หน้าปกเป็นตอนนางอรุณวดียั่วยวนทำลายตบะฤาษีกไลโกฏ
เมื่อนั้น พระกไลโกฎฤๅษี
ไม่เคยเห็นรูปสตรี มีความสงสัยก็พิศดู
เห็นเขาติดอกครัดเคร่ง ดั่งปทุมตูมเต่งทั้งคู่
สัตว์นี้เป็นไฉนจึ่งไม่รู้ จะเป็นหมู่เดียรฉานนามใด
ตริแล้วจึงกล่าววาที เอ็งนี้เป็นสัตว์จำพวกไหน
จึ่งมีเขาที่อกกูหลากใจ ไม่เคยพบเห็นแต่ก่อนมา ฯ
เมื่อนั้น นางอรุณวดีเสน่หา
ได้ฟังจึ่งตอบพระสิทธา เขาข้านี้น่าอัศจรรย์
ไม่งอกในเศียรเหมือนฝูงสัตว์ มาพลัดขึ้นที่อกเหมือนแกล้งปั้น
เต่งตั้งดั่งดวงบุษบัน อ่อนละม้ายคล้ายกันกับสำลี
พระองค์ผู้ทรงตบะญาณ ขอประทานโปรดเกล้าเกศี
พิเคราะห์ดูให้รู้ว่าร้ายดี ข้าเป็นดังนี้ด้วยอันใด
ว่าพลางทางเข้าปรนนิบัติ สัมผัสทำนวดฟั้นให้
ด้วยกลมารยาพิราใน แกล้งยั่วยวนใจพระมุนี ฯ
เมื่อนั้น พระกไลโกฎฤๅษี
ไม่รู้ในกลสตรี ลืมที่คำสั่งพระบิดร
เข้าประคองต้องเต้าสุมณฑา กายาแนบเนื้อดวงสมร
ให้เกิดประดิพัทธ์อาวรณ์ ถึงไม่มีผู้สอนก็เป็นไป
เชยแก้มแนมเนตรเกศวรรณ เกษมสันต์ในความพิสมัย
ภุมรินบินเคล้าสุมาลัย แทรกไซ้เกสรปทุมมาลย์
เชยซาบอาบสร้อยเสาวรส สุบงกชคลี่กลีบหอมหวาน
ร่วมภิรมย์สมสุขสำราญ ในสถานศาลาอารญ ฯ
ก็เสียตบะกิจพิธีกรรม์ พลาหกครื้นครั่นคะนองฝน
ฟ้าเปรี้ยงเสียงสนั่นอึงอล ตกจนนองพื้นพสุธา ฯ