เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
อ่าน: 3106 มหาวิทยาลัยไม่เคยปิด - สงครามกับการศึกษาในจีน
han_bing
นิลพัท
*******
ตอบ: 1622



 เมื่อ 06 ธ.ค. 13, 21:06

ช่วงนี้มหาวิทยาลัยในประเทศไทยบางแห่งหยุดการเรียนการสอนชั่วคราว อาจจะเป็นเพราะความไม่สงบในประเทศ หรือจะเป็นเพราะเหตุอื่นๆ ทำให้ข้าพเจ้านึกย้อนถึงเรื่องของสงครามระหว่างจีนญี่ปุ่น และผลกระทบต่อการศึกษาการเรียนการสอนในจีนยุคนั้น

ประเทศจีนช่วงทศวรรตที่ ๑๙๓๐ ยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง เมืองจีนลุกเป็นไฟเนื่องจากการรุกรานของญี่ปุ่น โดยการบุกอย่างจริงจังเริ่มขึ้นเมื่อปี ๑๙๓๗ เมืองที่ถูกทำลายราบเป็นหน้ากลองเป็นเมืองจำนวนมากบริเวณริมฝังทะเล และเมืองตอนในบางแห่ง อาทิ เมืองหนานจิงซึ่งเป็นเมืองหลวงในขณะนั้นถูกญี่ปุ่นบุกเข้ามาและฆ่าล้างคนในเมืองจนดับสิ้นสูญไปเป็นจำนวน ๓ แสนคน

ภาพการรุกรานนานกิงของกองทัพญี่ปุ่นในปี ๑๙๓๗


บันทึกการเข้า
han_bing
นิลพัท
*******
ตอบ: 1622



ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 06 ธ.ค. 13, 21:11

ท่ามกลางเพลิงแห่งสงครามในครั้งนั้น รัฐบาลจีนรวมถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยต่างๆในยุคสาธารณรัฐได้ร่วมแรงร่วมใจกันย้ายมหาวิทยาลัยไปสู่พื้นที่ตอนในของประเทศเพื่อให้การศึกษาของจีนยังคงทำได้อยู่ โดยเฉพาะย้ายไปอยู่ที่ยูนาน

ในยูนาน เมืองคุนหมิง มีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ก่อตั้งขึ้นเฉพาะกิจยามเกิดภัยสงครามในครั้งนั้น คือมหาวิทยาลัยร่วมซีหนานแห่งชาติ (国立西南联合大学:guo li xi nan lian he da xue) ตั้งจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีนได้แก่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง (北京大学) มหาวิทยาลัยชิงหัว (清华大学) ซึ่งตั้งอยู่ในปักกิ่ง และมหาวิทยาลัยหนานไค (南开大学) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเทียนจิน ในเวลา ๘ ปีระหว่างสงครามผลิตบัณฑิตมากมาย เมื่อสงครามสงบมหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้พัฒนาเป็นมหาวิทยาลัยครูแห่งยูนาน(云南师范大学)

ภาพประตูมหาวิทยาลัยร่วมซีหนานแห่งชาติ ปัจจุบัน และอดีต

ภาพมหาวิทยาลัยครูยูนานในปัจจุบัน




บันทึกการเข้า
han_bing
นิลพัท
*******
ตอบ: 1622



ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 06 ธ.ค. 13, 21:17

นอกจากมหาวิทยาลัยทางเหนือดั่งที่กล่าวมาแล้ว มหาวิทยาลัยทางใต้ก็ย้ายที่ไปไม่น้อยเช่นกัน อาทิ มหาวิทยาจงซาน (中山大学) มหาวิทยาลัยแห่งนี้พัฒนาจากมหาวิทยาลัยกวางตุ้งเพื่อเป็นเกียรติแก่ท่านซุนยัดเซ็น รวมถึงมหาวิทยาอื่นๆในกวางตุ้งอีกหลายมหาวิทยาลัย

การย้ายมหาวิทยาลัยเช่นนี้มิใช่เรื่องง่าย ดังการย้ายมหาวิทยาลัยจงซานซึ่งอยู่ในกวางตุ้งจะย้ายไปอยู่ยูนานต้องผ่านที่ราบสูงในกวางซี การขนย้ายต้องทำโดยการใช้รถที่มีพลังงานขับเคลื่อนจากฟืน และฟืนก็หาจากรายทาง ซึ่งของที่ต้องย้ายมีทั้งกระดาษที่ใช้สอน หนังสือ รวมถึง บุคคลากร อันได้แก่ครูผู้อดทน

หากมิได้ขนมาในจีนแล้ว ก็ขนย้ายผ่านทางทะเล เข้าทางมาเก๊า หรือไม่ก็ฮ่องกง แล้วเข้าทางฝังเวียดนาม แต่การเข้าทางฝั่งเวียดนามก็มิใช่เข้าได้โดยสะดวก เพราะต้องมีค่าใช้จ่ายสำหรับค่าผ่านทางเข้าในเวียดนาม ค่าสำหรับคนที่จะมาดูแลและคุ้มครอง โชคดีที่มีกลุ่มชาวจีนโพ้นทะเลรักชาติในเวียดนามเข้ามาช่วยเหลือ เมื่อถึงยูนานแล้วก็ต้องต่อรถไฟ หลังจากต่อได้ระยะหนึ่ง ก็ต่อด้วยม้า ลา หรือล่อ

ลำบากยากแค้นเท่าไรก็ทำเพื่อให้การศึกษามีสืบไปไม่หยุดหย่อน

แม้ประเทศชาติจะถูกเผาด้วยเพลิงสงครามก็ตาม

ภาพประตูของมหาวิทยาลัยจงซาน


บันทึกการเข้า
han_bing
นิลพัท
*******
ตอบ: 1622



ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 06 ธ.ค. 13, 21:21

มีเพียงช่วงปฏิวัติวัฒนธรรมของจีนเท่านั้นที่มหาวิทยาลัยจีนถูกสั่งปิดโดยไร้สาเหตุ

ช่วงที่ประวัติศาสตร์จีนถือว่าเป็นยุค "หายนะทางวัฒนธรรม" (文化灾难)

ไม่รู้หรือยังว่าเมืองไทยใกล้ถึงยุคเช่นนั้นหรือยัง

คงมีแต่คนไทยเท่านั้นจะตอบได้

ภาพการประจานเหล่านักวิชาการ ข้าราชการ ปัญญาชนในยุคปฏิวัติวัฒนธรรม


บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.066 วินาที กับ 19 คำสั่ง