เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 60 เมื่อ 10 ก.ย. 13, 12:53
|
|
ลองใช้กูเกิ้ลท่องเว็บต่างๆ จะเจอเจ้ากำมะลอ บางคนก็เหมือนไม่ค่อยเต็มนัก บางคนก็ส่อเจตนาแอบแฝง ไม่น่าไว้ใจเท่าไหร่ค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 61 เมื่อ 10 ก.ย. 13, 21:18
|
|
ก่อนจะเข้าถึงเรื่องขององค์หญิงกำมะลอรายนี้ ขอปูพื้นเพื่อความเข้าใจที่มาที่ไปก่อนนะคะ
ขอเริ่มต้นที่พระเจ้ากุสตาฟที่ 4 แห่งสวีเดน (ค.ศ. 1778 – 1837) ครองราชย์ระหว่างค.ศ. 1792 - 1809 นับว่าเป็นพระราชาที่อาภัพองค์หนึ่งของพระราชวงศ์ผู้ครองอาณาจักรสวีเดน นอกจากพระราชบิดาถูกปลงพระชนม์จากฝีมือฝ่ายกบฏแล้ว พระองค์เองก็ถูกนายทหารจู่โจมยึดอำนาจ ปลดออกจากราชบัลลังก์ มิหนำซ้ำฝ่ายกบฏที่กลายเป็นผู้ชนะไปแล้วยังยกเจ้าชายผู้เป็นสมเด็จอา ขึ้นครองราชย์แทนในฐานะพระราชาหุ่นแทบไม่มีอำนาจใดๆก็ว่าได้ โดยข้ามสิทธิ์ของเจ้าชายพระโอรสของพระองค์ไปเสียดื้อๆ
พระเจ้ากุสตาฟก็ต้องลี้ภัยออกไประเหเร่ร่อนอยู่นอกประเทศ ในบั้นปลายทรงอาศัยอยู่ในโรงแรมเล็กๆในสวิตเซอร์แลนด์ อย่างเงียบๆ และลำบากยากจน จนสวรรคตด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ส่วนพระราชินีที่มีพระโอรสธิดาด้วยกัน 5 องค์ก็หย่าขาดจากกันหลังทรงพ้นจากบัลลังก์ได้ 3 ปี
หลังจากเสด็จสวรรคตไปแล้ว หญิงสาวคนหนึ่งถึงโผล่ออกมา ด้วยคำอ้างว่าหล่อนคือพระธิดาองค์สุดท้องของพระองค์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 62 เมื่อ 11 ก.ย. 13, 12:45
|
|
หลังจากพระเจ้ากุสตาฟเสด็จสวรรคตไปอย่างเงียบๆไม่นานนัก หญิงสาวคนหนึ่งก็ปรากฏกายขึ้นต่อหน้าผู้ดีมีตระกูลและตำแหน่งการงานดีบางคนในสวีเดน พร้อมกับแนะนำตัวเองว่าหล่อนคือพระธิดาองค์สุดท้องของพระองค์ท่าน ประสูติจากพระราชินีเฟรเดอริคาแห่งบาเดนที่ว่าหย่าขาดกันไปตั้งแต่ค.ศ. 1812 หลังจากพระเจ้ากุสตาฟพ้นจากบัลลังก์ได้ 3 ปี
หล่อนแถลงว่าสองพระองค์มาพบกันอีกหลังพระราชาต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมือง และแอบทำพิธีสมรสกันอย่างเงียบๆในเยอรมนี ที่ต้องลอบเร้นกันเป็นความลับก็เพื่อมิให้ล่วงรู้ไปถึงปรปักษ์ ตลอดจนพระญาติพระวงศ์ฝ่ายพระราชินีที่อาจจะคัดค้านเอาไว้ ทั้งสองพระองค์ครองชีวิตคู่กันในสวิตเซอร์แลนด์ จนให้กำเนิดพระธิดา-อันได้แก่ตัวหล่อนเอง เรื่องพระเจ้ากุสตาฟกับพระราชินีกลับมาอยู่ด้วยกันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครยืนยันได้ว่าจริงหรือไม่ รู้กันแต่ว่าหลังจากพระองค์ต้องสละราชบัลลังก์และลี้ภัยออกนอกประเทศ พระราชินีที่หย่ากันไปแล้วยังส่งเงินมาอุดหนุนจุนเจือ ก็ทำให้พอจะเชื่อถือได้ว่าสองพระองค์ยังติดต่อกันอยู่
หญิงสาวคนนั้น ใช้ชื่อว่าเฮลก้า เดอ ลา บราช เล่าต่อไปว่า หลังจากเกิดได้ไม่นาน หล่อนก็ถูกส่งตัวไปให้สมเด็จป้าองค์หนึ่งของพระบิดาชื่อเจ้าหญิงโซเฟียเลี้ยงดู พอสมเด็จป้าสิ้นพระชนม์ ชะตากรรมของเจ้าหญิงน้อยก็เคราะห์ร้าย ถูกส่งองค์ไปกักบริเวณไว้ในโรงพยาบาลคนโรคจิตแห่งหนึ่ง เพื่อปิดข่าวมิให้รั่วไหลถึงกำเนิดของพระธิดาองค์นี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 63 เมื่อ 11 ก.ย. 13, 12:48
|
|
พระรูปของพระเจ้ากุสตาฟและพระราชินีเฟรเดอริคา สมัยครองราชย์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
summer
อสุรผัด

ตอบ: 18
|
ความคิดเห็นที่ 64 เมื่อ 12 ก.ย. 13, 00:15
|
|
เกาะขอบจอรอคุณครูมาเล่าต่อ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 65 เมื่อ 12 ก.ย. 13, 09:09
|
|
เจ้าหญิงเล่าต่อไปว่า ชะตาของหล่อนยังไม่เคราะห์ร้ายถึงที่สุด มีผู้เข้าไปช่วยหล่อนได้หนีออกจากโรงพยาบาลคนโรคจิตหรือเรียกอีกอย่างว่าสถานกักกันคนบ้า ออกมาได้ในค.ศ. 1834 แล้วได้ไปอยู่กับเจ้าพี่เจ้าน้องที่บาเดน แต่ถูกกักบริเวณไม่ให้ออกมาพบคนภายนอกได้ จนกระทั่งเจ้าหญิงได้ข่าวจากหนังสือพิมพ์ว่าพระบิดาเสด็จสวรรคตแล้ว ความเศร้าโศกทำให้หล่อนไม่อาจทนอยู่ที่เดิมต่อไปได้ ก็เลยตัดสินใจเดินทางกลับบ้านเกิดเมืองนอน พอมาถึงที่นี่ก็ถูกจับตัวเข้าสถานกักกันคนโรคจิตอีก เพื่อมิให้คนภายนอกล่วงรู้ แต่หล่อนก็เก่งพอจะหลบหนีออกมาได้อีกครั้ง หล่อนเล่าต่อว่าหล่อนหลบซ่อนอยู่ในสวีเดน โดยอาศัยความช่วยเหลือจากบรรดาผู้ที่ยังจงรักภักดีต่อพระบิดา ยอมเสี่ยงที่จะถูกทางการจับได้ เกื้อหนุนให้ที่อยู่อาศัย และได้เงินเลี้ยงชีพจากพระญาติส่งมาให้เดือนละ 6000 มาร์คเยอรมัน แต่ต่อมาเงินก็หยุดส่งเอาเฉยๆ ทำให้หล่อนลำบากมาก ไหนจะต้องอยู่ให้สมพระเกียรติเจ้าหญิง ไหนจะต้องจ่ายเงินให้บรรดาบริวารที่ดูช่วยเหลือหล่อนอยู่ เดือนๆมีค่าใช้จ่ายไม่ต่ำว่า 5000-6000 ที่ต้องแบกภาระเอาไว้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 66 เมื่อ 12 ก.ย. 13, 09:11
|
|
ถ้าจะถามว่า บรรดาผู้ที่เจ้าหญิงกำมะลอไปโอดครวญขอให้เห็นใจนั้น ไม่ตรวจสอบอะไรหาความจริงกันบ้างหรือ คำตอบก็คือ ในสมัยนั้นเมื่อพระเจ้ากุสตาฟสละราชสมบัติและลี้ภัยออกนอกประเทศไปแล้ว คณะทหารผู้ทำรัฐประหารสำเร็จก็สั่งห้ามมิให้ประชาชนผู้หนึ่งผู้ใดติดต่อสร้างความเกี่ยวข้องใดๆกับพระองค์ตลอดจนพระราชินีและพระโอรสธิดาอีก เพราะเกรงว่าจะรวมพลังกันทำรัฐประหารซ้อน เชิญพระเจ้ากุสตาฟกลับมาครองราชย์ดังเดิม ในเมื่อติดต่อไม่ได้ จะสืบข่าวคราวเช็คข้อเท็จจริงอะไรก็ไม่ได้ ก็เข้าทางของมิจฉาชีพที่จะปั้นเรื่องและหลักฐานเท็จเล็กๆน้อยๆ มาหลอกผู้คนที่เห็นอกเห็นใจ องค์หญิงรายนี้ก็เลยตุ๋นเปื่อยสุจริตชนคนรวยไปได้หลายคนด้วยประการฉะนี้ นี่ก็เป็นข้อคิดอีกอย่างว่า เรื่องไหนก็ตามที่ต้องปิดบัง จะเหตุผลเพื่อความมั่นคงของชาติ หรืออะไรอื่นๆ มักเป็นเรื่องที่เหล่าสิบแปดมงกุฎชอบนักหนา มันช่วยให้เกิดการสวมรอย หรือตบตา หรือปั้นความเท็จแทรกเข้าไปกับความจริงที่มีน้อยนิดได้ง่ายที่สุด แต่เรื่องที่เปิดเผยไม่เป็นความลับนี่สิ สิบแปดมงกุฎมักจะหาทางแทรกได้ยาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 67 เมื่อ 12 ก.ย. 13, 17:26
|
|
คุณสมบัติอีกอย่างของพวกสิบแปดมงกุฎคือ พวกนี้จะต้องหน้าตาดี บุคลิกดูเหมาะสมกลมกลืนกับสถานภาพที่แอบอ้าง เช่นอ้างเป็นเศรษฐีก็ต้องดูเป็นเศรษฐี เราจะไม่เจอสิบแปดมงกุฎที่หน้าตาดูเป็นโจร หรือเป็นคนยากจนหาเช้ากินค่ำ เพราะยังไงก็หลอกคนไม่สำเร็จ ในเรื่องนี้คนที่เห็นเฮลก้าแล้วเชื่อกันสนิท ก็เพราะหล่อนเป็นหญิงสาวหน้าซื่อใส บุคลิกดูเป็นคุณหนู เรียบร้อย มีสง่า แต่งกายงาม พูดจาไพเราะ สมกับสถานภาพเจ้าหญิงที่แอบอ้างตัวเอง คนที่ถูกเฮลก้าตุ๋นเสียเปื่อยล้วนแล้วแต่ไม่ใช่ชาวบ้านโง่ๆเซ่อๆ ไร้การศึกษา แต่เป็นระดับวีไอพีของประเทศ เช่นเสนาบดีกระทรวงยุติธรรมของสวีเดน โดยผ่านทางภรรยาของเขาซึ่งเป็นไฮโซชาวอังกฤษ เมื่อคุณนายหลงเชื่อสนิท ก็ชักจูงสามีให้หลงเชื่อไปด้วย ถึงกับเชิญให้เจ้าหญิงกำมะลอพักอยู่ที่บ้านในฐานะแขกผู้มีเกียรติ แล้วยังหาที่ปรึกษากฎหมายให้หล่อน เพื่อจะเรียกร้องเงินทองตามสิทธิ์ที่หล่อนพึงมี ในสวีเดน มีวีไอพีระดับข้าราชการสูงๆและเศรษฐีหลายคนที่ยังจงรักภักดีต่อพระเจ้ากุสตาฟ ด้วยความเห็นใจชะตากรรมของพระองค์ แต่ในเมื่อพวกเขาไม่มีอำนาจในมือที่จะสู้รบกับฝ่ายทหารได้ก็จำต้องเก็บปากเก็บคำไว้ แต่เมื่อรู้ข่าวจากเพื่อนวีไอพีด้วยกัน ว่าพระธิดาน้อยของอดีตเจ้านายต้องตกระกำลำบาก พวกนี้ก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือเข้ามาช่วย ยิ่งช่วยอย่างลับๆได้ก็ยิ่งดี เพราะจะได้ไม่ต้องเสี่ยงกับถูกเพ่งเล็ง พวกนี้จึงกลายเป็นหมูเดินเรียงแถวลงไปในหม้อตุ๋นที่เฮลก้าและเพื่อนร่วมขบวนการของเธอเปิดฝารออยู่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 68 เมื่อ 13 ก.ย. 13, 14:56
|
|
จากคนหนึ่ง เป็นสะพานเชื่อมไปถึงอีกคนหนึ่ง ในที่สุดหม้อตุ๋นของเฮลก้าก็บรรจุชาววังสำคัญไว้หลายคน รายสำคัญที่สุดคือพระราชวงศ์สำคัญองค์หนึ่งคือพระราชินีม่ายโจเซฟินา ซึ่งพระชนม์มากแล้ว และยังเป็นผู้มีจิตใจดีเห็นอกเห็นใจคน จึงพระราชทานเบี้ยหวัดรายปีให้หญิงสาวผู้ที่ทรงเชื่อสนิทว่าเป็นเจ้าฟ้าหญิงแห่งสวีเดนโดยกำเนิด มิได้ทรงเฉลียวใจเลยว่าน้ำพระทัยเมตตาของพระองค์นี่แหละ กลายเป็นหลักฐานให้เฮลก้านำเอาไปอ้างกับคนระดับบิ๊กเบิ้มขึ้นไปอีกเรื่อยๆ
ในเมื่อสร้างความน่าเชื่อได้ระดับนี้ เฮลก้าก็เลยมีโอกาสได้เฝ้าพระเจ้าชาร์ลส์ที่สิบห้าแห่งสวีเดน กษัตริย์ในขณะนั้น พระเจ้าชาร์ลส์มิได้ไยดีพระญาติสาวองค์นี้นัก แต่ก็อยากจะจัดการเรื่องราวให้มันจบๆลงไปเสียได้ไม่เป็นที่ติฉินนินทา จึงโปรดให้กระทรวงการต่างประเทศจ่ายเงินรายปีให้หล่อนปีละ 12,00 เหรียญสวีเดน ต่อมาก็ขยับเพิ่มขึ้นอีกจนเป็น 2,400 เหรียญ และยังรับปากว่าจะพระราชทานข้าวของเครื่องเรือนในพระราชวังให้หล่อนนำไปใช้ให้สมฐานะด้วย เฮลก้าก็อาศัยความสำเร็จข้อนี้ วางตัวเป็นองค์หญิงกำมะลออยู่ได้ต่อมาอีกหลายปี
มาย้อนดูประวัติของหล่อนดีกว่านะคะ ว่ามีความเป็นมาอย่างไร ถึงต้มตุ๋นได้ถึงระดับชาติ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 69 เมื่อ 13 ก.ย. 13, 17:17
|
|
พระรูปของพระราชินีโจเซฟินา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 70 เมื่อ 13 ก.ย. 13, 20:50
|
|
ชีวิตจริงของเฮลก้าตรงกันข้ามกับเรื่องปั้นน้ำเป็นตัวของเธอชนิดสุดขั้ว เธอเกิดมาอย่างลำบากยากจน ในครอบครัวที่พ่อเป็นนักการภารโรง ตายไปตั้งแต่ลูกๆ 5 คนยังเล็ก ทิ้งภาระไว้ให้แม่แบกเพียงผู้เดียว ความยากจนทำให้เฮลก้าหรือชื่อจริงว่าออโรร่า ฟลอเรนติน่า แมกนัสสัน มีโอกาสเข้าโรงเรียนอยู่ปีเดียวเท่านั้นเอง มีเรื่องเล่าว่านางแมกนัสสันเคยบอกคนอื่นว่าฉันมีลูกแท้อยู่ 4 คนเท่านั้นเอง ส่วนออโรร่าเป็นเด็กเก็บมาเลี้ยง แม่เป็นลูกสาวผู้ดีแต่ชิงสุกก่อนห่าม ก็เลยต้องยกลูกให้คนอื่นเอาไป เรื่องนี้จะจริงหรือไม่ ไม่มีหลักฐานใดๆยืนยัน แต่มันก็มีผลกระทบต่อจิตใจของหนูน้อยออโรร่าอย่างมาก
พอโตเป็นสาวอายุ 18 เฮลก้าก็เข้าทำงานเป็นสาวใช้ตามบ้านผู้ดีอย่างผู้หญิงจนๆไร้การศึกษาเขาทำกัน ทำงานอยู่ 3 ปีเธอก็มีถูกจ้างไปทำงานชั่วคราวเป็นลูกมือเย็บเสื้อให้ลูกสาวของพ่อค้ามั่งคั่งคนหนึ่ง แต่เฮลก้าร้องห่มร้องไห้ฟูมฟายว่าเธอเป็นคนไร้ญาติขาดมิตรแม้แต่ที่จะซุกหัวนอนก็ไม่มี ลูกสาวเจ้าของบ้านชื่อเฮนริก้า ก็เลยเกิดสงสารขึ้นมา ก็ตกลงจ้างหญิงสาวคนนี้เอาไว้ถาวร ให้ที่อยู่ที่กินด้วยเมตตาจิต จากนั้น ท่าไหนก็ไม่รู้ เฮลก้าสามารถทำให้ลูกสาวเจ้าของบ้านซึ่งจะว่าไปก็เป็นนายเธอแท้ๆ เกิดถูกชะตาชอบพอกับเธอจนกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน แทนที่จะเป็นนายกับบ่าว เฮนริก้านี่เอง ต่อมาเป็นมันสมองในการวางแผนปลอมแปลงตัวเฮลก้าเป็นองค์หญิงกำมะลอ และคอยตามประกบเธอไปทุกหนทุกแห่ง เพื่อจะช่วยสร้างภาพให้แนบเนียนไม่มีใครจับได้ แม้แต่บุคคลสำคัญระดับชาติ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 71 เมื่อ 14 ก.ย. 13, 14:10
|
|
พวกสิบแปดมงกุฎมักไม่ค่อยทำงานเดี่ยวๆโดดๆ แต่มีผู้สมรู้ร่วมคิด หรือจะเรียกว่าขบวนการก็ได้ บางทีพวกนี้ก็ทำหน้าที่หน้าม้าคอยออกมาเชียร์หรือยืนยันความเท็จเกี่ยวกับท่านหญิงกำมะลอตัวเอกในเรื่องว่าเป็นจริง อย่างกรณีเจ้าหญิงคาราบูก็มีกลาสีโปรตุเกสมาเป็นล่าม ฟังภาษานกภาษากาของเธอออก เพื่อยืนยันว่าประเทศชวาบูของเธอมีอยู่จริงๆ ในกรณีเฮลก้า เราก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่หญิงสาวยากจน ไร้การศึกษา อยู่ๆจะสามารถปลอมแปลงเอกสารหลักฐาน และปลอมแปลงบุคลิกท่าทีเป็นองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ขึ้นมาได้โดยอัตโนมัติ คำตอบคือเธอมีเทรนเนอร์ชั้นดีคอยหนุนหลังอยู่ คนนั้นก็คือเฮนริก้านั่นเอง เฮนริก้าเป็นลูกสาวเศรษฐี คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตแบบคนชั้นสูง ไม่ว่าแต่งกายหรูๆ ออกงานสังคมโก้ๆ ตลอดจนพูดจาไพเราะน่าฟังอย่างคนมีการศึกษาดี ทั้งหมดนี้เธอถ่ายทอดให้เฮลก้า เพื่อจะปลอมแปลงสถานภาพได้แนบเนียน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 72 เมื่อ 14 ก.ย. 13, 14:12
|
|
ในตอนแรกผู้หญิงทั้งสองคนนี้ย้ายออกจากสวีเดนไปฟินแลนด์ จะมีแผนอะไรอยู่ในใจหรือไม่ก็ตาม แต่ว่าเฮลก้าตัดสินใจแล้วว่าเธอไม่ใช้นามสกุลเดิมที่ต่ำต้อยไร้คอนเนคชั่นอีกต่อไป เธอจึงจัดการเปลี่ยนนามสกุลใหม่ในหนังสือเดินทางเป็น "เดอ ลา บราช" ซึ่งฟังดูเหมือนตระกูลผู้ดีอะไรสักตระกูลหนึ่ง เปลี่ยนชื่อจากออโรร่าเป็นแอนนา จากนั้น ท่านหญิงกำมะลอปลอมเอกสารสูติบัตรจากชื่อเดิมเป็นเฮลก้า ส่วนหญิงยากไร้ชื่อออโรร่า แมคนัสสันคนเดิมนั้นก็ถูกกำจัดออกนอกทางไป ด้วยการแจ้งทางการว่าหล่อนเสียชีวิตจากจมน้ำ ตายไปเรียบร้อย ส่วนหญิงคนใหม่ที่ชื่อเสียงฟังสง่างามกว่าเป็นกอง คือเฮลก้า เดอ ลา บราช ก็ถือกำเนิดขึ้นมาใหม่ นี่ก็อีกข้อหนึ่งที่น่าสังเกต คือสิบแปดมงกุฎมักมีชื่อเดิมกับชื่อเปลี่ยนใหม่เยอะแยะไปหมด ไม่ค่อยมีใครใช้ชื่อและนามสกุลเดิมตั้งแต่เกิดมา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
han_bing
|
ความคิดเห็นที่ 73 เมื่อ 14 ก.ย. 13, 22:37
|
|
ชื่อของเจ้าหญิงกำมะลอผู้นี้สะกดอย่างไรหรือครับ อยากเข้าไปค้นหาต่อ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 74 เมื่อ 15 ก.ย. 13, 09:13
|
|
Helga de la Brache ค่ะ มีให้อ่านหลายเว็บ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|