Jalito
|
ความคิดเห็นที่ 15 เมื่อ 14 เม.ย. 14, 22:21
|
|
เด็กระดับลูกเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินอย่างเดวิด ยังมีกดดันได้ขนาดนั้น มิพักที่จะจินตนาการถึงเด็กในโรงเลี้ยงเด็กกำพร้าอย่างโอลิเวอร์ ทวิสต์จะเจอขนาดไหน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Jalito
|
ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อ 14 เม.ย. 14, 22:27
|
|
ดีใจจังได้เป็นนักเรียนระดับชมพูพานแล้ว คงต้องขยันเข้าห้องอีกเยอะๆเลย!!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Jalito
|
ความคิดเห็นที่ 17 เมื่อ 14 เม.ย. 14, 22:31
|
|
ดีใจจังได้เป็นนักเรียนระดับชมพูพานแล้ว คงต้องขยันเข้าห้องอีกเยอะๆเลย!!
หมายถึงห้องเรียนในเรือนไทยนี่น่ะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 18 เมื่อ 15 เม.ย. 14, 09:12
|
|
คุณ Jalito ขยันเป็นพิเศษ ช่วงสงกรานต์ยังเข้าห้องเรียน อนุญาตให้กินขนมได้ค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Jalito
|
ความคิดเห็นที่ 19 เมื่อ 15 เม.ย. 14, 09:31
|
|
ขอบคุณครับอาจารย์ นึกอย่างไรได้อย่างนั้นเลย กำลังนึกอยู่เลยว่าขนมสีสวยหรือของว่างน่าทานของอาจารย์ห่างหายไปนาน ลาภปากจริงๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ประกอบ
|
ความคิดเห็นที่ 20 เมื่อ 15 เม.ย. 14, 14:43
|
|
ว่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ระดับชมพูพานมันจิ๊บจ๊อยมากๆ อย่างน้อยๆ ต้องระดับองคตนี่ ข่มกันไปมารอคุณครู คุณครูมัวไปเล่นสงกรานต์เด็กอันธพาลเลยได้ใจ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
|
|
|
Jalito
|
ความคิดเห็นที่ 21 เมื่อ 15 เม.ย. 14, 17:46
|
|
ขอเวลาสักพักน่ะคุณกอบ อยากไปให้ถึงระดับนั้นเหมือนกัน แต่แหม่งๆตรงมีองค์ๆ ทว่าคตๆซะงั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 22 เมื่อ 15 เม.ย. 14, 19:29
|
|
ไปรดน้ำสงกรานต์ แป๊บเดียวกลับมาเจอเด็กแว้นซ์อยู่ในกระทู้ซะแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 23 เมื่อ 15 เม.ย. 14, 20:30
|
|
ทั้งที่หลงรักคลั่งไคล้ใหลหลงในตัวเฟรด้ามากเพียงใดก็ตาม ความรักของชายเช่นเจ้าชายเดวิดก็หาได้เป็นเอกพจน์ไม่ แต่เป็นพหูพจน์เช่นเดียวกับชายส่วนใหญ่ในโลก แปลง่ายๆอีกทีว่าพระองค์ไม่ได้มีพระสนมลับเพียงคนเดียว แต่มีสาวงามอีกนางหนึ่งครองตำแหน่งนี้อยู่ด้วย หญิงสาวคนนั้นมีนามว่าเธลมา (หรือหล่อนให้ออกเสียงแบบสเปนว่า เตลมา) มอร์แกน เป็นลูกสาวนักการทูตชาวอเมริกัน ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา หล่อนแต่งงานครั้งแรกเมื่ออายุ 17 กับเศรษฐีทายาทกิจการโทรศัพท์และโทรเลขของอเมริกา แต่ต่อมาก็หย่ากัน ถึงกระนั้นเตลมาก็ไม่ได้ตกต่ำ ตรงกันข้ามสามีคนที่สองนอกจากรวยแล้วยังมียศศักดิ์ยิ่งกว่าคนแรก เขาเป็นขุนนางอังกฤษชื่อมาร์มาดุ๊ค เฟอร์เนสผู้มีฐานันดรศักดิ์เป็นวิสเคานต์เฟอร์เนส ประธานบริษัทชิปปิ้งเฟอร์เนส ในเมื่อมาแต่งงานกับผู้ดีอังกฤษ เตลมาก็โคจรมาเป็นสาวไฮโซในลอนดอน ทำให้หล่อนมีโอกาสพบกับเจ้าชายเดวิดในงานไฮโซแห่งหนึ่ง แต่พบกันครั้งแรก ก็แค่พบกันเฉยๆไม่มีอะไร จนสามปีต่อมาจึงพบกันอีกครั้ง เจ้าชายก็เกิดต้องตากระดังงาลนไฟรายนี้ขึ้นมา จึงขอนัดดินเนอร์กับหล่อน ตรงนี้ก็ต้องแปลกันให้อ่านง่ายๆ อีกครั้งว่าการนัดดินเนอร์แบบนี้ไม่ใช่แค่กินอาหารเย็นกันแล้วต่างคนต่างกลับบ้าน เหมือนเรานัดเพื่อนไปกินข้าว แต่เป็นการสอบถามกันอยู่ในทีว่า เธอจะโอเคกับฉันหรือไม่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 24 เมื่อ 15 เม.ย. 14, 20:31
|
|
หน้าตาของกระดังงาลนไฟ ดอกนี้เป็นแบบนี้ค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Jalito
|
ความคิดเห็นที่ 25 เมื่อ 15 เม.ย. 14, 23:41
|
|
เ..ฮ้..อ!! ยลโฉมกระดังงาดอกนี้แล้ว ก็เข้าใจเจ้าชายเดวิดผู้ชอบเอาไฟลนดอกกระดังงา ดูแววตาท่าทีเธอแล้วก็น่าอยู่หรอก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 26 เมื่อ 16 เม.ย. 14, 09:50
|
|
ทั้งๆที่มีสามีแล้ว ซ้ำมีทั้งเกียรติและเงินเชิดหน้าชูตา เตลมาก็ไม่วายอยากมีตำแหน่งพระสนมลับของเจ้าชายรูปหล่อเพิ่มอีกตำแหน่ง หล่อนก็เลยรับ 'ดินเนอร์' กับเจ้าชายเป็นประจำ เพิ่มพูนความสนิทสนมจนกระทั่งเมื่อเจ้าชายเสด็จซาฟารีในแอฟริกาตะวันออก เมื่อค.ศ. in 1930 เตลมาก็ตามไปในขบวนเสด็จในฐานะพระสหายคนหนึ่ง เป็นโอกาสให้สนิทชิดใกล้พ้นหูพ้นตาประชาชนได้อย่างดี เมื่อกลับอังกฤษ เจ้าชายซื้อคฤหาสน์ชื่อฟอร์ทเบลวีเดียร์ไว้สำหรับพักผ่อนในสุดสัปดาห์ เตลมาก็กลายเป็นแขกประจำทุกสุดสัปดาห์ที่นั่น ในฐานะอะไรไม่ต้องบอกกันให้ยืดยาว นอกจากเป็นแขกประจำของเจ้าชาย เจ้าชายก็เสด็จมาเป็นแขกประจำในบ้านของหล่อนในลอนดอนด้วย และอีกแห่งคือคฤหาสน์ของเฟอร์เนสในชนบทที่ผู้ดีเขาจะต้องมีกันเป็นประจำเอาไว้อยู่ในฤดูร้อน อยู่ที่เลสเตอร์เชอร์ ในยุคก่อนสงครามโลก การสื่อสารยังมีพรมแดน เฉพาะสื่อหนังสือพิมพ์เท่านั้นที่จะเล่าเรื่องให้ประชาชนทั่วไปฟังได้ ถ้าสื่อหุบปากเสียอย่างประชาชนก็ไม่รู้ หรือรู้อย่างมากก็กระซิบกระซาบกันในวงน้ำชา เรื่องส่วนตัวของเจ้าชายจึงถูกล้อมกำแพงเอาไว้แต่ 'คนใน' เท่านั้นที่รู้แจ้งเห็นจริง
รูปข้างล่างนี้เตลมาถ่ายกับเจ้าชาย ระหว่างพักผ่อนอิริยาบถด้วยกันแบบสบายๆ ในฐานะ "พระสหายฝ่ายหญิง"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 27 เมื่อ 16 เม.ย. 14, 09:53
|
|
ฐานะพระสหายหญิง เป็นเกราะอย่างดีให้เตลมาปรากฏตัวต่อสาธารณชนร่วมกับเจ้าชาย เวลาเสด็จงานเลี้ยงหรือโอเปร่าได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 28 เมื่อ 16 เม.ย. 14, 20:13
|
|
ระหว่างที่เป็นพระสนมลับ เตลมาก็ยังอยู่กินกับสามีตามปกติ จนกระทั่งให้กำเนิดบุตรชายในค.ศ. 1929 ข่าวซุบซิบกันกระฉ่อนว่าเด็กน้อยเป็นโอรสลับของเจ้าชายเดวิด แต่โชคยังเข้าข้างเด็ก หน้าตาหนูน้อยไปเหมือนปู่ราวกับแกะ ก็เลยรอดจากข้อหามาได้
เตลมาไม่คิดหย่าขาดจากสามี แม้ว่าเขาอายุแก่กว่าหล่อน 20 ปี แถมยังหล่อไม่ได้หนึ่งในร้อยของเจ้าชาย ความมั่งคั่งและหน้าตาในสังคมเป็นสาเหตุสำคัญให้หล่อนดำรงชีวิตหนึ่งหญิงสองชายอยู่อย่างนั้น นอกจากนี้ หล่อนรู้ดี ต่อให้หล่อนหย่าขาดจากสามี หล่อนก็ไม่มีโอกาสจะกลายเป็นราชินีในอนาคตอยู่ดี เพราะหญิงม่ายไม่มีสิทธิ์จะนั่งบัลลังก์ราชินีอังกฤษ
ภาพนี้คือเตลมากับสามี วิสเคานต์เฟอร์เนส
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 29 เมื่อ 17 เม.ย. 14, 10:32
|
|
เตลมาซึ่งถือกำเนิดเป็นชาวอเมริกันมีเพื่อนเป็นสาวสังคมไฮโซชาวอเมริกันด้วยกันคนหนึ่งชื่อวอลลิส หล่อนเคยแต่งงานกับนายทหารเรือชื่อเอิร์ล สเปนเซอร์ แล้วหย่าร้างกันไปก่อนจะมาแต่งงานกับสามีคนปัจจุบันชื่อเออเนสต์ ซิมป์สันซึ่งเป็นนายหน้าตลาดหุ้น วอลลิสเป็นผู้หญิงที่เรียกอย่างตรงไปตรงมาว่าไม่สวย เมื่อเทียบกับสาวสวยหยาดเยิ้มอย่างเตลมา หล่อนเป็นผู้หญิงร่างผอมแห้ง หน้าเหลี่ยม มีไฝเม็ดใหญ่ตรงปลายคางซึ่งสมัยนั้นถือว่าเป็นตำหนิของรูปพรรณมากกว่าจะถือว่าเก๋ แต่หล่อนเป็นคนคุยสนุก สังคมเก่ง จึงผูกมิตรกับสาวสังคมอื่นๆได้ง่าย
เตลมาเป็นคนแนะนำเจ้าชายเดวิดให้รู้จักวอลลิสในฐานะเพื่อนคนหนึ่งของหล่อน เมื่อทรงรู้จักแล้วก็ 'งั้นๆ' เพราะวอลลิสก็ไม่ได้สวยสะอะไร พระองค์ก็ยังคงหลงใหลอยู่กับเตลมามากกว่า ผ่านไป 4 ปีก็ไม่เห็นว่าจะทรงสนใจไยดี ถือเป็นแค่เพื่อนคนหนึ่งของพระสนมเท่านั้น เตลมาก็เลยรู้สึกไว้วางใจว่าเพื่อนคนนี้ นอกจากเป็นเพื่อนที่ดีของหล่อนแล้วก็อยู่นอกสายตาของเจ้าชายด้วย ดังนั้นเมื่อเจ้าชายทรงเชิญวอลลิสกับสามีมาเป็นแขกที่พระตำหนักเบลดีเวียร์บ้างนานๆครั้ง หรือวอลลิสกับสามีทูลเชิญเจ้าชายไปงานคอกเทลที่แฟลตหรูในลอนดอนบ้าง ก็ถือว่าเป็นแวดวงไฮโซที่ดำเนินไปอย่างปกติ
จนกระทั่งต้นค.ศ. 1934 เมื่อเตลมาเดินทางไปเยี่ยมญาติพี่น้องเพื่อนฝูงที่นิวยอร์คนานหลายสัปดาห์ เหตุไม่คาดคิดเปรียบได้กับสายฟ้าผ่าลงมาก็เกิดขึ้น
ีรูปนี้คือวอลลิสในวันวิวาห์กับนายซิมป์สัน สามีคนที่สอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|