เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 23 24 [25] 26 27 ... 29
  พิมพ์  
อ่าน: 191254 สัตว์ประหลาด 3
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 360  เมื่อ 10 เม.ย. 15, 15:01

มินนีมูเมื่อปัจฉิมวัย

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 361  เมื่อ 13 เม.ย. 15, 13:02

ตัวนี้ก็มีลายหนูของดิสนีย์ หลายตัวเสียด้วย มีถิ่นฐานอยู่ในประเทศชิลี เผอิญดิสนีย์ไม่เห็น ไม่อย่างนั้นคงได้ชื่อว่า "มิก-มิน มู" (Mic-Min Moo) กำลังมีความสุขตามประสา (วัว) ในทุ่งหญ้าที่ชิลี

สุขสันต์วันสงกรานต์ แด่ชาวเรือนไทยทุกท่าน  ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 362  เมื่อ 17 เม.ย. 15, 09:36

ตำนานเรื่อง "มิกกีเมาส์ เครื่องหมายนำโชคบนตัวสัตว์" นอกจากจะมีเรื่องของ Mickey Moo และ Minnie Moo แล้ว ยังมีเรื่องของ Lily

Mejay Augerre และ Francisco  สองเจ้าหน้าที่ประจำของดิสนีย์ สูญเสียสุนัขไปเมื่อ ๒-๓ เดือนก่อนและกำลังมองหาสุนัขตัวใหม่มาเลี้ยงทางอินทรเนตร พวกเขาต้องประหลาดใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้พบกับสุนัขตัวหนึ่งเป็นตัวเมียมีลายเป็นรูปมิกกีเม้าส์ตัวการ์ตูนชือดังของดิสนีย์ ที่ที่พวกเขาทำงานอยู่นั่นเอง  ทั้งสองรับสุนัขตัวนี้มาเลี้ยงและตั้งชื่อมันว่า Lily ตามชื่อของ  Lillian Disney ภรรยาของ Walt Disney  เป็นการเอาใจเจ้านายตามประสาลูกน้องที่ดี  ยิงฟันยิ้ม

เรื่องและรูปจาก เดลิเมล


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 363  เมื่อ 17 เม.ย. 15, 14:16

เข้าคารวะท่านมิกกีตามแผนการตลาดของดิสนีย์  ยิงฟันยิ้ม

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 364  เมื่อ 21 เม.ย. 15, 14:52

ดิสนีย์แลนด์อาจเป็นสวรรค์สำหรับสัตว์ที่มีเครื่องหมายนำโชค-มิกกีเมาส์ หนูการ์ตูนที่ไม่เหมือนหนูสักเท่าไร  แต่ที่อินเดียมีสถานที่แห่งหนึ่งเป็นสวรรค์สำหรับหนู-หนูจริง ๆ หนูที่หน้าตาและร่างกายเป็นหนูนี่แหละ

สวรรค์ของหนูแห่งนี้คือ เทวาลัยพระแม่คารณี (Karni Mata temple) อยู่ในรัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย



เทวาลัยนี้มีหนูอาศัยอยู่มากกว่าสองหมื่นตัว ทุกคนที่เข้ามาในเทวาลัยนี้ต่างให้ความนับถือหนูเหล่านี้และเลี้ยงดูด้วยอาหารและน้ำนม





ด้วยพวกเขาคือลูกหลานของพระแม่คารณี องค์อวตารของพระแม่ทุรคาซึ่งเป็นปางหนึ่งของพระอุมาชายาของพระศิวะ



.... เรื่องของมันมีมาเมื่อห้าร้อยปีที่แล้ว ในกาลนั้นเจ้าชายพระองค์หนึ่งนามว่า "บิคา"  กรีฑาทัพขึ้นมาจากอาณาจักรทางใต้ ทรงตั้งค่ายรบกับศัตรูที่ตำบลเดชน็อคแห่งนี้ ที่นี่เป็นนิวาสสถานของผู้พยากรณ์หญิงท่านหนึ่ง คือ คาร์นิมาตา ผู้มอบกายถวายจิตต่อพระแม่ทุรคา เจ้าชายศรัทธาจึงขอพรจากเธอ ปรากฎในอีกไม่กี่วันจากนั้น เขาประสบชัยในการรบ

เจ้าชายสร้างเมืองใหม่เหนือแผ่นดินที่เพิ่งเผด็จได้ สถาปนานามตามชื่อตนว่าบิคาเนอร์ หญิงพยากรณ์คาร์นิมาตาได้รับการยกย่องอย่างสูง เมื่อเธอสิ้นชีพก็กลายเป็นเทพมารดรแห่งแคว้น เธอเป็นขวัญในสนามรบ เป็นศรัทธาของทุกชนชั้นในบิคาเนอร์ ...


จาก ดื่มทะลสาบ อาบทะเลทราย โดย บินหลา สันกาลาคีรี

http://www.youtube.com/watch?v=ZxWX7wgTj9E#t=18#ws

ผู้คนต่างหลั่งไหลมายังสวรรค์ของหนูแห่งนี้ ทั้งสาวกเจ้าแม่ทุรคาในอินเดียเองและนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก ผู้ต้องการเห็นสิ่งแปลก ๆ



รายละเอียดทั้งเรื่องและรูปมากกว่านี้ดูที่ เดลิเมล
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 365  เมื่อ 24 เม.ย. 15, 14:14

หนูย่อมคู่กับแมว

ที่อินเดียเทวาลัยพระแม่คารณีมีหนูอาศัยอยู่นับหมื่นตัว ที่ญี่ปุ่นวัดโกโตะคุ 豪徳寺 ในโตเกียว ก็มีแมวอาศัยอยู่นับหมื่นตัวเหมือนกัน

แมวที่วัดนี้ไม่ใช่แมวธรรมดาแต่เป็นแมวพันธุ์พิเศษ สามารถนำโชคให้เจ้าของได้เชียว ชื่อในภาษาญี่ปุ่นคือ แมวมะเนะคิ 招き猫

ประตูทางเข้าวัด


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 366  เมื่อ 24 เม.ย. 15, 14:26

บรรยากาศภายในวัดร่มรื่นมาก



สิ่งที่นักท่องเที่ยวสนใจก็คือ แมวพันธุ์พิเศษ - มะนะคิเนะโกะ หรือ แมวกวัก นั่นเอง  ยิงฟันยิ้ม


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 367  เมื่อ 24 เม.ย. 15, 14:42

แมวกวักของญี่ปุ่นมีที่มาอยู่หลายตำนาน หนึ่งในนั้นคือตำนานของเจ้าทะมะ แมวกวักแห่งวัดโกโตะคุ แห่งเอะโดะ (หรือโตเกียวในปัจจุบัน)

เล่ากันว่าในสมัยนั้น ณ วัดเก่า ๆ ทรุดโทรมแห่งหนึ่งทางตะวันตกของเอะโดะ พระรูปหนึ่งอาศัยอยู่ กับแมวที่ชื่อว่า ทะมะ  วันหนึ่ง โชกุนฮิโกะเนะติดพายุฝนระหว่างที่กลับจากการล่าสัตว์ และได้เข้าไปหลบฝนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าวัด เมื่อมองไปที่ประตูวัด เขาสังเกตเห็นแมวตัวหนึ่งกำลังเรียกเขาให้เข้าไปในวัด แมวตัวนั้นยกอุ้งเท้าขึ้นโบกอยู่อย่างนั้นจนน่าแปลกใจ โชกุนจึงออกจากที่กำบังใต้ต้นไม้ และวิ่งไปหาแมวตัวนั้น และเกือบจะในทันที ต้นไม้ต้นที่เขาหลบฝนอยู่ก่อนหน้านี้ก็ถูกฟ้าผ่าลงมา โชกุนจึงเข้าใจว่าแมวตัวนี้ได้ช่วยชีวิตเขาไว้นั่นเอง ด้วยความซาบซึ้งในบุญคุณ เขาจึงเป็นผู้อุปถัมภ์วัดแห่งนั้น และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาวัดก็เจริญรุ่งเรือง เมื่อเจ้าทะมะตาย มันก็ถูกนำไปฝังไว้ในที่ดินบริเวณวัด และเพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้าทะมะ จึงได้มีการสร้าง มะเนะคิเนะโกะ หรือ แมวกวัก ขึ้นมา


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 368  เมื่อ 28 เม.ย. 15, 15:18

วัดแมวไม่ใช่มีแต่ที่ญี่ปุ่น ที่เมืองไทยเราก็มีเหมือนกันอยู่ที่กาญจนบุรี ไม่ใช่แมวธรรมดาแต่เป็น "แมวลายพาดกลอน" หรือ "เสือ" นั่นแล ตอนนี้มีอยู่ ๑๔๖ ตัว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาชมทุกวัน

วัดนี้ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า "วัดเสือ" ชื่อเป็นทางการคือ "วัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน" ตามประวัติเสือพวกนี้เป็นเสือกำพร้าที่ชาวบ้านนำมาให้ทางวัดเลี้ยงเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๒ มีจำนวนไม่กี่ตัว ทำไปทำมาเพิ่มจำนวนมาเป็นร้อยตัว เหตุผลที่เปิดเผยคือจากการผสมพันธุ์ ส่วนเหตุผลอื่น ขออนุญาต รูดซิบปาก

เสือพวกนี้ตกเป็นของหลวงตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๔๔ โดยกรมป่าไม้ ผู้รับผิดชอบในขณะนั้นเข้าตรวจยึดเนื่องจากผิดกฎหมายเรื่องการเลี้ยงสัตว์ป่า แต่ยังคงฝากให้วัดเลี้ยงอยู่เพราะราชการจะเอาไปเลี้ยงเองก็ไม่มีงบประมาณ ทางวัดจึงเลี้ยงมาจนทุกวันนี้โดยเก็บเงินจากนักท่องเที่ยวตามอัตราข้างล่างนี้



รายได้พอประทังเลี้ยงชีวิตน้อย ๆ ของแมวลายพาดกลอนและชาวบ้านที่มารับจ้างทางวัดเลี้ยงดูเสือ เมื่อไม่นานมานี้สัตวแพทย์ผู้ดูแลเสือเหล่านี้ไปฟ้องอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ผู้รับผิดชอบในปัจจุบันว่าเสือหายไป ๓ ตัว กรมอุทยานฯเข้าไปตรวจสอบและขึงขังจะเอาเสือพวกนี้ไปเลี้ยงเอง ไป ๆ มา ๆ คิดสะระตะแล้วไม่คุ้มแน่เพราะการเลี้ยงเสือไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ สู้ให้ทางวัดเลี้ยงต่อไปแล้วทางราชการเข้าไปคุมอย่างเข้มงวดจะดีกว่า

ส่วนเสือที่หายไป ๓ ตัว ณ บัดนี้ยังไม่มีข่าวคราวคืบหน้า  ขยิบตา

ภาพจาก เดลิเมล


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 369  เมื่อ 29 เม.ย. 15, 10:00

คำถามจากชาวต่างชาติที่เข้ามาสัมผัสในฐานะอาสาสมัครดูแลเสือ : Temple or Tiger Business?

บันทึกการเข้า
ประกอบ
สุครีพ
******
ตอบ: 1342


ความคิดเห็นที่ 370  เมื่อ 29 เม.ย. 15, 15:18

เสือที่วัดเลี้ยงเป็นคนละสายพันธุ์กับเสือลายพาดกลอนตามป่าแถวๆ เมืองไทย ดังนั้นการเลี้ยงเสือเหล่านี้จึงไม่ได้สร้างผลดีต่อการอนุรักษ์พันธุ์เสือไทยแต่อย่างใด ผมมองว่าสาเหตุหนึ่งที่ไม่มีใครกล้าจัดการนอกจากไม่อยากแบกรับภาระเสือจำนวนมากแล้ว ชื่อวัดก็มีส่วนทำให้ไม่มีใครอยากเข้าไปขัดแย้งด้วย

บันทึกการเข้า

วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 371  เมื่อ 01 พ.ค. 15, 10:27

เสือที่วัดเลี้ยงเป็นคนละสายพันธุ์กับเสือลายพาดกลอนตามป่าแถวๆ เมืองไทย ดังนั้นการเลี้ยงเสือเหล่านี้จึงไม่ได้สร้างผลดีต่อการอนุรักษ์พันธุ์เสือไทยแต่อย่างใด

ก็จริงอย่างที่คุณเอ็ดวินว่าไว้ เสือในวัดเป็นพันธุ์ผสมระหว่างเบงกอลและไซบีเรีย เสือพันธุ์ไซบีเรีย Panthera tigris altica เป็นเสือพันธุ์ใหญ่ที่สุด รองลงมาก็คือพันธุ์เบงกอล Panthera tigris  tigris ซึ่งมีอยู่แถวอินเดีย ใกล้บ้านเราก็ที่พม่า เป็นพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงในสวนเสือหรือใช้เล่นละครสัตว์เพราะมีความดุร้ายน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับพันธุ์อื่น อย่างที่สวนเสือศรีราชาก็เป็นพันธุ์นี้  

ส่วนเสือในธรรมชาติของไทยเป็นพันธุ์อินโดจีน Panthera tigris corbetti ขนาดเล็กกว่าเบงกอล



เมื่อเสือที่วัดกับในธรรมชาติเป็นคนละชนิดกันก็ไม่เหมาะที่จะปล่อยเสือจากวัดเข้าป่า คงต้องเลี้ยงไปจนตาย และงดการขยายจำนวนโดยการผสมพันธุ์

ป.ล. ๑ แวะเข้าไปคุยกับ คุณวิกกี้ เธอเข้าใจผิดว่าเสือที่วัดนี้เป็นพันธุ์อินโดจีน  ยิงฟันยิ้ม  ยิงฟันยิ้ม

ป.ล. ๒ ข่าวล่าสุด เสือที่วัดหายไป ๓ ตัวจริง  ยิ้มเท่ห์

ความรู้เรื่องเสือโคร่ง

http://www.verdantplanet.org/catsoftheworld/cat_tiger.php


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 372  เมื่อ 02 พ.ค. 15, 19:35

ช่วงวันหยุดยาว มีคำถามให้ลับสมองอยู่ ๒ ข้อ

๑. ทำไมเรียก เสือโคร่ง ว่า เสือลายพาดกลอน

และ ๒. ถ้าเสือโคร่งลายพาดกลอน แล้วสิงโตจะลายอะไร


ขอให้มีความสุขกับการหาคำตอบ


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 373  เมื่อ 08 พ.ค. 15, 09:04

คำเฉลยของปริศนา ๒ ข้อข้างบนอยู่ในเรือนไทยนี้เอง

ปุจฉา
๑. ทำไมเรียก เสือโคร่ง ว่า เสือลายพาดกลอน

วิสัชนา
จาก บทความเรื่อง "เสือลายพาดกลอน" โดย คุณวีระพงศ์ มีสถาน สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย

มหิดลสาร ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๔


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 374  เมื่อ 08 พ.ค. 15, 11:27

ส่วนปริศนาข้อที่ ๒

และ ๒. ถ้าเสือโคร่งลายพาดกลอน แล้วสิงโตจะลายอะไร

คำเฉลยมีอยู่ในเรือนไทยนี้เช่นกัน ขอเชิญค้นหาคำตอบได้โดยพลัน  ยิ้มเท่ห์


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 23 24 [25] 26 27 ... 29
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.062 วินาที กับ 20 คำสั่ง