SILA
|
ความคิดเห็นที่ 585 เมื่อ 07 ต.ค. 13, 11:05
|
|
พสกนิกรทั่วไปจะได้เฝ้าชมอยู่ห่างๆ คนพิเศษสำคัญเท่านั้นจึงจะได้ก้าวขึ้นไป คุกเข่าลงจุมพิตชายเสื้อคลุมสีม่วง หรืออาจแสดงคารวะโดยการหมอบลงเบื้องพระพักตร์ ทูตหรืออาคันตุกะบางคนอาจได้เข้าไปถึงในโถงรอ เพื่อจะเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิ ในเขตพระราชฐานชั้นใน ไดอะคลีชั่นทรงเป็นจักรพรรดิองค์แรกที่สวมมงกุฎทองและตรากฎห้ามทุกคนแต่งสีม่วง ยกเว้นแต่องค์จักรพรรดิเท่านั้น นอกจากนี้ยังทรงบัญญัติลัทธิศรัทธาความเชื่อว่าพระองค์ทรงเป็น หน่อเนื้อเชื้อเทวา องค์เองนั้นสืบสายมาจากเทพบดีจูปิเตอร์
ภาพ Saint Sebastian Reproving Diocletian - Artist: Paolo Verones
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 586 เมื่อ 07 ต.ค. 13, 11:08
|
|
เมื่อเดินเข้ามาจากประตูทิศเหนือและหยุดยืนที่บริเวณลาน peristyle แลเห็นเสากลมเรียงราย (colonnade สถาปัตยกรรมรูปแบบสำคัญจากกรีกที่ ตกทอดสู่โรมัน สำแดงความโอ่อ่าโก้หรูของเขตเมือง) ริมลานแต่ละด้านนำทาง อาคันตุกะสู่ที่ประทับจักรพรรดิเบื้องหน้าเบื้องบน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 587 เมื่อ 07 ต.ค. 13, 11:10
|
|
สฟิงซ์นำเข้าหลังจากที่มีชัยเหนืออียิปต์ช่วงปลายศตวรรษที่ 3 ตั้งประดับอยู่ หว่างเสากลม ถึงวันนี้เหลือเพียงนับตัวได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 588 เมื่อ 07 ต.ค. 13, 11:15
|
|
สฟิงซ์แบบชัดหน่อย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 589 เมื่อ 07 ต.ค. 13, 11:16
|
|
แบบจำลอง colonnade โดย Georg Niemann ในปี 1910 อาคารแปดเหลี่ยมคือสุสานจักรพรรดิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 590 เมื่อ 07 ต.ค. 13, 11:19
|
|
ในช่วงยุคกลางตอนต้น peristyle ได้กลายเป็นจตุรัสวิหารหลังจากที่ ประตูเหนือและใต้ถูกปิดลง เมื่อมีการสร้างจตุรัสแห่งใหม่ในศตวรรษต่อๆ มา ลานนี้ก็ได้เปลี่ยนไปกลายเป็น ศูนย์กลางทางศาสนา ด้านตะวันตกเป็นอาคารวังสไตล์เรเนซองและกอธิคของตระกูลชั้นสูง Grisogono และ Cipci สร้างแทรกเติมที่ว่างระหว่างเสาและโค้งโรมันของเดิมได้ผลลัพธ์ เป็นอนุสาวรีย์สถาปัตยกรรมผสมผสานผ่านกาลเวลา
ภาพจากเน็ท
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 591 เมื่อ 08 ต.ค. 13, 09:21
|
|
ด้วยความงามเป็นเอกลักษณ์และสภาพของสถานที่ๆ ให้เสียงคุณภาพ ลานแห่งนี้จึงได้ใช้เป็นที่จัดแสดงอุปรากรอย่าง Aida และ Antigona เมื่อครั้งที่ท่าน Pope John Paul II เสด็จมายังสปลิท ท่านได้ตรัสว่า "My God, how many feet must have passed over this path"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 592 เมื่อ 08 ต.ค. 13, 09:25
|
|
Vestibule อาคารยกระดับอยู่ทางใต้ต่อ Peristyle (ดูแผนผังในความเห็นที่ 580)
โถงรอ รูปทรงสี่เหลี่ยมด้านนอกแต่เมื่อเดินเข้าไปภายในก็จะได้พบว่า ตัวอาคารข้างในนี้มีรูปทรงไข่อยู่ใต้โดมยอดกลมเปิดโล่ง (oculus) ซึ่งอาจชวน ให้นึกถึง Pantheon ในโรม จากรูปโครงที่ปรากฏให้เห็นบางคนสันนิษฐานว่า น่าจะเคยมีหอหลังคาโดม (cupola) ต่อยอดบนสุด
Pantheon
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 593 เมื่อ 08 ต.ค. 13, 09:28
|
|
ลักษณะโถงจำลองรูปแบบสวรรค์เบื้องบนเตือนใจให้ ผู้มาเยือนระลึกถึงความเป็น เทพขององค์จักรพรรดิ เหล่าทูตหรืออาคันตุกะจะมาชุมนุมรอเข้าเฝ้าในโถงพักรอนี้ก่อนที่ จะได้เข้าไปในส่วนโถงรับรองชั้นในวัง
ภาพจากเน็ท
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 594 เมื่อ 08 ต.ค. 13, 09:33
|
|
เมื่อแหงนมองโครงสร้างอาคารที่ยังเหลืออยู่ไปรอบตัวแล้วลองจิตนาการ ไปตามที่ Marko Marulic ได้บันทึกไว้ในศตวรรษที่ 16 - ช่องเว้าที่ผนังสีขาว เป็นที่ตั้งของรูปปั้น โดมขนาดใหญ่ประดับด้วยโมเสคแวววาวตระการตาคุ้มค่าเวลา รอที่จะได้เข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิ แต่ในวันนี้ เหลือเพียงผนังเปลือยอิฐหินและกลุ่มนักร้องเพลงประสานเสียง ขายซีดีเช่นที่โทรเจียร์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 595 เมื่อ 08 ต.ค. 13, 09:38
|
|
จากโถงรอเข้าเฝ้าได้กลายเป็นที่พักอาศัยในช่วงหนึ่ง ทางด้านตะวันออก-ใต้ มีบ้านยุคกลางหลังที่เก่าแก่ที่สุดจากศตวรรษที่ 10 สร้างอิงพิงโถงนี้ส่วนด้านตรงข้าม คือพิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์ของโบสถ์ St Andrija สร้างในศตวรรษที่ 7 บนที่ซึ่งเคยเป็น เขตที่ประทับ
ภาพมุมสูงจากเน็ท
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 596 เมื่อ 08 ต.ค. 13, 09:40
|
|
กลับมาที่ลาน peristyle ซึ่งเคยเป็นที่ชาวโรมันมาชุมนุมกัน ปัจจุบันนี้ กลายเป็นแหล่งรวมนักท่องเที่ยวต่างแดนมาเดินชมอาคารเก่า บ้างถ่ายรูปกับ คน(ยุคใหม่ในชุด)เก่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 597 เมื่อ 08 ต.ค. 13, 09:43
|
|
ระหว่างที่เดินชมลาน ฝนก็เทลงมาจนต้องกางร่มและหาที่หลบฝนกันถ้วนหน้า ฝนยังไม่หยุดแต่คุณไกด์พาออกจากที่หลบฝนแล้วเดินไปตามซอกซอย บางที่ที่มีหลังคาบัง ก็คับคั่งด้วยผู้คนยืนหลบฝน พักใหญ่ฝนจึงหยุดสนิท พื้นคงเปียกแต่ไม่มีน้ำท่วมขังนอง นักท่องเที่ยวออกมาเดินกันขวักไขว่ดังเดิม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 598 เมื่อ 09 ต.ค. 13, 10:32
|
|
สองฟากของลานมีอาคารที่น่าสนใจที่ได้กล่าวไปแล้ว แต่ไม่ได้เข้าไป ต้องดูทางเน็ทเช่นเคย
Mausoleum สุสานที่เปลี่ยนเป็นอาสนวิหาร Cathedral of Saint Domnius
ซึ่งที่นี่เรียกว่า Saint Dujam (Sveti Dujam) หรือ Saint Duje (Sveti Duje) ในภาษาปาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 599 เมื่อ 09 ต.ค. 13, 10:48
|
|
อาคารแปดเหลี่ยมรายล้อมด้วยเสากลมอายุ 1700 ปี นี้คือสุสานที่ ประทับแห่งร่างไร้ลมหายใจขององค์จักรพรรดิ ตามประเพณีในช่วงการก่อสร้าง ที่นี่ได้ถูกใช้เป็นที่คุมขังคริสเตียนซึ่งจะถูกสังหารในปี 302 ก่อนที่ไดอะคลีชั่น จะเสด็จมาพำนักที่วัง 3 ปี และร่างของพระองค์ได้ถูกอัญเชิญมาพักยังสุสานนี้ในปี 311 ในสมัยจักรวรรดิยุคแรก การเก็บศพไว้ในเมืองเป็นเรื่องไม่ถูกหลักความศักดิ์สิทธิ์ และสุขอนามัย แต่ในสมับไดอะคลีชั่นนั้นองค์จักรพรรดิคือเทพซึ่งหมายถึงอมตะ สุสานของ พระองค์ไม่เพียงสูงกว่าวิหารบูชาเทพแต่ยังตกแต่งประดับประดาและมีเนื้อที่มากกว่าด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|