SILA
|
ความคิดเห็นที่ 15 เมื่อ 21 มิ.ย. 13, 09:33
|
|
ฟ้ายามเย็นไร้แดด อากาศค่อนข้างเย็น กลับขึ้นฝั่งด้วยเรือแจวลำเดียวกับขาไป แล้วนั่งรถมุ่งสู่
Bled Castle ปราสาทในยุคกลางตั้งตระหง่านบนยอดผาสูง 130 เมตรจาก พื้นน้ำ ยืนยงยาวนานนับพันปี ปรากฏหลักฐานลายลักษณ์อักษรเนิ่นนานกว่าปราสาทอื่นใดในสโลวีเนีย พระเจ้า Henry II แห่งเยอรมันได้ถวายแด่ท่านบิช็อปแห่ง Brixen และผู้สืบทอด ในปี 1004, 1011 ตามลำดับ ต่อมาได้ให้ผู้อื่นเช่าต่อ จนในที่สุดจึงถูกขายให้แก่เจ้าของกิจการ อุตสาหกรรมเหล็ก เมื่อกลางศตวรรษที่ 19 ก่อนที่จะผ่านมือต่อๆ ไปจนมาอยู่ภายใต้การบริหาร จัดการโดย Bled Cultural Institute
กล้องถ่ายรูปเกิดแบตหมด ต้องหยิบยืมภาพจากกล้องอื่นและในเว็บ ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อ 21 มิ.ย. 13, 09:42
|
|
เวลาที่ล่วงเลยนั้นทำให้คนอาคารเปลี่ยนไป ปราสาทแห่งนี้ก็มี การก่อสร้างเปลี่ยนแปลงรูปแบบอาคารสถานในบางส่วน ส่งผลให้ปรากฏมีรูปแบบ หลากหลายจากกำแพงหอคอยแบบ Romanesque สู่อาคารแบบ Renaissance
ภายในปราสาทประกอบด้วยลานสองลานต่างระดับ(โยงถึงกันด้วยบันได), หอคอย, อาคารพิพิธภัณฑ์, ห้องแสดงการพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์โบราณ, ห้องเก็บไวน์, โบสถ์ ฯ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 17 เมื่อ 21 มิ.ย. 13, 09:44
|
|
ภาพที่เห็นจากระเบียงริมลานปราสาทมองลงไปยังเกาะกลางทะเลสาบ มุมขวาล่าง ของภาพคือระลอกริ้วบนผิวน้ำเกิดจากนักกีฬาซ้อมพายเรือ
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 18 เมื่อ 21 มิ.ย. 13, 09:48
|
|
ลานชั้นบนวันที่ไปใช้เป็นที่สำหรับการแสดงโดยคณะละครนำเสนอวัฒนธรรม และการบันเทิงย้อนยุคกลาง (medieval) ซึ่งมีทั้งการเต้นรำ, การดวล และการพ่นไฟ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 19 เมื่อ 21 มิ.ย. 13, 09:51
|
|
จากลานชั้นบนนี้ สามารถมองออกไปเห็นได้แต่ไกลหากมีใครจะมารุกราน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 20 เมื่อ 21 มิ.ย. 13, 09:54
|
|
ภาพงดงามจากผู้บันทึกที่ขึ้นไปชมปราสาทตั้งแต่เช้า 7 โมง ได้เห็นลาน(คาเฟ่)ชั้นล่างที่ว่าง ร้างผู้คน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 21 เมื่อ 21 มิ.ย. 13, 09:59
|
|
ถ้าได้มานั่งรับประทานมื้อเช้าตรงนี้คงจะอิ่มท้องด้วยอาหาร และอิ่มตาด้วยทัศนียภาพ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 22 เมื่อ 21 มิ.ย. 13, 10:08
|
|
ทั้ง ทะเลสาบ ป่าไม้แซมคอนกรีต และขุนเขาในสายหมอกจาง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 23 เมื่อ 25 มิ.ย. 13, 11:10
|
|
เช้าวันที่สองของทริป ไปเข้าถ้ำ
Postojna คูหาสวรรค์อันแสนภาคภูมิใจของสโลวีเนียที่มีชื่อเสียง โด่งดังไปไกล เปิดรับผู้มาเยือนยาวนานนับสองร้อยปีเป็นจำนวนกว่า 30 ล้านคนแล้ว คือผลงานธรรมชาติสร้างสรรค์ต่อเนื่องมากว่าสามล้านปีโดยแม่น้ำ Pivka และ น้ำฝน(เจือก๊าซ CO2) ที่ซอกซอนพื้นที่ภูมิประเทศแบบ karst ตามที่ได้ว่าไว้ในคห. ก่อนหน้านี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 24 เมื่อ 25 มิ.ย. 13, 11:29
|
|
หินปูน limestone ซึ่งมีส่วนประกอบของ calcium carbornate ถูก น้ำที่ผสมกับ carbon dioxide ละลายแล้วหยาดไหลไปตกค้างบนเพดานถ้ำเป็นหินย้อย (stalactite) โดยมีอัตราการเกิดของหินย้อยเฉลี่ยอยู่ที่ 0.13 มม./ปี ส่วนของน้ำละลาย หินปูนที่หยดลงพื้นถ้ำจะกลายเป็นหินงอก(stalagmite) ซึ่งมีอัตราเกิดช้ากว่าที่ 0.007–0.929 มม./ปี *อัตราการเกิดนี้ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 25 เมื่อ 25 มิ.ย. 13, 11:39
|
|
Cave etiquette ข้อ 6.Visitors are strictly forbidden from taking photographs. แต่นักท่องเที่ยวต่างก็ถ่ายรูปกัน บ้างจัดหนัก บ้างแบบเกรงใจ รูปที่นำเสนอมาจากกล้องที่ถ่ายเองและจากเว็บไซท์(รูปชัด,สวย) ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 26 เมื่อ 25 มิ.ย. 13, 14:12
|
|
ลงจากรถ, ซื้อตั๋วจากอาคารใกล้ลานจอดรถแล้วเดินต่อไป ขึ้นบันไดสู่ทางเข้าและรอเวลาถึงรอบเข้าถ้ำ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 27 เมื่อ 25 มิ.ย. 13, 14:16
|
|
ทางเข้าถ้ำด้านหน้าเคยมีผู้มาเยือนและจารึกชื่อไว้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ปี 2013 นี้เป็นวาระครบ 800 ปีนับจากที่ได้มีจารึกแรกนั้น ส่วนลึกเข้าไปภายในถ้ำนั้นได้ถูกสำรวจในปี 1818 ปีถัดมา 1819 คือปีที่เจ้าชายเฟอร์ดินาน มกุฎราชกุมารออสเตรียเสด็จเยือน ถ้ำแห่งนี้และเป็นปีที่ถ้ำแห่งนี้เปิดรับการท่องเที่ยวจากสาธารณชน
ภาพปากถ้ำหน้าหนาว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 28 เมื่อ 25 มิ.ย. 13, 14:21
|
|
เส้นทางในถ้ำมีความยาวถึง 20,570 ม. มีการติดตั้งระบบไฟฟ้าในปี 1884 (บ้างว่าปี 1883 ก่อนที่มหานครลอนดอนจะสว่างไสวด้วยไฟฟ้าเป็นเวลา 3 ปี) ส่วนรถรางแล่นไปในถ้ำแรกมีเมื่อปี 1872 ขับเคลื่อนโดยแรงดันของไกด์ก่อนที่จะเปลี่ยน เป็นแรงดันก๊าซเมื่อต้นศตวรรษที่ 20 ระยะทางรางยาว 2260 ม. หลังปี 1945 ขบวนรถไฟฟ้าแล่นแทนที่รถก๊าซและเปิดให้ผู้คนเข้าชมถ้ำได้ยาว ไกลถึง 5.3 กม. เป็นระยะทางในถ้ำซึ่งให้ผู้คนเข้าถึงได้ยาวไกลที่สุดในโลก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 29 เมื่อ 26 มิ.ย. 13, 09:43
|
|
นั่งรถรางผจญภัยใต้พิภพ 4 D แล่นลิ่วโคลงคลอเสียงล้อบดราง ไปในความมืดสลัว,หนาว,ชื้น,และเปียก(จากหยดน้ำที่ตกลงมา ด้านหน้าก่อนเข้าถ้ำ จึงมีบริการเสื้อคลุมให้เช่าด้วย) ตื่นตากับประติมากรรมธรรมชาติมากมายจนสองตา ไม่พอมอง มือที่ยกกล้องขึ้นถ่ายรูปนั้นต้องคอยระวังจะชนผนังหรือเพดานถ้ำในบางช่วง
ภายในถ้ำอุณหภูมิประมาณ 10 องศาเศษ สวมเครื่องแต่งกายกันหนาว แบบบ้านเราก็พอเพียง ที่สำคัญคือ การเปลี่ยนอุณหภูมิจากในถ้ำที่เย็นและชื้นแล้ว ออกมาเจออากาศค่อนข้างร้อนตอนกลางวันที่แดดแรงด้านนอกในฤดูร้อน อาจทำให้ บางคนป่วยได้
รถรางแล่นลอดคานหินซึ่งเกิดจากหินงอกที่ล้มลง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|