เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 45 เมื่อ 06 ก.ย. 13, 09:53
|
|
หลังจากสอบสวนกันถี่ถ้วนจนรู้เรื่องตั้งแต่ต้นจนปลาย ตำรวจและธนาคารก็ดูออกว่าโจเซฟ แลมป์เป็นเหยื่อของสิบแปดมงกุฎหญิง มิใช่ผู้ร่วมก่อการ จึงปล่อยตัวเขาไปโดยไม่ตั้งข้อหา เล่นงานแต่แคสซี่คนเดียว เธอก็เลยถูกศาลของรัฐสั่งจำคุกตามความผิดเป็นเวลาเก้าปีครึ่ง แคสซี่ใช้เวลาในคุกเขียนจดหมายร้องเรียนไปยังคณะกรรมการพิจารณาบรรเทาโทษ รำพันสารภาพผิดและสัญญิงสัญญาว่าจะกลับตัวใหม่ จนในที่สุดก็เป็นผลสำเร็จ คณะกรรมการส่งเรื่องให้ผู้ว่าการรัฐลงนามลดหย่อนโทษเหลือ 4 ปี เธอก็เลยมีโอกาสออกมาก่อกรรมทำเข็ญกับชาวบ้านได้อีก
แคสซี่กลับไปอยู่ในคลีฟแลนด์โดยใช้ชื่อใหม่ว่าแคสซี่ ฮูเวอร์ ไม่มีใครรู้ว่าเธอประกอบอาชีพอะไร แต่มีเสียงซุบซิบภายหลังว่าเธอกลายเป็นแม่เล้าเปิดสำนักโสเภณีโดยใช้ชื่อหอพักสตรีบังหน้า เสียงกระซิบแว่วมาอีกว่า หนึ่งในบรรดาลูกค้าของเธอเป็นพ่อม่ายสามีตายชื่อนายแพทย์ลีรอย แช็ดวิค ซึ่งนอกจากจะฐานะมั่งคั่งแล้วยังเป็นผู้ดีตระกูลเก่าแก่ที่สุดตระกูลหนึ่งในคลีฟแลนด์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 46 เมื่อ 06 ก.ย. 13, 09:56
|
|
จริงๆแล้ว ทั้งสองพบกันแบบไหนยังไง ก็ยังคลุมเครืออยู่ เพราะคุณหมอยอมเปิดปากบอกเพียงว่า เขาเป็นโรคปวดหลังอันเกิดจากรูมาติซั่ม และคุณนายฮูเวอร์คนนี้ก็รู้ศิลปะการนวดหลัง จนกระทั่งหาย เขาซาบซึ้งในเมตตาจิตของเธอจนกระทั่งกลายเป็นหลงรักถอนตัวไม่ขึ้น จริงหรือเท็จก็ตาม ลงเอยว่าแคสซี่จับนายแพทย์พ่อม่ายอยู่หมัดจนกระทั่งได้สมรสกับเขาตามกฎหมาย แล้วย้ายเข้าไปอยู่ในคฤหาสน์ในถิ่นหรูหราของเมือง เอาลูกชายที่ส่งให้พ่อแม่เลี้ยงในแคนาดา มาอยู่ในบ้านใหม่นี้ด้วย
คุณนายแช็ดวิคคนใหม่ เล่นเอาเพื่อนฝูงพวกพ้องของนายแพทย์งงงวยกันไปหมด เพราะไม่เคยมีใครรู้จักผู้หญิงคนนี้ หัวนอนปลายเท้ามาจากไหน พบคุณหมอได้ยังไงจนถึงขั้นแต่งงานกันก็ยังไม่มีใครรู้ แต่จะรู้หรือไม่รู้ก็ไม่แปลก แคสซี่กลายเป็นคุณนายเศรษฐินีอย่างถูกต้องในสังคมไปเรียบร้อย
จากนั้นเธอก็เริ่มละครฉากใหม่ในฐานะลูกสาวนอกสมรสของมหาเศรษฐีคาเนกีขึ้นมา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 47 เมื่อ 06 ก.ย. 13, 10:22
|
|
ผู้อ่านที่เป็นสุจริตชนทั้งหลายคงจะถามงงๆว่า ในเมื่อตกถังข้าวสาลีได้เป็นภรรยาเศรษฐีขึ้นมาแล้ว คุณนายแคสซี่ แช็ดวิค จะประกอบมิจฉาชีพต่อไปหาอะไร เสี่ยงกับคุกตะรางเปล่าๆ คำตอบก็น่าจะมีได้ 2 ทางคือ คนที่เป็นมิจฉาชีพสิบแปดมงกุฎโดยเนื้อแท้ หรือเรียกว่าเกิดมาเพื่อจะเป็นคนชั่ว ยังไงก็สลัดความชั่วจากใจไม่พ้น ไม่ว่าจะอยู่สบายยังไงใจมันก็วิ่งไปในทางประกอบความชั่วเพิ่มพูนขึ้นจนได้ และอย่างที่สองคือ มีนิสัยไม่รู้จักพอ ไม่รู้จักอิ่มในความทะยานอยากของตน
แม้ว่าสามีคุณนายแคสซี่เป็นเศรษฐี แต่เงินทองของเขาก็รองรับความกระหายของภรรยาไม่ได้หมด แคสซี่ไม่ได้อยากเป็นเศรษฐินี เธออยากเป็น "อภิมหาเศรษฐินี" แห่งคลีฟแลนด์ ไปไหนมีผู้คนก้มหัวนอบน้อม ยกย่องนับหน้าถือตากว่าคนอื่นๆ ไม่ใช่แค่เท่ากับเศรษฐินีอื่นๆ เธอมีโอกาสสมาคมกับผู้ดีมีเงินแห่งคลีฟแลนด์ในฐานะเพื่อนบ้านละแวกเดียวกัน เธอก็ยิ่งกระหายอยากจะสูงเด่นขึ้น ในเมื่อเธอขาดทั้งภูมิหลังแบคกราวน์ และอาชีพการงานที่จะอวดใครได้ ก็เหลืออีกอย่างเดียวคือต้องร่ำรวยหรูหราอวดคน ด้วยเหตุนี้ หลังจากแต่งงาน เธอก็ลุกขึ้นผลาญเงินสามีเป็นว่าเล่น บ้านช่องของเขาโอ่อ่าอยู่ดีๆเธอก็เข้าไปจัดการรื้อของเก่าทิ้ง ใส่เฟอร์นิเจอร์ของใหม่ ของประดับประดาบ้านราคาแพงๆ ตามรสนิยมของเธอ วันๆเธอเที่ยวช็อปปิ้งไปตามร้านแพงๆ ซื้อหามาแต่ของแพงลิบ โดยเอาราคาเป็นหลัก ไม่ได้เอารสนิยม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 48 เมื่อ 06 ก.ย. 13, 10:32
|
|
แคสซี่ แต่งกายหรูหราในมาดคุณนาย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 49 เมื่อ 07 ก.ย. 13, 20:03
|
|
แคสซี่เริ่มประดังประเดจ่ายเงินค่าเครื่องแต่งบ้านหรูหรา เช่นออร์แกนราคา 9,000 ดอลล่าร์ เก้าอี้ดนตรีที่พอนั่งลงก็จะมีเสียงเพลงดังออกมาจากใต้เบาะ ส่วนเพชรนิลจินดานั้นไม่ต้องพูดถึง ในหีบเครื่องประดับ มีถาดใส่เพชรและไข่มุกถึง 8 ถาด รวมราคา $98,000 ดอลล่าร์ นี่ยังไม่นับสร้อยไข่มุกราคา $40,000 ส่วนเสื้อผ้าก็สั่งตัดมาจากนิวยอร์ค ตุ๊กตาปั้นประดับบ้านสั่งมาจากตะวันออกไกล และเครื่องเรือนจากยุโรป เอาเป็นว่ามหาเศรษฐีมีอะไรกันเธอเป็นต้องมีหมด
หลังจากทนายความดิลลอนตกเป็นหน้าม้าแพร่ข่าวซุบซิบว่าเธอเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีคาเนกี แคสซี่ก็ทำให้ข่าวนั้นน่าเชื่อถือหนักขึ้นด้วยการสั่งซื้อเปียโนถึง 8 หลังพร้อมกัน แล้วแจกจ่ายให้เป็นของขวัญคริสต์มาสให้บรรดาเพื่อนฝูง แม้ว่านายแพทย์แชดวิคสามีเธอเป็นเศรษฐี แต่พอเจอภรรยาจ่ายเงินแบบนี้เข้า เศรษฐีก็เศรษฐีเถอะ เขาก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน เมื่อสามีเริ่มต่อต้านไม่ให้เธอซื้อแหลกแจกแถมแบบนี้ แคสซี่ก็หันไปหาแหล่งเงินของตัวเองได้สำเร็จ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 50 เมื่อ 07 ก.ย. 13, 20:06
|
|
แหล่งเงินของแคสซี่ไม่ใช่ที่ไหนอื่นนอกจากธนาคารที่เธอวางตั๋วสัญญาใช้เงินของคาเนกีไว้ค้ำประกัน ด้วยการยอมเสียดอกเบี้ยแพง และใช้ชีวิตฟู่ฟ่าเกินหน้าคนธรรมดาเขาทำกัน ในเมื่อเห็นฉากหน้าแบบนี้ เครดิตเธอก็ดีพอที่นายธนาคารจะยอมให้กู้เงินได้ตามสบาย วิธีหมุนเงินของแคสซี่ทำง่ายๆแต่ว่าได้ผล คือกู้เงินจากนายแบงค์คนแรกที่ยอมให้กู้ แล้วเอาเครดิตจากการกู้แบงค์แรกไปอ้างกับแบงค์ที่สอง จากแบงค์ที่สองไปแบงค์ที่สาม ต่อไปอีกไม่รู้จบ ในเมื่อวงการธนาคารถือว่าลูกหนี้ชั้นดีคือลูกหนี้ที่แบงค์อื่นๆรับรองให้กู้เงิน แคสซี่ก็กู้เงินขยายวงไปได้เรื่อยๆ ตั้งแต่ธนาคารใหญ่ไปจนธนาคารเล็กๆที่ยินดีจะได้ดอกเบี้ยแพงๆจากลูกค้าเครดิตดีเลิศอย่างเธอ ส่วนการชำระดอกเบี้ยก็ไม่ยาก เธอก็เอาเงินจากธนาคารหนึ่งไปจ่ายดอกเบี้ยให้อีกธนาคารหนึ่ง เป็นลูกโซ่ต่อกันไป ถ้าฝืดขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็ไปกู้ธนาคารใหม่ต่อไปอีกไม่อั้น มันก็คล้ายๆแชร์ลูกโซ่ที่เงินยังหมุนเวียนต่อไปได้ ตราบใดที่ยังไม่มีห่วงไหนสะดุดขึ้นมาจนล้มครืนลงไปทั้งหมด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 51 เมื่อ 08 ก.ย. 13, 14:16
|
|
พวกสิบแปดมงกุฎอย่างแคสซี่ ไม่ได้เป็นกันง่ายๆ เพราะฉะนั้นคนที่นึกว่าไอ้เรื่องต้มตุ๋นเป็นกันง่ายๆ แค่หัดตีหน้าตาย อยากหลอกใครก็หลอก จึงเป็นความคิดประมาทโดยแท้ พวกมือสมัครเล่นที่คิดง่ายๆแบบนี้ทำได้หนสองหนก็ถูกจับได้อยู่ดี ต้องมือระดับโปรอย่างแคสซี่ ที่มีพรนรกติดตัวมาแต่กำเนิด พวกนี้มีมันสมองเฉลียวฉลาดในทางสร้างแผนตบตาคนได้อย่างที่คนนึกไม่ถึง และที่สำคัญต้องมีคารมดี ไหวพริบดี เกลี้ยกล่อมเหยื่อให้หลงเชื่อหัวปักหัวปำ พวกนี้ไม่เคยเลือกเหยื่อโง่ๆเซ่อๆ ไร้การศึกษา เพราะคนประเภทนั้นไม่มีอะไรจูงใจสิบแปดมงกุฎได้ เหยื่อที่ถูกเล็งไว้คือพวกเศรษฐี หรือคนมีหน้ามีตา ก็ด้วยเหตุผลง่ายๆคือมีอะไรให้กอบโกยได้เยอะ ไม่ว่าจะเป็นเงินทองหรือเครดิตทางสังคม ก็ด้วยเหตุผลนี้แหละ คุณนายเศรษฐินีไฮโซจึงสามารถเกลี้ยกล่อมให้นายแบงค์ผู้โชกโชนและช่ำชองในธุรกิจ กลายเป็นหมูในหม้อตุ๋นของเธอได้หลายคน ไม่ใช่คนเดียว ถูกตุ๋นเปื่อยอยู่ในหม้อเป็นเวลายาวนานถึง 7 ปี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 52 เมื่อ 08 ก.ย. 13, 14:17
|
|
รายชื่อธนาคารที่ตกเป็นเหยื่อเธอ ก็ขอลอกมาให้ทั้งหมดดีกว่า ขี้เกียจทับศัพท์เป็นภาษาไทยค่ะ - Citizen’s National Bank - Ohio Citizen’s Bank - Cleveland’s Wade Park Banking Company - New York’s Lincoln National Bank และธนาคารเล็กธนาคารน้อยอีกประมาณ 1 โหล
เธอสามารถจะหลอกให้ประธานของ Citizen’s National Bank ยอมเซ็นให้เธอกู้เงินถึง $240,000, บวกกับอีก $ 100,000 เธอดึงหมับจากบัญชีส่วนตัวของเขา นอกจากนี้ยังไปหลอกเจ้าสัวรายใหญ่ในวงการเหล็กที่พิตสเบิร์กอีกรายหนึ่งให้เธอกู้เงิน ถึง $800,000. มาถลุงตามสบาย โปรดอย่าลืมว่านี่คือเหตุการณ์สมัยปลายศตวรรษที่ 19 ต่อกับต้นศตวรรษที่ 20 ที่ค่าของเงินยังน้อยกว่าสมัยนี้มาก ถ้าเป็นเดี๋ยวนี้ก็คงจะต้องเอาสิบยี่สิบเท่าคูณเข้าไป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 53 เมื่อ 08 ก.ย. 13, 14:33
|
|
นอกจากเล่นบทเศรษฐินีลูกสาว(ลับๆ)ของมหาเศรษฐี มีเงินโปรยราวกับใบปลิว แคสซี่ยังเล่นบทอุบาสิกาใจบุญธรรมะธัมโม เพราะเธอรู้ว่าคนรวยเขาชอบไปวัดกันเป็นประจำ แถมยังใจป้ำบริจาคกันคนละมากๆ ด้วยบทบาทเศรษฐินีใจบุญอยู่ในศีลในธรรม แถมยังชอบบริจาคเงินให้วัด เธอก็สร้างคอนเนคชั่นกับเหยื่อเศรษฐีหลายคนผ่านทางโบสถ์ดังๆ เหล่านี้ ให้เขาเลื่อมใสเกิดความเชื่อถือในตัวเธอได้สำเร็จ เหยื่อคนหนึ่งที่เข้ามาฮุบเบ็ดเป็นนายธนาคารในบอสตันที่ปล่อยเงินกู้ให้นักลงทุนในอุตสาหกรรม แคสซี่สามารถใช้วาจาเกลี้ยกล่อมให้เขายอมจ่ายเช็คเงินกู้ให้เธอถึง $79,000 พ่วงด้วยเงินส่วนตัวอีกหลายครั้ง ระหว่าง $25,000—$104,000 ส่วนตัวเธอก็ทำหน้าตาเฉย เซ็นตั๋วสัญญาจ่ายเงินคืนกลับให้เขาเป็นเงินถึง $190,800 อย่างใจป้ำกับค่าดอกเบี้ยสูงลิบที่เป็นส่วนต่าง ทำเอานายธนาคารยิ้มแก้มแทบปริกับกำไรส่วนนี้ แคสซี่ลอยละล่องอยู่บนความสำเร็จ มีกองเงินกองทองรองรับ เป็นไฮโซชั้นหรูเริ่ดของสังคมจนได้สมญาว่า "นางพญาแห่งโอไฮโอ" ไม่มีใครสักคนเดียวที่สงสัยว่าเงินมหาศาลในครอบครอง หาใช่สมบัติของคาเนกีไม่ แต่เป็นเงินที่ต้มตุ๋นหลอกลวงมาทั้งหมด เธอดำรงตำแหน่งสตรีชั้นนำของสังคมผู้ดีมีเงินอยู่ได้ยาวนานถึง 7 ปี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 54 เมื่อ 09 ก.ย. 13, 10:18
|
|
ในเมื่อความลับไม่มีในโลก นิวตันก็เริ่มรู้ทีละเล็กทีละน้อยจากนายธนาคารด้วยกัน ว่าแคสซี่เป็นลูกค้า-หรือเรียกให้ตรงกว่านี้ว่าลูกหนี้-รายใหญ่ของเพื่อนๆธนาคารด้วยกัน จำนวนเงินที่ปล่อยกู้สูงเสียจนนิวตันแทบช็อค เพราะมันพุ่งยอดขึ้นไปประมาณ 5,000,000 ดอลล่าร์ มากเกินกว่าเอกชนรายไหนจะมีปัญญาชำระหนี้ อย่าว่าแต่ต้นเลย แม้แต่ดอกก็ยังน่าสงสัย เขาเริ่มทวงเงินต้นบางส่วนกลับจากแคสซี่ แต่ก็พบว่าเธอบ่ายเบี่ยงเลี่ยงหลีกเสียจนเขาแน่ใจว่า โดนเบี้ยวหนี้แน่แล้ว เขาก็ตัดสินใจฟ้องศาลขอยึดทรัพย์สิน แต่เพื่อป้องกันมิให้แคสซี่ยักยอกเงินทองข้าวของหนี เขาก็ยื่นคำร้องต่อศาลให้ผู้บริหารระดับสูงของ Wade Park Banking Company ที่เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของแคสซี่ยึด "ตั๋วสัญญาใช้เงิน" ที่มีลายเซ็นของคาเนกี เอาไว้ อย่างน้อยก็เพื่อเอามาประกันหากว่าแคสซี่หนีหนี้
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 ก.ย. 13, 12:10 โดย เทาชมพู »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 55 เมื่อ 09 ก.ย. 13, 10:20
|
|
ก็จริงอย่างที่คาดไว้ แคสซี่หนีคดีเอาจริงๆ เธอหลบออกจากคลีฟแลนด์ไปกบดานในนิวยอร์ค แต่ว่าตำรวจและนักสืบก็เก่ง แกะรอยเจอ เธอจึงถูกตามจับตัวเอากลับมาคลีฟแลนด์ได้ พบว่าเจ้าตัวซุกซ่อนเงินไว้ในตัวถึงหนึ่งแสนดอลล่าร์ เตรียมพร้อมจะไปใช้ชีวิตใหม่ในชื่อใหม่ต่อไป บัดนี้ห่วงลูกโซ่ขาดแล้ว เจ้าหนี้ก็ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด กลายเป็นข่าวอื้อฉาวไปทั่วเมือง ว่าเศรษฐินีคนดังที่สุดในเมืองล้มลงแล้วด้วยหนี้สินล้นพ้นตัว นายแพทย์แช็ดวิคจองทัวร์ด่วนไปเที่ยวยุโรป เพื่อหนีหน้าสังคม เขาไปกับลูกสาวที่เกิดกับภรรยาคนเดิม แต่ก่อนเดินทางเขาก็ยื่นฟ้องหย่าขาดจากแคสซี่ เพื่อจะได้ไม่ต้องมารับใช้หนี้สิน และแสดงตัวว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ภรรยาไปก่อไว้แต่แรก นายแบงค์ผู้สิ้นเนื้อประดาตัวทั้งจากบัญชีธนาคารและบัญชีส่วนตัวมาชุมนุมกัน จึงพบว่าทุกคนเคยอยู่ในหมอตุ๋นเปื่อยของลูกสาวนอกกฎหมายของมหาเศรษฐีคาเนกีทั้งสิ้น ดังนั้นจะช่วยกันปิดความลับไม่เอ่ยให้ท่านมหาเศรษฐีกระดากกระเดื่องว่าแอบไปมีลูกนอกสมรส ก็ไม่ได้อีกแล้ว เพราะพ่อจะต้องรับผิดชอบแทนลูกละคราวนี้ พวกเราก็คงเดากันออกนะคะว่า เมื่อเรื่องนี้ถูกแฉขึ้นมา คาเนกีตอบว่ายังไง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 56 เมื่อ 09 ก.ย. 13, 13:03
|
|
คำตอบของมหาเศรษฐีคาเนกีทำให้นายธนาคารเคราะห์ร้ายทั้งหลายหงายหลังตกเก้าอี้ไปตามๆกัน คาเนกีผู้ชรายืนยันว่านอกจากไม่เคยมีลูกนอกสมรสแล้ว เขายังไม่เคยเห็นหน้าค่าตาของแคสซี่มาก่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนตั๋วสัญญาใช้เงินที่มีลายเซ็น ก็เป็นของปลอม เพราะคาเนกียืนยันว่าเขาไม่เคยลงนามในเช็คหรือสัญญา หรืออะไรทั้งสิ้นมา 30 ปีแล้ว สรุปว่า ทุกคนก็พบว่าเงินทองของตัวเองละลายหายสูญไปกับผู้หญิงคนนี้ตลอดเวลา 7 ปี ไม่ใช่เงินของลูกค้าเท่านั้นที่หมดไป แต่เงินส่วนตัวของนายธนาคารบางคนก็พลอยเกลี้ยงกระเป๋าไปด้วย ธนาคารแห่งหนึ่งถึงกับล้มไปเพราะหนี้สูญเรื่องนี้ ส่วนนายแบงค์ที่ล้มพังพาบลงไปด้วยก็มีเช่นกัน จนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครคำนวณได้ว่าเงินต้นที่แคสซี่ผลาญไปนั้นมียอดรวมเท่าใดกันแน่ เพราะเชื่อกันว่าเจ้าหนี้บางคนก็ไม่ยอมออกหน้ามาเปิดเผย อาจด้วยเกรงว่าจะเสียเครดิตต่อลูกค้าอื่นหรืออะไรก็ตาม แต่รวมแล้วเธอผลาญระบบการเงินของคลีฟแลนด์ไปอย่างมหาศาล ในค.ศ. 1905 คือปีต่อมาจากที่ความแตก แคสซี่ถูกตัดสินจำคุก 14 ปี โดนปรับ 70,000 ดอลล่าร์ ในบรรดาผู้มาฟังการตัดสินของศาล มีแอนดรูว์ คาเนกีรวมอยู่ด้วย คาเนกีพูดสั้นๆตอนหนึ่งว่า ความเสียหายมหาศาลทั้งหมดนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าใครสักคนจะกล้าไปถามความจริงกับเขาตั้งแต่แรก ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นลูกสาวเขาจริงหรือเปล่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 57 เมื่อ 09 ก.ย. 13, 13:15
|
|
บั้นปลายชีวิต แคสซี่ไม่มีโอกาสได้ใช้เงินทองที่ฉ้อโกงมาให้สมอยาก หลังจากถูกจำคุกอยู่ปีกว่า เธอล้มป่วยลงด้วยอาการทางเส้นประสาท ทำให้ดวงตาบอดสนิท ในปลายปี 1907 เธอมีอาการแทรกซ้อนทางหัวใจและกระเพาะอาหารจนป่วยหนัก เสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมนั้นเอง อายุได้ 50 ปี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 58 เมื่อ 10 ก.ย. 13, 11:05
|
|
แผนหนึ่งที่สิบแปดมงกุฎนิยมใช้กันมากก็คือแอบอ้างเป็นวีไอพี หรือบุคคลสำคัญ ประเภทลับๆ อย่างแรกคือเพื่อสร้างเครดิตความน่าเชื่อถือให้กับคนที่หลงเชื่อ ว่าเขาหรือหล่อนมิใช่คนเดินดินข้างถนนทั่วไป อย่างที่สองคือต้องเป็นวีไอพีลับ เพราะถ้าเป็นวีไอพีสว่างๆ อย่างคนสำคัญทั่วไปเขาเป็นกัน ก็มีแต่จะถูกสอบสวนซักไซ้ไล่เลียงจนถูกจับได้ว่าปั้นเรื่องขึ้นมาเท่านั้นเอง
ก็อย่างแคสซี่อ้างตัวเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีคาเนกี หล่อนก็อ้างว่าเป็นลูกสาวลับๆนอกกฎหมาย พ่อไม่เปิดเผย เพราะทำให้หล่อนไม่ต้องมีบทออกงานคู่กับคุณพ่อ ไม่ต้องมีบทอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกับพ่อ หรือไปมาหาสู่ประจำ และข้อสุดท้ายคือปลอดภัย ไม่มีญาติคนไหนมายืนยันได้ด้วยว่าแม่คนนี้ไม่ใช่ลูกหลานฉันสักหน่อย
แคสซี่เพียงแต่อ้างว่าเป็นลูกสาวมหาเศรษฐีเพื่อหลอกธนาคาร เอาเงินมาละเลง แต่สิบแปดมงกุฎรายที่สามที่จะเล่าต่อไปนี้ กระโดดสูงกว่านั้น หล่อนอ้างตัวว่าเป็นองค์หญิงพระธิดาพระเจ้าแผ่นดินแห่งสวีเดนเลยทีเดียวค่ะ หล่อนชื่อเฮลก้า เดอ ลา บราช (คำหลังนี้ออกเสียงบราช แล้วมีเสียงคล้ายๆ เออะ ตามหลังมาอีกที)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นางมารน้อย
พาลี
   
ตอบ: 306
ทำงานแล้วค่ะ
|
ความคิดเห็นที่ 59 เมื่อ 10 ก.ย. 13, 12:06
|
|
มาลงชื่อติดตามค่ะ สนุกมาก แต่สมัยนี้มีเยอะนะคะพวกเจ้าเก๊ กำมะลอ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
สวัสดีทุกๆท่านค่ะ
|
|
|
|