พวงร้อย
|
ตั้งชื่อกระทู้ให้มันดูขลังๆไปยังงั้นแหละค่ะ เมื่อวานอากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน ตอนเช้าแดดไม่ยอมออก เลยนอนตื่นสายโด่ง แล้วรำพึงรำพันว่าอยากจะกินอะไรน้า อากาศแบบเนี้ยอยากกินโจ๊กหมูสับลูกเท่าปลายหัวแม่มือจังเลยค่ะ เลยมานั่งนึกๆดูว่า อาหารแบบ "โจ๊ก" เนี่ยะ ดูจะมีกันในทุกชาติทุกท้องที่ที่ไปมาเลยค่ะ ถ้าคิดว่าเราเอาเมล็ดธัญญพืชมาต้มนำ้เละๆนี่เป็นโจ๊กกันละก็ มันก็มีหลายหลากให้เขียนเป็นเรื่องเป็นราวได้เลย เลยเป็นที่มาของ "สรรพโจ๊กพิจารณ์" น่ะค่ะ คืออยากจะเล่าเปรียบเทียบ "โจ๊ก" ของชาติต่างๆให้ฟัง ไม่ใช่มาคุยเรื่องเดอร์ตี้โจ๊กแต่ประการใด ไม่งั้นก็คงกลายเป็นหัวข้อ "รักภาษา" หรือ "ศิลปวัฒนธรรม" ไปแล้วเน้อ
1 โจ๊กฝรั่ง />
A มาอเมริกาแรกๆ อยากกินโจ๊กจนนำ้ตาไหลเลยค่ะ พอดีวันหนึ่งไปกินข้าวเข้าบ้านเพื่อน ยายเค้ามาจาก Deep South คือรัฐจอร์เจีย ซึ่งมีอาหารการกินแบบคล้ายๆพวกอังกฤษ-สก๊อต หลายๆอย่าง แต่ได้รับอิทธิพลจากอาหารอัฟริกันบ้างก็มี เค้าทำอาหารเช้าขึ้นชื่อของทางนั้นให้กิน คือ Grits, eggs 'n bacon ไข่กับเบค่อนคงทราบนะคะว่าเป็นยังไง แต่เจ้ากริตส์นี่สิ่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยค่ะ ปรากฏว่าเค้าใส่จานมาก็โปะกริตส์มาให้กองนึง คล้ายๆโจ๊กแบบนำ้แห้งจนจับตัวกันเองเป็นก้อนได้น่ะค่ะ ชิมดูก็รสเหมือนโจ๊กเลย โอย รอดตายแล้วตู ถามเค้าได้ความว่า เป็นแกนในของข้าวโพด เค้าเอาไปป่นเหมือนข้าวหัก แล้วไม่ทราบไปทำอะไรอีกให้ต้มสุกง่าย แต่ทานแล้วเหมือนข้าวหักๆที่เราเอามาต้มโจ๊กเลยค่ะ ดิฉันกลับบ้านก็ไปซื้อกริตส์มากล่องนึง เอาไว้ทำโจ๊กทานเองเลยค่ะ />
B อีกพวกนึงที่ฝรั่งเค้าทานหน้าหนาว คือข้าวโอ๊ตต้ม มันจะออกมาเละๆ แต่เนื่องจากข้าวโอ๊ตมันมีใยที่ละลายนำ้ได้ คือละลายแล้วเป็นเมือกๆน่ะค่ะ เป็นโจ๊กฝรั่งที่ดิฉันรังเกียจที่สุด คงไม่ต้องอธิบายความรู้สึกเวลาทานอะไรที่เป็นเมือกๆให้ฟังนะคะ ว่าเป็นอย่างไร เห็นฝรั่งเค้าก็ต้องปรุงกันน่าดู ไม่งั้นกินไม่ลงกันหรอกค่ะ แต่เค้าใส่จนมันจะกลายเป็นของหวานไปเลย คือใส่ลูกเกต ใส่นำ้ตาลทราย บ้างก็ใส่แยมผลไม้ โรยหน้าด้วยถั่วก็มี คงเริ่มมาจากที่จะหลอกให้เด็กกิน โดยคิดว่าเป็นไอสกรีมกระมัง แต่ไม่เคยเห็นใครหลอกเด็กให้กินได้สำเร็จเลยค่ะ
C พวก cream of wheat หรือ cream of rice ก็คล้ายๆกับกริตส์น่ะค่ะ แยกแทบไม่ออก เค้าก็ทานกับไข่เจียวแบค่อนยเหมือนกัน แต่ดิฉันเอามาแผลงเสีย โดยทำไข่ดาวแบบที่ไม่ค่อยจะสุก แล้วเอากริตส์หรือ cream 'o wheat ร้อนๆ"ปะหน้า ป่นเบค่อนทอดกรอบโรยหน้า แล้วราดด้วยนำ้พริกศรีราชา เฮ้อ กินแล้วหายหนาวเลยค่ะ อิอิ
/> 2 โจ๊กลั๊วะ
นี่พูดจริงๆนะคะไม่ได้โจ๊กกิ้ง เคยไปอยู่บ้านคนลั๊วะในเชียงราย เค้าเอาข้าวโพดมาตำเหลือแต่แกนใน แล้วเอามาต้มมานึ่งกินกันเหมือนเมล็ดข้าวเลยค่ะ ไปพ้องตรงกันกับ grits ของฝรั่งอย่างน่าประหลาดใจ วันหลังต้องไปค้นดูซักหน่อยแล้วว่า ข้าวโพดในเอเชียนี่ มาจากทวีปอเมริกาหรือเปล่า เพราะฝรั่งนี่เพิ่งมารู้จักข้าวโพดก็ตอนโคลัมบัสมาอาศัยคนอินเดียนกินข้าวโพดกันตายนี่เองค่ะ แต่ที่ไปกินที่บ้านลั๊วะนั้น ต้มเปล่าๆกับนำ้ค่ะ เอาหนักท้องเข้าว่า ไม่ว่ากัน
3 โจ๊กกวางตุ้ง
/> ปีก่อนไปแวนคูเว่อร์ที่แคนาดา เดินทางรอนแรมไปในบริติชโคลัมเบียหลายวันมาเจอร้านอาหารจีนก็ดีใจที่เค้ามี porridge ด้วย สั่งมาทาง โอ้โห ไม่เหมือนโจ๊กบ้านเราเลยค่ะ เนื้อโจ๊กเหลวละเอียดเหมือนกาวแป้งเปียก แบบเอาแป้งต้มนำ้เฉยๆ ไม่ใช้นำ้ต้มกระดูก (หรือใช้กระดูกมัมมี่หมูมาต้มก็ไม่ทราบค่ะ) มีลูกชิ้นหมูสับที่เอาเนื้อหมูมาสับๆๆๆปั้นๆๆๆเฉยๆ ไม่ใส่อะไร กับปาท่องโก๋จืดๆตัวเล็กทอดกรอบโรยหน้า ทานเข้าไปแล้วท้องไส้แทบจะเสียสมดุลย์เลยค่ะ
4 โจ๊กคนอร์
ดีว่าไปหาซื้อโจ๊กซองของคนอร์ได้ กว่าเค้าจะส่งมาขายก็มาอยู่ได้หลายปีแล้วค่ะ ไปเจอครั้งแรกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ แต่กินไปกินมาก็ชักแก่กล้ามากขึ้น เติมลูกชิ้นหมูสับบ้าง เติมไข่ เติมขิงซอย ฯลฯ ก็พอจะใกล้เคียงกันมั่ง />
สรุปแล้ว โจ๊กคนอร์เติมไข่อร่อยที่สุด ถัดมาก็โจ๊กฝรั่งราดซ้อสศรีราชาค่ะ
จบสรรพโจ๊กพิจารณ์ ฉบับคนตายอดตายอยากแล้วค่ะ /> (ใครมีเคล็ดลับทำโจ๊กอร่อยๆช่วยบอกหน่อยนะคะ นึกว่าสงสารคนหิวโจ๊กเถอะค่ะ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ÍÑ¡¡Ò
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อ 22 พ.ค. 01, 10:51
|
|
¨Ø´ËÅÑ¡¡çµéÁ¢éÒÇãËéà´×Í´¨¹àÁç´¢éÒÇ ºÒ¹¡è͹·Õè¨ÐŴŧä»ä¿Íè͹áÅéÇà¤ÕèÂÇ¢éÒÁ ¤×¹ µÍ¹áá¾ÂÒÂÒÁãªé¹Óé¹éÍ¡è͹¤ÃѺáÅéÇ ¤èÍÂàµÔÁ¹Óéà¾ÔèÁ·ÕËÅѧ ¤ÅéÒÂæ¡ÑºRisotti Êèǹ¹Ó髨»¡çàËÁ×͹ᡧ¨×´ËÁÙÊѺ¡Ãд١ËÁÙ µéÁᡵèÒ§ËÒ¡ àÇÅҨзҹ¡ç¼ÊÁ¢éÒÇ ¡Ñº¹Óé¡Ãд١ËÁÙ ËÁÙÊѺ à¤Ã×èͧ㹠µéÁ¨¹à´×Í´ »ÃاÃÊ »Ô´ä¿ ââԧ«Í µé¹ËÍÁ¼Ñ¡ªÕ«Í ¡ÃÐà·ÕÂÁà¨ÕÂÇ ¾ÃÔ¡ä·Â ¢éÒÇâ͵ãÊèͺàªÂ¡çÍÃè͹ФÃѺ¤Ø³¾Ç§ÃéÍ ¹Í¡¨Ò¡¡ÃÔµÊìáÅéÇÂѧÁÕÍÕ¡ÍÂèÒ§¢Í§·Ò§ÃѰµÍ¹ãµé·Õè¤ÅéÒ¡Ѻ¡ÃÔµÊìáµèäÁèÁÕÇÒ§¢Ò ·ÑèÇä» ÃÙéÊÖ¡ÇèÒ¨Ðà»ç¹ Sorghum·Õèà¤éÒãªé ÁÒ·Ó¹ÓéµÒÅà»ç¹ËÅÑ¡áµèàÁÅç´¡ç·Ò¹ä´éẺ à´ÕÂǡѺ¡ÃÔµÊì Millet/Pearl Millet (¢éÒÇ¿èÒ§) ¡çãªé·Óä´éàËÁ×͹¡Ñ¹ Sorghum ¡Ñº¢éÒÇ¿èÒ§¹ÕéÁÒ¨Ò¡áÍ¿ÃÔ¡Ò Êèǹ¢éÒÇâ¾´ ¾ÃÔ¡·Ñé§ËÅÒ¡àÇé¹¾ÃÔ¡ä·Â ÁÐà¢×Í ÁÐà¢×Íà·È ½éÒ ÂÒÊÙº ÁÒ¨Ò¡ÍàÁÃÔ¡Ò¡ÅÒ§ËÃ×ÍÍàÁÃÔ¡Òãµé äÁè·ÃÒºÇèÒ¤¹ÊÁÑÂÊØâ¢·ÑÂÁÕÊéÁµÓ·Ò¹¡Ñ¹ËÃ×Í à»ÅèÒ ¶éÒÁÕãªéÍÐäÃá·¹¾ÃÔ¡¢Õé˹١Ѻ ÁÐà¢×Íà·È áÁéáµè¡ÃзÑè§ÁÐÅС͡çÁÒ¨Ò¡ÍàÁÃÔ¡Ò¡ÅÒ§
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อ้อยขวั้น
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อ 22 พ.ค. 01, 15:56
|
|
เคยกินโจ๊กกระดูกมัมมี่ที่ซอยเล็กๆ ในฮ่องกงค่ะ ไอ้เรารึก็พูดจีนไม่เป็น ไม่งั้นก็จะถามว่าไปขุดกระดูกมาจากสุสานไหน
อีกครั้งนึงที่สิงคโปร์ เห็นรูปถ้วยโจ๊กกับป้ายหน้าร้านเขียนว่า congee เราก็...หวานล่ะงานนี้ จะได้กินโจ๊กมื้อเช้าซะหน่อย หวานจริงๆ ค่ะ congee นั่นดันกลายเป็นลูกเดือยต้มราดนมสด!
มีโจ๊กสำเร็จรูปยี่ห้อ...สายไหม?...ขายตามซูเปอร์มาร์เก็ตในกรุงเทพนะคะ หน้าตาและรสชาติพอหายคิดถึงโจ๊กสามย่านได้ค่ะ ไว้มีโอกาสกลับมาแล้วลองดูนะคะเผื่อจะติดไม้ติดมือไปตุนไว้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
From#1
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อ 22 พ.ค. 01, 23:15
|
|
จุดหลักก็ต้มข้าวให้เดือดจนเม็ดข้าว บานก่อนที่จะลดลงไปไฟอ่อนแล้วเคี่ยวข้าม คืน ตอนแรกพยายามใช้นำ้น้อยก่อนครับแล้ว ค่อยเติมนำ้เพิ่มทีหลัง คล้ายๆกับRisotti ส่วนนำ้ซุปก็เหมือนแกงจืดหมูสับกระดูกหมู ต้มแยกต่างหาก เวลาจะทานก็ผสมข้าว กับนำ้กระดูกหมู หมูสับ เครื่องใน ต้มจนเดือด ปรุงรส ปิดไฟ โรยขิงซอย ต้นหอมผักชีซอย กระเทียมเจียว พริกไทย ข้าวโอตใส่อบเชยก็อร่อยนะครับคุณพวงร้อย นอกจากกริตส์แล้วยังมีอีกอย่างของทางรัฐตอนใต้ที่คล้ายกับกริตส์แต่ไม่มีวางขาย ทั่วไป รู้สึกว่าจะเป็น Sorghumที่เค้าใช้ มาทำนำ้ตาลเป็นหลักแต่เมล็ดก็ทานได้แบบ เดียวกับกริตส์ Millet/Pearl Millet (ข้าวฟ่าง) ก็ใช้ทำได้เหมือนกัน Sorghum กับข้าวฟ่างนี้มาจากแอฟริกา ส่วนข้าวโพด พริกทั้งหลายยกเว้นพริกไทย มะเขือ มะเขือเทศ ฝ้าย ยาสูบ มาจากอเมริกากลางหรืออเมริกาใต้ ไม่ทราบว่าคนสมัยสุโขทัยมีส้มตำทานกันหรือ เปล่า ถ้ามีใช้อะไรแทนพริกขี้หนูกับ มะเขือเทศ แม้แต่กระทั่งมะละกอก็มาจากอเมริกากลาง อักกา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นกข.
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อ 23 พ.ค. 01, 22:38
|
|
เท่าที่ทราบ ลักษณะพิเศษอย่างหนึ่งของโจ๊กกวางตุ้งทางใต้ (ตามที่คนจีนทางเหนือบอก - เพราะฉะนั้นอาจจะผิด) คือ มีไข่เยี่ยวม้าชิ้นเล็กๆ หั่นใส่มาด้วย จีนกลางเรียก โจ และคนปักกิ่งเขายอมรับว่าเป็นอาหารจีนใต้ ทางจีนเหนือโดยปกติเขาไม่ค่อยกินโจ๊กกัน (เว้นในภัตตาคารที่โฆษณาว่าเป็นร้านอาหารกวางตุ้ง) ผมไปกินที่ฮ่องกงและกวางโจว เห็นบางเจ้าก็ทำอย่าที่ว่า คือใส่ไข่เยี่ยวม้า บางเจ้าก็ไม่ใส่ แต่ที่ว่าเนื้อโจ๊กละเอียดนั้นจริง แต่ที่ผมได้กิน ไม่ถึงกับเหนียวเป็นกาวครับ
ดูเหมือนภาษาฝรั่ง กรูเอล Gruel ก็ถือได้ว่าเป็นโจ๊กอย่างหนึ่งหรือหน้าตาคล้ายๆ โจ๊ก เป็นข้าวหรือธัญพืชต้มเละๆ ในโอลิเวอร์ ทวิสต์ นิยายของชาร์ลส์ ดิกเก้นส์ ที่สะท้อนภาพความทารุณในโรงเลี้ยงเด็กกำพร้าของอังกฤษสมัยสักร้อยกว่าปีมาแล้ว ก็พูดถึงโจ๊กนี่ ว่าเป็นอาหารที่เลี้ยงเด็กกำพร้า ไม่มีเนื้อมีหนังอะไรเลย แล้วแถมตักแจกแค่ถ้วยเล็กๆ เด็กกินไม่อิ่ม จนโอลิเวอร์ตัวเอกทนหิวไม่ไหวต้องรวบรวมความกล้าไปขอเพิ่มจากผู้คุมเอ๊ยผู้บริหารสถานเลี้ยงเด็กว่า .... พลีส เสอร์, ไอ ว้อนท์ ซัมมอร์.... ประโยคเดียวเท่านั้น อีตาผู้คุมใจร้ายเลยไล่ออกจากโรงเลี้ยงเด็กเลย ส่งไปทำงาน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พวงร้อย
|
ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อ 26 พ.ค. 01, 06:39
|
|
มัวไปติดพันอยู่ที่อื่น(นอกโลก) เกือบหลงทางกลับกระทู้ตัวเองไม่ถูก เหอๆๆ ขออภัยที่มาตอบช้าค่ะ
มิน่า เค้าเคี่ยวกันข้ามคืนนี่เอง ทำเอง from scratch ยังไงก็ไม่อร่อยเท่า ที่เค้าใส่แป้งนี่คงเป็นวิธีลัดน่ะค่ะ แต่ยังไงๆก็ไม่เหมือนของจริง คิดว่าสุดยอดโจ๊กที่เรากินกันในเมืองไทยนี่คงเป็นสูตรของชาวแต้จิ๋วมังคะ
เจ้า gruel นี่จำได้ว่าไปอ่านข่าวบรรเทาทุกข์ในอัฟริกาครั้งนึง พวกหน่วยบรรเทาทุกข์เอาแป้งสาลีใช่รึเปล่าไม่ทราบ ต้มกับนำ้มัน และใส่ไวตามิน ไปเลี้ยงเด็กที่เป็นโรคขาดอาหาร ฟังแล้วชวนสยองพิลึก แต่เห็นว่า เป็นอาหารที่ดูดซึมง่าย ช่วยส่งสารอาหารในร่างกายของเด็กที่กำลังจะอดตายได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพที่สุด และก็ทำได้ง่ายด้วย
ดิฉันว่าการกินเมล็ดธัญญชีชด้วยการต้มเหลวนี่ เป็นวัฒนธรรมการกินที่เก่าแก่ที่สุดของมนุษยชาติทีเดียว คิดว่าเมล็ดธัญญพืชแรกๆที่เอามากินกันคงเก็บเอาจากที่เกิดเอง ไม่ได้ปลูก อย่างพวก millet barley ที่เคยอ่านเจอจากเรื่องไอ๊ซ์แมน(อายุห้าพันกว่าปี) ก็ยังว่าข้าวสาลีที่กินกันในยุโรปสมัยนั้น เป็นคนละพันธุ์กับในปัจจุบัน แต่ก็รู้จักทำขนมปังกันแล้ว แต่ดิฉันเชื่อว่า การต้มโจ๊ก นี่คงจะเป็นวิธีปรุงอันดับแรกที่มนุษย์เรารู้จักทำเลยทีเดียว เพราะมันง่าย ไม่ต้องประดิษฐ์ประดอยอะไรมากเหมือนอย่างอื่น เออ ชักหิวข้าวแล้วซี วันนี้จะกินอะไรดีน้าาาา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|