มาดูการสำรวจสำมะโนครัว พ.ศ. ๒๔๒๖ กันสักหน่อย ระบุว่า
หม่อมเจ้าเอนก อยู่วังกรมขุนวรจักร
หม่อมเจ้าดำรงค์ "
หม่อมเจ้าสอาด "
หม่อมเจ้าเสพยบัณฑิต "
หม่อมเจ้ากรรมสิทธิ์ "
หม่อมเจ้าประพฤษดี "
หม่อมเจ้าอาจ อยู่บ้านเจ้าคันทรง
หม่อมเจ้าจำรูญ อยู่วังบูรพา
หม่อมเจ้าสฤดิ อยู่พระราชวังเดิม
หม่อมเจ้าสดับดี อยู่วังกรมขุนบดินทรไพศาลโสภณ
หม่อมเจ้าทินวุธ อยู่วังพระองค์เจ้าจิตรเจริญ
หม่อมเจ้าอัทธยา อยู่ริมวัดมหรรณ
ท่านชายเหล่านี้อยู่ในราชสกุลปราโมช เป็นพระโอรสกรมขุนวรจักรฯทั้งหมด
ส่วนใหญ่เป็นท่านลุงของม.ร.ว.คึกฤทธิ์ มีเพียงม.จ.ประพฤติ ม.จ. อาจ ม.จ.สดับดี เท่านั้นเป็นท่านอา นอกนั้นเป็นพี่ชายคนละแม่กับพระองค์เจ้าคำรบ
ม.ร.ว.คึกฤทธิ์เห็นทีจะไม่รู้จักท่านลุงท่านอาเหล่านี้ จึงเอ่ยไว้รวมๆว่า เสด็จปู่ของท่านมีพระโอรสธิดาอีกหลายองค์เกิดจากหม่อมอื่นๆ และท่านมีท่านอาคนเดียวชื่อม.จ.เล็ก ความจริงม.ร.ว.คึกฤทธิ์มีท่านอา 13 องค์
หม่อมเจ้าหลายองค์ยังอาศัยอยู่ในวังวรจักรเมื่อพ.ศ. 2426 ย้อนหลังไป 4 ปีเมื่อพ.ศ. 2422 เกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่าริบราชบาตร เหตุไฉนเด็กน้อยอย่างพระองค์เจ้าคำรบจึงถูกทิ้งให้ร้องไห้อยู่คนเดียวในเรือนหม่อมแม่ตั้งแต่กลางคืนจนยันเพล เจ้าพี่ทั้งหลายที่มีตำหนักอยู่ใกล้ๆ ไม่ได้ยินเสียงบ้างหรือไร
การสำรวจสำมะโนครัว แสดงว่าในปี 2426 สี่ปีต่อมาหลังเกิดเหตุ เจ้านายในวังวรจักรยังอยู่ในวังในตำหนักของท่านกันเป็นปกติ ไม่ได้ถูกริบราชบาตรแต่อย่างใด แม้แต่หม่อมย่าเมื่อพ้นโทษจากในวังหลวงก็กลับมาที่อยู่อาศัยของท่านตามเดิม บ้านไม่ได้ถูกริบเข้าหลวง
คงเป็นคำตอบให้คุณหนุ่มสยามได้แล้วมั้งคะ ว่าริบราชบาตรนั้น จริงๆแล้วไม่ใช่ริบราชบาตร เป็นอะไรอีกอย่างหนึ่งที่คุณนวรัตนจะต้องมาอธิบายต่อไป