เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 14 15 [16] 17 18 ... 30
  พิมพ์  
อ่าน: 127552 เรื่องเล่าชาวกรุงเทพรุ่นทวด
tita
พาลี
****
ตอบ: 253


ความคิดเห็นที่ 225  เมื่อ 10 ก.ย. 13, 11:38

/ขออนุญาตแทรกข้อมูลนิดหน่อย  ไม่ต้องหยุดเดินทางหรือย้อนกลับนะคะ  

พออ่านเรื่องถนนสุขุมวิทแล้วก็รู้สึกอิน  สมัยก่อนถนนสุขุมวิทเป็นถนนที่สวยงามมาก  ขนาดกว้างกำลังพอดี  สะอาดสะอ้าน  สองข้างทางมีบ้านเรือนคหบดีสลับกับตึกแถวสองชั้นทรงเรียบ  ร้านค้าตามตึกแถวเป็นร้านเก่าแก่ดั้งเดิมบ้าง ร้านกระจุ๋มกระจิ๋มเก๋ๆ บ้าง  มีร้านอาหารอร่อยๆ มากมาย
 
ครั้งหลังสุดที่ผ่านไปเมื่อหลายปีมาแล้ว  รู้สึกเศร้าใจกับความเปลี่ยนแปลง  ถนนที่เคยโปร่งโล่ง  ตอนนี้มองหาท้องฟ้าก็ถูกรถไฟฟ้าบัง  สองข้างก็เป็นคอนโดเบียดเสียดแน่นขนัด  ด้านล่างตามทางเท้าก็ระเกะระกะด้วยรถเข็นแผงลอย  สกปรกรกรุงรัง  หรือจะเป็นเหมือนกันไปหมดทั้งเมือง?

ดิฉัยเคยจดชื่อซอยสุขุมวิทต่างๆ เก็บเอาไว้  ตั้งใจว่าสักวันหนึ่งเมื่อมีเวลาเป็นของตัวเองมากพอ  จะลองเดินสำรวจความเป็นไปในปัจจุบันดู  ขออนุญาตเอามาฝากไว้ตรงนี้ด้วยดีกว่า  ท่านผู้รู้จะได้ช่วยตรวจสอบความถูกต้อง  และช่วยเติมชื่อซอยที่ดิฉันจำไม่ได้
  
1. รื่นฤดี 2. ผาสุก 3. นานาเหนือ 4. นานาใต้ 5. เลิศสิน/1 6. ใจสมาน 7. เลิศสิน/2 8. ปรีดา 9. รื่นจิตร 10. แสนสำราญ
11. ไชยยศ 12. สุขใจ 13. แสงจันทร์ 14. แพรกสามัคคี 15. ร่วมใจ 16. สามมิตร 17. – 18. พิชิต 19. วัฒนา 20. สายน้ำผึ้ง
21. อโศก 22. สายน้ำทิพย์ 23. ประสานมิตร 24. เกษม 25. แดงประเสริฐ 26. อารีย์ 27. ประภัทรศร 28. บรรณสาร 29. หลักเขต  30. สันตินฤมาน
31. สวัสดี 32. บ้านไทย 33. แดงอุดม 34. สุภางค์ 35. เจริญนิเวศน์ 36. นภาศัพท์ 37. – 38. สันติสุข 39. พร้อมพงศ์ 40. บ้านกล้วยใต้
41. ภิรมย์ 42. กล้วยน้ำไท 43. แสงมุกดา 44. เทพประสิทธิ์ 45. สุขเสมอ 46. ภูมิจิตร 47. บ้านดอน 48. ปิยะวัชร 49. กลาง 50. -
51. ช่องลม 52. – 53. มาดีไปดี 54. รัตนพราหมณ์ 55. ทองหล่อ 56. สายทิพย์ 57.  – 58. – 59. บุญชนะ 60. –
61. เศรษฐบุตร 62. – 63. เอกมัย 64. – 65. ชัยพฤกษ์ 66. – 67. ศรีจันทร์ 68. – 69. สาลีนิมิตร 70. – 71. พระโขนง (ปรีดีพนมยงค์)

ปล. จดไว้แค่ซอย 71 ค่ะ  เพราะเลยจากนี้ก็เรียงไม่ค่อยถูกแล้ว
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 226  เมื่อ 10 ก.ย. 13, 11:39

พอปิดเทอม  พ่อพาไปบางแสนบ่อยกว่าไปหัวหิน  เพราะไปหัวหินเป็นเรื่องใหญ่ ต้องไปอยู่นานเป็นสัปดาห์หรือบางทีก็เป็นเดือนถึงจะคุ้ม  แต่บางแสนไปกลับได้ในวันเดียว อย่างดีก็ค้างคืนหนึ่ง
ในยุคที่ไม่มีสวิมมิ่งพูล    การได้ไปลอยคอในทะเลเป็นสวรรค์สำหรับเด็ก   เล่นน้ำกันตั้งแต่เช้าจนเย็น กลางวันวิ่งขึ้นมากินข้าวที่แม่เตรียมไปให้จากบ้าน    แดดเผาหลังไหล่จนเกรียมทั้งๆแช่ในน้ำทะเล  ตกกลางคืนปวดระบมไปทั้งหลัง แถมจับไข้อีกต่างหาก

ยังจำได้ถึงบังกะโลเล็กๆในดงมะพร้าวริมหาด    เป็นกระท่อมชั้นเดียว  ทาสีเหลืองแก่ๆ มีบันไดเตี้ยๆ  ยกพื้นสูงจากพื้นดินปนทรายเล็กน้อยพอมิให้ทรายปลิวเข้ามาเปรอะเปื้อน แต่ก็ต้องกวาดทรายออกไปอยู่ดี     เป็นบังกะโลของทางการ  ไม่ใช่เอกชน  ให้เช่าได้เวลามาพักที่บางแสนค่ะ
คิดว่าจนบัดนี้ก็ยังหลงเหลืออยู่นะคะ

บังกะโลเหล่านี้เคยไปสมัยที่คนไทยยังไม่แห่ไปเที่ยวกันเหมือนปัจจุบันนี้ ไปนอนมีที่นอนเก่า ๆ ยัดด้วยนุ่น เข้าไปก็ต้องทำความสะอาดกันพักใหญ่ แบกอุปกรณ์ของทานเตรียมจากรุงเทพฯ ไปกันเองบ้าง น้ำดื่มใส่ขวดแก้ว อาหาร ขนมปัง เรียกว่าไม่กลัวอดตาย ทิวมะพร้าวที่พริ้วไหว กับห่วงยางสีดำใหญ่ ๆ ให้เช่าก็เป็นสวรรค์น้อย ๆ ของเด็ก ๆ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 227  เมื่อ 10 ก.ย. 13, 11:42

ยังจำได้ถึงบังกะโลเล็กๆในดงมะพร้าวริมหาด    เป็นกระท่อมชั้นเดียว  ทาสีเหลืองแก่ๆ มีบันไดเตี้ยๆ  ยกพื้นสูงจากพื้นดินปนทรายเล็กน้อยพอมิให้ทรายปลิวเข้ามาเปรอะเปื้อน แต่ก็ต้องกวาดทรายออกไปอยู่ดี     เป็นบังกะโลของทางการ  ไม่ใช่เอกชน  ให้เช่าได้เวลามาพักที่บางแสนค่ะ แต่ผีดุนะคะ ขอบอกก่อนค่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 228  เมื่อ 10 ก.ย. 13, 12:03

อ้างถึง
บังกะโลเหล่านี้เคยไปสมัยที่คนไทยยังไม่แห่ไปเที่ยวกันเหมือนปัจจุบันนี้ ไปนอนมีที่นอนเก่า ๆ ยัดด้วยนุ่น เข้าไปก็ต้องทำความสะอาดกันพักใหญ่ แบกอุปกรณ์ของทานเตรียมจากรุงเทพฯ ไปกันเองบ้าง น้ำดื่มใส่ขวดแก้ว อาหาร ขนมปัง เรียกว่าไม่กลัวอดตาย ทิวมะพร้าวที่พริ้วไหว กับห่วงยางสีดำใหญ่ ๆ ให้เช่าก็เป็นสวรรค์น้อย ๆ ของเด็ก ๆ
ทำไมยิ่งคุยกันนานเข้า  ยิ่งรู้สึกว่าคุณ siamese อายุเริ่มก้าวเร็ว ใกล้ดิฉันกับคุณนวรัตนเข้าไปทุกที      ไม่ว่าอะไรคุณก็จำได้  ร่วมยุคสมัยกันหมด


แต่ผีดุนะคะ ขอบอกก่อนค่ะ

ผีดุจริงง่ะ    ไม่ค่อยไว้ใจเลยว่าท่านจะมาลูกเล่นไหนอีก
โปรดขยายความ ชอบฟังเรื่องผีค่ะ


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 229  เมื่อ 10 ก.ย. 13, 12:12

อ้างถึง
บังกะโลเหล่านี้เคยไปสมัยที่คนไทยยังไม่แห่ไปเที่ยวกันเหมือนปัจจุบันนี้ ไปนอนมีที่นอนเก่า ๆ ยัดด้วยนุ่น เข้าไปก็ต้องทำความสะอาดกันพักใหญ่ แบกอุปกรณ์ของทานเตรียมจากรุงเทพฯ ไปกันเองบ้าง น้ำดื่มใส่ขวดแก้ว อาหาร ขนมปัง เรียกว่าไม่กลัวอดตาย ทิวมะพร้าวที่พริ้วไหว กับห่วงยางสีดำใหญ่ ๆ ให้เช่าก็เป็นสวรรค์น้อย ๆ ของเด็ก ๆ
ทำไมยิ่งคุยกันนานเข้า  ยิ่งรู้สึกว่าคุณ siamese อายุเริ่มก้าวเร็ว ใกล้ดิฉันกับคุณนวรัตนเข้าไปทุกที      ไม่ว่าอะไรคุณก็จำได้  ร่วมยุคสมัยกันหมด

เริ่มชักสงสัยเช่นกัน 55+ แต่ตอนเด็ก ๆ ก็เที่ยวแบบตามที่เล่ามา การเที่ยวในสมัยก่อนนั้นถือเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมาก ต้องเตรียมการวางแผนไป เพราะถนนยังมีน้อย คนก็น้อย ก็ต้องเตรียมไป

ทุกวันนี้ไปหัวหิน นอนในโรงแรม ยังติดเอาหม้อหุงข้าวพกไปเลย 555+
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 230  เมื่อ 10 ก.ย. 13, 12:43

ปล่อยพวกที่ล่วงหน้าไปบางแสน ไปเล่นน้ำทะเลอยู่ที่นั่นก่อน  ย้อนกลับมาพาคุณ tita ข้ามสะพานพระโขนงอีกที
สะพานพระโขนงในยุคกรุงเทพหยุดความเจริญแค่สะพาน  เป็นจุดแบ่งเขตแดนโดยแท้   พอลงสะพานไปก็คือคลอง(หรือคูน้ำ)ข้างถนน  มีบ้านเล็กบ้านน้อยชั้นเดียวปลูกอยู่ประปรายใกล้สะพาน    แต่มองไปก็คือทุ่งนาเวิ้งว้าง   ไม่มีซอยไม่มีอะไรทั้งสิ้น   เป็นอย่างนี้ไปตลอดทางที่ถนนพาไปจนถึงบางปู     มีแต่ป่าจากอยู่ข้างทาง  บางครั้งก็มีคนเลี้ยงเป็ดต้อนเป็ดมาลอยอยู่ในบ่อข้างถนน  มองเห็นกระต๊อบมุงจากของชาวนาอยู่ตรงโน้นบ้างตรงนี้บ้าง   
เดี๋ยวนี้ถ้าจะดูทิวทัศน์แบบนี้ เห็นจะต้องออกไปต่างจังหวัดไกลมากๆ 

มีเพื่อนคนหนึ่ง พ่อย้ายจากในเมือง  มาอยู่ซอยรัตนพราหมณ์ (เลยสะพานพระโขนง)เป็นบ้านแรก     เธอเล่าว่าย้ายไปอยู่ใหม่ๆ   ยุงบินแต่ไม่กัด   เพราะยุงมันไม่รู้จักคนมาก่อน
บันทึกการเข้า
tita
พาลี
****
ตอบ: 253


ความคิดเห็นที่ 231  เมื่อ 10 ก.ย. 13, 13:18

ดิฉันขอสารภาพว่าตอนเด็กๆ แทบจะไม่ได้ข้ามสะพานพระโขนงเลย  นอกจากตอนเดินทางไปบางแสน  สมัยนั้นพระโขนงถือว่าเป็นชายขอบเมืองอย่างที่คุณเทาชมพูว่า  บางนาบางจากนี่คือชนบทสมตามชื่อโดยแท้ 

แม้แต่พระโขนงเอง  ก็ยังเป็นถนนเล็กๆ สองข้างทางบางช่วงก็ยังเป็นทุ่งอยู่  มีสะพานไม้ให้คนเดินเข้าไป

พูดถึงพระโขนง  จำได้ว่าสมัยก่อนโน้นมีบ้านสวยเด่น  ตั้งตระหง่านข้างทางอยู่หลังหนึ่ง  ชี้ชวนกันชมว่านี่ไงบ้านที่ถ่ายทำหนัง (ของคุณฉลอง? สองสิงห์สองแผ่นดิน?)  ชาวบ้านย่านนั้นฮือฮากันมาก
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 232  เมื่อ 10 ก.ย. 13, 13:37

    ความทรงจำอีกอย่างเกี่ยวกับถนนสุขุมวิทใกล้ๆสะพานพระโขนง  คือตรงเชิงสะพานมีบ้านอยู่กลุ่มหนึ่ง  เรียกว่ากลุ่มเพราะมีหลายหลังรวมอยู่ในบริเวณเดียวกัน   เป็นบ้านของจอมพลเรือ หลวงยุทธศาสตร์โกศล    หลานตาของท่านเป็นเพื่อนเรียนชั้นเดียวกันกับดิฉัน       วันหนึ่งเธอก็ชวนไปบ้าน    ทางเข้าบ้านต้องข้ามสะพานคอนกรีตเข้าไป  เพราะมีคูกว้างๆคั่นระหว่างถนนสุขุมวิทกับกำแพงบ้านคน  
    เดาว่าคุณหลวงคงซื้อที่ดินผืนนี้มานานแล้ว ตั้งแต่ยังเป็นทุ่งนา     จึงซื้อได้เป็นผืนกว้างพอจะปลูกบ้านได้หลายหลัง  มีอาณาเขตระหว่างบ้านเป็นสัดส่วน     เพื่อนพาไปไหว้คุณหลวงซึ่งชราภาพมากแล้ว เห็นท่านนั่งเก้าอี้โยก นิ่งๆอยู่ในห้องหนึ่ง    ไม่ได้ทักทายหรือพูดคุยกับเด็กๆอย่างเรา

    เพื่อนพาเดินออกทางหลังบ้าน ไปหาเพื่อนร่วมชั้นเรียนอีกคนหนึ่ง   พบว่าหลังบ้านเป็นสวนมะพร้าวเล็กๆ  อยู่ติดกับทุ่งนา    มีบ้านใหม่ๆเป็นบ้านไม้รูปทรงโปร่ง   ใต้ถุนสูง   ปลูกอยู่เรียงเป็นแถว   มีที่ว่างนิดหน่อยคั่นตัวบ้านแต่ละหลัง       คงจะเป็นบ้านของคนที่อพยพจากในเมืองมาอยู่ที่ใหม่    ไม่มีรั้วกั้นระหว่างบ้าน  มีแผ่นซีเมนต์สี่เหลี่ยมปูเป็นทางเดินผ่านหน้าบ้านแต่ละหลังไป          
      ตอนนั้นไม่ได้นึกอะไรทั้งนั้นนอกจากดีใจที่เจอเพื่อน    หลายสิบปีต่อมาจึงสงสัยถึงการปลูกบ้านเหมือนๆกันแบบนั้นว่าเป็นบ้านจัดสรรในยุคที่เรายังไม่รู้จักคำว่าบ้านจัดสรร หรือเปล่า   เพราะปลูกเหมือนกัน และดูว่าปลูกในคราวเดียวกันด้วยค่ะ
   ลักษณะบ้านคล้ายๆรูปที่ไปหามาลงให้ดู  แต่ว่าบ้านของจริงไม่ได้ทาสี  บันไดเป็นไม้ ไม่ได้ปูกระเบื้อง     สมัยนั้นไม้ยังหาง่ายอยู่มาก และราคาถูกกว่าปลูกตึก    
   หลังบ้านคุณตาของเพื่อน ก็คือห่างจากถนนสุขุมวิทเชิงสะพานพระโขนง ลึกเข้าไปไม่ถึง 500 เมตร    สภาพชนบทมีดงมะพร้าว มีทุ่งนายังมีให้เห็นอยู่เลย  


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 233  เมื่อ 10 ก.ย. 13, 13:37

ดิฉันขอสารภาพว่าตอนเด็กๆ แทบจะไม่ได้ข้ามสะพานพระโขนงเลย  นอกจากตอนเดินทางไปบางแสน  สมัยนั้นพระโขนงถือว่าเป็นชายขอบเมืองอย่างที่คุณเทาชมพูว่า  บางนาบางจากนี่คือชนบทสมตามชื่อโดยแท้ 

แม้แต่พระโขนงเอง  ก็ยังเป็นถนนเล็กๆ สองข้างทางบางช่วงก็ยังเป็นทุ่งอยู่  มีสะพานไม้ให้คนเดินเข้าไป

พูดถึงพระโขนง  จำได้ว่าสมัยก่อนโน้นมีบ้านสวยเด่น  ตั้งตระหง่านข้างทางอยู่หลังหนึ่ง  ชี้ชวนกันชมว่านี่ไงบ้านที่ถ่ายทำหนัง (ของคุณฉลอง? สองสิงห์สองแผ่นดิน?)  ชาวบ้านย่านนั้นฮือฮากันมาก

ถนนสายบางนา เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ ๆ


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 234  เมื่อ 10 ก.ย. 13, 13:52

ไปแถวสายสุขุมวิท สายเก่า แถวบางนา บางพลีแวะทานขนมจาก กันด้วยนะครับ ห่อในกระดาษแก้วสีชมพู ตอนเด็กๆ ชอบซื้อทาน เป็นแท่งยาว ๆ เรียว ๆ ไหม้ ๆ แต่สมัยนี้ใช้ใบจากหนา


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 235  เมื่อ 10 ก.ย. 13, 14:20

ท่านทวดไปบางแสน ไม่ได้แวะขุดหอยเสียบหรือ  ฮืม หอยเสียบที่ทะเลบางแสนนั้น มีเยอะมากจนเอามาดองใส่น้ำปลาขายกันให้ดาษดื่น สมัยนี้คงน้อยไปเยอะแล้ว
ตอนไปบางแสน ไม่เคยไปขุดหอยเสียบ   แต่จำได้ว่ามีหอยเสียบดองน้ำเกลือขายใส่ขวด แบบขวดแม่โขงอยู่มากมาย   ส่วนชายหาดบางแสนมีปูลม   ไล่ตะครุบมันไม่ทันสักที เพราะมันมุดรูหนีไปเร็วมาก   ตามพื้นหาดซึ่งเป็นทรายสีคล้ำ ไม่ขาวอย่างหัวหิน  มีรูปูลมซึ่งปากรูมีทรายเป็นเม็ดกลมๆเหมือนประคำ กลาดเกลื่อนอยู่เต็มชายหาด
บางคนจับได้ก็เอามาชุบแป้งทอดกัน   เห็นว่าอร่อยนะคะ แต่ส่วนตัวแล้วไม่ชอบกิน  เห็นมันวิ่งหนีอยู่เมื่อครู่นี้เอง ต้องมาเข้าปากเราเสียแล้ว

ถึงบางแสนก็ทำให้เกิดสถานที่ตากอากาศ และได้ลงเล่นน้ำทะเลได้ ที่ใกล้กรุงเทพฯที่สุดไปกลับในวันเดียวได้ จึงมีประชาชนไปเที่ยวสนุกสนานกันมากมาย มีโรงแรมและบังกะโลมาให้พักมากขึ้น แม้แต่จอมพลสฤษฎ์ ธนรัชต์ ก็ไปสร้างอาคารสวยงามที่ “แหลมแท่น”
จากบางแสนมีทางเลียบทะเลไปเชื่อมกับอ่าวศิลา ระหว่างทางนั้นมีการเลี้ยงหอยนางรมกันมาก ทำให้ได้กินหอยนางรมสดๆอร่อยๆราคาถูก และเปิดโอกาสให้คนได้เห็นการทำครกของคน”อ่างหิน” การค้าขายก็เจริญขึ้นเรื่อยๆ จนครกหินเป็นOTOPของอ่างหินเลย
ผู้ใหญ่เล่าว่าคนใหญ่คนโตสมัยจอมพลป  น่าจะเป็นตัวท่านหรือไม่ก็พลต.อ.เผ่า  เคยไปสร้างบ้านสวยไฮโซอยู่บนเชิงเขาสามมุข  ไว้ตากอากาศ   มีถนนลาดยางอย่างดีผ่านหน้าบ้านไป   ยังเหลือตึกยุคนั้นหนึ่งหรือสองหลังอยู่บนเขาสามมุขให้เห็นค่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 236  เมื่อ 10 ก.ย. 13, 14:22

ไปแถวสายสุขุมวิท สายเก่า แถวบางนา บางพลีแวะทานขนมจาก กันด้วยนะครับ ห่อในกระดาษแก้วสีชมพู ตอนเด็กๆ ชอบซื้อทาน เป็นแท่งยาว ๆ เรียว ๆ ไหม้ ๆ แต่สมัยนี้ใช้ใบจากหนา
ขนมจาก สมัยโน้น ต้องจากปากน้ำ จ้า


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 237  เมื่อ 10 ก.ย. 13, 14:32

ไปแถวสายสุขุมวิท สายเก่า แถวบางนา บางพลีแวะทานขนมจาก กันด้วยนะครับ ห่อในกระดาษแก้วสีชมพู ตอนเด็กๆ ชอบซื้อทาน เป็นแท่งยาว ๆ เรียว ๆ ไหม้ ๆ แต่สมัยนี้ใช้ใบจากหนา
ขนมจาก สมัยโน้น ต้องจากปากน้ำ จ้า

ใช่แล้ว ขนมจากปากน้ำ อันแสนอร่อย

อันที่จริงแล้วว่าด้วยเรื่องขนมจาก เป็นขนมที่ทำกินกันเองในท้องถิ่นที่ชายเลน เช่น สมุทรสาคร - เพชรบุรี - ฉะเชิงเทรา - จันทบุรี - ตราด
ก็ไม่ทราบว่าใครเป็นต้นกำเนิดของขนมจาก ไปจังหวัดตราด ก็บอกว่าเป็นขนมท้องถิ่น ไปตลาดหนองมนก็เห็นขายกันดาษดื่น ไปถึงองค์พระปฐมเจดีย์ก็มีขายให้เพียบ
ไปถึงหน้าวัดหลวงพ่อโสธร ก็มีให้มากอยู่ ดังนั้นขนมใบจาก คงเป็นทำง่าย ตัดใบจาก คลุกแป้งใส่มะพร้าว เอามาปิ้งก็ขายได้

ยุคก่อนตอนเด็ก ๆ ขนมใบจากจะกลัดด้วยไม้กลัดตามที่ อ.เทาชมพูแนบมา ภายหลังเอาเร็ว เอาง่าย จัดการใช้เข็มเย็บกระดาษเลย เร็วสะดวก แต่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไร

แนบภาพคุณยายขายขนมใบจากที่สมุทรสาคร พ.ศ. ๒๔๗๘


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 238  เมื่อ 10 ก.ย. 13, 14:50

ตอนเด็กๆไม่เคยกินขนมจากจากที่อื่น  เคยกินแห่งเดียวคือปากน้ำ    เรียกว่าใครไปปากน้ำกลับมาต้องมีขนมจากมาฝากคนทางกรุงเทพค่ะ   เหมือนใครไปนครปฐมต้องมีข้าวหลามกลับมา    เดี๋ยวนี้ แพร่หลายไปหลายจังหวัด   จนไม่รู้แหล่งไหนเป็นแหล่งไหนแล้ว

ลวดเย็บกระดาษเป็นอุปกรณ์อันตรายมากในการเย็บห่อขนม หรือกระทงของว่าง   ร้านอาหารดีๆหลายแห่ง ชอบปรับไฟให้สลัวๆเพื่อเพิ่มบรรยากาศ   ทำให้คนกินมองเห็นลวดไม่ถนัด อาจติดไปกับขนม หรือของว่างเวลาใส่ปากเคี้ยว  
แค่ทิ่มเหงือกก็ว่าหนักแล้ว    ถ้ากลืนลงกระเพาะไปนี่น่ากลัวจริงๆค่ะ  

อย.เตือนอันตรายจากลวดเย็บกระดาษเย็บกระทงขนม


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 239  เมื่อ 10 ก.ย. 13, 17:18

อ้างถึง
ผีดุจริงง่ะ    ไม่ค่อยไว้ใจเลยว่าท่านจะมาลูกเล่นไหนอีก
โปรดขยายความ ชอบฟังเรื่องผีค่ะ

ขอประทานโทษ ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านเพิ่งกลับมาครับ

แม้จะเคยไปพักสักหนสองหน ผมก็ไม่ได้มีประสพการณ์โดยตรงที่บังกะโลบางแสนหรอกครับ แต่เคยเห็นในเวป ท่านคลิ๊กเข้าไปอ่านกันเองแล้วกัน

เช่น เรื่องผีดุ
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPRE14TURjMU1nPT0

เรื่องคนดุ
http://www.komchadluek.net/detail/20100617/63225/%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%96.html#.Ui7wFdA5Ndg


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 14 15 [16] 17 18 ... 30
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.074 วินาที กับ 20 คำสั่ง