เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 360 เมื่อ 02 มี.ค. 14, 12:50
|
|
ย่างกุ้งกับหงสาวดีมีสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาคู่กันอยู่ ย่างกุ้งมีพระมหาเจดีย์ชเวดากอง หงสาวดีก็มีพระมหาเจดีย์ชเวดอมอ ย่างกุ้งมี "พระตาหวาน" พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี ที่ย่างกุ้ง ประเทศพม่า คนไทยเรียกกันว่า "พระตาหวาน"  หงสาวดีก็มี พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว (Shwethalyaung) คนไทยเรียกกันว่า "พระยิ้มหวาน" 
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 361 เมื่อ 02 มี.ค. 14, 13:01
|
|
ตามประวัติกล่าวว่าพระพุทธไสยาสน์นี้ สร้างโดยพระเจ้าเมงกะติปะ กษัตริย์มอญ เมื่อ พ.ศ.๑๕๓๗ (ค.ศ. ๙๙๔) หรือในสมัยอาณาจักรสุธรรมวดี ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๑-๑๖ พระนอนองค์นี้ยาว ๕๕ เมตร นับว่ายาวเป็นอันดับ ๒ รองจากพรtตาหวานที่ย่างกุ้งซึ่งยาว ๗๐ เมตร พระนอนชเวตาเลียวถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานาน และได้มีการค้นพบเมื่อครั้งที่อังกฤษเดินทางมาสำรวจเส้นทางรถไฟในพม่าเมื่อราว ๑๐๐ ปีก่อน จากนั้นจึงได้บูรณะจนใหญ่โตสวยงาม
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Neepata
อสุรผัด

ตอบ: 24
|
ความคิดเห็นที่ 362 เมื่อ 07 มี.ค. 14, 01:32
|
|
เข้ามากระทุ้งให้ค่ะ หนุกหนานมากเลย หนูยังไม่เคยไปพม่าแต่อยากไปมากเลยค่ะเพราะเห็นในทีวีแล้วสวยงามแต่ดูการเดินทางไปแต่ละเมืองมันลำบากพอสมควร เรื่องของกินก็คงไม่ถูกปากเท่าไหร่ ขอเที่ยวในนี้ก่อนละกันนะคะ ขอรูปและรายละเอียดเมืองพุกาม ,มัณฑาเลย์ และรัฐฉานด้วยได้ไหมคะ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 363 เมื่อ 08 มี.ค. 14, 10:22
|
|
เชิญคุณเทาชมพู คุณตูก้า คุณเซ่ง และชาวเรือนไทยทุกท่านผู้เคยไปเยือนเมืองพม่า มารับไม้ในกระทู้นี้ต่อไป 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 365 เมื่อ 04 ม.ค. 15, 07:55
|
|
ขณะนี้ที่สนามหลวง กำลังมี "เทพทันใจ" อาคันตุกะตนสำคัญจากพม่ามาเยือน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 366 เมื่อ 04 ม.ค. 15, 07:59
|
|
ทุกวัดในพม่านอกจากจะมีพระพุทธรูปแล้ว ยังมี "ผี" อีกด้วย ในภาษาพม่าเรียกผีนี้ว่า "นัต"
นัต มาจากภาษาบาลีว่า "นาถ" ที่แปลว่า "ผู้เป็นที่พึ่ง" นัตเป็นผีบรรพบุรุษ ลักษณะกึ่งผีกึ่งเทวดา คล้ายเทพารักษ์ คอยดูแลคุ้มครองสถานที่ที่ตนเมื่อครั้งยังมีชีวิตมีความสัมพันธ์อยู่ เป็นความเชื่อพื้นเมืองที่มีมาก่อนที่พุทธศาสนาจะเข้ามาในพม่า
เทพทันใจก็เป็นนัตตนหนึ่ง มีชื่อในภาษาพม่าว่า "โบโบยี" มีหน้าที่ดูแลเจดีย์และวัดวาอาราม ที่เจดีย์ชเวดากองก็มีนัตโบโบยีนี้อยู่ นัตโบโบยีที่โบตะทาวนี้มีลักษณะพิเศษตรงที่อยู่ในท่ากำลังชี้ ตามตำนานกล่าวว่าโบโบยีตนนี้เป็นผู้ชี้ทางให้เรืออัญเชิญพระเกศธาตุมาขึ้นฝั่งที่เมืองตะเกิงนี้
นักท่องเที่ยวไทยเชื่อเป็นนักเป็นหนาว่าโบโบยีที่โบดาทาวนี้ศักดิ์สิทธิ์มาก ขอพรอันใดก็จะสมหวัง เรื่องนี้ได้ถามคนพม่าที่รู้จักกันถึงโบโบยี กลับไม่ทราบถึงเรื่องความศักดิ์สิทธิ์นี้ แต่เล่าถึงเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อนันอู พระพุทธรูปที่อยู่ในวัดเดียวกัน
รู้สึกแปลก ๆ เหมือนกันที่คนไทยส่วนมามาที่วัดนี้แล้วเลี้ยวซ้ายไปหาผีโบโบยีก่อน แล้วค่อยไปไหว้หลวงพ่อนันอูที่อยู่อีกฟากหนึ่ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 367 เมื่อ 04 ม.ค. 15, 08:03
|
|
ทำไมจึงนำผีพม่ามาให้คนคนกราบไว้ถึงกลางพระนคร..ผู้ใหญ่แต่โบราณท่านถือและระมัดระวังยิ่งในเรื่องอย่างนี้ ด้วยคำนึงถึงสิริของบ้านเมืองเป็นข้อใหญ่ ถ้าจะกราบไหว้นับถือกันเป็นส่วนตัวก็ไม่เป็นไรและไม่ว่าอะไรล่ะครับ แต่การนำมาตั้งแต่งไว้กลางพระนคร กลางท้องสนามหลวงสำหรับชาวเมืองกราบไหว้อย่างนี้ เป็นเรื่องแปลกและเกินความเข้าใจของผมครับ
ศ.ธงทอง จันทรางศุ
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33424
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 368 เมื่อ 04 ม.ค. 15, 09:20
|
|
สะกิดใจเรื่องนี้ตั้งแต่เห็นใน FB ของ Nha Chandransu (ก็ศ. ธงทอง จันทรางศุ น่ะแหละค่ะ) 13 ชม. · Amphoe Bang Khen · มีผู้ส่งภาพนี้มาให้ดูพร้อมแจ้งว่าเหตุเกิดที่กลางท้องสนามหลวง ใจกลางพระมหานคร ปะรำนี้ก็เคยเปนที่ประดิษฐานพระพุทธนวราชบพิตรเมื่อวันเถลิงศกและบัดนี้ได้อัญเชิญกลับไปประดิษฐานที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานครดุจเดิมแล้ว ปะรำนั้นว่างอยู่จึงมีผู้จัดการงานคิดอ่านนำ'เทพทันใจ'มาตั้งแต่งไว้ให้ผู้คนสักการะตามความเลื่อมใส ก็เทพทันใจนี้เปนผีที่ชาวพม่านับถือยกย่องตามคติความเชื่อของเขา หาใช่เทพดาคู่บ้านเมืองเรามาแต่เดิมไม่ จริงอยู่ว่าแม้ทุกวันนี้จะมีชาวพม่าจำนวนมากเข้ามาทำงานในบ้านเรา หรือเรียกอย่างแต่ก่อนว่ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ชาวพม่าเหล่านั้นจะประพฤติปฏิบัติตามประเพณีนิยมของเขาเช่นไร หากไม่เปนการผิดต่อพระราชกำหนดกฎหมายก็มิใช่เหตุที่จะห้ามปรามกีดกัน แต่ถึงขนาดที่จะนำรูปผีที่เคารพของเขาขึ้นประดิษฐานที่ในใจกลางพระนครนั้น เปนเรื่องที่พึงตรึกตรองให้จงหนัก ว่าเหมาะและงามแก่ประเพณีเมืองกับทั้งเปนสิริกับพระนครหรือไม่อย่างไร ผมนั้นเปนคนเก่าเอาการ เมื่อมีผู้ส่งรูปและแจ้งความดังกล่าวมาให้ทราบก็ให้รู้สึกหนักใจ ขออนุญาตใช้ช่องทางนี้สื่อสารความกังวลห่วงใย กับทั้งขอให้ผู้มีอำนาจหน้าที่เช่นกรุงเทพมหานครสอบสวนทวนความให้ได้ความจริงความเท็จ หากไม่เปนความจริง ผมก็จะได้ถอนใจโล่ง แต่หากว่าเปนความจริงแท้ ก็ขอได้โปรดพิจารณาความเหมาะสมด้วย จะเปนพระคุณยิ่งแต่คิดในทางดีว่าคงมีผู้มาชี้แจงว่าเป็นการเข้าใจผิดกัน รอจนวันนี้ก็ยังไม่เห็นมีใครตอบ พอดีมาเจอที่คุณเพ็ญชมพูโพสในกระทู้ เลยไปยกมาเสริมอีกที https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10203477029918967&set=a.2126218447597.2107367.1609996469&type=1&theater
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 369 เมื่อ 04 ม.ค. 15, 09:32
|
|
อ่านความเห็นต้นฉบับ ควรเป็นอย่างนี้  ทำไมจึงนำผีพม่ามาให้คนคนกราบไว้ถึงกลางพระนคร..ผู้ใหญ่แต่โบราณท่านถือและระมัดระวังยิ่งในเรื่องอย่างนี้ ด้วยคำนึงถึงสิริของบ้านเมืองเป็นข้อใหญ่ ถ้าจะกราบไหว้นับถือกันเป็นส่วนตัวก็ไม่เป็นไรและไม่ว่าอะไรล่ะครับ แต่การนำมาตั้งแต่งไว้กลางพระนคร กลางท้องสนามหลวงสำหรับชาวเมืองกราบไหว้อย่างนี้ เป็นเรื่องแปลกและเกินความเข้าใจของผมครับ
ปิยะ มีอนันต์ Cr : ศ.ธงทอง จันทรางศุ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 370 เมื่อ 04 ม.ค. 15, 10:49
|
|
ต้นเรื่องน่าจะเป็น "ไสยพาณิชย์" นั่นแล 
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
hobo
|
ความคิดเห็นที่ 372 เมื่อ 04 ม.ค. 15, 12:26
|
|
เราจะยกเลิก AEC ได้ไหมครับ อยากให้มีการจำกัดจำนวนคน เดี๋ยวนี้ไปที่ไหมก็มีแต่ต่างด้าว ต่อไปจะเป็นปัญหาสังคมอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ท่านนายกจะทำได้ไหมครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33424
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 373 เมื่อ 04 ม.ค. 15, 13:18
|
|
นโยบายของรัฐ ตรงกันข้ามกับความประสงค์ของคุณ hobo ค่ะ เสียใจด้วย เราคงจะต้องหาทางแก้ปัญหากันเอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 374 เมื่อ 04 ม.ค. 15, 13:42
|
|
ส่งคำถามของคุณโฮโบไปกระทู้โน้นแล้ว คงมีคำตอบที่น่าสนใจจากคุณตั้ง ก้าวย่างในยุค AEC
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|