SILA
|
ความคิดเห็นที่ 615 เมื่อ 11 ต.ค. 13, 11:31
|
|
ลักษณะลายสลักขอบประตูและหลังคาทรงโค้งถังไม้หรืออุโมงค์ (barrel) รายแผงสลักเว้าเพิ่มความสวยงามและความแข็งแรงของโครงสร้าง ส่งอิทธิพลต่อ ศิลปิน Nikola Firentinac และ Andrija Alesij กับผลงาน Chapel of St John (St Ivan) แห่งโทรเจียร์ที่ได้ชมกันไปแล้ว วิหารได้ถูกเปลี่ยนเป็นหอศีลจุ่มในตอนปลาย ช่วง Antiquity
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 616 เมื่อ 11 ต.ค. 13, 11:35
|
|
แท่นบ่อรูปกางเขนจากศตวรรษที่ 12 - 13 สร้างจากผนังแท่นบูชาจาก ศตวรรษที่ 11 ที่เป็นของอาสนวิหาร ผนังด้านหนึ่งของบ่อมีงานประติมากรรมสลักหินของ ยุคกลางเป็นรูปราชาแห่งโครเอเชียซึ่งจัดได้ว่าเป็นรูปแรกสุดของกษัตริย์ยุโรปที่เป็นที่รู้จัก ที่ตั้งเด่นเห็นชัดคือประติมากรรมสมัยใหม่รูป St. John the Baptist ตั้งแทนที่ รูปเคารพเทพจูปิเตอร์ ผลงานของประติมากรชื่อก้องของโครเอเชีย Ivan Mestrovic ในปี 1954
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 617 เมื่อ 11 ต.ค. 13, 11:43
|
|
St. John the Baptist ยอห์นผู้ให้บัพติศมา
ท่านเป็นผู้เผยพระวจนะ และได้วิพากษ์กษัตริย์เฮโรด อันทีพาสเรื่องที่ทรงรับ นางเฮโรเดียส พระชายาของพระอนุชาเป็นมเหสี นางจึงคิดพยาบาทและทูลขอให้ กษัตริย์เฮโรดประหารท่าน แต่พระองค์ให้จับมาขังไว้ยังไม่กล้าประหาร ในงานฉลองวันคล้ายวันประสูติของกษัตริย์เฮโรด ธิดาของนางเฮโรเดียส - นางสะโลเม ได้เต้นรำถวายในงานเป็นที่พอพระทัยจนตรัสว่าจะให้ทุกสิ่งที่นางปรารถนาเป็นรางวัล นางได้ปรึกษามารดาแล้วได้รับคำแนะนำให้ทูลขอศีรษะของยอห์นมาถวาย กษัตริย์เฮโรด รับทราบด้วยความเสียพระทัยอย่างมากแต่เนื่องจากได้ออกพระโอษฐ์ไปแล้ว จำรับสั่งให้ เพชฌฆาตไปตัดศีรษะยอห์นในคุกแล้วใส่ถาดส่งไปให้ตามที่นางขอ
พระวรสารได้เติมชื่อเรียก “แบปติสต์” ให้ท่านก็เพราะว่าท่านได้ประกาศพิธีล้าง แบบใหม่โดยไม่ต้องจุ่มตัวลงไปแช่น้ำเหมือนกับในพิธีของยิว แต่ให้รับน้ำจากท่อธารจาก มือของศาสนบริกรผู้ประกอบพิธี และนักวิชาการไบเบิ้ลหลายคนเชื่อว่าท่านเป็นผู้ให้บัพติศมา พระเยซูโดยเดินลงน้ำกับพระเยซูที่ Bethany หมู่บ้านใกล้นคร Jerusalem
เรื่องราวของท่านนักบุญสืบต่อมาปรากฏในภาพวาดต่างๆ และ อุปรากร Salome ของ Richard Strauss
หน้าปกซีดีเป็นภาพจากต้นฉบับ(แต่สลับซ้ายขวา)ของ Bernardino Luini - Salome with the Head of John the Baptist
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 618 เมื่อ 15 ต.ค. 13, 11:04
|
|
ต่อจากนี้จะไปดูอาคารสถานที่อื่นๆ ซึ่งสร้างขึ้นในยุคต่อมา หลังจากโรมันล่มสลาย คริสเตียนที่เข้ามาแทนที่ได้สร้างอาคารแบบโรมาเนสค์ กอธิค และเรเนซองขึ้นมากมาย
Vocni Trg หรือ Narodni trg (People’s Square) - จตุรัสประชาชน เรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า Pjaca (จากภาษา Italian - Piazza) ส่วนชื่อทางการคือ Square of Saint Lawrence (San Lorenzo’s square)
เป็นเขตขยายส่วนแรกออกจากวังไปทางด้านตะวันตกเมื่อเมืองเติบโตขึ้นในยุคกลาง ช่วงที่สปลิทมีประชากรเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเป็น 10 เท่า จตุรัสนี้จึงกำเนิดขึ้นทางแถบ ตะวันตกของประตูวังด้านตะวันตก ศาลากลางรวมทั้งบ้านสวยและวังหลายหลังถูกสร้างขึ้นที่นี่ ย่านนี้จึงถูกเรียกว่าเมืองใหม่ มีบันทึกกล่าวถึงไว้ในศตวรรษที่ 13
(ภาพสวยสดใสจากเน็ท, ตอนมาถึงฝนยังไม่หยุดตก)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 619 เมื่อ 15 ต.ค. 13, 11:10
|
|
ในช่วงศตวรรษที่ 14 บริเวณนี้ก็ได้กลายเป็นศูนย์กลางการปกครองเมือง, เป็นจุดโฟกัสของชีวิตคนเมือง และ ในศตวรรษที่ 15 พวกเวนิสได้สร้างอาคารสาธารณะ ขึ้นที่นี่ ทั้งศาลากลางทางด้านเหนือ และวังของเจ้าเมืองตลอดจนโรงละครซึ่งสองอย่าง หลังนี้ได้ถูกรื้อลงช่วงออสเตรียครองเมืองในศตวรรษที่ 19
เดินไปหลบฝนที่จตุรัสนี้ในอาคาร -
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 620 เมื่อ 15 ต.ค. 13, 11:12
|
|
ศาลากลางเมืองสมัยศตวรรษที่ 14 - 15 บูรณะปรับปรุงในศตวรรษที่ 19 เรียกอีกชื่อว่า Communal Palace สร้างแบบกอธิคสไตล์ในส่วนด้านบนของโถง แบบเรเนซอง ชั้นล่างด้านหน้าเป็นโค้งกอธิครองรับด้วยเสาสองต้น อาคารนี้เคยเป็น พิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์ในช่วงปี 1924 - 2004 ก่อนที่จะย้ายไปอยู่ด้านในวัง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 621 เมื่อ 15 ต.ค. 13, 11:13
|
|
โบสถ์น้อย Chapel of St. Lawrence เป็นอาคารพร้อมหน้าต่างขนาดใหญ่ แบบกอธิคทำหน้าที่ดั่งสะพานเชื่อมระหว่างศาลากลางและวัง Karepic สไตล์เรเนซอง สร้างในศตวรรษที่ 16
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 622 เมื่อ 15 ต.ค. 13, 11:16
|
|
จตุรัสเมืองลานนี้เป็นที่ตั้งของสัญญลักษณ์แห่งสงครามและการยึดครอง หอแปดเหลี่ยมสร้างโดยพวกเวนิสเพื่อป้องกันการต่อต้านของชาวเมืองและการรุกราน จากพวกเตอร์ค
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 623 เมื่อ 15 ต.ค. 13, 11:18
|
|
ตรงข้ามหอคืออาคารวังสไตล์บาร็อค Milesi กับ รูปปั้นที่ตั้งโดดเด่นเบื้องหน้าวังคือ Marko Marulic บิดาแห่งวรรณคดีและ จิตวิทยาสมัยใหม่ของโครเอเชียจากศตวรรษที่ 15 ผลงานของศิลปินอัจฉริยะ Ivan Mestrovic
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 624 เมื่อ 15 ต.ค. 13, 11:20
|
|
เตือนให้รำลึกถึงความพยายามของท่านในการใช้ภาษาประจำชาติใน บทร้อยกรองช่วงศตวรรษที่ 15 ท่านได้รับการยกย่องจากรัฐบาลให้เป็นบุคคลสำคัญ ทางวัฒนธรรมชาติ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 625 เมื่อ 15 ต.ค. 13, 11:24
|
|
นอกจากนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือน ปัจจุบันจตุรัสนี้คือที่ผู้อาวุโสของสปลิทจะมานั่ง เปิดสภากาแฟแลมองผู้คนผ่านไปมาและสนทนาข่าวสารบ้านเมืองกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 626 เมื่อ 15 ต.ค. 13, 11:28
|
|
วัง Nakic ทางด้านตะวันตกของจตุรัสเป็นหนึ่งในอาคารสำคัญที่มีรูปแบบ Art Nouveau ในสปลิท ผลงานสรรค์สร้างโดย Spiro Nakic เมื่อปี 1902 ช่วง นำเข้าศิลปะ Secession จากเวียนนา อาคารมุมรูปโค้ง ประดับลายไม้ดอก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 627 เมื่อ 16 ต.ค. 13, 09:27
|
|
สิ่งก่อสร้างสูงโดดเด่น ณ ย่านนี้คือ หอคอยนาฬิกาสร้างในศตวรรษที่ 15 บนบ้านทรงหอคอยมีทางเปิดแบบโรมาเนสค์ที่ชั้นล่างและมีส่วนที่เชื่อมกับประตู ตะวันตก ส่วนเหนือขึ้นไปยังมีหอระฆังตั้งอยู่เป็นยอด สร้างในสไตล์กอธิคช่วงปลาย ศตวรรษที่ 15
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 628 เมื่อ 16 ต.ค. 13, 09:32
|
|
หน้าปัดบอกเวลา 24 ชั่วโมง
ภาพชัดๆ จากเน็ท
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 629 เมื่อ 16 ต.ค. 13, 09:34
|
|
ที่มุมตะวันออก/ใต้ของจตุรัสใกล้กับหอนาฬิกา ตรงหัวมุมปากซอย คือ วังแบบโรมาเนสค์ตอนปลาย - Palace of Cipriano de Ciprianis สร้างโดย ชนชั้นสูงจากเกาะ Korcula เมื่อปี 1394 จุดเด่นของอาคารนี้คือ หน้าต่างแบ่ง เป็นหกช่องพร้อมเสาคู่แลดูหรูหรา และ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|