เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 38 39 [40] 41 42 ... 85
  พิมพ์  
อ่าน: 130414 sLOVEnia Croatia Album
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 585  เมื่อ 07 ต.ค. 13, 11:05

            พสกนิกรทั่วไปจะได้เฝ้าชมอยู่ห่างๆ คนพิเศษสำคัญเท่านั้นจึงจะได้ก้าวขึ้นไป
คุกเข่าลงจุมพิตชายเสื้อคลุมสีม่วง หรืออาจแสดงคารวะโดยการหมอบลงเบื้องพระพักตร์ 
             ทูตหรืออาคันตุกะบางคนอาจได้เข้าไปถึงในโถงรอ เพื่อจะเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิ
ในเขตพระราชฐานชั้นใน
             ไดอะคลีชั่นทรงเป็นจักรพรรดิองค์แรกที่สวมมงกุฎทองและตรากฎห้ามทุกคนแต่งสีม่วง
ยกเว้นแต่องค์จักรพรรดิเท่านั้น นอกจากนี้ยังทรงบัญญัติลัทธิศรัทธาความเชื่อว่าพระองค์ทรงเป็น
หน่อเนื้อเชื้อเทวา องค์เองนั้นสืบสายมาจากเทพบดีจูปิเตอร์

ภาพ Saint Sebastian Reproving Diocletian - Artist: Paolo Verones


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 586  เมื่อ 07 ต.ค. 13, 11:08

           เมื่อเดินเข้ามาจากประตูทิศเหนือและหยุดยืนที่บริเวณลาน peristyle
แลเห็นเสากลมเรียงราย (colonnade สถาปัตยกรรมรูปแบบสำคัญจากกรีกที่
ตกทอดสู่โรมัน สำแดงความโอ่อ่าโก้หรูของเขตเมือง) ริมลานแต่ละด้านนำทาง
อาคันตุกะสู่ที่ประทับจักรพรรดิเบื้องหน้าเบื้องบน


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 587  เมื่อ 07 ต.ค. 13, 11:10

           สฟิงซ์นำเข้าหลังจากที่มีชัยเหนืออียิปต์ช่วงปลายศตวรรษที่ 3 ตั้งประดับอยู่
หว่างเสากลม ถึงวันนี้เหลือเพียงนับตัวได้


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 588  เมื่อ 07 ต.ค. 13, 11:15

สฟิงซ์แบบชัดหน่อย


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 589  เมื่อ 07 ต.ค. 13, 11:16

            แบบจำลอง colonnade โดย Georg Niemann ในปี 1910
อาคารแปดเหลี่ยมคือสุสานจักรพรรดิ


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 590  เมื่อ 07 ต.ค. 13, 11:19

          ในช่วงยุคกลางตอนต้น peristyle ได้กลายเป็นจตุรัสวิหารหลังจากที่
ประตูเหนือและใต้ถูกปิดลง
          เมื่อมีการสร้างจตุรัสแห่งใหม่ในศตวรรษต่อๆ มา ลานนี้ก็ได้เปลี่ยนไปกลายเป็น
ศูนย์กลางทางศาสนา ด้านตะวันตกเป็นอาคารวังสไตล์เรเนซองและกอธิคของตระกูลชั้นสูง
Grisogono และ Cipci สร้างแทรกเติมที่ว่างระหว่างเสาและโค้งโรมันของเดิมได้ผลลัพธ์
เป็นอนุสาวรีย์สถาปัตยกรรมผสมผสานผ่านกาลเวลา

ภาพจากเน็ท


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 591  เมื่อ 08 ต.ค. 13, 09:21

          ด้วยความงามเป็นเอกลักษณ์และสภาพของสถานที่ๆ ให้เสียงคุณภาพ
ลานแห่งนี้จึงได้ใช้เป็นที่จัดแสดงอุปรากรอย่าง Aida และ  Antigona
         เมื่อครั้งที่ท่าน Pope John Paul II เสด็จมายังสปลิท ท่านได้ตรัสว่า
"My God, how many feet must have passed over this path"


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 592  เมื่อ 08 ต.ค. 13, 09:25

Vestibule อาคารยกระดับอยู่ทางใต้ต่อ Peristyle (ดูแผนผังในความเห็นที่ 580)

            โถงรอ รูปทรงสี่เหลี่ยมด้านนอกแต่เมื่อเดินเข้าไปภายในก็จะได้พบว่า
ตัวอาคารข้างในนี้มีรูปทรงไข่อยู่ใต้โดมยอดกลมเปิดโล่ง (oculus) ซึ่งอาจชวน
ให้นึกถึง Pantheon ในโรม จากรูปโครงที่ปรากฏให้เห็นบางคนสันนิษฐานว่า
น่าจะเคยมีหอหลังคาโดม (cupola) ต่อยอดบนสุด

Pantheon


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 593  เมื่อ 08 ต.ค. 13, 09:28

           ลักษณะโถงจำลองรูปแบบสวรรค์เบื้องบนเตือนใจให้ ผู้มาเยือนระลึกถึงความเป็น
เทพขององค์จักรพรรดิ  เหล่าทูตหรืออาคันตุกะจะมาชุมนุมรอเข้าเฝ้าในโถงพักรอนี้ก่อนที่
จะได้เข้าไปในส่วนโถงรับรองชั้นในวัง

ภาพจากเน็ท


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 594  เมื่อ 08 ต.ค. 13, 09:33

         เมื่อแหงนมองโครงสร้างอาคารที่ยังเหลืออยู่ไปรอบตัวแล้วลองจิตนาการ
ไปตามที่ Marko Marulic ได้บันทึกไว้ในศตวรรษที่ 16 - ช่องเว้าที่ผนังสีขาว
เป็นที่ตั้งของรูปปั้น โดมขนาดใหญ่ประดับด้วยโมเสคแวววาวตระการตาคุ้มค่าเวลา
รอที่จะได้เข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิ
          แต่ในวันนี้ เหลือเพียงผนังเปลือยอิฐหินและกลุ่มนักร้องเพลงประสานเสียง
ขายซีดีเช่นที่โทรเจียร์


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 595  เมื่อ 08 ต.ค. 13, 09:38

          จากโถงรอเข้าเฝ้าได้กลายเป็นที่พักอาศัยในช่วงหนึ่ง ทางด้านตะวันออก-ใต้
มีบ้านยุคกลางหลังที่เก่าแก่ที่สุดจากศตวรรษที่ 10 สร้างอิงพิงโถงนี้ส่วนด้านตรงข้าม
คือพิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์ของโบสถ์ St Andrija สร้างในศตวรรษที่ 7 บนที่ซึ่งเคยเป็น
เขตที่ประทับ

ภาพมุมสูงจากเน็ท


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 596  เมื่อ 08 ต.ค. 13, 09:40

           กลับมาที่ลาน peristyle ซึ่งเคยเป็นที่ชาวโรมันมาชุมนุมกัน ปัจจุบันนี้
กลายเป็นแหล่งรวมนักท่องเที่ยวต่างแดนมาเดินชมอาคารเก่า บ้างถ่ายรูปกับ
คน(ยุคใหม่ในชุด)เก่า


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 597  เมื่อ 08 ต.ค. 13, 09:43

            ระหว่างที่เดินชมลาน ฝนก็เทลงมาจนต้องกางร่มและหาที่หลบฝนกันถ้วนหน้า
ฝนยังไม่หยุดแต่คุณไกด์พาออกจากที่หลบฝนแล้วเดินไปตามซอกซอย บางที่ที่มีหลังคาบัง
ก็คับคั่งด้วยผู้คนยืนหลบฝน พักใหญ่ฝนจึงหยุดสนิท พื้นคงเปียกแต่ไม่มีน้ำท่วมขังนอง
นักท่องเที่ยวออกมาเดินกันขวักไขว่ดังเดิม


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 598  เมื่อ 09 ต.ค. 13, 10:32

         สองฟากของลานมีอาคารที่น่าสนใจที่ได้กล่าวไปแล้ว แต่ไม่ได้เข้าไป
ต้องดูทางเน็ทเช่นเคย

Mausoleum สุสานที่เปลี่ยนเป็นอาสนวิหาร Cathedral of Saint Domnius

ซึ่งที่นี่เรียกว่า Saint Dujam (Sveti Dujam) หรือ Saint Duje (Sveti Duje)
ในภาษาปาก 


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 599  เมื่อ 09 ต.ค. 13, 10:48

             อาคารแปดเหลี่ยมรายล้อมด้วยเสากลมอายุ 1700 ปี นี้คือสุสานที่
ประทับแห่งร่างไร้ลมหายใจขององค์จักรพรรดิ ตามประเพณีในช่วงการก่อสร้าง
ที่นี่ได้ถูกใช้เป็นที่คุมขังคริสเตียนซึ่งจะถูกสังหารในปี  302 ก่อนที่ไดอะคลีชั่น
จะเสด็จมาพำนักที่วัง 3 ปี และร่างของพระองค์ได้ถูกอัญเชิญมาพักยังสุสานนี้ในปี 311
           ในสมัยจักรวรรดิยุคแรก การเก็บศพไว้ในเมืองเป็นเรื่องไม่ถูกหลักความศักดิ์สิทธิ์
และสุขอนามัย แต่ในสมับไดอะคลีชั่นนั้นองค์จักรพรรดิคือเทพซึ่งหมายถึงอมตะ สุสานของ
พระองค์ไม่เพียงสูงกว่าวิหารบูชาเทพแต่ยังตกแต่งประดับประดาและมีเนื้อที่มากกว่าด้วย  


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 38 39 [40] 41 42 ... 85
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.063 วินาที กับ 19 คำสั่ง