สัตว์ประหลาด 3

[NAVARAT.C]

กระบวนการดังกล่าวใช้ได้ทั้งแมงดาหางกลมที่มีพิษ และหางเหลี่ยมที่ไม่มีพิษ อย่างงั้นหรือครับ

[เพ็ญชมพู]

แมงดาทะเลในโลกนี้มีอยู่ ๔ ชนิด พบที่เมืองไทย ๒ ชนิด คือ แมงดาถ้วย (Carcinoscorpius rotundicauda) และแมงดาจาน (Tachypleus gigas)

อีก ๒ ชนิด ตัวหนึ่งพบแถวจีนและญี่ปุ่นคือ Tachypleus tridentatus และตัวที่พบแถวชายฝั่งตะวันออกของอเมริกา คือ Limulus polyphemus

แมงดาหางกลมที่มีพิษ (แมงดาถ้วย)-Carcinoscorpius rotundicauda และหางเหลี่ยมที่ไม่มีพิษ (แมงดาจาน)-Tachypleus gigas โชคดีที่ยังไม่มีใครเอาเลือดไปใช้

นอกจากแมงดาทะเลแอตแลนติก-Limulus polyphemus ของอเมริกาที่โชคร้ายถูกเอาไปเก็บเลือดเป็นประจำทุกปีแล้ว ยังมีแมงดาพันธุ์เอเซียอีกพันธุ์หนึ่งคือพันธุ์จีน-ญี่ปุ่น-Tachypleus tridentatus ที่โชคร้ายถูกเก็บเลือดไปใช้เหมือนกัน สารทีสกัดได้จากเลือดแทนที่จะเป็น LAL (Limulus Amebocyte Lysate) ก็เป็น TAL (Tachypleus Amebocyte Lysate) ซึ่งใช้ในการทดสอบการปลอด endotoxin ได้เช่นกัน

กระบวนการเก็บเลือดจากแมงดาทะเลทั้ง ๒ เผ่าพันธุ์นี้น่าจะเป็นแบบเดียวกัน

สารทดสอบ Tachypleus Amebocyte Lysate  MADE IN CHINA 

[เพ็ญชมพู]

สัตว์ประหลาดมีอยู่ในโลกเรานานแล้ว เพียงแต่ว่าเราจะค้นพบมันเมื่อไร

กบตัวนี้เพิ่งถูกค้นพบเมื่อ ๗ ปีมานี้เอง จะตั้งชื่อมันว่ากระไรดี 

[Naris]

กบคอมมานโด ครับ เพราะหน้าตาท่าทางเขาเหมือนทหารพรางหน้าที่กำลังหมอบคลานอยู่ครับ

[เพ็ญชมพู]

มีกบพื้นเมืองของอเมริกากลางตัวหนึ่งชื่อ Dendrobates auratus ชื่อสามัญคือ กบลูกดอกพิษสีเขียวดำ (Green and black poison dart frog) กบตัวนี้บางแห่งก็เรียกว่า กบคอมมานโด เพราะมีลวดลายเหมือนลายพรางของทหาร ซึ่งเป็นลายคนละอย่างกับกบต้นเรื่องของเรา



พวกกบลูกดอกมักมีสีสันสดใสลวดลายสวยงามแต่มีพิษร้าย คนพื้นเมืองแถวนั้นใช้พิษนี้อาบปลายลูกดอกเพื่อใช้ในการล่าสัตว์จึงเป็นที่มาของชื่อกบ

[เพ็ญชมพู]

กบตัวนี้เพิ่งถูกค้นพบเมื่อ ๗ ปีมานี้เอง จะตั้งชื่อมันว่ากระไรดี  

กบตัวนี้ค้นพบครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๑ ในป่าของประเทศโคลอมเบีย นักวิทยาศาสตร์ตั้งชื่อว่า Hyloscirtus tigrinus  ชื่อสปีชีส์ tigrinus หมายถึงมีลายอย่างเสือ ชื่อสามัญจึงเรียกว่า  Tiger’s Treefrog เรียกอย่างไทย ๆ คงได้ว่า "กบต้นไม้ลายเสือ"  กบตัวนี้พบได้ทั้งที่โคลอมเบียและเอกวาดอร์ พบตัวเป็น ๆ เพียง ๑๒ ตัวจากสถานที่ ๖ แห่งเท่านั้น นักวิทยาศาสตร์ประมาณว่าขณะนี้เหลือประชากรกบลายเสือตัวนี้ไม่เกิน ๒๕๐ ตัว (คำนวณได้อย่างไรเหลือที่จะคาดเดา)

กบต้นไม้ลายเสือนับเป็นกบทีมีสีสันสดใสงดงามตัวหนึ่ง ลักษณะอย่างนี้ดูเหมือนจะเป็นกบมีพิษแต่หาเป็นอย่างลักษณะภายนอกของมันไม่  มันไช่กบมีพิษ สีสันและลวดลายสะดุดตานี้เป็นข้อดีอย่างหนึ่งคือช่วยป้องกันไม่ให้ถูกจับกินโดยเข้าใจว่าเป็นสัตว์มีพิษ

กบตัวนี้เป็นกบต้นไม้ลายเสือตัวเมีย เป็นกบตัวที่ ๕ ที่ค้นพบ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๑ ในป่าของประเทศโคลอมเบีย

[เทาชมพู]

Jelly balls

[เทาชมพู]

http://animals.spokedark.tv/2014/10/08/10-weird-sea-creatures/#.VZX5I0YpqSo

[เพ็ญชมพู]

Jelly balls

ตัวนี้เคยมาเมื่อปีที่แล้ว

จับได้ที่นิวซีแลนด์



คือ Salpa maggiore

รายละเอียดอ่านได้ที่ เดลิเมล

[เพ็ญชมพู]

ผีเสื้อทะเล เคยปรากฏกายในฐานะเหยื่อผู้น่าสงสารของ นางฟ้าทะเล

นางฟ้าตัวใส  Clione limacina





นางฟ้าทะเลเป็นนักล่าที่หิวกระหายตลอดเวลา และจะกินเพียงผีเสื้อทะเลซึ่งเป็นสัตว์สายพันธุ์เดียวกันเป็นอาหารเท่านั้น โดยใช้ความว่องไวในการต้อนเหยื่อให้จนมุม แล้วใช้หนวดพิเศษที่ยื่นออกมาจากปาก ดึงออกจากเปลือกก่อนที่จะกลืนกินไปทั้งตัว

ผีเสื้อทะเล



นางฟ้าหรือซาตาน

 

[เพ็ญชมพู]

เมื่อนางฟ้ากลายร่างเป็นปีศาจ   

http://youtube.com/watch?v=Phj5WS6czeA#ws

[เพ็ญชมพู]

ผีเสื้อทะเลพวกข้างบนเป็นหอยทากทะเล (sea snail)

ยังมีสัตว์อีกพวกหนึ่งซึ่งเรียกว่า ผีเสื้อทะเล เช่นกัน คือ ทากทะเลติดปีก (winged sea slug)

ขอเชิญชมลีลาการร่ายรำรับอรุณประกอบทำนองเพลงอันไพเราะของ Pacific Batwing Seaslug Gastropteron pacificum ผีเสื้อทะเลพันธุ์หนึ่งแห่งอเมริกาเหนือ

http://youtube.com/watch?v=sC61i1Z9fnE#ws

[เพ็ญชมพู]

เชื่อว่าใครที่ได้เห็นรูปนี้ครั้งแรกคงต้องนึกว่าภาพมิตรภาพแสนน่ารักของสัตว์โลกต่างเผ่าพันธุ์แน่ๆ แต่ความเป็นจริงแล้วกลับตรงกันข้าม เพราะภาพที่เจ้า'ลูกเพียงพอน'กำลังขี่หลัง'นกหัวขวาน'นี้ เป็นวินาทีที่มันกำลังพยายามปลิดชีพเจ้านกต่างหาก

มีเที่ยวบินที่ประหลาดพอ ๆ กับ "ลูกเพียงพอนบนหลังนกหัวขวาน" เที่ยวบินต่อไปนี้ชื่อ "เที่ยวบินอีกาบนหลังนกอินทรี"  

ภาพที่เห็นนี้เกิดขึ้นในเวลาเพียงแค่ ๒-๓ วินาทีเท่านั้น โดยนายฟู ชาน ช่างถ่ายภาพวัย ๕๐ ปี เห็นภาพนี้โดยบังเอิญและสามารถถ่ายไว้ได้ทัน เขาเผยว่า เขารู้สึกประหลาดใจมาก ตอนแรกเขานึกว่าอีกาจะไปแย่งอาหารของอินทรี แต่มันแค่เกาะไปเฉย ๆ และเจ้าอินทรีก็ยังคงบินต่อไปเช่นเดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อถึงที่หมายอีกาก็ลงอย่างไวแล้วบินจากไปทันที ส่วนอินทรีก็บินหาอาหารกินต่อไป

ภาพจาก เดลิเมล

[เพ็ญชมพู]

ยังมีอีกภาพหนึ่งซึ่งฮือฮาพอ ๆ กับ ๒ ภาพแรก คือ "แรคคูนล่องแม่น้ำบนหลังจระเข้"

ริชาร์ด โจนส์ ผู้ถ่ายภาพดังกล่าว เล่าว่าขณะที่พาครอบครัวไปเดินเล่นริมแม่น้ำโอคลาวาฮา รัฐฟลอริดาและกำลังเฝ้าดูจระเข้ตีนเป็ด (alligator) อยู่นั้น ลูกชายของเขาได้เดินไปเหยียบกิ่งไม้จนทำให้แรคคูนที่อยู่ริมฝั่งตกใจ กระโดดขึ้นไปบนหลังของจระเข้ตีนเป็นที่กำลังแหวกว่ายอย่างเชื่องช้า สร้างความประหลาดใจเป็นอย่างมากว่าสัตว์ที่ดุร้ายอย่างจระเข้ปล่อยให้เจ้าแรคคูนขึ้นไปยืนบนหลังอย่างสบายใจเฉิบแบบนี้ได้อย่างไร

ภาพและเรื่องจาก เดลิเมล

[เทาชมพู]

เชิญต่อที่กระทู้  สัตว์ประหลาด 4
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=6355.msg145917;topicseen#msg145917