เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 13 14 [15] 16 17 ... 28
  พิมพ์  
อ่าน: 80789 ญี่ปุ่น ญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 210  เมื่อ 13 ส.ค. 13, 22:41

ผมก็จะไม่เปิดเป็นอันขาด รับประกัน ฟันเฟิร์ม

どうもありがとうございました。

บันทึกการเข้า
ประกอบ
สุครีพ
******
ตอบ: 1342


ความคิดเห็นที่ 211  เมื่อ 14 ส.ค. 13, 01:42

สังหรณ์ใจว่าจะได้เห็นโฉมหน้าของ 2 เซนเซใหญ่ในกระทู้นี้แน่ๆ  เจ๋ง  เจ๋ง  เจ๋ง
บันทึกการเข้า

วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 212  เมื่อ 14 ส.ค. 13, 07:26

อ้างถึง
どうもありがとうございました。


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 213  เมื่อ 14 ส.ค. 13, 08:23

สังหรณ์ใจว่าจะได้เห็นโฉมหน้าของ 2 เซนเซใหญ่ในกระทู้นี้แน่ๆ  เจ๋ง  เจ๋ง  เจ๋ง
ดิฉันก็สังหรณ์ว่าจะได้เห็นโฉมหน้าของคุณประกอบก่อนหน้าแน่ๆ ค่ะ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 214  เมื่อ 14 ส.ค. 13, 13:25

เอาอาหารญี่ปุ่นมาเสิฟ   เพื่อปั่นกระทู้   
เซนเซเพ็ญหายไปไหนแล้วหนอ    พอชมว่าสวย เลยไม่มาให้เห็น  ลังเล


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 215  เมื่อ 14 ส.ค. 13, 13:59

ที่สถานีชิบุยะ หรือ ชิบูย่า 渋谷 นี้มีตำนานที่น่าประทับใจระหว่างคนกับสุนัขกล่าวขานมาช้านาน

ใน พ.ศ. ๒๔๖๗ ฮิเดะซะบุโร อุเอะโนะ 上野 英三郎 ศาสตราจารย์ประจำภาควิชาการเกษตรกรรมแห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว ได้เลี้ยงสุนัขสายพันธุ์อะกิตะอินุ 秋田犬 ไว้ และตั้งชื่อให้ว่า "ฮะชิ" ハチ ซึ่งในตอนเย็นของทุกวัน ฮะชิจะไปรอเขาใกล้ ๆ กับสถานีรถไฟชิบุยะ เป็นเช่นนี้อยู่ทุกวันจนกระทั่งในวันหนึ่งในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๘ ศาสตร์ตราจารย์อุเอะโนะได้เสียชีวิตจากภาวะเลือดออกในสมอง ทำให้ในวันนั้นเจ้านายของฮะชิไม่ได้กลับไปที่สถานีรถไฟ ถึงกระนั้นในทุก ๆ วัน ฮะชิก็ยังคงมารอเจ้านายของมันที่สถานีชิบุยะ

ตลอดช่วงเวลานั้น ฮะชิโก ハチ公 กลายเป็นที่สะดุดตาของคนที่สัญจรไปมา หลายคนในสถานีรถไฟนั้นล้วนเคยเห็นฮะชิโกกับเจ้านายของเขาในแต่ละวัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ในสถานีรถไฟบางคนก็ไม่ได้เป็นมิตรต่อเจ้าฮะชิโกมากซักเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม ใน พ.ศ. ๒๔๗๕ ภายหลังจากที่มีคนเขียนบทความเกี่ยวกับเจ้าฮะชิโกและเจ้านายของเขาลงในหลังสือพิมพ์อะซะฮิ ก็เริ่มมีผู้คนจำนวนหนึ่งที่นำขนมและอาหารไปให้แก่เจ้าฮะชิโก

ฮะชิโกตายลงในวันที่ ๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ บริเวณถนนในชิบุยะ ซึ่งหลังจากฮะชิโกตาย ร่างของมันได้ถูกรักษาไว้ ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๔๔ ร่างของฮะชิโกถูกตรวจพิสูจน์ที่มหาวิทยาลัยโตเกียวเกี่ยวกับสาเหตุการตาย ซึ่งพบว่ามีพยาธิที่ตับและหัวใจ และมีปัญหาที่ระบบทางเดินอาหาร

ป้ายอนุสรณ์ของฮะชิโก ตั้งอยู่ข้างหลุมศพของศาสตราจารย์อุเอะโนะ ในปัจจุบันร่างของฮะชิโกถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติญี่ปุ่น ป้ายอนุสรณ์ของฮะชิโกตั้งอยู่ในสุสานอะโอะยะมะ ในมินะโตะกุ ของกรุงโตเกียว  นอกจากนี้ ยังมีอนุสาวรีย์อยู่ที่หน้าสถานีรถไฟชิบุยะ ซึ่งเป็นจุดที่ฮะชิโกนั่งรอเจ้านาย

ข้อมูลจาก คุณวิกกี้

ฮะชิโกนี้ คนไทยรู้จักกันในนาม ฮาจิโกะ อนุสาวรีย์ของฮาจิโกะยังคงตั้งตระหง่านอยู่หน้าสถานีชิบูย่าจนถึงทุกวันนี้

ภาพถ่ายของยอดสุนัข  ได้มาจากเฟซบุ๊ค


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 216  เมื่อ 14 ส.ค. 13, 18:34

เดินไปตามท้องถนนญี่ปุ่น ไม่พบสุนัขจรจัดสักตัว เพราะหากทางการพบเข้าจะถูกจับตัวไปและกำจัดในที่สุด

คลิปนี้บอกถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเลี้ยงสุนัขในญี่ปุ่น ตั้งแต่การซื้อ การเช่า รวมถึงเรื่องของแมวด้วย หากสุนัขพลัดหลงหรือเจ้าของทอดทิ้งจะถูกจัดมากักไว้ ๗ วันเพื่อหาเจ้าของและสังเกตอาการโรคพิษสุนัขบ้าไปในตัว หลังจากนั้นก็จะพยายามหาเจ้าของใหม่ และในที่สุดหากไม่สำเร็จก็จบลงด้วยการทำลาย



อยากเลี้ยงสุนัขหรือแมวต้องรับผิดชอบ เรื่องนี้ทางการผู้รับผิดชอบของบ้านเราควรดูเอาไว้เป็นตัวอย่างและนำมาประยุกต์ใช้

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 217  เมื่อ 14 ส.ค. 13, 18:41

สุนัขไทยในสายตาของคนญี่ปุ่น โดย Jun Nozawa

ช่วงที่มาเมืองไทยใหม่ ๆ ผมตกใจมากเมื่อเห็นสุนัขจรจัดข้างถนนเป็นจำนวนมาก ผอมแห้งเห็นกระดูกก็มี สุนัขขี้เรื้อนก็มี นอนตายอยู่บนถนนก็มี เป็นอะไรที่อดสงสารไม่ได้ ในเมืองไทยสุนัขจำนวนมากเดินเกะกะบนถนน หรือไม่ก็รวมฝูงวิ่งเล่นไล่กัน บอกได้เลยว่าที่ญี่ปุ่นภาพอย่างนี้หาดูยาก ไม่ใช่สิ ...ผมบอกได้เลยว่าที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างนี้ไม่มีแน่ ๆ สุนัขจรจัดที่ญี่ปุ่นความจริงก็มี แต่ส่วนมากจะพบตามป่าตามเขาเท่านั้น ที่ญี่ปุ่น ถ้าพูดว่าสุนัข จะหมายถึงสุนัขที่มีเจ้าของ

ลองมาดูความเป็นอยู่ของสุนัขในญี่ปุ่นกัน ที่ญี่ปุ่นตอนเช้าและตอนเย็น จะเห็นคนจูงสุนัขออกไปเดินเล่นตามถนนในเมือง หรือไม่ก็ตามสวนสาธารณะอยู่บ่อยๆ แต่น้อยมากที่เจ้าของจะปลดสายจูงปล่อยให้สุนัขของตัวเองไปวิ่งเล่นเกะกะบนท้องถนน ถ้าเป็นสวนสาธารณะก็ว่าไปอย่าง นอกจากนั้นเจ้าของสุนัขจะนำถุงพลาสติกติดตัวไปเสมอเวลาพาสุนัขออกไปเดินเล่น ถุงพลาสติกเอาไปทำอะไร? ใช่แล้ว... เอาไว้เก็บอุจาระของสุนัขกลับบ้าน นั่นเอง ที่บ้านส่วนมากสุนัขจะอยู่ในกรง หรือไม่ก็ผูกเชือกเอาไว้ คนที่เลี้ยงสุนัขไว้ในอพาร์ทเมนต์หรือคอนโดมิเนียมแคบ ๆ ก็มี แต่เนื่องจากสุนัขถูกเลี้ยงไว้ในที่แคบ ๆ ไม่มีที่วิ่งเล่น สุนัขเหล่านั้นจำนวนมากเป็นโรคขนหลุด ซึ่งเกิดมาจากความเครียด ซึ่งช่วงนี้สุนัขที่ต้องไปหาสัตวแพทย์ด้วยโรคเครียดมีมากขึ้นเรื่อย ๆ

สุนัขไทยถ้าดูผ่าน ๆ จะเหมือนกับว่าพวกมันเป็นสุนัขผู้อาภัพ แต่พวกมันแต่ละตัวก็มีถิ่นเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะในวัดและในมหาวิทยาลัย สุนัขก็เหมือนคน จะเลือกที่ที่อยู่สบาย มีอาหารการกินสมบูรณ์ นอกจากนี้ สุนัขที่นอนเล่นอยู่ตามท้องถนนหรือร้านอาหาร เราจะเหมาว่าพวกมันเป็นสุนัขจรจัดซะทั้งหมดไม่ได้ เพราะว่าสุนัขเหล่านั้นส่วนมากตอนกลางวันจะถูกปล่อยให้ไปเล่นข้างนอกตามชอบใจ แต่พอตกกลางคืนพวกมันก็จะกลับไปนอนบ้านของพวกมัน ดังนั้นที่เมืองไทย เป็นเรื่องที่ยากมากที่จะบอกได้ว่าสุนัขตัวไหนเป็นสุนัขเลี้ยง ตัวไหนเป็นสุนัขจรจัด อย่างไรก็ตาม ประเทศที่เต็มไปด้วยอิสรภาพอย่างประเทศไทย สุนัขก็วิ่งเล่นไปไหนต่อไหนได้อย่างอิสระเสรี บางครั้งพวกมันก็ต้องเต็มที่กับชีวิต เพื่อให้มีชีวิตอยู่รอดไปวัน ๆ

ก็จริงอยู่ที่ว่าในประเทศญี่ปุ่นไม่มีสุนัขจรจัด เหตุผลก็คือ สุนัขจรจัดหรือสุนัขที่ถูกทอดทิ้งจะถูกเทศบาลจับไปหมด จริง ๆ แล้วที่ญี่ปุ่น มีสุนัขถูกทอดทิ้งเป็นจำนวนมากทีเดียว สุนัขที่เทศบาลไปจับมาจะถูกขังไว้ระยะหนึ่ง ถ้าไม่มีใครมาขอไปเลี้ยง สุนัขเหล่านั้นก็จะถูกฆ่า เห็นอย่างนั้นแล้วจะรู้สึกว่า สุนัขไทยที่แก่และตายตามวัยน่าจะมีความสุขมากกว่าสุนัขญี่ปุ่น แต่ไม่ว่าจะเป็นสุนัขไทยหรือสุนัขญี่ปุ่น สุนัขที่ได้เจอกับเจ้าของดี ๆ เจ้าของที่รักมัน เป็นสุนัขที่มีความสุขมากที่สุดในโลกแล้ว


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 218  เมื่อ 14 ส.ค. 13, 19:00

ภาพของคนรักหมา


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 219  เมื่อ 14 ส.ค. 13, 19:04

มีใครรักหนูไหมคร้า


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 220  เมื่อ 14 ส.ค. 13, 19:08

พวกหนูเป็นญี่ปุ่นชัวร์ๆ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 221  เมื่อ 14 ส.ค. 13, 19:10

ทำท่าจะกลายเป็นกระทู้สัตว์น่ารักไปเสียแล้ว  ยิ้มเท่ห์
ส่งท้ายด้วยแฝดคนละฝาค่ะ


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 222  เมื่อ 14 ส.ค. 13, 21:34

เซ็นเซเพ็ญคงแวะไปถ่ายรูปที่ Imperial Palace      เสียดาย เดือนนี้ซากุระโรยหมดแล้ว



มุมนี้ของพระราชวังดูจะป๊อบปูล่ามากกว่า

สะพานนิจูบาชิ (二重橋-สะพานสองทอด) หรืออีกชื่อหนึ่งคือสะพานเมะกาเนะบาชิ (眼鏡橋-สะพานแว่นตา)   ยิงฟันยิ้ม


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 223  เมื่อ 14 ส.ค. 13, 21:36

สะพานนิจูบาชินี้เป็นสะพานหิน แต่เดิมสร้างด้วยไม้


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 224  เมื่อ 14 ส.ค. 13, 21:40

ที่ศาลเจ้ายาสุคูนิ (靖国神社) มีภาพสลักหินเป็นรูปทหารม้ากำลังเคลื่อนขบวนเข้าพระราชวัง  ลักษณะสะพานเป็นแบบเดิมคือเป็นสะพานไม้ ยิงฟันยิ้ม


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 13 14 [15] 16 17 ... 28
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.066 วินาที กับ 20 คำสั่ง