เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 30 เมื่อ 21 ส.ค. 13, 18:51
|
|
เมื่อนายกุหลาบออกหนังสือชื่อ "สยามประเภท" ลงบทความต่างๆด้านประวัติศาสตร์ ตีพิมพ์จำหน่าย ทำนองเดียวกับหนังสือวชิรญาณของหอพระสมุด ในระยะแรก สยามประเภทได้รับความสนใจจากคนอ่านมาก มีคนสมัครเป็นสมาชิกกันมากมาย กระจายออกไปถึงนอกประเทศ บางครั้งต้องพิมพ์ซ้ำหลายครั้งในฉบับเดียว เพื่อตอบสนองคนอ่านได้ทั่วถึง ฉบับแรกๆเป็นเรื่องของความรู้ต่างๆ ต่อมาอีก 1 ปี ก็เป็นการตอบคำถามที่ประชาชนส่งเข้าไป
สำหรับบุคคลภายนอก หรือประชาชนทั่วไป นิยมว่านายกุหลาบเป็นผู้รู้เรื่องราวประวัติศาสตร์อย่างกว้างขวาง แต่สำหรับเจ้านายที่ทรงรอบรู้เรื่องภาษาและประวัติศาสตร์ไทยอย่างกรมพระสมมตอมรพันธุ์ทรงสะกิดพระทัย เมื่อทรงสังเกตเรื่องหนังสือโบราณแทรกสำนวนใหม่ของนายกุหลาบ เป็นเหตุให้ทรงตัดสินพระทัยจะต้องค้นหาความจริงจากนายกุหลาบให้ได้ โดยไม่ให้รู้ตัวเสียก่อน จึงทรงทำตัวคล้ายเชอร์ล็อคโฮล์มส์ คือสืบความลับด้วยการทำไมตรีกับนายกุหลาบเหมือนไม่รู้เท่าทัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 31 เมื่อ 21 ส.ค. 13, 18:53
|
|
นายกุหลาบเข้าใจว่าเจ้านายทรงนับถือตนว่าเป็นผู้มีความรู้ ก็เลยนำหนังสือฉบับที่ตนแก้ไขดัดแปลงแล้ว ขึ้นถวาย หลายเรื่องด้วยกัน รวมทั้งพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ ตอนรัชกาลที่ 3 ซึ่งเจ้าพระยาทิพากรวงศ์เป็นผู้เรียบเรียง นายกุหลาบไม่รู้ว่าหนังสือเป็นเรื่องราวสมัยรัชกาลที่ 3 ก็จริง แต่เจ้าพระยาฯท่านมาทำเมื่อรัชกาลที่ 5 นี่เอง ฉบับเดิมยังอยู่ในหอพระสมุด เมื่อกรมพระสมมตฯ นำทั้งสองฉบับมาตรวจสอบกันดู ความก็แตกออกมา ว่านายกุหลาบเอาหนังสือซึ่งเป็นของหลวง มาแต่งแทรกใหม่ลงไปหลายตอน ทรงสามารถแยกแยะออกมาได้ว่าตอนไหนบ้าง กรมพระสมมตฯ จึงทรงนำเรื่องขึ้นกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเล่าในตอนนี้ว่า "สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ทรง" มันไส้" ถึงเขียนลายพระราชหัตถเลขาลงในฉบับของนายกุหลาบ ทรงชี้ให้เห็นตรงที่แทรกบ้าง บางแห่งก็ทรงเขียนเป็นคำล้อเลียน หรือคำบริภาษแทรกลงบ้าง แล้วพระราชทานคืนออกมายังกรมพระสมมตฯ กรมพระสมมตฯ ต้องให้อาลักษณ์เขียนตามฉบับของนายกุหลาบขึ้นใหม่ ส่งคืนไปให้เจ้าของ เอาหนังสือของนายกุหลาบที่มีลายพระราชหัตถเลขารักษาไว้ในหอสมุดวชิรญาณจนบัดนี้"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
V_Mee
|
ความคิดเห็นที่ 32 เมื่อ 21 ส.ค. 13, 22:42
|
|
เมื่อนายกุหลาบออกหนังสือชื่อ "สยามประเภท" ลงบทความต่างๆด้านประวัติศาสตร์ ตีพิมพ์จำหน่าย ทำนองเดียวกับหนังสือวชิรญาณของหอพระสมุด ในระยะแรก สยามประเภทได้รับความสนใจจากคนอ่านมาก มีคนสมัครเป็นสมาชิกกันมากมาย กระจายออกไปถึงนอกประเทศ บางครั้งต้องพิมพ์ซ้ำหลายครั้งในฉบับเดียว เพื่อตอบสนองคนอ่านได้ทั่วถึง ฉบับแรกๆเป็นเรื่องของความรู้ต่างๆ ต่อมาอีก 1 ปี ก็เป็นการตอบคำถามที่ประชาชนส่งเข้าไป
สำหรับบุคคลภายนอก หรือประชาชนทั่วไป นิยมว่านายกุหลาบเป็นผู้รู้เรื่องราวประวัติศาสตร์อย่างกว้างขวาง แต่สำหรับเจ้านายที่ทรงรอบรู้เรื่องภาษาและประวัติศาสตร์ไทยอย่างกรมพระสมมตอมรพันธุ์ทรงสะกิดพระทัย เมื่อทรงสังเกตเรื่องหนังสือโบราณแทรกสำนวนใหม่ของนายกุหลาบ เป็นเหตุให้ทรงตัดสินพระทัยจะต้องค้นหาความจริงจากนายกุหลาบให้ได้ โดยไม่ให้รู้ตัวเสียก่อน จึงทรงทำตัวคล้ายเชอร์ล็อคโฮล์มส์ คือสืบความลับด้วยการทำไมตรีกับนายกุหลาบเหมือนไม่รู้เท่าทัน
อ่านแล้วนึกถึงหนังสือเล่มหนึ่ง ที่คนรุ่นใหม่เขาอ่านกันแล้วเยินยอคนเขียนเสียเลิศเลอว่า ช่างเก่งกล้าสามารถเขียนวิพากษ์เรื่องราวที่คนไม่กล่าพูดถึง แต่สำหรับคนที่รู้ทันท่านก็ว่าตัดแปะและบิดเบือนเสียจนเละไปหมดทั้งเล่ม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 33 เมื่อ 21 ส.ค. 13, 23:34
|
|
พอจะรู้ว่าเล่มไหน รอวันหนึ่งความจริงที่เป็นเรื่องจริง จะกระจ่างออกมาค่ะ คุณ V_Mee ดิฉันฝากความหวังไว้ที่คุณ V_Mee ด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 34 เมื่อ 22 ส.ค. 13, 09:56
|
|
ในฐานะราชเลขานุการเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย กรมพระสมมตอมรพันธุ์ได้ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ เมื่อเสด็จประพาสยุโรปทั้ง 2 ครั้ง ครั้งหลังเสด็จไปเมื่อ พ.ศ. 2450 เจ้านายอื่นๆที่ตามเสด็จคือพระเจ้าลูกยาเธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์, พระเจ้าลูกยากรมพระนครสวรรค์วรพินิต และพระเจ้าน้องยาเธอกรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ กลับมาได้ 3 ปี พระเจ้าอยู่หัวก็สวรรคต
เริ่มรัชกาลที่ 6 กรมพระสมมติมีพระชันษา 50 ปี ทรงรับราชการมายาวนานถึง 35 ปี ตรากตรำทำงานในหน้าที่สำคัญๆมามาก พระพลานามัยก็เริ่มอ่อนแอลงตามวัย โรคเรื้อรังที่เป็นมาหลายปีคือโรคไต(พระวักกะ)พิการ นอกจากนี้แพทย์ยังลงความเห็นว่า พระหทัยโต ทำให้เหนื่อยง่ายและอ่อนเพลีย จึงกราบบังคมทูลลาออกจากราชการในพ.ศ. 2554 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ ทรงเห็นพระทัยก็โปรดเกล้าฯให้เป็นไปตามพระประสงค์ แต่ยังให้ดำรงตำแหน่งเป็นเสนาบดีที่ปรึกษาในกรมราชเลขานุการต่อไป ดังที่มีพระราชหัตถเลขามาถึง ตอนหนึ่งว่า
มีความเสียใจที่ได้ทราบว่า ประชวรมีพระอาการหายได้ช้า เห็นว่าควรอยู่แล้วที่จะมีโอกาสได้พักผ่อนจริงๆ เพราะฉะนั้นอนุญาตให้ทรงออกจากตำแหน่งน่าที่ราชเลขานุการและอธิบดีพระคลังข้างที่.....ส่วนพระองค์ท่านเอง หม่อมฉันนับถือว่าเป็นครูผู้ ๑ ยังจะต้องขอให้ได้มีโอกาสรับคำแนะนำแลปฤกษาหาฤๅต่อไป เพราะฉะนั้นขอให้ทรงรับตำแหน่งเสนาบดีที่ปฤกษา ขอให้ทรงอุตสาหรักษาพระองค์ให้จงดี เพราะยังมีเวลาได้อาไศรยไหว้วานกันไปอีก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
werachaisubhong
|
ความคิดเห็นที่ 35 เมื่อ 22 ส.ค. 13, 17:31
|
|
กรมพระสมมตอมรพันธุ์ อ่านว่าอย่างไรครับ ท่านอาจารย์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ฅนเมียงแป้ มาอยู่ เจียงฮาย
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 36 เมื่อ 22 ส.ค. 13, 17:51
|
|
Krom Phra Sommot Amonphan
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 37 เมื่อ 22 ส.ค. 13, 21:04
|
|
^ ใช่ค่ะ สมมต อ่านว่า สม-มด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 38 เมื่อ 23 ส.ค. 13, 12:46
|
|
ในปีที่ทรงกราบถวายบังคมลาจากราชการนี้เอง พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ก็โปรดเกล้าฯเลื่อนพระอิสริยยศเป็น พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสมมตอมรพันธุ์ ในประกาศตอนหนึ่ง ทรงสรรเสริญไว้ว่า
"....ทรงเคารพนับถือประหนึ่งว่าเป็นพระอาจารย์พระองค์ 1 ทั้งทรงได้สังเกตพระอัธยาศัยว่าเต็มไปด้วยความเมตตาสีตลหฤทัย กอปรด้วยวิริยอุตสาหอันยิ่งใหญ่ มีพระสติปัญญาอันสุขุม สมควรที่จะได้เลื่อนพระอิสริยยศเป็นต่างกรมผู้ใหญ่ที่เคารพได้..."
หมายเหตุ : สีตลหฤทัย ---> สีตล = เย็น หฤทัย = ใจ ---> มีจิตใจเยือกเย็น
นอกเหนือจากตำแหน่งสำคัญๆในราชการที่ทรงรับมาตลอด 35 ปี พระวิริยะอุตสาหะอีกประการหนึ่งของกรมพระสมมตฯ คืองานในตำแหน่งสภานายกกรรมการหอพระสมุดพระนคร ที่ทรงทำมาตั้งแต่พ.ศ. 2453-2458 ผลงานเรื่องสำคัญๆ ที่ทรงค้นคว้าเรียบเรียง คือ - จดหมายเหตุเรื่องทรงตั้งพระบรมวงศานุวงศ์กรุงรัตนโกสินทร์ - เรื่องตั้งพระราชาคณะผู้ใหญ่ในกรุงรัตนโกสินทร์ - เรื่องตั้งเจ้าพระยาในกรุงรัตนโกสินทร์ (ทรงค้างไว้) และพระนิพนธ์สำคัญคือ จดหมายเหตุรายวัน หรือ ไดอรี ที่กล่าวถึงในกระทู้นี้มาแล้วค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 39 เมื่อ 23 ส.ค. 13, 17:52
|
|
พระรูปของเสด็จในกรมพระองค์นี้หายากจริงๆ ที่ผมก็อปออกมาจากหนังสือก็ได้คุณภาพเท่านี้เองครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 40 เมื่อ 23 ส.ค. 13, 18:52
|
|
ขอบคุณค่ะ หาในกูเกิ้ลก็ได้มาแค่นี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 41 เมื่อ 24 ส.ค. 13, 09:27
|
|
กรมพระสมมตอมรพันธุ์ทรงใฝ่พระทัยทางทะนุบำรุงศาสนาอีกทางหนึ่งด้วยนอกเหนือจากงานในหน้าที่ เห็นได้จากทรงรับเป็นมรรคนายกวัดเทพธิดาราม ซึ่งอยู่ใกล้วัง อีกวัดหนึ่งคือวัดวิเวกวายุพัดที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็ทรงร่วมบริจาคทะนุบำรุงตั้งแต่วัดมีหลังคาจากจนเปลี่ยนเป็นหลังคาตึก นอกจากนี้ ทรงสร้างกุฏิไว้หลังหนึ่งที่วัดมกุฎกษัตริยาราม เรียกว่าโสตถิวิหาร ในรัชกาลที่ 5 และต้นรัชกาลที่ 6 โรงเรียนและโรงพยาบาลเป็นของใหม่ กรมพระสมมตฯทรงเห็นประโยชน์ของทั้งสองอย่างจึงทรงบริจาคเงินทองช่วยเหลืออยู่เสมอ แม้แต่ในพระพินัยกรรม ก็ทรงแบ่งทรัพย์สินส่วนหนึ่งไว้สำหรับวัด โรงเรียนและโรงพยาบาล
วัดวิเวกวายุพัด หรือวัดช่องลม v
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 42 เมื่อ 24 ส.ค. 13, 10:30
|
|
ทางด้านส่วนพระองค์ กรมพระสมมตอมรพันธ์เคยมีพระชายาเป็นเจ้าหญิงเขมรชื่อนักสุดาดวง บุตรีเจ้าแก้วมโนนอร์ ซึ่งเป็นพระโอรสของสมเด็จพระหริรักษ์รามาธิบดี พระเจ้ากรุงกัมพูชา นักสุดาดวงเป็นหม่อมพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่สิ้นพระชนม์ไปโดยไม่มีโอรสธิดา ทรงมีพระโอรส จากชายาอื่นๆ คือ จากหม่อมเจ้าหญิงจำรัส นิลรัตน์ พระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้านิลรัตน กรมหมื่นอลงกฎกิจปรีชา) มีโอรส 1 องค์ ได้แก่หม่อมเจ้ามงคลประวัติ สวัสดิกุล (พ.ศ. 2428-2491) เสกสมรสกับ หม่อมราชวงศ์บัว สนิทวงศ์ จากหม่อมเพิ่ม สวัสดิกุล ณ อยุธยา มีโอรส 1 องค์คือหม่อมเจ้าวิบูลย์สวัสดิ์วงศ์ สวัสดิกุล (พ.ศ. 2428-2483) เสกสมรสกับ หม่อมเกื้อ ณ ระนอง จากหม่อมตลับ มีโอรส 1 องค์ คือหม่อมเจ้าชายใหญ่ ไม่ทราบปีประสูติและสิ้นพระชนม์
กรมพระสมมตอมรพันธ์ประชวรหนักเมื่อพ.ศ. 2458 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเสด็จเยี่ยมพระอาการ แต่พระอาการก็ไม่ดีขึ้น จนสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2458 พระชันษา 55 ปี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 43 เมื่อ 24 ส.ค. 13, 18:33
|
|
หม่อมเจ้าวิบูลย์สวัสดิ์วงศ์ สวัสดิกุล
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 44 เมื่อ 25 ส.ค. 13, 13:52
|
|
กรมพระสมมตอมรพันธุ์มีหลานปู่ ท่านหนึ่ง เป็นบุตรชายเกิดจากหม่อมเจ้ามงคลประวัติ สืบทอดความเป็นนักปราชญ์ทางอักษรศาสตร์จากเสด็จปู่ ท่านชื่อศาสตราจารย์ ม.ร.ว.สุมนชาติ สวัสดิกุล เป็นอาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ท่านเป็นผู้ที่ตั้งข้อสงสัยถึงตัวตนจริงของศรีปราชญ์ โดยเทียบกับหลักฐานทางประวัติศาสตร์ แล้วพบว่าไม่สอดคล้องกัน นอกจากนี้ยังเขียนบทความเรื่อง "กามนิตสืบเนื่องมาแต่พระสูตรไหน"
อีกเรื่องหนึ่ง คือบันทึกรับสั่งสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ประทาน ม.ร.ว.สุมนชาติ สวัสดิกุล ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ วงวรรณคดี เมื่อสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสด็จกลับจากปีนัง ได้ประทานโอกาสให้หม่อมราชวงศ์ สุมนชาติ สวัสดิกุล เข้าเฝ้าซักถามปัญหาเกี่ยวกับโบราณคดีและวรรณคดีของไทย ณ วังวรดิศ ทุกวัน ปัญหาส่วนมากทรงตอบทันที แล้วหม่อมราชวงศ์สุมนชาติ สวัสดิกุล บันทึกนำมาอ่านถวายในวันรุ่งขึ้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|