เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 22
  พิมพ์  
อ่าน: 90345 หม่อมเจ้าฉวีวาด ปราโมช
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 60  เมื่อ 15 ต.ค. 13, 11:23

จากรายงานของสมเด็จกรมพระยาดำรงฯที่คุณหนุ่มสยามยกมานี้   ขอตีความว่าเรื่องที่มจ.หญิงฉวีวาดหนีไปเขมร  เป็นเรื่องส่วนตัวของท่านหญิง  มิได้เป็นเรื่องการเมือง   และมิได้เป็นเรื่องหนีราชภัย
ถ้าเป็นความจริง  ตามที่สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ทรงรายงานไว้   เรื่องที่ทรงรายงานต่อเจ้าฟ้ากรมหลวงลพบุรีราเมศร์ก็ให้คำตอบต่อข้อสงสัยของดิฉันในกระทู้กรมหมื่นสถิตย์  ว่าทำไมการหลบลี้วิกฤตของกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญกับการหนีของท่านหญิงฉวีวาดจึงแตกต่างกันมาก

การลี้ภัยการเมืองของกรมพระราชวังบวรฯ กับหม่อมเจ้าหญิงฉวีวาด แตกต่างกันเห็นชัด
กรมพระราชวังบวรฯ ท่านทรงลี้ภัยแบบฉุกละหุกมาก     เหมือนทรงรู้นาทีไหน ก็หนีกันเดี๋ยวนั้นเลย   ข้าราชบริพารที่ตามเสด็จก็คือคนที่เข้าเฝ้าอยู่ในคืนนั้น       จึงเป็นคำตอบว่าทำไมไม่มีขุนนางระดับบิ๊กเวียงวังคลังนาของวังหน้ารวมอยู่ด้วยเลยสักคน    เจ้าพระยาและพระยาเหล่านั้นกว่าจะรู้ก็คงวันรุ่งขึ้น    เจ้านายเสด็จเข้าสถานทูตไปเสียแล้ว

ส่วนกรณีหม่อมเจ้าหญิงฉวีวาด    ม.ร.ว. คึกฤทธิ์เล่าว่า

"เมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้ว  รุ่งขึ้นอีกวันหนึ่งท่านป้าฉวีวาดก็ว่าจ้างเรือสำเภาหนึ่งลำ ขนทรัพย์สมบัติลงเรือ   แล้วนำละครของเจ้าจอมมารดาอำภาซึ่งตกมาถึงท่านนั้นลงเรือทั้งโรง พร้อมทั้งเครื่องละครและดนตรีปี่พาทย์รวมเป็นคนหลายสิบคน     ท่านลงเรือที่แม่น้ำใกล้ๆวังหน้าตอนใกล้ค่ำ แล่นเรือไปทั้งคืน     พอเช้ามืดก็ออกปากน้ำ     ท่านเหลียวไปดูทางท้ายเรือ  เห็นเรือกลไฟจักรข้างของหลวงแล่นตามมาลำหนึ่ง   แสดงว่าทางกรุงเทพฯ รู้แล้วว่าท่านจะหนี  จึงส่งเรือหลวงออกมาตามจับตัว     เรือหลวงคงจะออกตอนดึกจึงมาทันที่ปากน้ำ  
ท่านเล่าว่าท่านยกมือนมัสการพระสมุทรเจดีย์แล้วอธิษฐานว่า  หากบุญญาบารมีท่านยังมีอยู่แล้ว  ขอให้เรือสำเภาใช้ใบของท่่านออกทะเลหลวงไปให้ได้ตลอดรอดฝั่ง      ท่านบอกว่าพอท่านอธิษฐานเสร็จ   เรือหลวงที่แล่นตามไปนั้นก็จักรหักลงพอดี   ต้องทอดสมออยู่กลางน้ำ   เรือของท่านก็ใช้ใบไปจนถึงเมืองเขมร"


ดูตามรูปการณ์   หม่อมเจ้าหญิงฉวีวาดน่าจะเตรียมแผนในการออกทะเลมาล่วงหน้าแล้ว    ถ้าท่านไม่รู้ล่วงหน้ามาก่อน  มีเวลากะทันหันไม่ถึง ๒๔ ช.ม. จะหาเรือสำเภาขนาดใหญ่  ออกทะเลได้ ที่ยังทอดสมอว่างอยู่เฉยๆ มาจากไหน     เรือสำเภาไม่ใช่แท็กซี่ว่าง จะได้เรียกได้ง่ายจากข้างถนน    
แล้วยังต้องเรียกชุมนุมนางละครกับนักดนตรีหลายสิบคนจากบ้านช่อง ให้ทิ้งพ่อแม่ลูกเมียลงเรือไปทันทีทันเวลา  ไม่มีใครขัดขืนเลยสักคน  พรึ่บเดียวลงเรือไปหมด    เสบียงกรังก็มีพร้อมในเรือ  
มันน่าจะบอกถึงการเตรียมล่วงหน้ามาเป็นเดือนแล้ว   อีกอย่างอาจจะมีการสื่อสารกันกับพระเจ้าแผ่นดินเขมรล่วงหน้าแล้ว    ถึงไปอย่างมั่นใจว่าทางโน้นต้อนรับแน่   และรู้ด้วยว่าจะต้องเอาอะไรหรือใครไปบ้างจึงจะเป็นที่ต้อนรับ  อาจจะเป็นออเดอร์จากทางโน้นเสียด้วยซ้ำไป

ในเมื่อเป็นกันคนละอย่างแบบนี้ ก็น่าจะเห็นได้ว่า ไม่ได้สมรู้ร่วมคิดกัน     ส่วนท่านหญิงฉวีวาดคิดการใหญ่ด้วยตัวเองหรือรู้เห็นเฉยๆ  หรือว่าเป็นแผนประจวบเหมาะ   ก็ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม
ขอเสนอคำตอบขั้นต้น ว่า ทั้งกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญและม.จ.ฉวีวาด ไม่ได้รู้เรื่องกัน      แต่เป็นเหตุการณ์ประจวบเหมาะเท่านั้น     ม.จ.ฉวีวาดท่านเตรียมตัวหนีไปเขมรโดยไม่ขอพระบรมราชานุญาต (ข้อนี้สามารถสันนิษฐานได้เพิ่ม)  จึงวางแผนล่วงหน้าเตรียมเรือ เตรียมการเดินทางไว้แล้ว    ผิดกับกรมพระราชวังบวรฯที่ไม่ทรงทราบอะไรล่วงหน้าเลย   เกิดเหตุฉุกละหุกก็หนีแบบไม่มีอะไรติดไม้ติดมือ  ทันแต่พาแม่พาน้องสององค์ไปหลบภัยด้วยเท่านั้น

ดังนั้นเราพอจะพูดต่อได้ไหมว่า ท่านหญิงฉวีวาดหลบจากสยามออกไปอยู่เขมรด้วยเรื่องส่วนพระองค์ ไม่ใช่เรื่องการเมือง   ข้อนี้เจ้านายสำคัญของสยามเช่นสมเด็จกรมพระยาดำรงฯก็ทรงทราบดี    แต่เป็นเรื่องที่ไม่ควรป่าวประกาศหรือแม้แต่จะเผยแพร่ให้รู้กันมากคน   เจ้านายฝ่ายไทยก็ทรงเงียบเสียเท่านั้น
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 61  เมื่อ 15 ต.ค. 13, 11:44

ยังพูดไม่ออกบอกไม่ถูก แต่ขอแถมข้อมูลท่านหญิงปุกให้ก่อน
จากหนังสือราชสกุลจักรีวงศ์ โดยคุณธำรงศักดิ์ อายุวัฒนะ

ตอนที่ท่านหญิงปุกทรงพบกับสมเด็จกรมพระยาดำรงนั้น เทียบพระชนษาแล้ว ในปีที่ท่านหญิงฉวีวาดเสด็จหนีมาเขมรนั้น ท่านหญิงปุกทรงมีอายุ๒๖ นับว่ายังเด็กมากถ้าจะตัดสินใจหนีพ่อแม่พี่น้องไปตายดาบหน้าที่เขมร

เป็นไปได้ที่ท่านจะเสด็จไปเขมรในช่วงอายุขนาดนั้น แต่คงจะไปกับผู้ใหญ่อย่างมีเป้าหมาย เช่น อาจจะมีการสู่ขอหรือทาบทามกันมาก่อน


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 62  เมื่อ 15 ต.ค. 13, 12:20

เรื่องของท่านหญิงปุก ทำให้มึนเฮดขึ้นเป็นลำดับ
๑   ถ้าท่านหญิงหนีออกไปพร้อมกับมจ.ฉวีวาด ในพ.ศ. 2417    ท่านก็ไม่มีโอกาสจะเป็นพระพี่เลี้ยงในพระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัส กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ ซึ่งประสูติในพ.ศ. 2419    
๒  ม.ร.ว.คึกฤทธิ์บันทึกไว้ใน "โครงกระดูกในตู้" ว่าเสด็จในกรมทรงเล่าให้ท่านฟังเอง   ว่ามีพระพี่เลี้ยงชื่อหม่อมเจ้าหญิงปุก ซึ่งออกไปอยู่พนมเปญ
๓  ตอนแรก ดิฉันคิดว่าข้อ ๑ ถูกต้อง    ข้อ ๒ ผิด    แต่ตอนนี้ชักสงสัยแล้วว่า ข้อ ๒ อาจจะถูก  ข้อ ๑ ต่างหากผิด
๔  ถ้าข้อ ๒ ถูก  หม่อมเจ้าหญิงปุกก็ไม่ได้หนีไปกับท่านหญิงฉวีวาด     แต่อยู่ในสยามต่อมาอีกหลายปี  เลี้ยงกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์จนโตจำความได้  ถึงได้ออกไปเขมร ไปเป็นฝ่ายในของพระเจ้าแผ่นดินเขมร
     ในเมื่อไปอย่างถูกต้อง ไม่ได้หนี  มีการกราบถวายบังคมลา และมีพระบรมราชานุญาตไปเป็นเจ้านายฝ่ายในทางโน้น  ซึ่งไปอย่างสมเกียรติ   สมเด็จพระนโรดมจึงตั้งท่านเป็นพระองค์เจ้าอัครนารี   พวกอิศรศักดิ์จึงไม่ต้องถูกริบราชบาตรแต่อย่างใด  ทำให้ไม่เคยมีประวัติของราชสกุลบันทึกเรื่องริบราชบาตรเอาไว้

    ถ้าเป็นอย่างนั้น เราก็รู้เพิ่มอีกข้อนอกเหนือจากท่านหญิงฉวีวาดหนีไปเขมรเพราะเหตุผลส่วนตัว  ไม่ใช่ลี้ภัยการเมือง    ว่าท่านหญิงปุกที่ว่าหนีไปด้วยกัน  ไม่ใช่อย่างที่เข้าใจ   ท่านไปกันคนละคราว คนละเหตุผลคนละเรื่องกันเลยทีเดียว
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 63  เมื่อ 15 ต.ค. 13, 12:45

ไหนๆก็ไหนๆ   เมื่อสงสัยมาหลายเรื่องแล้ว  ขอสงสัยอีกสักเรื่องจะเป็นไรไป

ในเรื่อง "โครงกระดูกในตู้" บอกว่าม.จ.ฉวีวาดทรงขนละครผู้หญิงของเจ้าจอมมารดาอำภาซึ่งเป็นย่าของท่านลงเรือไปเขมรด้วย  ทำให้ท่านได้รับการต้อนรับจากพระเจ้าแผ่นดินเขมรอย่างดี   จากนั้นก็เชื่อกันว่าละครผู้หญิงของเจ้าจอมมารดาอำภานี่แหละไปเป็นครูนาฏศิลป์ในราชสำนักเขมร  โดยท่านหญิงฉวีวาดทรงพาไป

แต่คุณ NAVARAT.C แสดงความสะดุดใจว่า ในประวัติละครของเขมร  เอ่ยถึงครูละครไว้หลายท่าน แต่ไม่ยักมีชื่อท่านหญิงฉวีวาด
ปริศนาข้อนี้ก็ยังค้างคาอยู่ในกระทู้เก่า  ไม่มีใครตอบได้

มาบัดนี้เพื่อหลักฐานเรื่องพระองค์เจ้าพานดูรีหรือพานคุลี แดงโร่ขึ้นมาในกระทู้   ทำให้เหมือนตัวโดมิโน่ คือพอตัวหนึ่งล้ม อีกตัวก็ล้มตามๆกันไป    ทำให้ดิฉันชักสงสัยว่าตัวโดมิโนที่ว่าด้วยละครเจ้าจอมมารดาอำภาอาจจะล้มตามไปอีกตัวก็ได้
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 64  เมื่อ 15 ต.ค. 13, 12:48

ต่อไปนี้เป็นข้อสงสัยเฉยๆ เป็นคำถาม ไม่ได้เป็นคำตอบนะคะ

ดิฉันยังหาในเน็ตไม่พบว่าเจ้าจอมมารดาอำภาถึงแก่กรรมเมื่อใด    แต่ในพ.ศ. 2417 ปีวิกฤตวังหน้า เป็นปีซึ่งห่างจากปีสุดท้ายในรัชกาลที่ 3 มา 23 ปี   นางละครรุ่นสุดท้ายที่เจ้าจอมมารดาอำภาได้ฝึกหัดเองในรัชกาลที่ 3   คงแก่กันเป็นย่าเป็นยายกันไปหมดแล้ว
ใน" โครงกระดูกในตู้" กล่าวว่านางละครของเจ้าจอมอำภาไปเป็นครูละครโรงอื่นกันตั้งแต่รัชกาลที่ 3   ดิฉันก็สันนิษฐานได้ว่าละครโรงเจ้าจอมอำภาอาจจะเลิกกันไปแล้วในรัชกาลที่ 3 เมื่อเจ้าของสิ้นชีพ   ไม่มีโต้โผอีกต่อไป    ตัวแสดงถึงแยกย้ายกันไป  
ในสมัยรัชกาลที่ 5   ถ้านายยังอยู่   บ่าวจะไม่ทิ้งไปหานายใหม่ คนเปลี่ยนนายเรียกว่าคนโจทเจ้า  ไม่มีใครยอมรับนับถือ
ถ้าหากว่าเหลือติดวังวรจักรก็คงมีนางละครเล็กๆรุ่นหลานเหลน เหลืออยู่ไม่กี่ตัว   เพราะวังวรจักรในต้นรัชกาลที่ 5  ไม่ปรากฏว่าขึ้นชื่อทางนี้      ถ้ามีอยู่ครบครันเหมือนสมัยเจ้าจอมมารดาอำภาท่านฝึกหัดขึ้นมา   ก็น่าจะไปทำชื่อเสียงให้ราชสำนักเขมรได้มาก   ในประวัติการละครของเขมรน่าจะบันทึกไว้
 
จึงมองเห็นทางเป็นไปได้ 3 ทาง
๑  ท่านหญิงฉวีวาดไม่มีละครผู้หญิงติดตามไปด้วยเลย   เป็นความผิดพลาดไม่ว่าจะเกิดจากผู้เล่าหรือผู้บันทึกเรื่องราวก็ตาม
หรือ
๒  เป็นละครอาชีพเจ้าอื่น ถูกว่าจ้างไปราชสำนักกัมพูชาในคราวเดียวกัน      โดยสารเรือไปพร้อมกัน
หรือ
๓  เป็นนางละครเล็กๆไม่กี่คน  หลงเหลืออยู่จากชุดใหญ่ที่แยกย้ายกันไปหมดแล้ว  ท่านหญิงตั้งใจจะไปลงหลักปักฐานในเขมรก็เลยเอาพวกนี้ไปด้วย เป็นบริวาร  และมีฝีมือทางรำอยู่บ้าง อย่างน้อยก็สามารถหารายได้ที่โน่นได้    
พวกนี้คงอยู่กับท่านหญิงในฐานะบ่าวกับนาย   ไม่ได้เข้าราชสำนัก จึงไม่ได้ปรากฏชื่อว่าเป็นครูละครของราชสำนักเขมร
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 65  เมื่อ 15 ต.ค. 13, 13:21

โครงกระดูกในตู้ทำท่าว่าจะมีซากอสุภะที่ยังเน่าไม่หมดเป็นของแถม

มีเรื่องน่าคิดข้อเบ่อเริ่มอีกประการหนึ่ง
 
ถ้าท่านหญิงฉวีวาดไม่ได้หนีราชภัย เพราะไม่เคยไปคบคิดกับนายน๊อกซ์ให้วินาศกรรมโรงบ่มแกสของวังหลวง เพื่อเปิดทางให้ทหารวังหน้าบุกเข้าจู่โจมโดยอ้างว่าจะไปช่วยดับไฟ โดยมีกรมพระราชวังบวรอยู่เบื้องหลังแล้ว…ท่านหญิงฉวีวาดเสด็จไปเสเพลที่เขมรทำไม โดยมีท่าทีว่ามิได้ไปอย่างฟอร์มใหญ่ดังราคาคุยเสียแล้วด้วย

คุณหนุ่มสยาม ช่วยเปิดดูใบเสร็จตัวจริงหน่อยได้หรือไม่ มีอะไรที่จะชำระคราบประวัติศาสตร์ตรงนี้ได้อีกบ้างไหม ได้โปรดเถิด
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 66  เมื่อ 15 ต.ค. 13, 13:41

เกาะขอบเวที รอคำเฉลยจากคุณหนุ่มสยามค่ะ

รีบๆเปิดม่านหน่อย  แฟนเข้ามากันเต็มวิกแล้วนะเออ
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 67  เมื่อ 15 ต.ค. 13, 13:56

โครงกระดูกในตู้ทำท่าว่าจะมีซากอสุภะที่ยังเน่าไม่หมดเป็นของแถม

มีเรื่องน่าคิดข้อเบ่อเริ่มอีกประการหนึ่ง
 
ถ้าท่านหญิงฉวีวาดไม่ได้หนีราชภัย เพราะไม่เคยไปคบคิดกับนายน๊อกซ์ให้วินาศกรรมโรงบ่มแกสของวังหลวง เพื่อเปิดทางให้ทหารวังหน้าบุกเข้าจู่โจมโดยอ้างว่าจะไปช่วยดับไฟ โดยมีกรมพระราชวังบวรอยู่เบื้องหลังแล้ว…ท่านหญิงฉวีวาดเสด็จไปเสเพลที่เขมรทำไม โดยมีท่าทีว่ามิได้ไปอย่างฟอร์มใหญ่ดังราคาคุยเสียแล้วด้วย

คุณหนุ่มสยาม ช่วยเปิดดูใบเสร็จตัวจริงหน่อยได้หรือไม่ มีอะไรที่จะชำระคราบประวัติศาสตร์ตรงนี้ได้อีกบ้างไหม ได้โปรดเถิด


ฮึ่มมมมม...อืมมมม์  น่าคิด  กับคำว่า เสเพล

ในรายงานที่สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ทรงมีถึงเสนาบดีมหาดไทย คือ สมเด็จพระเจ้าพี่ยาเธอเจ้าฟ้ากรมหลวงลพบุรีราเมศร

กล่าวว่า "พอจะได้ยินชื่อหม่อมฉวีวาด บ้าง รุ่นสาวได้แต่งงานกับกรมหมื่นวรวัตรสุภาพร แล้วประพฤติตัวเสเพลหนีออกไปเขมร แล้วไปมีผัวอีก ปลายตกเป็นอนาถา
เจ้าปุกในเจ้าฟ้าอิศราพงศ์ ออกไปได้เป็นพระองค์อัครนารี ออกช่วยเงินส่งกลับเข้ามายังกรุงเทพ"

๑. เจ้าปุก ได้รับการตกแต่งเป็นอัครนารี อย่างสมพระเกียรติ ไม่ใช่หนีตามกันไป
๒. "ประพฤติตัวเสเพลหนีออกไปเขมร" - ก็ไม่ได้เกริ่นอะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องหม้อหุงก๊าซระเบิดที่วังหลวง คำว่า "เสเพล" คืออะไรลองคิดพิจารณาดูกัน  ฮืม

วันนี้คุณเพ็ญชมพูหายไปไหนไม่รู้   เลยขอปาดหน้านำคำอธิบายของคำว่า "เสเพล" จากท่านรอยอิน  ราชบัณฑิตยสถานมาลงไว้ก่อน
เสเพล   [–เพฺล] ว. ชอบประพฤติเหลวไหล, ไม่เอางานเอาการ, เช่น คนเสเพล, มีความประพฤติเหลวแหลก ในคำว่า หญิงเสเพล.

ก็ในเนื้อความกล่าวไว้แล้วว่า ประพฤติเสเพล ประพฤติเหลวแหลก คงรักสนุกกระมังครับ
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 68  เมื่อ 15 ต.ค. 13, 14:00

เรื่องละครไทยไปเขมร นั้นมีอยู่ด้วยกันหลายครั้ง ไม่ใช่ว่าหม่อมฉวีวาดพาไปแล้วไปจะ บูม คิดว่าคงไม่ใช่แน่

เพราะในคราวก่อนหน้านั้นในสมัยไทยไปตีญวนในสงครามอันนัม ร.๓ เจ้าพระยาบดินทรเดชาก็ได้นำละครติดสอยไปรำที่เขมรด้วย และมีการสอนให้กับราชสำนักเขมร

บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 69  เมื่อ 15 ต.ค. 13, 14:11

ต่อครับต่อ
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 70  เมื่อ 15 ต.ค. 13, 14:15

ละคอนหลวงกัมพูชา (จากนิราศนครวัด)

ตั้งแรกสมเด็จกรมพระหริรักษ์ ได้ครูไทยมาจากเจ้าพระยาบดินทรเดชา หัดเล่นแต่ครั้งรัชกาลที่ ๓ แต่เล่นเป็นอย่างละคอนเจ้าต่างกรม

ต่อมาสมัยพระนโรดม ก็หาครูละคอนมาจากกรุงเทพ ได้ละครตัวดีของคุณเจ้าจอมมารดาเอม ละคอนพระองค์เจ้าดวงประภา ละคอนพระองค์เจ้าสิงหนาท

และละคอนโรงอื่น ๆ มาเป็นครูอีกหลายคน เล่นแบบละคอนหลวง

และนอกจากนี้ นายโรงปริงตัวอิเหนาของเจ้าคุณจอมมารดาเอม ในกรมพระราชวังบวรฯ ออกมาอยู่กัมพูชา ได้เป็นหม่อมสมเด็จพระนโรดม เปลี่ยนชื่อว่า "หม่อมเหลียง"
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 71  เมื่อ 15 ต.ค. 13, 14:26

อีกองค์หนึ่งคือ พระธิดาในพระศรีสวัสดิ์ ชื่อ พระองค์ผิว

พระองค์ผิว (พระศรีศวรศักดิ์) เกิดที่กรุงเทพฯ มีมารดาเป็นไทย ได้เป็นหม่อมหม่อมเจ้าขุนช้าง ในกรมหมื่นมเหศวรศิววิลาศ และมีลูกด้วยกันถึง ๔ คน

ซึ่งตายเสียแต่เยาว์ไป ๒ คน

ต่อมาพระศรีสวัสดิ์ได้ครองราชย์เป็นกษัตริย์กัมพูชาแล้ว ก็โปรดให้ไปรับพระองค์ผิว พร้อมบุตร ๒ คนกลับมายังกัมพูชา ซึ่งสมเด็จพระปิ่นดารา เป็นพระเจ้าลูกเธอ

ซึ่ง "กล่าวละคอนหลวง" ทั้งหมด แต่พูดไทยไม่ได้ ต้องใช้ล่าม


แต่การพบปะกันของ หม่อมเจ้าหญิงปุก กับ กรมพระยาดำรงนั้น ดูจะแปลก ๆ ไปคือ "พระองค์เจ้าอรรคนารี (หม่อมเจ้าหญิงปุก) บัดนี้อายุ ๗๖ ปี ทูลขอมาพบ แต่กิริยา

ดูพันทาง จะเป็นเขมรก็ไม่ใช่ ไทยก็ไม่เชิง ไม่ชวนสมาคมเหมือนเจ้านายพวกกรุงกัมพูชา  ฮืม
บันทึกการเข้า
นางมารน้อย
พาลี
****
ตอบ: 306


ทำงานแล้วค่ะ


ความคิดเห็นที่ 72  เมื่อ 15 ต.ค. 13, 14:49

มาตามอ่านต่อเจ้าค่ะ ลุ้นระทึกว่ามันยังไงกันแน่ หรือท่านฉวีวาดท่านจะแอบวางยาเอาไว้ แบบใส่สีตีไข่เวอร์ๆให้คนในนี้มาปวดหัวกันเล่นทีหลัง
บันทึกการเข้า

สวัสดีทุกๆท่านค่ะ
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 73  เมื่อ 15 ต.ค. 13, 15:12

"ประพฤติตัวเสเพลหนีออกไปเขมร"

เสเพลย์เกิร์ลท่านนี้คงไม่มีทางขนละครคนนับน้อยไปเขมรอย่างที่คุณหลานของท่านเล่า
คำถามคือท่านบ่ายหน้าไปเขมรทำไม
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 74  เมื่อ 15 ต.ค. 13, 16:57

แวะไปถามเชอร์ล็อคโฮล์มส์เรื่องนี้ค่ะ.    ว่าท่านหญิงหนีไปเขมรทำไม. ช่วยสืบหน่อย
นักสืบเอกตอบว่า.  เงื่อนปมอยู่ที่คำว่า. เสเพล.   ถ้าตีความได้ก็จะรู้ว่าทำไมท่านอยู่ในสยามไม่ได้
ไม่เกี่ยวกับการเมือง
ยังมึนงง. ต้องรอคุณหนุ่มมาเฉลย
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 22
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.113 วินาที กับ 20 คำสั่ง