SILA
|
ความคิดเห็นที่ 825 เมื่อ 06 ม.ค. 14, 10:09
|
|
ทำหน้าที่พิทักษ์การรุกรานภาคพื้นดินมาสู่ประตูนี้ที่มีสะพานหินเชื่อมถึง ซึ่งสร้างขึ้นโดย Paskoje Milicevic ผู้ออกแบบสะพานที่ประตูอีกแห่งหนึ่ง(Pile Gate) ด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 826 เมื่อ 06 ม.ค. 14, 10:13
|
|
ป้อม Revelin รูปร่างคล้ายหัวเรือรบยื่นออกมาจากฝั่ง สร้างขึ้นในช่วงเวลา ที่ออตโตมานแผ่ขยายอำนาจ ตัวป้อมเป็น Detached forts - ป้อมแยก แรกสร้าง เสริมการป้องกันการรุกทางแผ่นดินด้านตะวันออกสู่ประตู Ploce ในปี 1462 ช่วงที่ บอสเนียตกเป็นของเตอร์คแล้ว ชื่อป้อมมาจากคำ rivelino (ravelin) ซึ่งเป็นศัพท์ทางสถาปัตยกรรมทาง ทหารที่หมายถึงการสร้างสิ่งปกป้องตรงข้ามประตูเมืองเพื่อเสริมการป้องกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 827 เมื่อ 06 ม.ค. 14, 10:30
|
|
ต่อมาเมื่อเกิดภัยจากเวนิสคุกคาม วุฒิสภาได้ว่าจ้าง Antonio Ferramolino ผู้มีประสบการณ์งานป้อมให้มาดำเนินงานสร้างป้อมให้แข็งแกร่งกว่าเดิม งานสร้างเริ่มใน ปี 1538 และใช้เวลาทั้งสิ้นถึง 11 ปี โดยที่งานก่อสร้างอย่างอื่นในเมืองต้องพักไว้ก่อนเพื่อ ให้ป้อมนี้สร้างเสร็จโดยเร็วที่สุด
ป้อม Revelin หลังใหม่ได้กลายเป็นป้อมที่แกร่งที่สุด ไม่ทรุดลงเมื่อเกิดเหตุ แผ่นดินไหวในปี 1667 ทำหน้าที่ปกป้องการรุกรานทางพื้นดินฟากตะวันออก ตัวป้อมมีรูปทรงสี่เหลี่ยมด้านไม่เท่าด้านหนึ่งทอดลงไปทะเล มีสะพานทอดเหนือ โค้งสะพานเชื่อมสู่ประตู Ploce ที่เบื้องล่างคือคูเมือง และอีกสะพานจากป้อมทอดข้ามไปยัง ย่านชานเมืองตะวันออกเป็นสะพานไม้ชักและสะพานหิน ทำให้ป้อมเดี่ยวนี้มีสภาพเป็นเกาะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 828 เมื่อ 06 ม.ค. 14, 10:59
|
|
ภาพ(จากเน็ท)สะพานไม้ชักต่อสะพานหินจากป้อม Revelin
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 829 เมื่อ 06 ม.ค. 14, 11:01
|
|
ภายในป้อมแบ่งเป็นห้องหลังคาโค้งขนาดใหญ่ 3 ห้อง เป็นที่ตั้งของสำนักงาน บริหารของสาธารณรัฐ ทั้งยังเป็นที่เก็บสมบัติรัฐและวิหารตลอดจนของมีค่าที่เหลือรอด การทำลายภายหลังเหตุแผ่นดินไหว ส่วนบนสุดของป้อมเป็นดาดฟ้าที่กว้างใหญ่ที่สุดในดูบรอฟนิค ปัจจุบันถูกใช้เป็น ที่จัดการแสดงในช่วงเทศกาลฤดูร้อน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 830 เมื่อ 10 ม.ค. 14, 09:20
|
|
นอกจากประตูพลอเชอที่ได้ผ่านมาแล้ว ยังมีประตูหลักและประตูย่อยสำหรับ การผ่านเข้าออกเมืองทางแผ่นดินอีกอย่างละหนึ่งรวมเป็น 2 ประตู (ทั้งสองแห่งนี้ไม่ได้ไปเยือน)
ประตูหลักอีกแห่งหนึ่งคือ ประตู Pila (Pile) Gates
ได้ชื่อมาจากภาษากรีก pyle = gate บ้างว่ามาจากชื่อเรียกย่านที่ประตูนี้ เปิดไปสู่ เป็นประตูแน่นหนาของกำแพงด้านตะวันตก/เหนือ ประกอบด้วยประตูย่อยหลายชั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 831 เมื่อ 10 ม.ค. 14, 09:50
|
|
ถัดออกไปไม่ไกลคือหอ Puncjela, ป้อมแกร่ง Bokar กับคูรอบชิดกำแพง ทำหน้าที่ปกป้องประตูนี้
หอ Puncjela และ ป้อม Bokar(ตรงกลางภาพ) มองจากสะพานเข้าสู่ประตู Pile
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 832 เมื่อ 10 ม.ค. 14, 09:53
|
|
หอ Puncjela Tower มาจากภาษาอิตาเลียนซึ่งแปลว่า virgin เนื่องจาก หออยู่ใกล้กับอาราม St Claire ซึ่งเป็นสถานที่ให้การศึกษาแก่กุลธิดาแห่งแรกูซา หอรูปสี่เหลี่ยมนี้สร้างเมื่อปี 1305 - 1350 ต่อมาในปี 1463 ยังได้สร้างเสริม ด้วยกำแพงหนาด้านนอกและชายขอบด้านล่าง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 833 เมื่อ 10 ม.ค. 14, 09:55
|
|
ส่วนบนสุดเป็นโบสถ์น้อยที่ระลึกถึงโบสถ์เซนต์ เบลส หลังเก่าที่เคยตั้งอยู่ที่นี่ ก่อนที่จะมีการสร้างกำแพงส่วนนี้
มุมมองมาจากกำแพง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 834 เมื่อ 10 ม.ค. 14, 09:58
|
|
ประตู Pile มีรูปลักษณ์เช่นนี้มาแต่ปี 1537 หลังจากที่ได้มีการสร้างหอโค้ง ครึ่งวงกลมครอบประตูโค้งแบบเรเนซอง ที่เหนือขึ้นไปเป็นช่องเว้าสำหรับตั้งรูปสลัก นักบุญเบลสผู้พิทักษ์อุปถัมภ์เมือง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 835 เมื่อ 10 ม.ค. 14, 10:03
|
|
หน้าประตูช่วงแรกเป็นสะพานยกไม้ที่ทุกคืนจะมีพิธีเชิญกุญแจเมืองไปมอบให้ ท่านเจ้าเมืองแล้วชักสะพานขึ้น ถัดออกมาคือสะพานยาวที่เป็นสะพานหินแรกสร้างในปี 1397 แล้วต่อมาใน ปี 1471 ได้มีการสร้างสะพานหินรองรับด้วยโค้งด้านล่างที่ยาวขึ้นตามแบบของสถาปนิก Paskoje Milicvic ผู้ออกแบบสะพานของประตูพลอเชอที่ได้เดินผ่านไปแล้วเช่นกัน (เห็นได้จากราวสะพานมีลายช่องฉลุเหมือนกัน) ใต้สะพานหินเคยเป็นคูที่ขุดขึ้นรอบเมืองแต่ปัจจุบันคูชิดกำแพงหายไปกลาย เป็นพื้นที่สวน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 836 เมื่อ 10 ม.ค. 14, 10:14
|
|
ผ่านประตูชั้นนอกเข้ามาเป็นทางนำไปสู่ประตูชั้นในให้เลือกได้สองอย่าง นั่นคือ ทางลาดด้านซ้ายและบันไดด้านขวา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 837 เมื่อ 10 ม.ค. 14, 10:24
|
|
ประตูด้านในสร้างแบบกอธิคในปี 1460 บนตำแหน่งที่เป็นประตูซึ่งเก่าแก่ที่สุด เหนือประตูก็มีรูปสลักเซนต์เบลสเช่นกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 838 เมื่อ 15 ม.ค. 14, 09:20
|
|
ประตูนี้นำเข้าสู่เมืองเก่าในบริเวณที่เป็นลานน้ำพุใหญ่ Onofrio ซึ่งมีผู้คน ยืนเดินนั่งมากมายคับคั่ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 839 เมื่อ 15 ม.ค. 14, 09:22
|
|
ประตู Pile เมื่อมองจากกำแพงลงไป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|