เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
อ่าน: 3260 บทกวี ข้ามฝั่งฝัน ของนภาลัย สุวรรณธาดา
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
 เมื่อ 07 ก.ค. 13, 13:11

ข้ามฝั่งฝัน

         
ในโลกแห่งความฝันวรรณศิลป์
         เคยครองถิ่นนักคิดพิชิตหวัง
         ถือคฑาคำทองครองบัลลังก์
         งามพร้อมพรั่งเกียรติยศปรากฏไกล

         แต่อยู่สูงเกินไปจึงไร้เพื่อน
         โลกจึงเหมือนโดดเดี่ยวเปลี่ยวไฉน
         ในโลกฝันบัลลังก์ร้างหัวใจ
         คฑาชัยร่วงหล่นไร้คนแล

         จึงเหม่อมองไปยังอีกฝั่งฝัน
         ในโลกนั้นหัวใจไร้รอยแผล
         มีดวงดาวพราวช่วงในดวงแด
         เป็นโลกแท้ที่ใกล้จึงไม่มอง

         ไร้รางวัลใดใดให้พิชิต
         มีแต่จิต ถึงจิต พิชิตหมอง
         ไร้คำกลอนอ่อนหวานปานคำทอง
         เพียงคำกรองกลั่นธรรมไร้คำลวง

         จะลงจากบัลลังก์ข้ามฝั่งฝัน
         หรือมุ่งมั่นเดินตรงปักธงสรวง
         จะสละทุกอย่างวางทั้งปวง
         หรือยังห่วงสิ่งใด...ข้ามไม่พ้น!
                     

นภาลัย  สุวรรณธาดา
   
๑๖ พค. ๕๕


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 07 ก.ค. 13, 13:12

“ในโลกฝัน”

 ในโลกฝันวรรณศิลป์ถิ่นนักคิด
หวังชีวิตเดินทางอย่างยิ่งใหญ่
เป็นผู้รับแต่พอเพียงพอเลี้ยงวัย
แล้วคืนให้สังคมอย่างสมบูรณ์

ทุกบทนำคำทองล้วนกรองแล้ว
เพียงแสงแวววับวาบแล้วสาบสูญ
หรือก่องเก็จเพชรรัตน์จรัสจรูญ
ล้วนเกื้อกูลใจน้อยน้อยให้พลอยงาม

หากกระบี่คมในฝักมักจะฝืด
เข็นเรืออืดค้างคูดูงุ่มง่าม
แต่ภาพนิ่งก็ฉาบฉายได้ใจความ
เหนือนิยามศาสตร์ศิลป์จินตนา

ชนะมากเกินไปกลับไร้เพื่อน
โลกจึงเหมือนอยู่คนเดียวเที่ยวโหยหา
ถึงวันนี้มีบุญหนุนนำพา
เป็นคนในสายตาฟ้าบันดาล

บทกวีแม้จะหวานสักปานไหน
หากคนรับขาดหัวใจก็ไม่หวาน
ขอคืนฝันกลั่นคำเย้ยน้ำตาล 
ฝากเทพอ่านฝากฟ้า...นภาลัย ๚ะ๛

       ชมพร  เพชรอนันต์กุล
      ๑๖  พฤษภาคม  ๒๕๕๕
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 07 ก.ค. 13, 13:13

               อารมณ์กวี

      เมื่ออารมณ์อ่อนหวานถึงปานนี้
      บทกวีจะหวานสักปานไหน
      คนได้รับจะอาบหวานสักปานใด
      โลกจะไหวจะหวานซ่านอารมณ์

      เมื่ออารมณ์โศกเศร้าเฝ้าทอดถอน
      ทุกคำกลอนก็สะอื้นด้วยขื่นขม
      คนได้รับอาบน้ำตาผวาตรม
      โลกจะล่มฟ้าจะลับเดือนดับแรม

      เมื่ออารมณ์สดใสคล้ายเด็กน้อย
      กลอนก็พลอยเริงรื่นชื่นแฉล้ม
      คนได้รับอาบอิ่มด้วยยิ้มแย้ม
      โลกแต่งแต้มความใสแห่งวัยเยาว์

      ด้วยอารมณ์แห่งกวีที่กล่อมโลก
      จะให้ซึมจะให้โศกจะให้เศร้า
      จะให้ยิ้มจะให้แย้มให้หยอกเย้า
      จะปลุกเร้าหรือให้ถอยด้อยศรัทธา

      ขอคำหวานหว่านโลกที่โศกหมอง
      ขอคำกรองกล่อมขวัญวันผวา
      ขอคำรื่นชื่นฉ่ำรสธรรมา
      ขอคำฟ้าพร่างพรมอารมณ์กวี      
                       นภาลัย  สุวรรณธาดา
                            ๑๕ พค. ๕๕      
      
      
      


บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.07 วินาที กับ 19 คำสั่ง