมีรายได้จากรัฐบาลจ่ายให้ และหาลำไพ่จากค้าสกุลไทยแบบเลี่ยงกฎหมายพอเป็นค่าใช้จ่าย      

"สกุลไทย" ในที่นี้คืออะไรหนอ  ฮืม
บันทึกการเข้า
tita
พาลี
****
ตอบ: 253


ความคิดเห็นที่ 89  เมื่อ 07 พ.ค. 14, 11:40

"...ท่านดยุคมีรายได้จากรัฐบาลจ่ายให้ และหาลำไพ่จากค้าสกุลไทยแบบเลี่ยงกฎหมายพอเป็นค่าใช้จ่าย....   ฮืม

ท่านยังเคยให้สัมภาษณ์ว่าพระราชินีไม่ชอบวอลลิสเพราะ.."จะมีอะไรอีก  นอกจากอิจฉาริษยาน่ะซี  ก็สมัยเป็นสาวๆ น่ะ เอลิซาเบธหลงใหลใฝ่ฝันฉัน  อยากจะแต่งงานกับฉันจนตัวสั่น  แต่ฉันไม่เคยสนใจหล่อน"   ตกใจ

บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 13
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.078 วินาที กับ 19 คำสั่ง