หม่อมเจ้าหญิงกรณิกา จิตรพงศ์ สิ้นชีพิตักษัยแล้ว เมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๕.๒๒ นาที พระชันษา ๙๘ ปี ๔ เดือน ๒๕ วัน ผมขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างมากกับการจากไปสู่ปรโลกของ ม.จ.กรณิกา จิตรพงศ์ ธิดาองค์สุดท้ายของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ กับ ม.ร.ว.โต จิตรพงศ์
สมเด็จเจ้าฟ้าพระองค์นี้ ทรงผิดแผกแปลกไปจากเจ้าพี่เจ้าน้องร่วมสมัยทุกพระองค์ ตรงที่ไม่ทรงมีหม่อมห้ามมากมายตามสมัยนิยม ทรงมีหม่อมทั้งหมด ๓ คน ต่อเมื่อคนหนึ่งสิ้นชีพแล้วจึงมีอีกคนหนึ่ง ดัง ม.ร.ว.โต เป็นคนสุดท้าย นับได้ว่าท่านเป็นคนพิเศษที่ไม่ต้องหึงหวงกับใคร
โอรสธิดาของสมเด็จเจ้าฟ้านั้น ทรงตั้งชื่อประทานเอง โดยไม่ได้กราบทูลของนามจากพระเจ้าอยู่หัวเอาเลย ม.จ.กรมนี้จึงไม่ได้รับพระราชทานเสมาจากในหลวงตอนพระราชทานนาม สมเด็จเจ้าฟ้ารับสั่งว่า มีลูกเองได้ ก็ต้องตั้งชื่อเองได้ และโปรดทรงเลี้ยงโอรสธิดาเอง โดยไม่ทรงส่งเข้าไปอยู่ตามสำนักต่าง ๆ ของเจ้านายฝ่ายในในพระบรมมหาราชวัง ทรงถือคติว่า มีลูกเองก็ต้องเลี้ยงลูกเอง
โดยที่โอรสธิดาของพระองค์ท่านมีชื่อเล่นตามแบบโบราณแท้ทีเดียว เช่น ม.จ.กรณิกา (ซึ่งตั้งตามพระนาม พระพี่นางเธอของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาฯ เขียน กรณิกา องค์ท่านรับสั่งกับข้าพเจ้าว่า คนมักจะเติมตัว ร ถวาย อย่างมากมายออกไป เช่น กรรณิการ์ เป็นต้น) พระนามเล่นของท่านคือ ท่านหญิงไอ ซึ่งเป็นน้องของท่านหญิงอาม ซึ่งเป็นน้องของท่านหญิงอี่ ทั้งนี้ นับได้เป็นชื่ออย่างธรรมดาสามัญของคนไทยโบราณ แม้โอรสของพระองค์ท่าน ก็มีนามเป็นคนไทยธรรมดาในสมัยโบราณเช่นกัน เช่น ท่านชายอ้ายเป็นองค์โต เรื่อยมาจนท่านชายสาม ท่านชายใส และท่านชายงั่ว
โดยที่นามหม่อมเจ้ากรมนี้ มักจะใช้คำว่า จิตร ๆ ใจ ๆ ตามพระนามเดิมของพระองค์ท่าน ซึ่งเคยเป็นพระองค์เจ้าจิตรเจริญมาก่อน เช่น ท่านหญิงอามคือ ม.จ.ดวงจิตร ท่านชายใสคือ ม.จ.ยาใจ ที่แหวกแนวมากก็ท่านหญิงไอซึ่งได้ชื่อตามพระนามของพระพี่นางเธอของพระบิดาดังได้กล่าวมาก่อนแล้ว ดังท่านชายงั่วก็มีนามว่า ม.จ.เพลารถ เพื่อสืบทอดมาทางสาย ม.ร.ว.โต ซึ่งเสด็จปู่พระนามว่า ม.จ.งอนรถ เป็นต้น
ท่านหญิงไอ แม้จะทรงเป็นน้องนุชสุดท้องทางสายเจ้านายฝ่ายในของวังนี้ แต่ก็ทรงรอบรู้ศิลปวัฒนธรรมอย่างเต็มที่ แม้จะเก็บองค์โดยไม่ทรงนิพนธ์หนังสือ เฉกเช่นท่านหญิงอาม เจ้าพี่ของท่าน แต่ถ้าใครมีปัญหาอะไรในทางโบราณคดี ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนนาฏดุริยางค์ และพุทธประเพณี ทางราชสำนักกราบทูลหารือ จะประทานความเห็นอย่างเป็นประโยชน์ยิ่งนัก
ข้าพเจ้าเองเคยได้รับพระเมตตากรุณาจากเจ้านายวังนี้แทบทุกองค์ แม้จะไม่คุ้นเคยกับองค์ท่านมากนัก แต่ก็อดเสียไม่ได้ที่ต้องเคารพนับถือความเป็นผู้ดีของท่าน ซึ่งไม่มีความดัดจริตเจือปนอยู่ด้วยเลย โดยขอเพิ่มข้อมูลอีกเล็กน้อยว่า ท่านหญิงไอทรงเป็นโยมบวชพระมหาประยูร วัดเทพศิรินทร์ ซึ่งต่อมาได้เป็นเปรียญเอกอุของสำนักนั้น และเป็นผู้มีบทบาทอย่างสำคัญทางมหามกุฎราชวิทยาลัย จนได้เป็นสมเด็จพระญาณวโรดม แต่ก็มรณภาพล่วงไปก่อนโยมบวชของท่านเมื่อไม่นานมานี้เอง
ที่ว่ามานี้ก็เพื่อให้ปลงตามพระไตรลักษณ์ โดยเราหมดเจ้านายองค์สุดท้ายของรัชกาลที่ ๔ ไปแล้วก็ว่าได้ ดังที่เราหมดเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทร์ที่มีสมณสัญญาและความรอบรู้ในทางคันถธุระองค์สุดท้ายไปแล้วจากวัดนั้นก็ว่าได้
ถ้าเราฟื้นคืนคุณภาพของความเป็นผู้ดี และความรอบรู้ในทางไทยคดีศึกษาอย่างท่านหญิงไอขึ้นมาได้ แม้ไม่จำต้องมีชาติวุฒิอันประเสริฐ ความเป็นไทที่มีเกียรติมีศรี และมีคุณธรรมอย่างไปพ้นความเป็นชาตินิยม ตลอดจนการเข้าถึงความเป็นไทยอย่างความเป็นเลิศที่ไปพ้นความกึ่งดิบกึ่งดี ถ้าเราสามารถเข้าถึงสิ่งที่ประเสริฐดังกล่าวได้จะเท่ากับว่าเราบูชาคุณท่านหญิงไอและเจ้านายกรมนี้ตลอดจนการบูชาพระบิดาของท่านอย่างสมภาคภูมิ ดีกว่าอามิสบูชาใด ๆ ทั้งสิ้น
ผมขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างมากกับการจากไปสู่ปรโลกของ ม.จ.กรณิกา จิตรพงศ์ ธิดาองค์สุดท้ายของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ กับ ม.ร.ว.โต จิตรพงศ์
สมเด็จเจ้าฟ้าพระองค์นี้ ทรงผิดแผกแปลกไปจากเจ้าพี่เจ้าน้องร่วมสมัยทุกพระองค์ ตรงที่ไม่ทรงมีหม่อมห้ามมากมายตามสมัยนิยม ทรงมีหม่อมทั้งหมด ๓ คน ต่อเมื่อคนหนึ่งสิ้นชีพแล้วจึงมีอีกคนหนึ่ง ดัง ม.ร.ว.โต เป็นคนสุดท้าย นับได้ว่าท่านเป็นคนพิเศษที่ไม่ต้องหึงหวงกับใคร .
โอรสธิดาของสมเด็จเจ้าฟ้านั้น ทรงตั้งชื่อประทานเอง โดยไม่ได้กราบทูลของนามจากพระเจ้าอยู่หัวเอาเลย ม.จ.กรมนี้จึงไม่ได้รับพระราชทานเสมาจากในหลวงตอนพระราชทานนาม สมเด็จเจ้าฟ้ารับสั่งว่า มีลูกเองได้ ก็ต้องตั้งชื่อเองได้ และโปรดทรงเลี้ยงโอรสธิดาเอง โดยไม่ทรงส่งเข้าไปอยู่ตามสำนักต่าง ๆ ของเจ้านายฝ่ายในในพระบรมมหาราชวัง ทรงถือคติว่า มีลูกเองก็ต้องเลี้ยงลูกเอง .
โดยที่โอรสธิดาของพระองค์ท่านมีชื่อเล่นตามแบบโบราณแท้ทีเดียว เช่น ม.จ.กรณิกา (ซึ่งตั้งตามพระนาม พระพี่นางเธอของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาฯ เขียน กรณิกา องค์ท่านรับสั่งกับข้าพเจ้าว่า คนมักจะเติมตัว ร ถวาย อย่างมากมายออกไป เช่น กรรณิการ์ เป็นต้น) พระนามเล่นของท่านคือ ท่านหญิงไอ ซึ่งเป็นน้องของท่านหญิงอาม ซึ่งเป็นน้องของท่านหญิงอี่ ทั้งนี้ นับได้เป็นชื่ออย่างธรรมดาสามัญของคนไทยโบราณ แม้โอรสของพระองค์ท่าน ก็มีนามเป็นคนไทยธรรมดาในสมัยโบราณเช่นกัน เช่น ท่านชายอ้ายเป็นองค์โต เรื่อยมาจนท่านชายสาม ท่านชายใส และท่านชายงั่ว .
โดยที่นามหม่อมเจ้ากรมนี้ มักจะใช้คำว่า จิตร ๆ ใจ ๆ ตามพระนามเดิมของพระองค์ท่าน ซึ่งเคยเป็นพระองค์เจ้าจิตรเจริญมาก่อน เช่น ท่านหญิงอามคือ ม.จ.ดวงจิตร ท่านชายใสคือ ม.จ.ยาใจ ที่แหวกแนวมากก็ท่านหญิงไอซึ่งได้ชื่อตามพระนามของพระพี่นางเธอของพระบิดาดังได้กล่าวมาก่อนแล้ว ดังท่านชายงั่วก็มีนามว่า ม.จ.เพลารถ เพื่อสืบทอดมาทางสาย ม.ร.ว.โต ซึ่งเสด็จปู่พระนามว่า ม.จ.งอนรถ เป็นต้น
ท่านหญิงไอ แม้จะทรงเป็นน้องนุชสุดท้องทางสายเจ้านายฝ่ายในของวังนี้ แต่ก็ทรงรอบรู้ศิลปวัฒนธรรมอย่างเต็มที่ แม้จะเก็บองค์โดยไม่ทรงนิพนธ์หนังสือ เฉกเช่นท่านหญิงอาม เจ้าพี่ของท่าน แต่ถ้าใครมีปัญหาอะไรในทางโบราณคดี ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนนาฏดุริยางค์ และพุทธประเพณี ทางราชสำนักกราบทูลหารือ จะประทานความเห็นอย่างเป็นประโยชน์ยิ่งนัก
ข้าพเจ้าเองเคยได้รับพระเมตตากรุณาจากเจ้านายวังนี้แทบทุกองค์ แม้จะไม่คุ้นเคยกับองค์ท่านมากนัก แต่ก็อดเสียไม่ได้ที่ต้องเคารพนับถือความเป็นผู้ดีของท่าน ซึ่งไม่มีความดัดจริตเจือปนอยู่ด้วยเลย โดยขอเพิ่มข้อมูลอีกเล็กน้อยว่า ท่านหญิงไอทรงเป็นโยมบวชพระมหาประยูร วัดเทพศิรินทร์ ซึ่งต่อมาได้เป็นเปรียญเอกอุของสำนักนั้น และเป็นผู้มีบทบาทอย่างสำคัญทางมหามกุฎราชวิทยาลัย จนได้เป็นสมเด็จพระญาณวโรดม แต่ก็มรณภาพล่วงไปก่อนโยมบวชของท่านเมื่อไม่นานมานี้เอง
ที่ว่ามานี้ก็เพื่อให้ปลงตามพระไตรลักษณ์ โดยเราหมดเจ้านายองค์สุดท้ายของรัชกาลที่ ๔ ไปแล้วก็ว่าได้ ดังที่เราหมดเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทร์ที่มีสมณสัญญาและความรอบรู้ในทางคันถธุระองค์สุดท้ายไปแล้วจากวัดนั้นก็ว่าได้
ถ้าเราฟื้นคืนคุณภาพของความเป็นผู้ดี และความรอบรู้ในทางไทยคดีศึกษาอย่างท่านหญิงไอขึ้นมาได้ แม้ไม่จำต้องมีชาติวุฒิอันประเสริฐ ความเป็นไทที่มีเกียรติมีศรี และมีคุณธรรมอย่างไปพ้นความเป็นชาตินิยม ตลอดจนการเข้าถึงความเป็นไทยอย่างความเป็นเลิศที่ไปพ้นความกึ่งดิบกึ่งดี ถ้าเราสามารถเข้าถึงสิ่งที่ประเสริฐดังกล่าวได้จะเท่ากับว่าเราบูชาคุณท่านหญิงไอและเจ้านายกรมนี้ตลอดจนการบูชาพระบิดาของท่านอย่างสมภาคภูมิ ดีกว่าอามิสบูชาใด ๆ ทั้งสิ้น
ส. ศิวรักษ์