ญี่ปุ่น ญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น

[เพ็ญชมพู]

ชื่อภาษาอังกฤษก็เปลี่ยนใหม่เป็น National Museum of Nature and Science แต่ชื่อภาษาญี่ปุ่นเป็น 国立科学博物館 เหมือนเดิม 

[เพ็ญชมพู]

ส่วนหนึ่งของสิ่งที่แสดงในพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์



ที่น่าสนใจก็น่าจะเป็นเจ้าตัวนี้

ในปัจจุบันร่างของฮะชิโกถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติญี่ปุ่น

[เพ็ญชมพู]

หากใครต้องการเข้าวัดหรือศาลเจ้า ก็แวะชมบริเวณนี้ได้เลย

๑. วัดเจ้าแม่กวนอิมคิโยมิซึ 清水観音堂 - Kiyomizu Kannondo  วัดนี้ชื่อเดียวกับวัดคิโยมิซึหรือที่คนไทยรู้จักกันในนาม "วัดน้ำใส" ที่เกียวโต

๒. หอเบนเทนโด 弁天堂 - Bentendo

๓. ศาลเจ้าโกโจเทนจิน 五條天神社 Gojōten Jinja

๔. ศาลเจ้าโทโชกุ 上野東照宮 - Ueno Toshogu ศาลเจ้านี้สร้างอุทิศให้โชกุนโทะกุงะวะ อิเอะยะซุ โชกุนคนแรกของตระกูลโทะกุงะวะ  มีศาลเจ้าชื่อเดียวกันนี้ทั่วประเทศกว่า ๑๓๐ แห่ง  ที่มีชื่อเสียงและสวยที่สุดอยู่ที่นิกโก คือ 日光東照宮 - Nikko Toshogu

๕. สวนดอกโบตั๋นศาลเจ้าโทโชกุ 東照宮ぼたん園 - Toshogu botan-en

๖. เจดีย์ ๕ ชั้นเก่าของวัดคันเอจิ 旧寛永寺五重塔 -  Kyu Kan-ei-ji Goju no To

[เพ็ญชมพู]

ในแผนที่ขาดศาลเจ้าไปอีกแห่งหนึ่ง เป็นศาลเจ้าไม่ค่อยใหญ่ แต่มีโทริอิทางเข้าที่แปลกตาทีเดียว ชื่อว่า ศาลเจ้าฮะนะโซโนอินาริ 花園稲荷神社 - Hanazono Inari JinJa  ชื่อศาลเจ้าอยู่ในผืนผ้าสีแดง

[เพ็ญชมพู]

ภาพปัจจุบัน เสาหินบอกชื่อทั้งศาลเจ้า (๑) 五條天神社 Gojōten Jinja (หมายเลข ๓ ในแผนที่) และ (๒) 花園稲荷神社 - Hanazono Inari JinJa  

เสาหินนี้คงปักหลังจากภาพข้างบน  

[เพ็ญชมพู]

เมื่อลอดซุ้มโทริอิสีแดง ก็จะไปถึงศาลเจ้า (๑) 花園稲荷神社 - Hanazono Inari JinJa และต่อมาคือ (๒) 五條天神社 Gojōten Jinja  ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกัน    

[เพ็ญชมพู]

มาลอดซุ้มโทริอิแดงไปไหว้เจ้าด้วยกัน 

[เพ็ญชมพู]

ศาลเจ้าฮะนะโซโนอินาริ 花園稲荷神社 - Hanazono Inari JinJa  แปลตามตัวอักษรคือ ศาลเจ้าสวนดอกไม้ของเทพอินาริ  เทพอินาริเป็นเทพแห่งข้าวไม่ระบุว่าเป็นหญิงหรือชาย เทียบเท่ากับพระแม่โพสพของเรา มีลูกน้องเป็นสุนัขจิ้งจอกสีขาว  ศาลเจ้าเทพอินาริจึงพบได้ทั่วไปในญี่ปุ่น ที่มีชื่อเสียงที่สุดอยู่ที่เกียวโตคือ ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ 伏見稲荷大社 - Fushimi Inari Taisha มีซุ้มโทริอิแดงเรียงรายไปบนภูเขาเป็นระยะทางถึง ๔ กิโลเมตร  


ข้างล่างคือภาพศาลเจ้าเทพอินาริที่อุโอะโนะ (ภาพจากเว็บแผนที่ของคุณกุ๊ก) จะเห็นสุนัขจิ้งจอกเฝ้ายามอยู่สองข้าง  

[เพ็ญชมพู]

ศาลเจ้าของเทพอินาริบางแห่งเลี้ยงสุนัขจิ้งจอกไว้นับพันตัว (เป็นรูปสลักหิน อย่าเข้าใจผิดว่าเป็นสุนัขจริง)  

ภาพจาก http://www.ugo.cn/photo/JP/en/51922.htm

[เทาชมพู]

ขอขัดจังหวะ
เห็นจะต้องงดเสิฟอาหารญี่ปุ่นโดยไม่มีกำหนดค่ะ     ไม่รู้ว่ามันมาจากทะเลแถวฟูกูชิมะหรือเปล่า
กัมมันตรังสีที่ปนเปื้อนในน้ำรั่วลงทะเลไป   เป็นอันตรายต่อสัตว์ทะเล และอันตรายมากกับผู้บริโภค
ไม่ขอเชิญชวนให้กินอีกค่ะ

[เพ็ญชมพู]

วัตถุดิบอาหารญี่ปุนคงไม่ได้มาจากฟุกุชิมะแห่งเดียว เชื่อใจว่าญี่ปุ่นคงมีมาตรการห้ามจับสัตว์ทะเลจากบริเวณที่มีปัญหา ทั้งวัตถุดิบที่ใช้ทำอาหารญี่ปุ่นคงไม่ได้มีที่มาจากญี่ปุ่นแห่งเดียวด้วยเช่นกัน

ขอรับประทานต่อไป แนวร่วมรับประทานอาหารญี่ปุ่นท่านอื่นว่าอย่างไร

Otoro คำละ300บาท ค่อยคุ้มค่าเสี่ยงหน่อย

ยังยืดหยัดรับประทานอยู่อีกไหนหนอ

[เทาชมพู]

วัเชื่อใจว่าญี่ปุ่นคงมีมาตรการห้ามจับสัตว์ทะเลจากบริเวณที่มีปัญหา

น้ำที่ปนเปื้อนมันไม่ได้ไหลแล้วขังอยู่กับที่   มันก็ไหลปนน้ำทะเล กระจายไปเรื่อย
สัตว์น้ำก็เหมือนกัน   ใครจะไปจำกัดเขต  ห้ามมันไม่ให้ว่ายออกจากบริเวณที่มีปัญหาได้ล่ะ  เรือไปจับนอกเขต  ก็อาจจะแจ๊กพอทเจอสัตว์น้ำที่มาจากแถวฟูกุชิมะก็ได้

[เทาชมพู]

ยกจานเด็ดมาจากอีกกระทู้หนึ่ง   ไม่เสิฟปลาดิบให้ละนะ   กินมากๆเดี๋ยวเจอพยาธิอย่างที่คุณม้าเตือนไว้
รับประทานปลาสุกดีกว่า   ปลา rockfish หรือ kinki  กินได้เช่นเดียวกับปลาแซลมอน
รูปซ้าย ต้มกับซีอิ๊ว   รูปขวา ทอดซีอิ๊ว ค่ะ

[เพ็ญชมพู]

ขอบพระคุณในความกรุณา แต่ดูหน้าตาอาหารแล้ว จานที่กระทู้สัตว์ประหลาดน่ากินกว่าเยอะ

ข้างล่างคือซูชิปลา black rockfish

[เทาชมพู]

ท่าทางคุณเพ็ญชมพูจะชอบซูชิ
ใกล้เที่ยงแล้ว    ไม่กลัวปลาดิบก็เชิญรับประทานอีกมื้อ