เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 30 เมื่อ 17 เม.ย. 14, 10:36
|
|
วอลลิสในวัยสาว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Twingle star
อสุรผัด

ตอบ: 6
|
ความคิดเห็นที่ 31 เมื่อ 18 เม.ย. 14, 11:10
|
|
ขออนุญาตลงทะเบียนเรียนนะคะ
เรื่องของดยุคและดัชเชสวินเซอร์นี่ คงต้องใช้คำนี้นะคะ คู่แล้ว ย่อมไม่แคล้วกัน จริงๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 32 เมื่อ 18 เม.ย. 14, 11:27
|
|
ในเมื่อรูปร่างหน้าตาไม่อาจเทียบกับพระสนมลับเฟรด้าและเตลมาผู้สวยหยดย้อยราวกับดาราหนัง ผู้หญิงอย่างวอลลิสจึงลอยลำเข้าไปใกล้ชิดเจ้าชายได้โดยไม่มีใครคิดว่าหล่อนจะเป็นที่สนพระทัยเป็นพิเศษ ไม่มีใครดูออกว่าผู้หญิงอย่างวอลลิสที่กล้า คารมคมคาย เป็นตัวของตัวเองไม่ซ้ำแบบผู้หญิงที่ดีแต่สวย เป็นผู้หญิงแปลกชวนทึ่ง หล่อนกล้าพูดกล้าต่อปากต่อคำกับเจ้าชายเดวิด อย่างไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำได้ กระทบความสนพระทัยของเจ้าชายซึ่งไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้มาก่อน วันหนึ่งวอลลิสเป็นหวัดอย่างหนัก คงจะเป็นด้วยอากาศหนาวชื้นของอังกฤษ และแฟลตที่พักก็มีฮีทเตอร์ในแต่ละห้อง ซึ่งไม่พอเพียง เจ้าชายตรัสถามหล่อนว่า เป็นหวัดแบบนี้ เสียดายฮีทเตอร์แบบศูนย์รวมของบ้านในอเมริกาซึ่งกระจายความอบอุ่นทั่วบ้านเท่ากันบ้างไหม แทนที่จะตอบว่า..เสียดายเพคะ หรือ ไม่หรอกเพคะ นางซิมป์สันกลับตอบว่า "ขอประทานอภัยนะเพคะ แต่ใต้ฝ่าพระบาททำให้หม่อมฉันผิดหวังมากเลย" " ผิดหวังยังไง เธอ" เจ้าชายไม่เข้าพระทัย " ก็ผู้หญิงอเมริกันทุกคนที่มาอยู่ในประเทศของใต้ฝ่าพระบาทจะต้องถูกถามแบบนี้ไม่มีเว้นเลยน่ะซีเพคะ หม่อมฉันหลงนึกว่าจะเจอคำถามอะไรไม่ซ้ำแบบ จากปรินซ์ออฟเวลส์บ้างเสียอีก"
คำตอบที่ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าตอบ ก่อความทึ่งกับเจ้าชายจนถึงกับทรงบันทึกไว้ในภายหลังว่า "วอลลิสเป็นคนบุคลิกลักษณะซับซ้อนและปราดเปรียว ตั้งแต่แรกรู้จักกันแล้ว ข้าพเจ้าเห็นว่าเธอเป็นผู้หญิงที่เป็นอิสระ ไม่ลงให้ใครมากเท่าที่สุดเท่าที่เคยเจอมา"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 33 เมื่อ 18 เม.ย. 14, 11:28
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 34 เมื่อ 18 เม.ย. 14, 11:49
|
|
ประวัติของวอลลิสที่ถูกขาเม้าท์ในนามของนักเขียนชีวประวัติขุดคุ้ยกันขึ้นมา ค่อนข้างเสียหายอยู่หลายเรื่อง ถ้าให้ความยุติธรรมกับเธอก็ต้องบอกว่าเรื่องเหล่านี้ไม่มีพยานหลักฐาน เป็นแต่ลือซุบซิบกันอยู่ในหมู่เพื่อนฝูงคนรู้จัก แต่ในเมื่อกระทู้นี้บอกไว้แต่ต้นว่าจะนินทาไฮโซ ก็เลยขอลงเอาไว้ ส่วนท่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่วิจารณญาณนะคะ
เรื่องแรกคือวอลลิสแต่งงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายสองหน แต่ผู้ชายในชีวิตเธอก่อนหน้าเจ้าชายเดวิดไม่ได้มีแค่สามีสองคนเท่านั้น ในช่วงที่ยังแต่งงานกับสามีคนแรกซึ่งเป็นนายทหารเรือต้องไปประจำการอยู่ไกลบ้าน วอลลิสก็มีกิ๊กเป็นนักการทูตชาวอาเจนตินาชื่อเฟลิเป้ เดอ เอสปิล ( Felipe de Espil) แต่ก็ไม่ยาวนานนัก ภายหลังก็เลิกรากันไปเอง
ขาเม้าท์ยังบอกอีกว่า วอลลิสเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศจีน ทั้งฮ่องกงและปักกิ่ง ยาวนานถึงหนึ่งปี ระหว่างนี้เธอหาโอกาสได้อย่างไรก็ไม่ทราบ ไปเรียนวิชากามสูตรในสำนักโคมเขียวแห่งหนึ่งของจีน เมื่อพักอยู่ที่ปักกิ่ง เธอมีกิ๊กคนใหม่ชื่อเคานต์กาลีแอซโซ ชิอาโน ซึ่งภายหลังแต่งงานกับลูกสาวของมุสโสลินีผู้นำเผด็จการของอิตาลี
ผลจากการลักลอบกันนี้ วอลลิสเกิดพลาดพลั้งตั้งครรภ์ เธอต้องไปทำแท้ง ซึ่งส่งผลให้เธอไม่สามารถมีบุตรได้อีก ข่าวลือเรื่องนี้ซุบซิบกันกระฉ่อนเมืองแต่ว่าหาหลักฐานยืนยันไม่ได้ ภรรยาของชิอาโน ผู้เป็นลูกสาวของมุสโลลินีก็ปฏิเสธข่าวนี้ว่าไม่จริง
วอลลิสกับสามีแยกกันอยู่เมื่อกลับจากจีนมาอเมริกา จนลงเอยด้วยการหย่าร้าง ต่อมาแต่งงานกับสามีคนที่สอง เป็นชาวอเมริกันด้วยกันชื่อนายซิมป์สัน จากนั้นก็เดินทางจากอเมริกามาใช้ชีวิตไฮโซอยู่ในลอนดอน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 35 เมื่อ 19 เม.ย. 14, 08:55
|
|
ในเมื่อวอลลิสเป็นผู้หญิงฉลาด มีไหวพริบปฏิภาณดี และสังคมเก่ง เธอก็สามารถผูกมิตรกับสาวไฮโซในลอนดอนจนกลมเกลียวกัน ได้รับเชิญไปร่วมงานสังสรรค์ของพวกเซเล็บอยู่บ่อยๆ หนึ่งในบรรดาเพื่อนหญิงที่นับเธอเป็นเพื่อนสนิทคือเตลมา เฟอร์เนส วอลลิสรู้จักเจ้าชายเดวิดมานานหลายปี เจ้าชายก็ไม่ได้เอาใจใส่เธอเป็นพิเศษ ทำให้เตลมาไว้วางใจพอจะเอ่ยปากฝากฝังเจ้าชายไว้กับเพื่อนรัก " ฉันต้องไปนิวยอร์คหลายวัน อยู่ทางนี้กลัวว่าหนุ่มน้อยเดวิดของฉันจะเหงา เธอช่วยดูแลเจ้าชายด้วยนะจ๊ะ "เตลมาออกปาก " ไม่ต้องห่วงจ้ะ" วอลลิสรับปากแข็งขัน
เตลลาเป็นคนสวยเกินหน้าสติปัญญา ผิดกับวอลลิสที่สติปัญญาเกินหน้าความสวย เตลมาจึงจากไปนิวยอร์คด้วยความเบาใจว่าฝากฝังชู้เอาไว้กับเพื่อนรักดิบดีแล้ว ส่วนทางนี้นางแมวเจ้าเสน่ห์ก็ไม่ได้ปล่อยปลาย่างที่เพื่อนฝากเอาไว้ให้ว้าเหว่ หล่อนพาตัวเองเข้าไปสนิทสนมคลุกคลีกับเจ้าชาย ภายใน 2 สัปดาห์ที่เตลมาไปนิวยอร์ค เจ้าชายเดวิดก็ทรงพบเสน่ห์ในตัวหญิงอเมริกันอย่างที่ไม่เคยพบในตัวหญิงใดมาก่อน เสน่ห์ของวอลลิสก็จับพระทัยได้อยู่หมัด นับแต่นั้นมาจนตลอดพระชนม์ชีพ
ขึ้นชื่อว่าคู่แล้วไม่แคล้วกัน เป็นความจริง แต่คู่มีหลายประเภท คู่สร้างคู่สม คู่ทุกข์คู่ยาก คู่เวรคู่กรรม คู่ล้างคู่ผลาญ ฯลฯ โปรดติดตามต่อไปว่าทั้งสองเป็นคู่ประเภทไหนนะคะ
ให้นักเรียนพักครึ่งเวลาได้ค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
kulapha
มัจฉานุ
 
ตอบ: 96
|
ความคิดเห็นที่ 36 เมื่อ 19 เม.ย. 14, 09:10
|
|
เรียนเชิญอาจารย์แวะดื่มชาและของว่างก่อนนะคะ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 37 เมื่อ 19 เม.ย. 14, 09:14
|
|
ขอบคุณค่ะ น่ากินจริงๆ เชิญนักเรียนทั้งหลายร่วมวงด้วยนะคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Jalito
|
ความคิดเห็นที่ 38 เมื่อ 19 เม.ย. 14, 17:43
|
|
ขอบคุณครับ คงไม่สายเกินไปนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 39 เมื่อ 21 เม.ย. 14, 18:53
|
|
ในตอนต้นก็ไม่มีอะไรผิดปกติ เจ้าชายเสด็จเยือนแฟลตของสองสามีภรรยาซิมป์สันอย่างเพื่อนฝูง ต่อมาก็ประทับอยู่นานหลังดื่มคอกเทลจนถึงอาหารค่ำ เมื่อจบอาหารค่ำก็ยังทรงคุยอยู่ดึกดื่นจนบางทีปาเข้าไปตีสี่กว่าจะเสด็จกลับ วอลลิสเป็นเพื่อนคุยที่สนุกถูกคอเจ้าชาย ส่วนสามีหล่อนก็ได้แต่นั่งยิ้มไปยิ้มมา เป็นตัวประกอบอยู่ในห้อง ช่วงนั้นธุรกิจของนายซิมป์สันเริ่มลำบาก เขาต้องหอบงานมาทำที่บ้าน เมื่อเจ้าชายไม่มีท่าทีว่าจะกลับง่ายๆ ตัวเจ้าบ้านฝ่ายชายเองจะถ่างตาอยู่จนตีสี่ งานการไม่ได้ทำก็ไม่ไหว หนักเข้าเขาก็ขอตัวไปทำงานต่อในห้องทำงาน ทิ้งภรรยาไว้กับแขกสำคัญให้คุยกันไปตามสบาย ส่วนใหญ่ก็คุยกันเกือบจะค่อนรุ่ง
ถ้าถามว่าสามีไม่ว่าอะไรบ้างหรือ วอลลิสก็ยอมรับว่าเขา "โวยนิดหน่อย" แต่เธอไม่ได้ยุติมิตรภาพกับเจ้าชาย ตรงกันข้ามเธอกลับเดินหน้าต่อไปไม่หยุดยั้ง แม้จะรู้ว่าข่าวซุบซิบเริ่มกระเซ็นกระสายกันบ้างแล้ว ว่าเธอน่าจะกลายเป็นพระสนมลับรายใหม่ แต่เธอก็ยืนยันว่า "ไม่มีอะไรกันนะจ๊ะ" ในช่วงนั้น
มีผู้เริ่มสังเกตว่าในงานปาร์ตี้ส่วนพระองค์ เจ้าชายเริ่มเต้นรำกับพระสหายสาวอเมริกันบ่อยครั้งยิ่งขึ้นทุกที จนเป็นที่เพ่งเล็ง แต่ใครจะเล่าลือยังไงวอลลิสไม่สะทกสะท้าน เธอลากสามีไปด้วยทุกงานเป็นเกราะป้องกันเสียงครหา มิให้ใครฟันธงลงไปได้มากกว่านี้ แต่เธอก็ไม่หยุดความสนิทชิดเชื้อกับเจ้าชายจนแล้วจนรอด ยังไงก็ไม่หยุด...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 40 เมื่อ 21 เม.ย. 14, 18:59
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 41 เมื่อ 22 เม.ย. 14, 09:25
|
|
ย้อนกลับมาถึงพระสนมลับเตลมา หล่อนมัวไปเริงร่าอยู่ในวงสังคมไฮโซของนิวยอร์คเสีย 2 เดือน มีเจ้าชายเพลย์บอยจากตะวันออกกลางผู้ร่ำรวยและที่มีรสนิยมวิไลกับสาวอเมริกันเป็นเจ้าภาพจัดปาร์ตี้บ่อยๆ พระนามว่าเจ้าชายอากาข่าน เตลมาก็เลยสนุกสนานอยู่ที่นั่นโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่เลยว่าเกิดอะไรขึ้นทางนี้ เมื่อกลับมา เตลมามองเห็นความเปลี่ยนแปลงของเจ้าชายโดยไม่ต้องสังเกต เมื่อได้รับเชิญไปร่วมงานดินเนอร์ที่พระตำหนักส่วนพระองค์ หล่อนมองเห็นเจ้าชายหันไปหัวเราะต่อกระซิกกับวอลลิสผู้ได้ที่นั่งติดกัน ขำอะไรกันกิ๊กกั๊กสองคน วอลลิสกล้าถึงกับตีพระหัตถ์เจ้าชายแบบหยอกเอินต่อหน้าคนทั้งโต๊ะ ไม่มีเกรงใจพระสนมผู้นั่งตาค้างมองอยู่
เตลมาแอบไปต่อว่าต่อขานเจ้าชายหรือไม่ ไม่มีใครรู้ รู้แต่ว่านับแต่วันนั้นหล่อนไม่ได้รับเชิญจากเจ้าชายอีกเลย รวมทั้งเฟรด้าพระสนมลับอีกคนก็ตกกระป๋องมองไม่เห็นฝุ่นไปด้วย เจ้าชายเดวิดไม่ไยดีผู้หญิงรายเก่าของพระองค์อีกแม้แต่น้อย ทรงเงียบหายไปจากชีวิตของหล่อนเหมือนไม่เคยมีสิ่งใดเกี่ยวข้องกัน ทั้งเตลมาและเฟรด้าถูกลืมเลือนไปจากสังคม เพราะชาวไฮโซทั้งหลายเมื่อดูออกว่าวอลลิสกลายเป็น 'คนโปรด' คนใหม่ บัตรเชิญทั้งหลายก็กระหน่ำกันไปที่หล่อน ด้วยความหวังว่าถ้าหากวอลลิสรับเชิญ หล่อนก็จะพาเจ้าชายรัชทายาทอังกฤษมาร่วมงาน ให้เจ้าภาพหน้าบานได้หน้าได้ตาอวดผู้คนได้ ว่างานฉัน เจ้าชายเสด็จมาเชียวนะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Twingle star
อสุรผัด

ตอบ: 6
|
ความคิดเห็นที่ 42 เมื่อ 22 เม.ย. 14, 13:46
|
|
คำตอบของวอลลิส เรื่องฮีทเตอร์ สาวสมัยนี้ยังอึ้งและทึ่งค่ะ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 43 เมื่อ 23 เม.ย. 14, 11:37
|
|
มาถึงช่วงนี้ สามีภรรยาซิมป์สันก็กลายเป็นเซเล็บดวงขึ้นสุดๆ เพราะทุกสุดสัปดาห์เขาและเธอจะต้องได้รับเชิญเป็นแขกประจำที่พระตำหนักส่วนพระองค์ในชนบทนอกกรุงลอนดอน เขาและเธอได้ร่วมโต๊ะเสวยทุกครั้ง เสด็จไหนทำอะไรก็ต้องมีวอลลิสเป็นเงาตามตัว มีสามีพ่วงท้ายไปด้วยอีกคน อ่านมาถึงตรงนี้ ท่านผู้อ่านเรือนไทยคงจะสงสัยว่าตัวนายเออเนสต์ ซิมป์สันเองแกรู้สึกยังไง เพราะแกก็รู้ตัวว่าแกไม่ใช่เพื่อนรักเพื่อนเกลออะไรของเจ้าชาย พระองค์ก็ไม่ได้โปรดปรานแกเท่าเทียมกับภรรยาของแก เราไม่พบหลักฐานจากบันทึกหรือจดหมายอะไรที่บอกให้รู้ถึงความในใจของเออเนสต์ แต่มีจดหมายที่วอลลิสเขียนไปถึงป้าของเธอว่าเออเนสต์ก็มีแต่ปลื้มในพระกรุณาของเจ้าชาย ที่ยกย่องให้เกียรติเขาเป็นพระสหายสนิท ดูตามรูปการณ์แล้ว เออเนสต์ไม่มีทางเลือก ถ้าเป็นตัวเราเองก็น่าเห็นใจอยู่เหมือนกันว่าไม่มีทางอื่นนอกจากตกกระไดพลอยโจน ใครมันจะบ้าระห่ำปฏิเสธเมื่อรัชทายาทของราชอาณาจักรโปรดให้เข้าเฝ้าอย่างสนิทสนมในพระตำหนักส่วนพระองค์ ได้นั่งร่วมโต๊ะเสวย ได้ดื่มได้กินอย่างหรูหรา มีมหาดเล็กพินอบพิเทาและแขกไฮโซของลอนดอนต่างก็เอาอกเอาใจเขากันทุกคน ถึงตอนนี้ วอลลิสกลายเป็นเจ้าภาพฝ่ายหญิงในงานเลี้ยงของเจ้าชายอย่างเต็มตัว เธอมีสิทธิ์และอำนาจเต็มที่จะเลือกเมนูพระกระยาหารให้เจ้าชายและแขก มีสิทธิ์จะสั่งจัดห้องหับเฟอร์นิเจอร์แล้วแต่จะชี้นิ้ว เมื่อเจ้าชายกับพระสหายออกรอบไปตีกอล์ฟ เธออยู่ในพระตำหนักก็พาสุนัขสองตัวของเจ้าชายไปเดินเล่น เจ้าชายทรงรักสัตว์เลี้ยงสองตัวนี้เป็นชีวิตจิตใจ เมื่อวอลลิสแสดงความรักและเอ็นดูพระสหายสี่ขา เจ้าชายก็ยิ่งทรงปลื้มถึงกับวันหนึ่ง ทรงกำนัลของขวัญมีชีวิตให้เธอ เป็นหมาเทอเรียขนฟูน่ารัก ซึ่งต่อมาทั้งสองช่วยกันตั้งชื่อว่า "สลิปเปอร์ " เจ้าสลิปเปอร์นี่ก็ได้เสนอหน้าอยู่ในรูปถ่ายส่วนพระองค์ด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
hobo
|
ความคิดเห็นที่ 44 เมื่อ 23 เม.ย. 14, 17:09
|
|
ริมผีปากบางและขนคิ้วแปลกๆ แบบนี้ตามตำราว่าร้ายนัก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|